ปัญหารอยร้าวในบ้านและคอนโด เป็นปัญหาที่หลายคนมักมองข้ามเพราะอาจมองว่าเป็นแค่รอยร้าวเล็ก ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตามกาลเวลา คงไม่ได้กระทบกับตัวโครงสร้างหรือจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ ๆ ได้ แต่ที่จริงแล้วรอยร้าวมีด้วยกันหลายประเภท และบางประเภทก็อาจบ่งบอกถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ไม่ควรมองข้าม หากพบว่ามีรอยร้าวประเภทนี้เกิดขึ้นควรรีบแก้ไขก่อนจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งวันนี้ KTC รวบรวมรอยร้าวแบบต่าง ๆ มาให้ตรวจเช็กว่าแบบไหนเป็นรอยร้าวที่พบได้บ่อย แบบไหนอันตรายควรแก้ไข พร้อมวิธีซ่อมแซมเบื้องต้น
ประเภทของรอยร้าวที่พบได้บ่อย
รอยร้าวตามแนวรอยต่อ
เป็นรอยที่เกิดบริเวณที่วัสดุสองชนิดมาเชื่อมต่อกัน เช่น รอยต่อระหว่าง ผนังกับเสา รอยต่อระหว่าง คานกับผนังหรือ แผ่นยิปซัมกับโครงเหล็ก มักเป็นรอยยาวบาง ๆ ตรงแนวเชื่อมต่อวัสดุ ส่วนมากจะไม่ลึกและไม่ขยายอย่างรวดเร็ว อาจเกิดเป็นเส้นตรงหรือเป็นรอยแยกตามแนววัสดุ ใครที่พบเจอรอยร้าวแบบนี้ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เพราะไม่ได้เกี่ยวกับโครงสร้างหลัก
รอยร้าวที่เกิดจากความชื้น
รอยร้าวจากความชื้น เป็นรอยร้าวที่เกิดจากการสะสมของน้ำหรือไอน้ำภายในผนังหรือเพดาน ซึ่งอาจดูเหมือนไม่อันตรายในช่วงแรก แต่ถ้าปล่อยไว้นานแล้วเกิดเป็นปูนลอก น้ำหยด หรือร้าวลึกได้ อาจจะต้องคอยสังเกตดี ๆ แล้วตรวจระบบน้ำหรือเรียกช่างมาซ่อม
รอยร้าวผิวปูน
รอยร้าวผิวปูน เป็นรอยร้าวที่มักพบได้ทั่วไปในบ้านหรืออาคาร และส่วนใหญ่ ไม่เป็นอันตรายต่อโครงสร้าง แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่ซ่อมแซม อาจส่งผลให้ความชื้นแทรกซึมเข้าไปในผนังได้ ดังนั้นถึงไม่อันตรายก็จริง แต่ควรซ่อมเพื่อป้องกันความชื้นซึมเข้าไปในผนัง
รอยร้าวตามขอบวงกบ ประตู/หน้าต่าง
เป็นรอยร้าวที่พบได้บ่อยในบ้านพักอาศัยหรืออาคารทั่วไป ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นเพียงรอยร้าวเล็ก ๆ แต่บางครั้งก็อาจบ่งบอกถึงปัญหาเชิงโครงสร้างได้เช่นกันถ้าวงกบบิด เบี้ยว ประตูปิดไม่สนิท ต้องให้วิศวกรหรือช่างตรวจสอบ
รอยร้าวที่พื้น
รอยร้าวที่พื้นบ้าน เป็นปัญหาที่หลายคนมักมองข้ามในช่วงแรก แต่ในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาที่ลึกกว่าผิว เช่น รอยร้าวพร้อมกับพื้นแอ่นหรือยุบ จะอันตรายกว่าเป็นเส้นบาง ๆ ไม่ลึก เพราะอาจมีการทรุดตัวหรือโครงสร้างเสียหาย ควรรีบตรวจสอบ
รอยร้าวแนวดิ่ง
รอยร้าวแนวดิ่ง บนผนังหรือโครงสร้างอาคารอาจดูเหมือนไม่รุนแรงในตอนแรก แต่ในความเป็นจริง รอยร้าวแนวดิ่งสามารถบ่งบอกได้ทั้งปัญหาเล็ก ๆ อย่างการหดตัวของปูน ไปจนถึงปัญหาใหญ่ระดับโครงสร้าง เช่น การทรุดตัวของฐานราก
รอยร้าวแบบไหนอันตราย ควรรีบแก้ไข
รอยร้าวที่พบได้ทั่วไปมักเป็นรอยร้าวที่ไม่อันตรายในตอนแรก แต่อาจจะเริ่มอันตรายเมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ ซึ่งจะต้องคอยสังเกตและให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดู แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกรอยร้าวจะไม่อันตราย เพราะก็มีบางประเภทเหมือนกันที่ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะต้องรีบให้ช่างมาแก้ไขทันที มีด้วยกัน 3 ลักษณะ ดังนี้
รอยร้าวแนวนอน
ถ้ามีรอยร้าวแนวนอนต่อเนื่องตลอดแนวผนัง นั่นเป็นสัญญาณถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามาแล้ว เพราะอาจมีแรงดันภายในผนัง เช่น ดินดัน หรือโครงสร้างบิดตัว ส่วนถ้ารอยร้าวแนวนอนเกิดขึ้นระดับต่ำใกล้พื้นหรือเพดาน ลักษณะนี้จะอันตราย เพราะอาจเป็นสัญญาณของฐานรากเคลื่อนตัวหรือผนังรับน้ำหนักเสียหาย
รอยร้าวแนวเฉียง
รอยร้าวแนวเฉียง เป็นหนึ่งในรอยร้าวที่ควรให้ความใส่ใจมากที่สุด เพราะมักเกี่ยวข้องกับ การทรุดตัวของโครงสร้าง หรือ แรงดันที่ไม่สมดุลในอาคาร รอยร้าวแนวเฉียงมักพบใกล้ช่องเปิด เช่น ประตู หน้าต่าง หรือมุมผนัง ซึ่งเป็นจุดอ่อนของโครงสร้าง
รอยร้าวเสา-คาน
เสาและคาน เป็นองค์ประกอบหลักของโครงสร้างอาคาร รอยร้าวที่เกิดขึ้นในส่วนนี้จึงถือว่า มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะอาจสะท้อนถึงการเสื่อมสภาพของโครงสร้าง หรือการรับน้ำหนักที่ผิดพลาด หากละเลย อาจนำไปสู่ความเสียหายรุนแรง เช่น โครงสร้างทรุดตัว หรืออาคารพังถล่มได้ ถ้าสังเกตเห็นว่าผนังแยกออกจากกันที่รอยต่อ เส้นเฉียงขยาย อันตรายมาก ต้องให้วิศวกรตรวจสอบทันที
วิธีสังเกตว่าควรเรียกช่างหรือวิศวกรตรวจสอบ
- รอยร้าวลึกกว่า 3 มม., ยาวต่อเนื่อง หรือมี การแยกของผนัง
- รอยร้าวที่ เสา คาน หรือจุดรับน้ำหนัก
- รอยร้าวที่มีแนวโน้มขยายตัวเร็วภายในไม่กี่สัปดาห์
- รอยร้าวที่มาพร้อมกับผนังโก่ง พื้นแอ่น หรือประตูปิดไม่สนิท
- รอยร้าวที่เกิดพร้อมกันหลายจุดทั่วบ้าน ภายในระยะเวลาสั้น
ขั้นตอนการซ่อมแซมเบื้องต้น
เตรียมพื้นที่ : เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของออกจากบริเวณรอยร้าว ปูพลาสติกหรือผ้าใบกันฝุ่นบริเวณพื้น ทำความสะอาดผนังด้วยแปรงแข็งหรือผ้าแห้งเพื่อขจัดฝุ่นและเศษปูน หากรอยร้าวมีฝุ่นหรือราขึ้น ให้ใช้น้ำยาเช็ดหรือสารฆ่าเชื้อก่อนปล่อยให้แห้ง
เลือกวัสดุให้เหมาะกับรอยร้าว : เช่น รอยร้าวผิวปูน ให้โป๊วด้วยยาแนวอะคริลิก, ซีเมนต์สำเร็จรูป ถ้ารอยร้าวลึกใช้ PU Foam / PU Sealant สำหรับรอยร้าวเคลื่อนตัวได้, รอยร้าวจากความชื้น เลือกวัสดุกันซึม เช่น Waterproof Mortar หรือ รอยร้าวที่พื้น ใช้ ซีเมนต์ซ่อมแซมเฉพาะจุด หรือ Epoxy Mortar
วิธีซ่อมพื้นฐานที่เจ้าของบ้านสามารถทำเองได้
- สำหรับรอยร้าวเล็ก (ไม่เกิน 1-2 มม.) : ใช้ไขควงหรือเหล็กแหลมขูดเปิดร่องรอยร้าวเล็กน้อย เป่าหรือปัดฝุ่นให้สะอาด อุดด้วยอะคริลิกโป๊วหรือซีเมนต์สำเร็จรูป ใช้เกรียงปาดเรียบ ปล่อยให้แห้ง และขัดผิวก่อนทาสีทับ
- สำหรับรอยร้าวที่พื้น : ใช้สว่านหรือเครื่องมือเจาะเซาะร่อง ทำความสะอาดพื้นผิว อุดด้วยปูนซ่อมแซมพื้น หรืออีพ็อกซี่ชนิดพิเศษ ปาดเรียบและทิ้งให้แห้งตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์
หมายเหตุ : การซ่อมแซมเบื้องต้นเหมาะกับรอยร้าวที่ไม่อันตราย แต่ถ้าสังเกตแล้วพบว่ารอยร้าวมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหากับโครงสร้าง ให้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อแก้ไขปัญหา
แต่งบ้านให้สวยหลังซ่อมเสร็จ
แนะนำการตกแต่งเพื่อกลบงานซ่อมให้สวย
ขัดผิวและปรับระดับพื้นผิว : ใช้กระดาษทรายขัดบริเวณที่อุดซ่อมให้เรียบเสมอกับผนังเดิม หากผิวต่างระดับมาก อาจต้องโป๊วเพิ่มอีกรอบแล้วขัดใหม่
ทาสีทับให้กลมกลืน : ใช้สีชนิดเดียวกับผนังเดิม (หรือใกล้เคียงมากที่สุด) โดยทาอย่างน้อย 2 ชั้น เพื่อให้เฉดสีกลมกลืน ไม่เห็นรอยด่าง ก่อนจะใช้แปรงหรือลูกกลิ้งทาให้เรียบ ไม่ควรใช้พู่กันถ้าเป็นพื้นที่กว้าง
ติดวอลเปเปอร์หรือวัสดุปิดผิว : สำหรับรอยที่ยังมีลายหรือความไม่เรียบที่ปกปิดยาก ติดวอลเปเปอร์ลายเรียบ หรือลายเล็กเพื่อพรางตา หรือใช้แผ่นไม้ตกแต่ง หรือ PVC Wall Panel ติดบริเวณนั้น
ติดของตกแต่งเพื่อเบี่ยงความสนใจ : แขวนกรอบรูป, กระจก, นาฬิกา หรืองานศิลปะเหนือจุดที่ซ่อม หรือถ้าไม่อยากใช้ของตกแต่งเพิ่ม ก็ให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์หรือชั้นวางของหน้าผนังบริเวณนั้นอย่างพอดี
ไอเดียเลือกของตกแต่งให้บ้านดูใหม่ สดใสกว่าเดิม
เริ่มจากหาสไตล์แต่งบ้านที่ชอบ เช่น ชอบความมินิมอล, ชอบของวินเทจ, ชอบของที่มีดีไซน์เก๋ แปลกตา ไม่เหมือนกัน พอได้สไตล์ที่ต้องการแล้ว จะช่วยให้การเลือกของแต่งบ้านง่ายขึ้น เพราะร้านของแต่งบ้านจะเน้นของที่สไตล์เดียวกัน แต่ถ้าไม่แน่ใจ อยากลองดูหลายสไตล์ แนะนำว่าให้เลือกร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เช่น โฮมโปร หรือร้านขายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านใหญ่ ๆ เช่น อิเกีย, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เพราะจะมีของให้เลือกหลากหลายสไตล์มากกว่าร้านเล็ก ๆ
ดีลฮีลใจ ช่วยแบ่งเบาทุกเรื่องงานซ่อมและของแต่งบ้าน กับบัตรเครดิต KTC
- รับสิทธิพิเศษแบ่งจ่าย 0% กับร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ
- ร้านค้าที่ร่วมรายการ โฮมโปร, เมกาโฮม, ไทวัสดุ, บีแอนด์บีโฮม, ดูโฮม, โกลบอล เฮ้าส์, บุญถาวร, อิเกีย, อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์, เอสบี ดีไซน์ สแควร์ และ NocNoc
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ม.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68
ใครที่กำลังวางแผนซ่อมบ้านหรือแต่งคอนโด ไม่ควรพลาด ใครยังไม่มีบัตรฯ สามารถกดสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ทุกที่ทุกเวลา พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER จากทุกการใช้จ่าย สะสมได้ไม่จำกัด และไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้คะแนนแลกรับส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนได้ สมัครบัตรเครดิต KTC ไม่ยาก กดสมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC KTC