ยึดถือแนวคิดที่ดีเพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การทำงานเป็นอีกช่วงหนึ่งของชีวิตที่มีความรับผิดชอบ และการตัดสินใจด้วยตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง การมีแนวคิดที่ยึดถือช่วยให้การดำเนินการต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีระบบ สามารถประเมินสถานการณ์ และเลือกแนวทางการทำงานที่ดีต่อตัวเองได้ เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้งานประสบความสำเร็จ
แนวคิดที่ช่วยพัฒนาตนเองในที่ทำงาน
แนวคิดการทำงานขึ้นอยู่กับบุคคล สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ เพราะการทำงานไม่ได้มีรูปแบบตายตัว สิ่งสำคัญคือผลลัพธ์ของงานที่ออกมา แนวคิดที่ได้รับความนิยมเพื่อให้การทำงานเป็นมืออาชีพ เช่น
หลักการวิเคราะห์ตัวเองแบบ SWOT
การวิเคราะห์ตัวเองจะช่วยให้สามารถพัฒนาแผนงานจนสอดรับกับตัวเองได้ ทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้อย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย
- S (Strength) – จุดแข็งของตัวเอง
จุดแข็งเป็นข้อดีของตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรรักษาไว้ เพราะจุดแข็งทำให้การทำงานสำเร็จได้ง่ายดาย การรักษาจุดแข็งควรฝึกควบคู่ไปกับการพัฒนาจุดอ่อน
- W (Weakness) - จุดอ่อนของตัวเอง
จุดอ่อนเป็นสิ่งที่มีในมนุษย์ทุกคน แต่การพัฒนาอยู่เสมอจะช่วยให้จุดอ่อนไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองอีกทางหนึ่ง
- O (Opportunity) – โอกาสในการทำงาน
โอกาสเป็นสิ่งที่ควรคว้าไว้ ซึ่งโอกาสนี้เป็นได้ทั้งสิ่งที่อยากจะทำหรือสิ่งที่ไม่เคยทำก็ได้ เพื่อท้าทายพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน
- T (Threat) - อุปสรรคต่าง ๆ
อุปสรรคเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่ทำได้จึงเป็นการเตรียมรับมือ เน้นความไม่ประมาท มีแผนสำรองในการทำงานอยู่เสมอ
แนวคิดการทำงานแบบคนญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในเรื่องความขยันขันแข็งในการทำงาน และมีการจัดการระบบงานที่ดีมาก แนวคิดที่คนญี่ปุ่นมักจะยึดถือเพื่อให้การทำงานมีความเป็นมืออาชีพทำได้ดังนี้
- การทำความรู้จักคนใหม่ ๆ
คนญี่ปุ่นนิยมพกนามบัตรติดตัวเสมอ เพื่อมอบให้กับคู่ค้าหรือผู้ร่วมงานคนใหม่ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของผู้ที่พบปะและอยากติดต่อด้วย
- การนอบน้อมต่อผู้อาวุโส
ระบบอาวุโสของคนญี่ปุ่นค่อนข้างเข้มข้น การเคารพผู้อาวุโสจะช่วยสร้างความน่าเอ็นดูต่อผู้พบเห็น และเกิดการสอนงานด้วยความรู้สึกที่ดี
- การยึดเป้าหมายขององค์กร
การปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กรช่วยให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และเป็นการฝึกการทำงานอย่างมีเป้าหมาย
- แยกเวลางานและเล่นออกจากกัน
การแบ่งเวลาเล่นและเวลางานออกจากกันอย่างชัดเจน ช่วยให้การทำงานเสร็จตามเวลาที่กำหนด และมีเวลาในการพักผ่อนที่เป็นสัดส่วน
- สร้างสัมพันธ์กับคนในองค์กร
การทำงานร่วมกันเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย การสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อคนในองค์กรจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ
แนวคิดเหล่านี้ช่วยให้ทำงานมีความเป็นมืออาชีพ มีหลักการในการดำเนินงานและมีเป้าหมายที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การรับมือกับความเครียดในที่ทำงาน
การทำงานมักจะพบเจอกับอุปสรรคที่ต้องอาศัยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า บ่อยครั้งทำให้เกิดความเครียดสะสม การรู้จักวิธีการรับมือกับความเครียด จึงเป็นผลดีกับตัวเองและการงาน สามารถทำได้ดังนี้
- ไม่นำงานกลับมาทำที่บ้าน
ถึงแม้การนำงานมาทำที่บ้านจะช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น แต่ไม่ควรทำบ่อย เพราะบ้านหรือห้องพักส่วนตัวควรเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนและปลอดจากความเครียดของงาน
- หางานอดิเรกทำในวันหยุด
การมีกิจกรรมยามว่างที่ชอบ เช่น ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ ทำอาหาร ออกกำลังกาย ช่วยทำให้วันหยุดผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นและเป็นการพักสมองจากการทำงาน
- หาเวลาพักผ่อนให้ตัวเอง
การหาวันหยุดพักร้อนหรือวันหยุดยาวเพื่อไปพักผ่อน ทั้งการเดินทางท่องเที่ยวแบบค้างคืน หรือการรับประทานอาหารในร้านอาหารหรู เป็นการเติมพลังให้ตัวเองได้เป็นอย่างดี หากกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายก็สามารถใช้บัตรเครดิตในการผ่อนชำระ รวมถึงการใช้บัตรกดเงินสดเพื่อสำรองจ่ายเพื่อซื้อกิจกรรมโปรดให้ตัวเองก็ได้
การมีแนวคิดในการทำงานอย่างมืออาชีพเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ควรมองข้ามการดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการวางแผนการเงิน เติมไฟในการทำงานแล้วกลับมาทำงานอีกครั้งจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังที่คนกล่าวว่าทำงานเมื่อพร้อมจะได้ผลดีกว่าการหักโหมทำงาน
สมัครบัตรเครดิตวางแผนการเงิน...ที่นี่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
สมัครบัตรกดเงินสด..ไว้ยามฉุกเฉิน
เบิกถอนเงินสด แบ่งผ่อนชำระได้นานถึง 24 เดือน