การมีรายได้ทางเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พนักงานออฟฟิศหลายคนจึงมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม โดยหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมคือการรับสินค้าจากโรงงานมาขาย แต่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ไม่รู้ว่าจะรับอะไรมาขายดี ของกินดีไหม ? เสื้อผ้าดีไหม ? วันนี้เรามีไอเดียในการรับสินค้ามาขาย พร้อมแนะนำแหล่งรับสินค้า เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ
ไม่ว่าจะรับสินค้าอะไรมาขายเพิ่มสร้างรายได้ สิ่งแรกที่ควรคำนึงคือ การสำรวจตนเองว่าถนัดในด้านอะไร หรือชอบสินค้าประเภทไหนเป็นพิเศษก่อน
พนักงานออฟฟิศอยากรับสินค้าจากโรงงานมาขาย เริ่มต้นอย่างไร ?
ก่อนจะทำธุรกิจซื้อมาขายไป ขายอะไรดีที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำบ่อยๆ คุณต้องวางแผนอย่างรอบคอบก่อนนำสินค้ามาขาย เพื่อที่จะช่วยให้ธุรกิจราบรื่นยิ่งขึ้น
1.สำรวจความสนใจและความถนัดของตัวเอง
ก่อนจะถามว่ารับอะไรมาขายดี ลองเริ่มจากการถามตัวเองก่อนก็ได้ว่ามีความสนใจหรือชอบในสินค้าประเภทไหนเป็นพิเศษ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้านั้นๆ มากน้อยแค่ไหน เพราะการเลือกสินค้าที่เรามีชอบ จะช่วยให้เราสามารถนำเสนอขายสินค้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
2.กำหนดเป้าหมายและงบประมาณ
คุณจำเป็นต้องตั้งเป้าว่าจะขายสินค้าเป็นอาชีพเสริมหรือวางแผนขยายเป็นธุรกิจหลักในอนาคต รวมถึงกำหนดงบลงทุนเริ่มต้น เช่น ค่าใช้จ่ายในการสต๊อกสินค้า การทำตลาด ค่าขนส่ง รวมถึงคำนวณต้นทุนและกำไรที่คาดหวัง เพื่อตั้งราคาขายที่เหมาะสม
3.ศึกษาตลาดและเลือกสินค้า
กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน พร้อมวิเคราะห์ความต้องการของตลาด ว่าสินค้าที่เราสนใจนั้นมีความต้องการของตลาดมากน้อยแค่ไหน มีคู่แข่งทางการตลาดมากน้อยเพียงใด และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างไรในอนาคต
4.หาแหล่งรับสินค้าจากโรงงานโดยตรง
ค้นหาโรงงานที่ผลิตสินค้าคุณภาพดีในราคาส่ง และเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่ง เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบเงื่อนไขการสั่งซื้อ เช่น จำนวนขั้นต่ำ การจัดส่ง และการรับประกันสินค้าด้วย
5.ทดลองสั่งมาใช้หรือกินเองก่อน
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะรับอะไรมาขายดี มีเงินทุนพร้อมแล้ว แนะนำให้ลองสั่งสินค้าตัวอย่างมาทดลองคุณภาพก่อนลงทุนจริงๆ เพื่อดูว่าสินค้านั้นมีคุณภาพเป็นอย่างไร หรือหากตัดสินใจจะขายของกิน ก็ลองสั่งมาชิมเพื่อดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร
6.เตรียมช่องทางการขายสินค้า
เช่น ขายผ่านโซเชียลมีเดีย ผ่าน Facebook, Instagram, TikTok หรือจะ เปิดร้านออนไลน์บนแพลตฟอร์ม E-commerce เช่น Shopee, Lazada เป็นต้น และอาจทดสอบตลาดด้วยการเปิดพรีออร์เดอร์ หรือขายในกลุ่มเล็กๆ ก่อน เช่น เพื่อนร่วมงาน คนใกล้ตัว
7.วางแผนการตลาดและจัดโปรโมชั่น
วางแผนทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าหรือใช้โฆษณาออนไลน์ เช่น Facebook Ads เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า หรือจัดโปรโมชั่น เช่น ส่งฟรี ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่
8.ดำเนินการขายสินค้า
เมื่อเตรียมความพร้อมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มดำเนินการรับสินค้าจากโรงงานมาขายได้เลย
ลองทำตามขั้นตอนที่กล่าวไว้ข้างต้น คุณก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจขายสินค้าจากโรงงานได้อย่างมั่นใจ และจากที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำเป็นอาชีพเสริม ถ้าหาวางแผนดีก็อาจต่อยอดเป็นรายได้หลักในอนาคตได้อีกด้วย
5 แหล่งรับสินค้าจากโรงงานมาขาย
1.เว็บไซต์ขายส่งออนไลน์
เช่น Alibaba, Taobao, 1688.com ที่มีแหล่งสินค้าจากโรงงานที่ราคาถูกและเหมาะสำหรับการซื้อในปริมาณมาก นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อกับผู้ผลิตโดยตรงเพื่อขอราคาพิเศษได้
2.โรงงาน
ติดต่อโรงงานที่ผลิตหรือขายส่ง โดยวิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถพูดคุยกับโรงงานได้โดยตรง และได้ราคาที่ถูกด้วยเพราะไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง
3.งานแสดงสินค้า
สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าจะรับอะไรมาขายดี การไปเดินงานแสดงสินค้า ที่เป็นแหล่งรวมโรงงานผู้ผลิต ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดี เพราะเราจะได้เห็นตัวเลือกมากมาย ได้พบผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายสินค้าโดยตรง ซึ่งสามารถไปติดต่อเพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ สามารถเจรจาต่อรองราคาได้ด้วย
4.ตลาดค้าส่ง
ตลาดค้าส่งจะเน้นขายสินค้าเยอะๆ ในราคาไม่แพง เพื่อช่วยให้ผู้ค้าปลีกได้กำไรด้วย ตลาดค้าส่งในไทยก็มีหลายแห่ง
เช่น ตลาดสำเพ็ง จตุจักร ประตูน้ำ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง เป็นต้น มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย แม้จะผ่านพ่อค้าคนกลางแต่ก็จะได้ราคาที่ถูกมากอยู่ดี
5.กลุ่มออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย
สำหรับพนักงานออฟฟิศที่ไม่ค่อยมีเวลาในการเดินทาง หรือไม่สะดวกในการเดินทางออกไปหาสินค้ามาขาย แพลตฟอร์มอย่าง Facebook Groups หรือ LINE กลุ่มขายส่ง ก็เป็นหนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่อยากขายของกิน ซึ่งเราสามารถสอบถามรายละเอียด เปรียบเทียบราคา และสั่งซื้อได้ง่ายโดยไม่ต้องเดินทาง ช่วยให้พนักงานออฟฟิศสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น
10 ไอเดียรับสินค้าอะไรมาขายดี ?
หากคุณยังคิดไม่ออกว่าจะขายอะไรดี นี่คือ 10 ไอเดียหมวดหมู่สินค้ายอดนิยม ที่มีความต้องการสูงและขายได้ตลอดปีที่เราขอแนะนำ
1. เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นสินค้าที่ขายดีเสมอ เป็นสินค้าจำเป็นที่มีคนมองหาตลอดปี เพราะช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องฟอกอากาศ ที่ช่วยให้หายใจสะอาดขึ้น หม้อทอดไร้น้ำมัน ตัวช่วยของสายรักสุขภาพ หรือเตารีดไอน้ำ ที่ทำให้เสื้อผ้าเรียบสวยแบบไม่เปลืองแรง
2. อุปกรณ์ไอทีและแกดเจ็ต
สินค้าสายเทคโนโลยีถือว่าขายดีตลอดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หูฟังไร้สาย สมาร์ทวอทช์ เคสมือถือ พาวเวอร์แบงก์ ขาตั้งมือถือ ล้วนเป็นไอเทมที่คนใช้ทุกวัน และมักเปลี่ยนใหม่อยู่เสมอ เหมาะกับการขายบน Shopee, Lazada หรือแม้แต่ไลฟ์ขายบน Facebook TikTok เป็นต้น
3. สินค้าแฟชั่นและเสื้อผ้า
เสื้อผ้าจากโรงงานราคาถูกและทำกำไรดี ลองเลือกสินค้าตามกระแส แล้วนำไปขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือเปิดร้านบน TikTok Shop ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย
4. อุปกรณ์ทำอาหารและเครื่องครัว
สำหรับคนที่มองหาสินค้าขายง่าย อุปกรณ์ครัวอย่างหม้อหุงข้าวดิจิทัล เครื่องบดกาแฟ กระทะไฟฟ้า ที่คั้นน้ำผลไม้ แก้วเก็บความเย็น นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ทำกับข้าวกินเอง ทำเครื่องดื่มดื่มเองกันมากขึ้น
5. สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม
สินค้ากลุ่มนี้เป็นสินค้าที่มีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำบ่อย ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ สบู่สมุนไพร ครีมบำรุงผิว อาหารเสริม หรือเครื่องสำอางออร์แกนิก ดังนั้นการขายสินค้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างรายได้ในระยะยาว แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและสร้างแบรนด์ของตัวเองในอนาคตได้ด้วย
6. อุปกรณ์ออกกำลังกายและฟิตเนส
เทรนด์รักสุขภาพยังคงเติบโต อุปกรณ์ฟิตเนสก็ยังขายดี เช่น ดัมเบล เสื่อโยคะ เครื่องนวดไฟฟ้า โดยคุณสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูแลสุขภาพได้
7. ของขวัญและของแต่งบ้าน
สินค้าตกแต่งบ้าน เช่น เทียนหอม โคมไฟ LED กรอบรูปไม้สไตล์มินิมอล เป็นที่นิยมตลอดกาล นอกจากเป็นของตกแต่งบ้านที่ช่วยเติมเต็มมุมโปรดภายในบ้านได้แล้ว ในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ วาเลนไทน์ หลายคนก็มักจะเลือกซื้อเป็นของขวัญมอบให้แก่คนรัก หรือนำไปจับฉลาก หรือให้ในวันเกิด
8. ของเล่นเด็กและเกมเสริมพัฒนาการ
พ่อแม่พร้อมจ่ายเพื่อการเรียนรู้ของลูกเสมออยู่แล้ว ดังนั้นสินค้าในกลุ่มนี้ เช่น ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ บล็อกตัวต่อ เกมกระดานสำหรับเด็ก สมุดระบายสีแบบล้างออกได้จึงเป็นไอเดียที่น่าสนใจในการรับจากโรงงานมาขาย
9. สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง
เทรนด์ Pet Parent ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และทาสหมาทาสแมวก็พร้อมเปย์เสมอเช่นกัน ดังนั้นการขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงจึงเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย เช่น อาหารสัตว์ เสื้อผ้าสัตว์ ที่นอนแมว ของเล่นสุนัข แปรงหวีขน
10. เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน
สินค้ากลุ่มนี้ขายได้ทุกวัย ตั้งแต่นักเรียนจนถึงพนักงานออฟฟิศ เช่น ปากกาหมึกเจล สมุดโน้ตดีไซน์เก๋ กระดาษโน้ต เครื่องคิดเลข หรือแฟ้มเอกสาร ซึ่งเป็นของที่ใช้ได้จริงและมีความต้องการตลอดปี
การเริ่มต้นธุรกิจขายสินค้า เงินทุนเป็นสิ่งสำคัญมาก และบางครั้งอาจเกิดการใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดระหว่างดำเนินธุรกิจได้เช่นกัน การมีบัตรเครดิต สักใบติดตัว จะช่วยให้คุณสามารถจัดการการเงินได้ง่ายและราบรื่นขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้าจากโรงงาน หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง
บัตรเครดิต KTC พร้อมสนับสนุนทุกการหารายได้เสริม และพร้อมช่วยให้การบริหารจัดการเงินทุนเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น สมัครบัตรเครดิต KTC วันนี้ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC