อาชีพลูกเรือ (Cabin Crew) หรือที่นิยมเรียกว่าสจ๊วตและแอร์โฮสเตส เป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะรายได้สูงและลักษณะงานที่พิเศษ ได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ได้พบเห็นวัฒนธรรมแปลกใหม่ พบปะผู้คนที่มีวิถีชีวิตแตกต่างกัน นับเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น และถือเป็นกำไรชีวิต นอกจากนั้นยังมีสวัสดิการที่ดี มีวันทำงานค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ โดยเงื่อนไขการทำงานจะแตกต่างกันออกไปตามกฎ และระเบียบของสายการบิน สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวอยากทำอาชีพลูกเรือ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับอาชีพสจ๊วต และแอร์โฮสเตส ว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
หากต้องการทำงานเป็นสจ๊วตหรือแอร์โฮสเตสควรมีทักษะทางภาษาที่ดี
แอร์โฮสเตส เรียนคณะอะไร
อยากประกอบอาชีพสจ๊วต หรือแอร์โฮสเตส จริงๆ ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าจะต้องเรียนจบจากคณะอะไรเป็นพิเศษ ไม่ว่าคุณจะเรียบจบคณะอะไรมาก็สามารถยื่นใบสมัครได้ โดยมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำ คือ ปริญญาตรี สำหรับการสมัครเป็นแอร์โฮสเตสจะต้องมีทักษะภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาอังกฤษ เพราะจะมีผลคะแนนภาษาอังกฤษตามที่สายการบินกำหนด และภาษาที่สามจะทำให้คุณมีเปอร์เซนต์ที่มากกว่า เพราะบางสายการบินจะต้องพูดภาษาที่กำหนดไว้ให้ได้ด้วย แนะนำการเตรียมพร้อมควรเริ่มตั้งแต่มัธยมปลาย ไปจนถึงระดับมหาลัย เน้นคณะที่เรียนภาษาเป็นหลัก
สจ๊วตและแอร์โฮสเตส คืออะไร มีหน้าที่อะไรบ้าง
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือที่นิยมเรียกว่า “สจ๊วต” สำหรับผู้ชาย และ “แอร์โฮสเตส” สำหรับผู้หญิง หน้าที่หลักของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคือดูแลลูกค้าให้ได้รับความสะดวกสบาย และปลอดภัย อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการจัดการกับปัญหา คำขอของผู้โดยสาร และเหตุฉุกเฉินต่างๆ
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่ได้มีหน้าที่แค่เพียงเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่รับผิดชอบอีกมากมาย ได้แก่
- เข้าร่วมการบรรยายสรุปก่อนบินกับนักบิน เกี่ยวกับสภาพห้องโดยสาร และรายละเอียดเที่ยวบิน
- ดูแลความสะอาดของห้องโดยสาร
- ตรวจสอบอุปกรณ์ฉุกเฉินก่อนบิน
- สาธิตตำแหน่งและการใช้งานอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย และอุปกรณ์ฉุกเฉิน
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้โดยสารทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นและลงจอด
- จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้เพียงพอ
- เสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารว่าง
- ดูแลผู้โดยสารที่มีความต้องการพิเศษ เช่น เด็กเล็ก หรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์
- สร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสารระหว่างเที่ยวบิน เช่น เมื่อประสบภาวะอากาศแปรปรวน
- รายงานปัญหาความปลอดภัย หรือทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบิน
- เฝ้าติดตามดูของผู้โดยสารที่ก่อความวุ่นวาย หรือมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย
- กำหนดทิศทางการอพยพในกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
โครงสร้างรายได้สจ๊วต แอร์โฮสเตส
รายได้ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ อาวุโส ประสบการณ์ ประเภทของสายการบิน จำนวนชั่วโมงบิน รวมถึงประเภทของเครื่องบินด้วย โดยโครงสร้างรายได้ของสจ๊วต - แอร์โฮสเตส ประกอบด้วย
- เงินเดือน
- ค่าบินคิดตามรายชั่วโมง
- ค่าพักค้างต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
- ค่าสวัสดิการ เช่น ค่าน้ำมันรถ ค่าซักรีด ค่าภาษา
สจ๊วตและแอร์โฮสเตสของแต่ละสายการบินมีรายได้เท่าไหร่
รายได้ของสจ๊วตและแอร์โฮสเตสแต่ละคน แต่ละสายการบินนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตารางบิน โดยแต่ละสายการบินมีรายได้โดยประมาณ ดังต่อไปนี้
- เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines) 50,000 - 80,000+ บาท
- สิงคโปร์แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) 80,000 - 110,000 บาท
- บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) 70,000 - 100,000 บาท
- การบินไทย (Thai Airways) 45,000 - 60,000 บาท
- แอร์เอเชีย (Air Asia) 65,000 - 75,000 บาท
- ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air) 50,000 - 70,000 บาท
- นกแอร์ (Nok Air) 50,000 - 70,000 บาท
- ไทยเวียตเจ็ตแอร์ (Thai VietJetAir) 50,000 บาท
- คูเวตแอร์ไลน์ (Kuwait Airlines) 80,000 บาท
- โอมานแอร์ (Oman Air) 70,000 - 80,000 บาท
- เอมิเรตส์ (Emirates Airline) 80,000 - 110,000 บาท
อยากเป็นสจ๊วตหรือแอร์โฮสเตสต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นสายการบินใดในโลกนี้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล้วนมีคุณสมบัติหลักๆ ในการรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ทั้งแอร์โฮสเตสและสจ๊วต ดังต่อไปนี้
- วุฒิการศึกษา ระดับปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย โดยไม่กำหนดคณะหรือสาขา
- ทักษะด้านภาษา ทักษะภาษาอังกฤษดี มีคะแนน TOEIC (Test of English for International Communication) 600 - 650 คะแนนขึ้นไป แต่บางสายการบินไม่ต้องมีผลสอบ TOEIC ก็สามารถสมัครได้ แต่จะต้องผ่านทดสอบจากข้อสอบของสายการบิน
- บุคลิกภาพดี มั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออก สามารถแต่งหน้าและทำผมตามกฎระเบียบของสายการบิน และบางสายการบินไม่อนุญาตให้ผู้มีรอยสักเข้ารับการสมัคร
- ความสูง เเต่ละสายการบินกำหนดเกณฑ์ความสูงแตกต่างกัน เกณฑ์ทั่วไปคือ ผู้ชายสูง 165 ซม. ขึ้นไป ผู้หญิงสูง 160 ซม. ขึ้นไป แต่ขึ้นอยู่กับสายการบิน เพราะบางสายการบินถ้าหากว่าส่วนสูงไม่ถึง แต่สามารถปิดเอื้อมปิดช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะได้
- มีใจรักงานบริการ มีรอยยิ้ม เอาใจใส่ รวดเร็ว กระฉับกระเฉง สุภาพอ่อนโยน มีความอดทนและเก็บอารมณ์
- ทำงานเป็นทีม ถือเป็นหัวใจสำคัญในอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานบริการ เพราะอาชีพลูกเรือต้องมีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน และอาศัยการทำงานเป็นทีม
- แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี หนึ่งในบททดสอบระหว่างการสัมภาษณ์ คุณจะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า โดยที่กรรมการจะยกตัวอย่างสมมุติในการรับมือกับผู้โดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกตัดสินใจจากทัศนคติ และไหวพริบในการแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นบนเที่ยวบิน
คุณสมบัติแอร์โฮสเตส แต่ละสายการบิน
ข้อมูลสำคัญที่จะทำให้คุณเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมก่อนการสมัคร คือเงื่อนไข และคุณสมบัติของแต่ละสายการบิน เพราะทั้งสายการบินของไทย และต่างประเทศ ต่างก็มีรายละเอียด และกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกัน มาดูกันว่า แต่ละสายการบิน หากคุณต้องการสมัครแอร์โฮสเตส หรือสจ๊วตต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
การบินไทย (Thai Airways)
- สัญชาติไทย
- อายุไม่เกิน 30 ปี
- โสด (ไม่เคยจดทะเบียนสมรส และไม่เคยมีบุตร)
- การศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา
- ความสูง ผู้หญิงไม่น้อยกว่า 160 ซม. มี BMI ไม่เกิน 21 ผู้ชายสูงไม่น้อยกว่า 165 ซม. มี BMI ไม่เกิน 24.5
- เอื้อมแตะเลยเส้นความสูง 212 ซม. ด้วยเท้าเปล่าทั้งหญิงและชาย
- ผู้สมัครชายต้องผ่าน หรือได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารแล้ว
- สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและสายตาดี ไม่สวมแว่นสายตา ไม่ใส่เหล็กดัดฟัน
- สามารถว่ายน้ำต่อเนื่องได้ 25 เมตร (ไม่จำกัดท่า)
- ไม่มีรอยสักที่สามารถมองเห็นได้ในขณะสวมใส่เครื่องแบบ
- สามารถพูด อ่าน เขียน ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
- คะแนน TOEIC ขั้นต่ำ 650 คะแนน
เจแปนแอร์ไลน์ (Japan Airlines)
- ชาย - หญิง อายุระหว่าง 20 - 28 ปี และโสด
- ผู้ชายต้องไม่มีภาระทางทหาร
- ส่วนสูงขั้นต่ำ 158 ซม. (เอื้อมแตะได้ที่ความสูง 210 ซม.
- ไม่มีรอยสัก และรอยแผลเป็น
- สุขภาพดี
- การศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี
- ส่งหลักฐานการศึกษา (transcript) ภาษาอังกฤษเท่านั้น
- สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี
- สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ จะพิจารณาเป็นพิเศษ
- TOEIC ขั้นต่ำ 650 คะแนน
บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airway)
- ชายหรือหญิง สัญชาติไทย
- อายุระหว่าง 22 - 28 ปี
- การศึกษาระดับปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา
- ส่วนสูง ผู้ชายไม่น้อยกว่า 168 ซม. ผู้หญิงไม่น้อยกว่า 160 ซม. (น้ำหนักสัมพันธ์กับส่วนสูง)
- ผู้ชายต้องผ่านหรือได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
- ผลคะแนนภาษาอังกฤษ TOEIC 650 คะแนนขึ้นไป หรือ IELTS 5.5 คะแนนขึ้นไป หรือ TOEFL 80 คะแนนขึ้นไป
- ผลคะแนนภาษาจีน HSK ระดับ 4 ขึ้นไป (ถ้ามี)
- ไม่สวมแว่นตา และเหล็กจัดฟัน
- ไม่มีรอยสักและรอยแผลเป็น
- บุคลิกภาพดีและมีใจรักการบริการ
ไทยไลออนแอร์ (Thai Lion Air)
- ชาย - หญิง อายุไม่เกิน 28 ปี
- ส่วนสูงขั้นต่ำ ผู้ชาย 170 ซม. ผู้หญิง 160 ซม.
- สำหรับผู้ชาย น้ำหนักต้องสัมพันธ์กับความสูง
- การศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรี
- คะแนน TOEIC ขั้นต่ำ 600 คะแนน
- รู้ภาษาที่ 3 โดยเฉพาะภาษาจีนและญี่ปุ่น (ไม่มีก็สมัครได้)
ปัจจุบันมีสถาบันสอนแอร์โฮสเตสและสจ๊วต สอนวิธีพิชิตอาชีพในฝัน ทั้งพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ และพัฒนาบุคลิกภาพ การแต่งกาย รวมถึงเทคนิคต่างๆ ทั้งการสัมภาษณ์ การเตรียมเอกสาร เพื่อเตรียมตัวสมัครแอร์โฮสเตสและสจ๊วตภายในเวลาอันสั้น แต่ถ้ายิ่งเป็นคอร์สหลักสูตรเร่งรัด ราคาจะค่อนข้างสูง ซึ่งคุณสามารถใช้บัตรเครดิต KTC แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ เพราะสามารถเปลี่ยนยอดชำระรายการซื้อสินค้า/บริการของเดือนถัดไปเป็นยอดผ่อนชำระได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0.74% สูงสุด 10 เดือน ง่ายๆ ผ่านแอป KTC Mobile สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ด้วยตัวคุณเอง
เชื่อว่าถ้าหากคุณเตรียมตัว ฝึกทักษะภาษา เตรียมรับมือให้พร้อมทุกคำถาม และบททดสอบ การทำตามความฝันจะไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน ซึ่งจุดเด่นอีกข้อของการประกอบอาชีพลูกเรือ คือบางสายการบินไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา และเปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่ หากใครสนใจอยากลองสมัคร แนะนำให้ศึกษารายละเอียด เตรียมพร้อม โดยเลือกสายการบินที่คุณสนใจ และคุณสมบัติตรงกับคุณมากที่สุด เพราะการวางเป้าหมายจะทำให้คุณพิชิตเป้าหมายได้รวดเร็ว
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC