ถ้าวันนี้คุณกำลังมองหาวิธีลงทุนที่ไม่เพียงแค่ให้ผลตอบแทนดี แต่ยังช่วยส่งเสริมสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน กองทุน Thai ESG X อาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ กองทุนนี้เกิดขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนอย่างเรา ๆ ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนบริษัทที่ทำธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การดูแลสังคม หรือธรรมาภิบาล (ESG) ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ ลงทุนแบบได้กำไรทั้งกระเป๋าสตางค์และโลกใบนี้เลย
Thai ESG Extra (Thai ESGX) คืออะไร
Thai ESGX เป็นชื่อเรียกของกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นไทยซึ่งผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) หรือหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยกองทุนนี้อยู่ภายใต้แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) ซึ่งเป็นเทรนด์การลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก กองทุน Thai ESGX ได้รับการสนับสนุนจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นของ Thai ESGX
- ลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพและผ่านเกณฑ์ ESG ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
- ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คล้ายกับการลงทุนในกองทุน LTF/SSF
- สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ผ่านการลงทุนในกิจการที่มีจริยธรรม
- เป็นทางเลือกใหม่ของนักลงทุนสายคุณค่า (Value Investor) ที่มองไกลในอนาคต
- มีการคัดเลือกหุ้นอย่างมีระบบและตรวจสอบได้ โดยใช้ ESG Rating จากแหล่งที่เชื่อถือได้
ความแตกต่างระหว่าง Thai ESGX และ Thai ESG
รายละเอียด |
Thai ESGX (Thai ESG Extra) |
Thai ESG |
วัตถุประสงค์หลัก |
รองรับการสับเปลี่ยน LTF เดิม และเพิ่มทางเลือกการลดหย่อนภาษีปี 2568 |
ส่งเสริมการลงทุนยั่งยืน และให้สิทธิลดหย่อนภาษีในระยะยาว (คล้าย SSF) |
ช่วงเวลาลงทุน |
เฉพาะ พฤษภาคม–มิถุนายน 2568 เท่านั้น |
เน้นผลตอบแทนตามดัชนีหรือเป้าหมายของกองทุน |
สิทธิประโยชน์ภาษี |
ลดหย่อนได้ สูงสุด 500,000 บาท (รวม 5 ปี) สำหรับผู้สับเปลี่ยน LTF หรือสูงสุด 300,000 บาท (เฉพาะปี 2568) สำหรับผู้ลงทุนใหม่ |
ลดหย่อนได้ สูงสุด 30% ของรายได้ และไม่เกิน 200,000 บาท ต่อปี |
ระยะเวลาถือครอง |
อย่างน้อย 5 ปี |
อย่างน้อย 10 ปี (ตามเงื่อนไขคล้าย SSF) |
แหล่งที่มา |
เป็นโครงการพิเศษที่รัฐออกแบบร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ |
เป็นกองทุนตามปกติที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG |
เป้าหมายผู้ลงทุนหลัก |
ผู้ที่มี LTF เดิมครบกำหนด และผู้ต้องการลดหย่อนภาษีปี 2568 เพิ่มเติม |
ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว และสนับสนุนกิจการที่ยั่งยืน |
เปิดขายโดย |
เฉพาะ บลจ. ที่เข้าร่วมโครงการ Thai ESGX |
หลาย บลจ. ทั่วไปที่มีนโยบายลงทุนแบบ ESG |
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.sec.or.th/TH/Pages/KnowledgeCapitalMarket/Knowledge-CapitalMarket-THAIESGX.aspx
สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ Thai ESGX
กองทุน Thai ESGX มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งที่มีหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เดิม และผู้ที่ต้องการลงทุนใหม่ ดังนี้:
1. ผู้ที่ยังมี LTF เหลืออยู่ (ยังไม่เคยขาย หรือ เคยขายออกบางส่วนก่อนวันที่ 12 มีนาคม 2568) โอน LTF เดิม ไปยัง Thai ESGX :
- วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท โดยแบ่งเป็น:
- ปีภาษี 2568: ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท
- ปีภาษี 2569–2572: ลดหย่อนได้ปีละไม่เกิน 50,000 บาท รวม 200,000 บาท
เงื่อนไขสำคัญ:
- ผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดที่ถือครองอยู่ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 ไปยังกองทุน Thai ESGX ภายในระยะเวลา 2 เดือน คือ พฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568
- ต้องถือครองหน่วยลงทุนใน Thai ESGX ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่สับเปลี่ยน
2. สำหรับการลงทุนใหม่ในปี 2568 (ผู้ที่ขาย LTF ออกไปแล้วทั้งหมด หรือไม่เคยมี LTF มาก่อน):
- วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท โดยไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน
- ต้องลงทุนในกองทุน Thai ESGX ภายในระยะเวลา 2 เดือน คือ พฤษภาคมถึงมิถุนายน 2568
- ถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ลงทุน
เงื่อนไขภาษี Thai ESGX ที่ควรรู้เพิ่มเติม
- สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนใน Thai ESGX ในปี 2568 นี้ เป็นวงเงินเพิ่มเติมจากกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เช่น RMF และ Thai ESG ทำให้นักลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุดถึง 1,400,000 บาท ในปีภาษี 2568
- การขายหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด 5 ปี จะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับ พร้อมทั้งเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับจากการขายหน่วยลงทุนดังกล่าว
ข้อดีของการย้ายมา Thai ESGX
เมื่อ LTF เดิมของคุณครบกำหนดแล้ว แทนที่จะถอนเงินออกมาใช้ทันที ลองพิจารณา “ต่อยอด” การลงทุนในกองทุน Thai ESGX ซึ่งมาพร้อมกับข้อดีหลายด้านที่น่าสนใจ เช่น
1. ได้ต่อยอดเงินลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพ
Thai ESGX ลงทุนในหุ้นไทยที่ผ่านการคัดเลือกจากเกณฑ์ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความยั่งยืน มีการบริหารจัดการที่ดี และมีแนวโน้มเติบโตได้ในระยะยาว
2. ช่วยโลก-ช่วยสังคม
เงินของคุณไม่ได้แค่สร้างผลตอบแทนให้ตัวเอง แต่ยังช่วยสนับสนุนบริษัทที่ใส่ใจต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล เป็นการลงทุนที่ “ได้ทั้งใจและกำไร”
3. เป็นทางเลือกใหม่ที่เหมาะกับเทรนด์อนาคต
ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน การเปลี่ยนมาลงทุนใน Thai ESGX จึงเป็นการอัปเกรดพอร์ตให้ทันยุค และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว
4. ยังใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
แม้ LTF เดิมจะไม่สามารถลงทุนเพิ่มได้แล้ว แต่การซื้อ Thai ESG X สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ หากลงทุนตามเงื่อนไข เช่น ถือครบ 5 ปี นับจากวันที่ลงทุน และไม่เกิน 30% ของรายได้ หรือสูงสุด 300,000 บาท
5. มีหลาย บลจ. ให้เลือก เปรียบเทียบได้
ตอนนี้หลายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้เปิดตัว Thai ESGX หลายรูปแบบ นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ และเลือกกองทุนที่ค่าธรรมเนียมเหมาะสมกับตัวเอง
ตัวอย่างเช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM ที่เปิดตัวกองทุน Thai ESGX พร้อมกันถึง 3 กองทุน ให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ตามความเหมาะสม ดังนี้
1. กองทุนเปิดกรุงไทย อิคิวตี้ พลัส 70/30 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KTEQ70PLUSX-D / KTEQ70PLUSX-L) ระดับความเสี่ยง 5
- กระจายความเสี่ยง เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทน แม้ในยามตลาดไม่แน่นอน
- เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai โดยเน้นบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV และตราสารหนี้ ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินกว่า 30% ของ NAV โดยกองทุนอาจพิจารณานำเงินบางส่วนไปลงทุนในต่างประเทศ หรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 20% ของ NAV
2. กองทุนเปิดกรุงไทย อิควิตี้ พลัส ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KTEQPLUSX-D / KTEQPLUSX-L) ระดับความเสี่ยง 6
- ลงทุนในสินทรัพย์ที่ยั่งยืน พร้อมสร้างโอกาสผ่านการกระจายการลงทุน
- เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai โดยเน้นบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยกองทุนอาจพิจารณานำเงินบางส่วนไปลงทุนในต่างประเทศหรือสินทรัพย์อื่นๆ ตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 20% ของ NAV
3. กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นปันผล ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (KTEQDIVX-D/KTEQDIVX-L) ระดับความเสี่ยง 6
- ลงทุนหุ้นพื้นฐานดี ปันผลต่อเนื่อง โอกาสสร้างพอร์ตเติบโตอย่างมั่นคง
- เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai ที่มีปัจจัยพื้นฐานผลการดำเนินงานที่ดี และมีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี สม่ำเสมอ และ/หรือ มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต โดยเน้นบริษัทที่มีความโดดเด่นด้าน ESG โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยจะเน้นลงทุนในประเทศเท่านั้น
ดังนั้น กองทุน Thai ESGX จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เคยลงทุนใน LTF และต้องการต่อยอดการลงทุนเดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในแง่ของ สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืนพร้อมรับสิทธิ ลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 500,000 บาท ได้อย่างต่อเนื่องหลายปี Thai ESGX จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือในการวางแผนภาษี แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการลงทุนอย่างมีจุดยืน สนับสนุนกิจการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เหมาะทั้งสำหรับผู้ที่มองหา ผลตอบแทนที่มั่นคง และผู้ที่ต้องการ ต่อยอดการลงทุนอย่างมีความหมายในระยะยาว
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนดอาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC