ปัญหารถหม้อน้ำรั่ว เกิดจากอะไร ขับต่อได้ไหม
หม้อน้ำรั่ว อีกหนึ่งปัญหาที่คนใช้รถทางไกลมักพบเจอ หรือเป็นรถที่มีอายุเก่าสักหน่อย ไม่ได้ตรวจเช็กรถเป็นประจำ จนทำให้น้ำระดับน้ำในหม้อพักลดต่ำลง เลยทำให้เครื่องยนต์ระบายความร้อนไม่ทัน และเกิดอาการน้ำดันขึ้นมา ซึ่งอาการนี้ไม่ควรฝืนขับต่อ เพราะจะทำให้ฝาสูบโก่ง และกลายเป็นปัญหาบานปลายที่จะต้องจ่ายค่าซ่อมที่แพงมากขึ้นกว่าเดิม แล้วจะสังเกตอาการหม้อน้ำรั่วได้อย่างไร วันนี้ทาง KTC เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
หม้อน้ำรั่ว เกิดจากอะไร
อาการหม้อน้ำรั่ว มักเกิดจากการกัดกร่อนภายใน ซึ่งอาจทำให้ข้อต่อ หรือท่อยางหม้อน้ำเกิดการชำรุดในจุดต่างๆ เลยทำให้น้ำยาหม้อน้ำรั่วซึมออกมา ซึ่งปัญหานี้มักพบในรถที่มีอายุการใช้งานมานาน และชิ้นส่วนต่าง ๆ เริ่มเก่า หรืออาจจะเป็นเพราะการปล่อยให้น้ำยาหม้อน้ำลดต่ำจนเกินไป ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน
หากหม้อน้ำรั่ว อาการเป็นอย่างไร
เมื่อหม้อน้ำรั่ว รถจะมีความร้อนขึ้นเยอะผิดปกติ จนทำให้มีไฟแผงหน้าปัดแจ้งเตือนเรื่องความร้อนขึ้น ซึ่งเป็นอาการที่คนใช้รถปล่อยผ่านไม่ได้อยู่แล้ว เพราะจะส่งผลต่อการขับขี่โดยตรง และอีกจุดหนึ่งที่สังเกตได้ ก็คือ คราบน้ำหล่อเย็นที่มีสี จะไหลนองอยู่ใต้ท้องรถ ซึ่งหากเช็กสักนิดก่อนขับออกจากบ้าน หรือเวลาที่ขับกลับมา ก็จะเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้ได้ทันที
รถหม้อน้ำรั่ว ขับต่อได้ไหม
หลายคนอาจจะสงสัย ว่ารถหม้อน้ำรั่ว ขับต่อได้ไหม คำตอบก็คือไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์พังจากอาการฝาสูบโก่งได้ สิ่งที่ควรทำมากที่สุด ก็คือการประคองรถเข้าข้างทางให้ปลอดภัย และจอดพักให้เครื่องยนต์เย็นลงสัก 15 - 20 นาที แล้วจึงค่อยเปิดฝาหม้อน้ำออกเพิ่มเติมน้ำหล่อเย็น หรือน้ำเปล่าเข้าไปแทน ในกรณีที่หาน้ำหล่อเย็นไม่ได้จริง ๆ แล้วจึงค่อยนำรถไปซ่อมต่อ หรือหากไม่อยากเสี่ยง ก็ควรโทรเรียกรถสไลด์ไปยังอู่ซ่อมทันที จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
5 ข้อปฏิบัติรับมือหม้อน้ำรั่วขณะขับ
1. เมื่อรถความร้อนขึ้นจากอาการหมอน้ำรั่ว ให้นำรถเข้าจอดข้างทางทันที
2. จอดรถทิ้งไว้ 15 - 20 นาทีเพื่อระบายความร้อน
3. นำดินน้ำมัน หรือใช้น้ำยาอุดรอยรั่วซึมหม้อน้ำ
4. หากไม่มีวัสดุที่อุดรอยรั่วได้ ให้เติมน้ำเปล่าเข้าไปชั่วคราวแทน
5. นำรถเข้าอู่ หรือศูนย์บริการที่เชื่อถือได้เพื่อตรวจเช็กต่อไป
หม้อน้ำรถยนต์ มีอายุการใช้งานกี่ปี
หม้อน้ำรถยนต์ มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 5 - 7 ปี หรือราว 100,000 - 150,000 กม. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และการดูแลรักษาในการใช้งานรถร่วมด้วย เพราะรถบางคันก็สามารถใช้งานได้ยาวเป็น 10 ปีขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนหม้อน้ำเลยเช่นกัน
รถหม้อน้ำรั่ว ซ่อมได้ไหม
รถหม้อน้ำรั่ว สามารถซ่อมได้ แต่อาจจะกลับมารั่วซึมอีกครั้งได้เมื่อใช้งานไปสักพัก จึงไม่แนะนำให้ทำการซ่อม แต่ควรเลือกเปลี่ยนแผงหม้อน้ำรถยนต์ใหม่ไปเลย เพราะจะเป็นการจบปัญหาที่ตรงจุดกว่า โดยไม่ต้องมานั่งกังวลใจ ว่าใช้ไปแล้วจะกลับมาเป็นอีกไหม โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้รถเป็นประจำ หรือเดินทางไกลอยู่บ่อย ๆ
เปลี่ยนหม้อน้ำ ราคากี่บาท
หากหม้อน้ำรั่ว และต้องการเปลี่ยนใหม่ ราคาจะมีตั้งแต่ 1,500 - 6,500 บาท หรือมากกว่านี้ โดยจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ และความนิยมของแบรนด์เป็นหลัก หากเลือกได้ ก็ควรใช้ของแท้เบิกศูนย์จะดีที่สุด แต่หากไม่อยากจ่ายแพงมาก ก็สามารถใช้งานหม้อน้ำงานเทียบจากแบรนด์ดังในท้องตลาดได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องสังเกตให้ดีก่อนซื้อเท่านั้น
ควรดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์อย่างไรให้อยู่ได้นาน
อาการหม้อน้ำรั่ว ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลมากนัก เพราะไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย หากมีการดูแลตรวจเช็กอย่างถูกวิธี เพียงมีเวลาทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้บ้างเป็นครั้งคราว อาการน้ำดันจากหม้อน้ำรั่ว หรือเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท ก็แทบจะไม่มีให้เห็นเลยตลอดอายุการใช้งานรถ มาดูกันดีกว่า ควรดูแลอย่างไรกันบ้าง
- ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น : สิ่งแรกที่คนใช้รถควรทำทุกครั้งในการดูแลหม้อน้ำรถยนต์ ก็คือการหมั่นตรวจเช็กระดับน้ำทุกสัปดาห์ โดยน้ำหล่อเย็นจะต้องอยู่ระหว่างระดับ “Min” กับ “Max” ซึ่งจะหมายถึงระดับปกติในการใช้งาน หากน้อยกว่านั้นควรเติมเข้าไปให้ไม่เกินระดับ Max เพื่อช่วยให้รถระบายความร้อนได้ตามปกติ
- ไม่เติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำ : สิ่งที่หลายคนทำพลาด เพราะฟังคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมา ก็คือการเติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำ ซึ่งแม้ว่ารถจะยังใช้งานได้ตามปกติก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่า จุดเดือดสูงสุดของน้ำเปล่านั้นอยู่แค่ 100 องศา ต่างจากน้ำหล่อเย็นที่จะระบายความร้อนได้ดีกว่า ด้วยจุดเดือดที่สูงถึง 120 องศา อีกทั้งน้ำเปล่า อาจจะมีการตกตะกอนของแร่ธาตุ และอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเกิดสนิม หรือโดนกัดกร่อนได้เช่นกัน
- เติมน้ำหล่อเย็นที่มีคุณภาพ : และสิ่งสุดท้ายที่ไม่ควรพลาด ก็คือการเลือกเติมน้ำหล่อเย็นที่มีคุณภาพ และตรงกับรุ่นของรถ ซึ่งโดยส่วนมาก รถแต่ละค่ายก็จะมีน้ำหล่อเย็นสีสันแตกต่างกันไป แม้ว่าหลายคนจะเลือกใช้สลับยี่ห้อกัน แต่ทางที่ดี ก็ควรเลือกให้ตรงกับรุ่นรถจะปลอดภัยกว่า
สรุปบทความ ปัญหารถหม้อน้ำรั่ว เกิดจากอะไร ขับต่อได้ไหม
แม้ว่าปัญหาหม้อน้ำรั่ว อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เมื่อเกิดขึ้นทีไร ก็อาจจะทำให้การเดินทางต้องหยุดชะงักไปดื้อ ๆ จึงควรตรวจเช็กบ้างเป็นครั้งคราวตามที่เราแนะนำกันไป จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียอารมณ์ในภายหลังเมื่อต้องใช้รถ และสำหรับคนที่มีรถใช้งาน และกำลังประสบปัญหาที่จำเป็นจะต้องใช้เงินก้อน หากยังไม่รู้ว่าจะไปกู้ขอสินเชื่อที่ไหน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาการเงินให้คุณเอง ด้วยวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ สมัครง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก อนุมัติไว รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน พร้อมยังผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน และยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ในการไปตรวจสภาพรถให้ฟรีถึงหน้าบ้าน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้มสำหรับใช้เงินฉุกเฉิน แบบกดได้ฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกด้วย
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รับวงเงินก้อนใหญ่
สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมตรวจสภาพรถฟรีถึงหน้าบ้าน
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*