คนมีรถควรรู้การโอนลอยรถคืออะไร ทำไมคนถึงนิยมใช้
แม้รถยนต์เป็นยานพาหนะสำคัญสำหรับใช้ในการเดินทาง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยามฉุกเฉินขาดสภาพคล่องทางการเงิน รถยนต์คันโปรดก็เป็นตัวช่วยชั้นดีในการหาเงินมาหมุนเวียนค่าใช้จ่ายในยามจำเป็น เนื่องจากรถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง จึงสามารถทำการซื้อขายได้ตลอดเวลา อีกทั้งธนาคารและสถาบันการเงินยังได้มีการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อเกี่ยวกับรถ เพื่อรองรับความต้องการยามฉุกเฉินสำหรับคนมีรถอีกด้วย บางครั้งการซื้อขายรถหรือขอสินเชื่อจากธนาคารมีขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการโอนรถหรือเปลี่ยนชื่อเจ้าของ เชื่อหลายคนอาจคุ้นเคยกับคำว่า “โอนลอย” วิธีการโอนรถที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายรถเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางผู้ขายไม่ต้องเดินทางไปทำเรื่องที่กรมขนส่งทางบกและยังได้รับเงินจากการซื้อขายรถทันทีเมื่อโอนลอยเสร็จ แม้การโอนลอยดูเป็นวิธีที่สะดวกสบายแต่ก็มีความเสี่ยงไม่น้อย ทั้งยังอาจส่งผลกระทบในภายหลังได้ ดังนั้นทั้งผู้ซื้อและผู้ขายควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการโอนลอยให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกใช้การโอนรถชนิดนี้
โอนลอยรถคืออะไร? ต่างจากการโอนรถแบบทั่วไปหรือไม่
โอนลอยรถ เป็นหนึ่งในรูปแบบการโอนรถยนต์ที่มีการตกลงซื้อขายรถยนต์ ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายซึ่งมีเพียงสัญญาในการซื้อขายและเซ็นสัญญาโอนย้ายเท่านั้น แต่กรรมสิทธิ์ยังไม่ถูกเปลี่ยนไปเป็นชื่อของผู้ซื้อโดยสมบูรณ์ เนื่องจากโดยทั่วไปในการโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของจากการซื้อขาย ทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ รถบรรทุก การโอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายจะสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อผู้ซื้อหรือผู้ขายไปจดทะเบียนผู้ครอบครองใหม่ที่สำนักงานขนส่งทางบกนั่นเอง
การโอนรถเปลี่ยนเจ้าของ โอนลอยดีอย่างไร
เอกสารในการโอนลอยรถยนต์
สำหรับการโอนลอยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้กันเป็นอย่างมากในการซื้อขายรถยนต์มือสอง หรือการซื้อขายผ่านคนกลาง เพราะเมื่อทำการซื้อขายรถยนต์ผู้ขายจะสามารถรับเงินจากผู้ซื้อได้ทันที และจัดทำเอกสารการโอนลอยถือเป็นวิธีที่สะดวกสบาย เมื่อผู้รับเซ็นรับรถยนต์ก็สามารถไปดำเนินเรื่องโอนรถต่อที่กรมขนส่งทางบกได้ ที่สำคัญคือผู้ที่จะไปทำเรื่องโอนจะเป็นใครก็ได้เพียงนำหนังสือมอบอำนาจการโอนที่เจ้าของรถคนเดิม (ผู้ขาย) ลงนามไว้ ไปทำเรื่องที่กรมขนส่งทางบก โดยการโอนลอยก็มีข้อดีที่หลายคนอาจยังไม่ทราบดังนี้
เจ้าของรถไม่ต้องเสียเวลาเดินเรื่อง
การโอนลอยผู้เป็นเจ้าของรถไม่ว่าจะเป็นการขายเองโดยตรง หรือขายผ่านคนกลาง เพื่อให้เจ้าของรถคันใหม่เป็นผู้ดำเนินเรื่องการโอนเอง ผู้ขายเพียงเซ็นเอกสารการโอนเท่านั้นที่เหลือผู้ซื้อจะต้องไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์รถที่กรมขนส่งทางบกเอง
ทำการซื้อขายรถได้เร็วขึ้น เมื่อผ่านคนกลาง
สำหรับคนที่ต้องการขายรถไปยังเต็นท์รถมือสองหรือในกรณีฝากขาย ทางผู้ขายเพียงเซ็นเอกสารการโอนและหนังสือมอบอำนาจการโอน ให้แก่ทางผู้รับฝากหรือเต็นท์รถมือสองเท่านั้นทางคนที่รับไปขายต่อไม่จำเป็นต้องเซ็นรับโอน เมื่อทำการขายได้แล้วจึงนำใบโอนลอยไปให้ผู้ซื้อรถคนใหม่เซ็นเอกสารในส่วนผู้รับโอนภายหลัง การโอนลอยช่วยให้คนกลางหรือเต็นท์รถมือสองที่รับรถไปขาย ไม่ต้องเสียเวลาไปทำการโอนที่กรมขนส่งทางบกและเสียค่าใช้จ่ายหลายต่อ และเมื่อผู้ซื้อรถต่อเซ็นรับโอนแล้ว ก็สามารถนำเอกสารการโอนลอยไปทำเรื่องโอนที่กรมขนส่งทางบกได้เลย
โอนลอยรถ เอกสารที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง?
เมื่อมีการซื้อขายรถเกิดขึ้นสิ่งสำคัญสำหรับการโอนลอยนั่นคือในเรื่องของเอกสาร ที่ต้องใช้ประกอบในการซื้อขายหรือการโอนเล่มทะเบียนรถ โดยมีเอกสารที่ต้องใช้คร่าว ๆ ดังนี้
- หนังสือสัญญาซื้อขาย
- เล่มทะเบียนรถตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของเจ้าของรถ (ผู้ขาย)
- สำเนาบัตรประชาชน พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของผู้ซื้อ ในกรณีที่เจ้าของรถขายต่อกับผู้ซื้อโดยตรง แต่หากไม่มีผู้ซื้อโดยตรงเอกสารฉบับนี้ยังไม่ต้องใช้
- สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของเจ้าของรถ (ผู้ขาย)
- แบบคำขอโอนและรับโอนจากกรมการขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของเจ้าของรถ (ผู้ขาย)
- หนังสือมอบอำนาจจากกรมการขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องของเจ้าของรถคนล่าสุด (ผู้ขาย)
ไขข้อสงสัย ขายรถโอนลอย อันตรายจริงหรือ
ซื้อขายรถยนต์ผ่านการโอนลอย
ขายรถโอนลอย อันตรายไหม? แน่นอนว่าการโอนลอยใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสมอไป เนื่องจากการโอนลอยรถถือว่ายังมีผลทางกฎหมายที่ยังไม่สมบูรณ์ หากผู้รับไม่ได้มีการไปดำเนินการโอนรถที่กรมขนส่งทางบก เพราะถือว่ารถยังไม่ถูกโอนกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย เมื่อเกิดปัญหาหรือการกระทำความผิดเกี่ยวกับรถขึ้นไม่ว่าจะเป็นใบสั่งจราจร อุบัติเหตุบนท้องถนน การก่อคดีอาชญากรรม การขายต่อแบบผิดกฎหมาย เจ้าของรถเดิมหรือผู้ขายที่มีชื่อตามเล่มทะเบียนรถต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงอาจต้องเสียเวลาหรือค่าใช้จ่ายในการหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะยังถือเป็นรถในครอบครองของเจ้าของรถ (ผู้ขาย) อยู่นั่นเอง ดังนั้นทางแก้คือ เมื่อมีการโอนลอยเกิดขึ้นควรมีเอกสารในการซื้อขายไว้ 2 ฉบับ เพื่อให้เก็บไว้ทั้งทางด้านผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ซื้อและใบโอนลอยรถ
การโอนลอยรถยนต์นอกจากการซื้อขายรถยนต์แล้ว ในการขอสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ส่วนใหญ่มีการใช้วิธีการโอนลอยด้วยเช่นกัน อาทิ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ สินเชื่อรถแลกเงิน แบบไม่ต้องโอนเล่ม เพราะผู้ขอสินเชื่อเพียงเซ็นเอกสารโอนลอยหรือมอบอำนาจไว้เท่านั้น ถือเป็นหลักประกันอีกหนึ่งอย่างให้แก่ทางผู้ให้บริการสินเชื่อนั่นเอง
อยากมองหาเงินด่วนทำยังไงดี? ให้รถยังมีใช้แถมได้เงินก้อน
ในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงมีความผันผวนเช่นนี้ ทำให้มีคนไม่น้อยต้องประสบกับปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน สำหรับคนมีรถยนต์ปลอดภาระสามารถนำรถยนต์ของคุณยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อนำวงเงินที่ได้มาหมุนเวียนค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เสริมสภาพคล่องทางการเงิน โดยพี่เบิ้มขอแนะนำสินเชื่อ KTC พี่เบิ้มรถแลกเงิน สำหรับคนที่กำลังมองหาเงินก้อนหรือวงเงินฉุกเฉินเพื่อใช้จ่ายในเรื่องต่าง ๆ พร้อมอนุมัติวงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท กู้ได้ทุกอาชีพ สมัครได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมมีบริการพี่เบิ้ม Delivery เข้าไปตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้ถึงหน้าบ้าน รู้ผลอนุมัติไวภายใน 2 ชั่วโมง เมื่อผ่านการอนุมัติรับวงเงินโอนเข้าบัญชีทันที มองหาตัวช่วยด้านการเงินสำหรับคนมีรถพี่เบิ้มพร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุก ๆ สถานการณ์
อ้างอิงข้อมูลจาก : bangkokbiznews
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มองหาเงินก้อนฉุกเฉินพี่เบิ้มช่วยได้…ที่นี่