ใครกำลังตามหาเพื่อนซี้ที่ทำให้ใจฟูได้ในทุกวัน บางทีสัตว์เลี้ยงก็อาจเติมความสุขให้คุณได้แบบไม่รู้ตัว แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะ เลี้ยงอะไรดี อีกทั้งยังอยู่ห้องเล็กๆ อยู่ในคอนโดอีก บทความนี้รวบรวมมาให้แล้วกับสัตว์เลี้ยงน่ารัก ไม่ต้องดูแลมาก อยู่ในคอนโด หรือห้องเล็กๆ ก็เลี้ยงได้ อ่านบทความนี้จบแล้วนำไปประกอบการตัดสินใจได้เลย
เตรียมตัวยังไง ก่อนจะมีเลี้ยงสัตว์
การรับสัตว์อะไรก็ตามมาเลี้ยงเท่ากับว่าเราต้องรับผิดชอบและดูแลน้องไปตลอด การเตรียมตัวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็น เรื่องความเอาใจใส่ การทำความสะอาด หรือจัดเตรียมพื้นที่ก็สำคัญมากๆ พร้อมแล้วไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีข้อควรรู้อะไรบ้าง
1.ในกรณีที่อยู่คอนโด ต้องเลือกคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้
อันดับแรกควรหาคอนโดที่เป็น Pet Friendly และปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่ทางคอนโดระบุไว้ เพื่อป้องกันการรบกวนผู้อื่น และควรดูข้อมูลกฎข้อบังคับอย่างถี่ถ้วน เพราะบางทีทางคอนโดอาจมีระบุรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ไม่ให้เลี้ยงพันธุ์ที่มีพฤติกรรมดุร้าย ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลาน หรือมีการจำกัดน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
2. โครงการที่พักอาศัยควรมีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
หากเราเลี้ยงสัตว์ที่ต้องมีพื้นที่ให้วิ่งหรือออกกำลังกาย การมีโซนสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะก็สำคัญมาก เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงของเราเครียดเกินไปและเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงนั่นเอง
3. อยู่ใกล้สถานพยาบาลหรือคลินิกสำหรับสัตว์เลี้ยง
สถานพยาบาลหรือคลินิกสำหรับสัตว์เลี้ยงมีความสำคัญมาก เพราะถ้าหากสัตว์เลี้ยงของเราเกิดอุบัติเหตุหรือมีอาการป่วยฉุกเฉินจะได้รับการรักษาได้อย่างรวดเร็วทันที
1. แมว (Cat)
สัตว์เลี้ยงที่คนอยู่คอนโดนิยมมากๆ ด้วยความน่ารักขี้อ้อน และดูแลไม่ยาก ไม่ต้องพาออกไปเดินเล่นเหมือนสุนัข สามารถอยู่ตัวเดียวได้หากเจ้าของต้องไปทำงาน ฝึกใช้กระบะทรายได้ง่าย และแมวส่วนใหญ่รักความสะอาด จึงไม่แปลกใจเลยที่หลายๆ คนกลายเป็นทาสแมวไปง่ายๆ โดยไม่รู้ตัว สำหรับสายพันธุ์แมวที่นิยม คือ Persian, Scottish Fold, Siamese, American Shorthair และ Khao Manee เป็นต้น
2. กระต่าย (Rabbit)
ใครกำลังลังเลว่า เลี้ยงอะไรดี ในห้อง เล็กๆ กระต่ายก็เป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดที่มีความน่ารักปุกปุยน่ากอดมากๆ หากได้รับการดูแลที่ดี กระต่ายสามารถมีอายุยืนได้ 7-12 ปี อีกทั้งยังเลี้ยงง่ายและไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ สามารถเลี้ยงในกรงขนาดพอเหมาะ หรือมีคอกเล็ก ๆ ในบ้านได้กระต่ายไม่ส่งเสียงดังเหมือนสุนัขหรือแมว เหมาะกับคนที่ต้องการสัตว์เลี้ยงที่เงียบสงบ แต่อาจจะต้องดูแลและทำความสะอาดบ่อยๆ หน่อย สำหรับสายพันธุ์กระต่ายที่นิยม คือ Holland Lop, Mini Lop และ Netherland Dwarf เป็นต้น
3. แฮมสเตอร์ (Hamster)
สัตว์ฟันแทะตัวจิ๋ว ใครอยู่คอนโดหรือมีพื้นที่น้อยก็เลี้ยงได้สบาย รวมถึงอาหารที่กินก็หาง่าย เพราะ อาหารหลักเป็นเมล็ดพืช ผัก และผลไม้ สำหรับใครกลัวว่าน้องจะดุก็แนะนำว่าให้เลือกพันธุ์ Syrian Hamster เพราะสายพันธุ์นี้จะเชื่อง ใจดี และเป็นมิตร และอีกหนึ่งความสนุกคือการเลือกของเล่นตกแต่งกรงให้น้องๆ บอกเลยว่าช้อปไม่หยุด
4. เม่นแคระ (Hedgehog)
อยู่คอนโดจะเลี้ยงสัตว์อะไรดี ไม่ต้องดูแลมาก เม่นแคระก็น่าสนใจ ถึงจะมีขนาดตัวเล็กแต่ก็แสนรู้มากทีเดียว ปกติจะเดินช้าๆ แต่ถ้ารู้สึกถึงความอันตรายบอกเลยว่าไวเหมือนนักวิ่งสี่คูณร้อย และในบางทีก็จะนอนขดตัวกลมๆ เหมือนลูกบอล น่าเอ็นดูเป็นที่สุด และไม่มีขนฟุ้งกระจายเหมือนสุนัขหรือแมว
5. ชูการ์ไกลเดอร์ (Sugar Glider)
ชูการ์ไกลเดอร์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อจิงโจ้บินไซส์มินิ มีนิสัยนอนตอนกลางวันหากินตอนกลางคืน ชอบปีนป่ายเป็นชีวิตจิตใจ แนะนำว่าให้เลือกหากรงที่มีทรงสูงๆ หน่อย น้องจะได้รู้สึกว่าเป็นอิสระและได้กระโดดปีนป่ายอย่างสนุกสนาน หากฝึกดีๆ จะติดเจ้าของและยอมให้จับ
6. ปลาทอง (Goldfish)
เลี้ยงสัตว์อะไรดี ไม่ต้องยุ่งยากมาก ปลาทองก็ตอบโจทย์ สวยงามอีกทั้งยังมีความหมายเป็นมงคล ตามความเชื่อแล้วปลาทองจะช่วยเสริมเรื่องโชคลาภการเงิน การดูแลไม่ยาก ให้อาหารวันละ 1-2 ครั้ง และควรทำให้น้ำในตู้หมุนเวียนตลอด ควรมีน้ำตกหรือปั๊มน้ำเพื่อให้เกิดออกซิเจนตลอด การได้เห็นปลาทองว่ายน้ำก็เพลินๆ คลายเครียดไปอีกแบบ
7. เต่าบก (Tortoise)
เมื่อสัตว์เลี้ยงกลุ่ม Exotic Pet เริ่มขยายตัวมากขึ้น เต่าบกก็เป็นสัตว์เลี้ยงในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานอีกชนิดที่เป็นที่นิยมมากทีเดียว การดูแลก็เรียบง่ายกินหญ้าและพืชผักต่างๆ ควบคู่กับการให้อาหารเม็ดสำหรับเต่าบก นอกจากนี้ควรศึกษาแหล่งกำเนิดสายพันธุ์เต่าที่เราเลี้ยงด้วยว่ามาจากพื้นที่แบบไหน เพื่อจะได้จัดสภาพแวดล้อมตามแบบที่น้องคุ้นเคยนั่นเอง
8. ชินชิลล่า (Chinchilla)
ใครได้เห็นก็ต้องตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นกับชินชิลล่าสัตว์ฟันแทะขนปุยที่มีความคล้ายกระต่ายนิดๆ เหมือนหนูหน่อยๆ นิสัยน้องก็น่ารักมาก ไม่ดุ ไม่กัด และบางครั้งก็ขี้อ้อนสุดๆ แต่ก็ต้องบอกว่าน้องไม่ถูกกับอากาศร้อนและแสงแดดเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นต้องซีเรียสเรื่องอุณหภูมิมากๆ
9. กิ้งก่าคาร์เมลเลียน (Chameleon)
อีกหนึ่ง Exotic Pet ที่กำลังได้รับความสนใจ สำหรับคนอยากเลี้ยงสัตว์ไม่รู้จะเลี้ยงอะไรดี กิ้งก่าคาร์เมลเลียน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายๆ คนให้ความสนใจ เขาจะมีความแฟนซีและสีสันสวยสะดุดตามาก ปัจจุบันมีมากกว่า 150 สายพันธุ์ที่สามารถรับมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ ข้อควรระวังคือกิ้งก่าคาร์เมลเลียนแต่ละสายพันธุ์จะต้องการสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน ก่อนจะรับน้องมาเลี้ยงจึงมีข้อควรศึกษาค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าใครมีใจรักแล้วกำลังหาว่าจะ เลี้ยงอะไรดี ในห้อง เล็กๆ ก็แนะนำน้องเลย
10. กุ้งแคระ (Dwarf Shrimp)
ลักษณะของกุ้งแคระจะคล้ายกับกุ้งฝอยแต่จะมีสีสันที่สดใสและลวดลายที่สวยงาม วิธีการเลี้ยงก็ง่ายมาก เพียงปล่อยกุ้งแคระและผองเพื่อนไว้ในตู้เด็กๆ ก็จะกินพืชไม้น้ำที่เกิดตามธรรมชาติ จึงทำให้ไม่ต้องให้อาหารบ่อย แต่ก็อย่าลืมติดเครื่องทำออกซิเจนเพื่อให้น้ำหมุนเวียนด้วยนะ
โปรโมชั่นจากร้านค้าสัตว์เลี้ยง โรงพยาบาลสัตว์ Paw WOW Week -Top Spender ทุกสัปดาห์ กับบัตรเครดิต KTC
- รับสิทธิประโยชน์ส่วนลดสูงสุด 30% จากร้านค้าค้าสัตว์เลี้ยง และโรงพยาบาลสัตว์ชั้นนำที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
- Paw WOW Week: สมาชิกบัตรฯที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดประจำสัปดาห์ (Weekly Top Spender)
โดยมียอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดในหมวดสัตว์เลี้ยง (MCC 5995 และ 0742) ขั้นต่ำ 30,000 บาท ตามระยะวันที่กำหนดในแต่ละสัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนสมบูรณ์ รับของรางวัลจากพันธมิตรที่ร่วมรายการ
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 พ.ย. 67 – 28 ก.พ. 68
การเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะ สัตว์เล็กหรือใหญ่ นอกจากความใส่ใจแล้วเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ต้องเตรียมพร้อม ทั้งของใช้ อาหาร หรือแม้เกิดไม่สบายขึ้นมาต้องมีเงินฉุกเฉินไว้สำรอง การมีบัตรเครดิต KTC ไว้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่า ทั้ง ใช้จ่ายผ่านบัตรซื้อสินค้า มีส่วนลดกับพาทร์เนอร์มากมาย อีกทั้งทุกๆ การใช้จ่าย 25 บาท ได้รับคะแนน KTC FOREVER 1 คะแนน สามารถนำไปแลกส่วนลด และสิทธิพิเศษได้อีกด้วย สำหรับใครอยากได้รับสิทธิ์ดีๆ แบบนี้ สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ได้เลย สมัครได้ทุกวัน ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC