ยางเปอร์เซ็นต์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่า ต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์ในราคาประหยัด สบายกระเป๋า แต่การเลือกซื้อยางรถยนต์ก็มีข้อควรระมัดระวังอยู่ไม่น้อย มิเช่นนั้นแล้วอาจได้ไม่คุ้มเสีย เพราะยางเปอร์เซ็นต์ก็คือยางที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับยางแต่ละเส้น บทความนี้จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับยางชนิดนี้และวิธีดูยางเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมควรทำอย่างไร เพื่อให้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมากที่สุดนั่นเอง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ยางเปอร์เซ็นต์ คืออะไร?
ยางเปอร์เซ็นต์ หรือ ยางรถยนต์มือสอง (Used Tires) คือ ยางรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วระยะหนึ่ง ก่อนที่จะถูกนำกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง โดยส่วนมากยางเหล่านี้อาจถูกถอดออกจากรถยนต์ที่เปลี่ยนยางใหม่ทั้งชุด หรือมาจากรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุแต่ยางยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ ยางเปอร์เซ็นต์จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางใหม่ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอายุการใช้งานที่สั้นลงเมื่อเทียบกับยางใหม่ป้ายแดง
เนื่องจากยางเปอร์เซ็นต์เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว การเลือกซื้อยางรถยนต์ประเภทนี้จึงจำเป็นต้องพิจารณาสภาพของยางอย่างละเอียด เช่น เป็นความลึกของดอกยาง ร่องรอยการแตกร้าว บวม หรือการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ อีกทั้งต้องตรวจสอบอายุของยาง เพื่อประเมินอายุคงเหลือของยางเส้นนั้น ๆ จึงจะสามารถนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย และคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป
วิธีดูยางเปอร์เซ็นต์ เลือกยังไงดี?
1. ตรวจสอบวันที่ผลิตยาง
มองหาตัวเลข 4 หลักที่แก้มยาง ซึ่งระบุสัปดาห์และปีที่ผลิต เช่น "1024" หมายถึงผลิตในสัปดาห์ที่ 10 ของปี 2024 ยางเก่าเก็บเกิน 5 ปี แม้ดอกยางจะดี ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะเนื้อยางอาจเสื่อมสภาพแล้ว
2. ตรวจสอบดอกยาง
ดอกยางเป็นส่วนสำคัญในการรีดน้ำ ช่วยคงประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนเปียก ควรหลีกเลี่ยงยางที่มีความลึกดอกยางต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร หรือสึกจนถึงระดับสะพานยาง
3. สังเกตร่องรอยความเสียหาย
ตรวจสอบแก้มยางและหน้ายางอย่างละเอียดเพื่อหารอยแตกร้าว บวม ปูด รอยเบียด รอยตำ หรือรอยปะที่ไม่เรียบร้อย และควรหลีกเลี่ยงหากพบความเสียหายเหล่านี้ เนื่องจากโครงสร้างยางอาจไม่สมบูรณ์ จนนำไปสู่การระเบิดขณะใช้งานได้
4. เช็กการสึกหรอของดอกยาง
หากดอกยางสึกไม่เท่ากัน เช่น ด้านใดด้านหนึ่งสึกมากกว่า อาจเป็นสัญญาณว่ารถคันเก่ามีปัญหาช่วงล่าง หรือมีการตั้งศูนย์ล้อที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการยึดเกาะของยาง
5. เปรียบเทียบราคาและสภาพ
ยางเปอร์เซ็นต์ ราคาแต่ละแห่งแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบราคายางเปอร์เซ็นต์จากแหล่งขายยางรถยนต์มือสองหลาย ๆ แห่ง และเปรียบเทียบสภาพของยางแต่ละเส้นอย่างละเอียด เลือกร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือ และมีตัวเลือกหลากหลายจะดีกว่า
6. ขอดูยางเส้นอื่น ๆ ในชุด
หากต้องการซื้อยางเป็นคู่หรือทั้งชุด ควรขอดูยางเส้นอื่นๆ ในชุดเดียวกัน เพื่อตรวจสอบว่ามีสภาพใกล้เคียงกันหรือไม่
7. หลีกเลี่ยงยางที่ผ่านการปะซ่อมขนาดใหญ่
ยางที่เคยปะซ่อมรูขนาดใหญ่ หรือมีการปะหลายจุด อาจมีความแข็งแรงไม่เท่าเดิม และอาจเสี่ยงต่อการรั่วซ้ำ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ
8. ซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
เลือกร้านขายยางเปอร์เซ็นต์ที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือ และมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยางรถยนต์ จะช่วยแนะนำยางที่มีสภาพดี และมีตัวเลือกที่ตรงกับความต้องการได้ดีกว่า
9. สอบถามประวัติการใช้งาน
หากซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ลองสอบถามถึงประวัติการใช้งานของยาง เช่น ใช้งานมานานแค่ไหน บรรทุกหนักหรือไม่ หรือเคยมีปัญหาอะไรมาก่อนหรือเปล่า แม้จะไม่สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด แต่ก็อาจช่วยให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจได้
10. ลองสอบถามเงื่อนไขการรับประกัน
แม้ว่ายางเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่จะไม่มีการรับประกัน แต่บางร้านอาจมีเงื่อนไขการรับประกันเบื้องต้น เช่น หากพบปัญหาภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถเปลี่ยนเส้นใหม่ได้ ทางที่ดีควรลองสอบถามเพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติม
ยางเปอร์เซ็นต์ ใช้ได้กี่ปี
ยางเปอร์เซ็นต์ หรือยางรถยนต์มือสองนั้น ไม่มีอายุการใช้งานที่ตายตัวเหมือนยางใหม่ เนื่องจากอายุการใช้งานที่เหลืออยู่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของยางเดิมก่อนถูกถอดออก สภาพการใช้งานที่ผ่านมา การเก็บรักษา และสภาพปัจจุบันของยาง โดยทั่วไปแล้ว ยางเปอร์เซ็นต์ที่มีอายุเกิน 5 ปี นับจากวันที่ผลิต ไม่ควรนำมาใช้งานต่อ แม้ว่าดอกยางจะยังดูดีอยู่ก็ตาม เพราะเนื้อยางมักเริ่มเสื่อมสภาพและสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง
อย่างไรก็ตาม หากได้ยางรถยนต์มือสองสภาพใหม่ อาจใช้งานได้ยาวนานตั้งแต่ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของคุณเอง ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยภายหลังจากการเปลี่ยนยางเปอร์เซ็นต์ ควรนำรถตั้งศูนย์ถ่วงล้อเช่นเดียวกับยางใหม่ จะช่วยลดปัญหาในการใช้งาน และยืดอายุของยางให้ยาวนานขึ้นได้
ข้อดี ข้อเสียของการใช้ยางเปอร์เซ็นต์
ข้อดีของยางเปอร์เซ็นต์
- ราคาถูกกว่า : ยางเปอร์เซ็นต์มีราคาถูกกว่ายางใหม่อย่างเห็นได้ชัด ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้เมื่อถึงเวลาจำเป็น
- คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป : หากได้ยางที่มีสภาพดี แถมยังมีราคาถูกกว่า เท่ากับว่าได้ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายออกไป
- ตัวเลือกหลากหลาย : ยางเปอร์เซ็นต์มีตัวเลือกหลากหลายรุ่น (ขึ้นอยู่กับร้านที่ขายด้วย) และยังช่วยให้สามารถเข้าถึงยางรุ่นท็อป ยี่ห้อคุณภาพสูงในราคาที่ถูกกว่า
ข้อเสียของยางเปอร์เซ็นต์
- อายุการใช้งานสั้นกว่า : ยางเปอร์เซ็นต์ผ่านการใช้งานมาแล้ว ทำให้มีอายุการใช้งานที่เหลือสั้นกว่ายางใหม่ และอาจต้องเปลี่ยนบ่อยกว่า
- ไม่ทราบประวัติการใช้งานที่แท้จริง : ผู้ซื้ออาจไม่สามารถทราบได้ว่ายางเคยผ่านการใช้งานหนัก บรรทุกเกินพิกัด หรือได้รับความเสียหายมาก่อนหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยต่อการใช้งานได้
- ประสิทธิภาพด้อยกว่า: เนื่องจากเนื้อยางมีการเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันที่ยางเริ่มแตะพื้นถนน ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน การเบรก และการควบคุม อาจไม่ดีเท่ากับยางใหม่
- ไม่มีการรับประกัน: ยางเปอร์เซ็นต์มักจะไม่มีการรับประกัน ทำให้ผู้ซื้อต้องยอมรับความเสี่ยงในกรณีที่ยางมีปัญหาหลังการซื้อด้วยตัวเอง
ยางเปอร์เซ็นต์ราคาเท่าไหร่?
ยางเปอร์เซ็นต์จะมีราคาถูกกว่ายางใหม่ประมาณ 50% หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพ อายุ ยี่ห้อ และรุ่นของยาง ยิ่งสภาพยางดี ดอกยางเหลือเยอะ และอายุยังน้อย ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย แต่โดยเฉลี่ยแล้ว คุณสามารถหายางเปอร์เซ็นต์ในราคาเริ่มต้นเพียง หลักร้อยบาทต่อเส้น สำหรับยางขนาดเล็กที่มีสภาพพอใช้ ไปจนถึง หลักพันบาทต่อเส้น สำหรับยางขนาดใหญ่ ยี่ห้อดัง หรือยางที่ยังคงมีสภาพดีมาก
ตัวอย่างเช่น ยางขอบ 14-15 นิ้ว สภาพใช้งานได้ อาจมีราคาตั้งแต่ 500-1,000 บาทต่อเส้น ในขณะที่ยางขอบ 16-17 นิ้ว สภาพดี อาจมีราคาตั้งแต่ 1,000-2,500 บาทต่อเส้น หรือมากกว่านั้น
ยางเปอร์เซ็นต์ ความคุ้มค่าที่ต้องเช็กอย่างรอบคอบ
ยางเปอร์เซ็นต์เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยาง แต่ผู้ซื้อต้องใส่ใจในการตรวจสอบสภาพและรายละเอียดต่างๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ยางที่คุ้มค่าและปลอดภัยในการใช้งานมากที่สุด การเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับยางรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
แต่หากคุณกำลังต้องการเงินสดแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์, สินเชื่อบิ๊กไบค์, สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ช่วยคุณได้ด้วยบริการสินเชื่อรถแลกเงินที่ให้วงเงินสูงสุด 100% พร้อมไปหาถึงที่ อาชีพไหนก็สมัครได้ อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
เ*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ
เ*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยหรือพร้อมเพย์
เ*เมื่อวงเงินกู้ 200,000 บาทขึ้นไป สามารถเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน
เ*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี
เกรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้