สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ที่ต้องเดินทางทุกวัน ทางด่วนถือว่าเป็นเส้นทางที่ช่วยประหยัดเวลาได้ดีมาก แต่ก็ตามมาด้วย “ค่าทางด่วน” ที่หลายคนอยากรู้ว่าปี 2568 นี้มีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนมาอัปเดตข้อมูล ค่าทางด่วนแบบง่าย ๆ เข้าใจเตรียมความพร้อมสำหรับทุกเส้นทางที่ทุกคนต้องใช้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ค่าทางด่วนคืออะไร? ทำไมเราต้องจ่าย?
ค่าทางด่วนคือ ค่าบริการในการใช้ถนนพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด เช่น ทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษศรีรัช หรือวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ค่าธรรมเนียมนี้จะนำไปใช้ในการดูแล บำรุงรักษา และพัฒนาเส้นทางให้สะดวกปลอดภัยยิ่งขึ้น
อัปเดตค่าทางด่วน 2568 มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?
ปีนี้มีการปรับ ค่าทางด่วนบางเส้นทางเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการบำรุงรักษาและสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ค่าทางด่วน 2568 แต่ละที่ราคาเท่าไหร่?
1. ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ขั้นที่ 1)
- ค่าผ่านทาง: 50 บาท
2. ทางพิเศษศรีรัช (ขั้นที่ 2)
- ค่าผ่านทาง: 50 บาท
3. ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน - ปากเกร็ด)
- ค่าผ่านทาง: 35 - 45 บาท
- ขึ้นอยู่กับด่านที่ใช้เข้า/ออก
4. ทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา - ชลบุรี)
- ค่าผ่านทาง: 20 - 105 บาท
- ขึ้นอยู่กับระยะทาง
5. ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก)
- ค่าผ่านทาง: 15 - 45 บาท
- ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ใช้
6. ทางพิเศษสายศรีรัช - วงแหวนรอบนอก (M-Flow)
- ค่าผ่านทาง: 15 - 75 บาท
- คิดตามระยะทาง และไม่มีไม้กั้น
7. ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี - สุขสวัสดิ์)
- ค่าผ่านทาง: 15 - 45 บาท
- ขึ้นอยู่กับจุดขึ้นและลง
8. ทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา - อาจณรงค์)
- ค่าผ่านทาง: 15 - 50 บาท
- แล้วแต่ด่านที่ใช้
9. ทางพิเศษบางนา - บางพลี - บางปะกง
- ค่าผ่านทาง: 20 - 60 บาท
- ระยะทางไกลขึ้น ค่าผ่านทางก็เพิ่มขึ้นตาม
10. ทางพิเศษสายบางพลี - สุขสวัสดิ์
- ค่าผ่านทาง: 15 - 45 บาท
- คิดตามระยะทางเหมือนกัน
11. ทางด่วนประจิมรัถยา
- รถ 4 ล้อ:50–65 บาท/คัน
- รถ 6–10 ล้อ:80–105 บาท/คัน
- รถมากกว่า 10 ล้อ: 115–150 บาท/คัน
(*หมายเหตุ: ราคาข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายรัฐ โปรดตรวจสอบก่อนเดินทาง)
ทำไมค่าทางด่วนถึงมีการปรับราคา?
- ต้นทุนบำรุงรักษาเพิ่มขึ้น
- เงินเฟ้อที่กระทบต่อค่าก่อสร้างและบริหารจัดการ
- การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ เช่น การขยายช่องทางเพิ่ม หรือการติดตั้งระบบเก็บเงินอัตโนมัติ (M-Flow)
เทคนิคประหยัดค่าทางด่วนสำหรับมนุษย์เงินเดือน
1. ใช้ Easy Pass หรือ M-PASS
ลดคิวรอจ่ายเงิน และบางช่วงมีส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการผ่านระบบอัตโนมัติ
2. วางแผนเส้นทางล่วงหน้า
เลือกใช้เส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละช่วงเวลา บางเส้นทางอาจไม่ต้องขึ้นทางด่วนตลอดสาย
3. ใช้โปรโมชั่นจากบัตรเครดิต
บางธนาคารมีโปร cash back หรือ point rewards สำหรับการจ่ายค่าทางด่วนผ่านบัตรเครดิต
ค่าทางด่วนรวมแล้วเดือนหนึ่งจ่ายเท่าไหร่?
สมมติว่าคุณใช้ทางด่วนไปกลับวันละ 100 บาท เดือนละ 22 วันทำงาน = 2,200 บาทต่อเดือนยังไม่นับรวมค่าน้ำมัน, ค่าบำรุงรักษารถ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เลยนะครับ...เห็นไหมว่าค่าเดินทางก้อนนี้ไม่น้อยเลยจริง ๆ
สรุป
ค่าทางด่วน 2568มีการปรับขึ้นในบางเส้นทาง แต่ก็ยังเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดเวลาเดินทางได้ดีมาก ถ้าเราวางแผนดี ๆ เช่น ใช้ Easy Pass หรือเลือกเส้นทางอย่างเหมาะสม ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง แต่หากใครที่มีรถแล้ว มีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินไม่ทันตั้งตัว KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ช่วยคุณได้ด้วยบริการสินเชื่อวงเงินสูงสุด 100% ไม่ว่าจะเป็นรถปลอดภาระหรือยังผ่อนอยู่ ก็สมัครง่ายได้ทุกอาชีพ อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชม. รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ
*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยหรือบัญชีพร้อมเพย์
*กรณีรถยนต์ติดไฟแนนซ์ อนุมัติและโอนเงินหลังจากกรรมสิทธิ์ในรถเป็นชื่อผู้กู้เรียบร้อยแล้ว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี