รองเท้าวิ่งยอดฮิตที่ผู้หญิงควรมี ใส่สบาย ตอบโจทย์ทุกการเคลื่อนไหว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันแบบจริงจัง ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต อาหารการกิน ตลอดจนการออกกำลังกายต่างได้รับความสนใจมากเช่นกัน และแม้การออกกำลังกายมีมากมายหลายประเภท แต่ “การวิ่ง” นับได้ว่าเป็นกิจกรรมยอดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย เพราะนอกจากช่วยให้คุณออกกำลังได้ครบทุกส่วนและเร่งการเผาผลาญได้เป็นอย่างดีแล้ว การวิ่งยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์อะไรมากมาย มีเพียงแค่ชุดวิ่งที่ช่วยให้คล่องตัวและรองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ถึงอย่างไรสิ่งสำคัญที่สุดอย่างรองเท้าวิ่งต้องมีความเหมาะสมและรองรับสรีระร่างกาย เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเคลื่อนไหว แต่หลายคนอาจเข้าใจผิดว่ารองเท้าวิ่งผู้หญิงและผู้ชายสามารถใส่เหมือนกันได้ แต่แท้จริงแล้วรูปเท้าและขนาดเท้าของชายหญิงมีความต่างกัน ดังนั้นการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับเพศตามที่ทางแบรนด์รองเท้าวิ่งแนะนำ เป็นสิ่งสำคัญที่สาว ๆ ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ วันนี้ KTC แนะนำรองเท้าวิ่งผู้หญิงยี่ห้อไหนดี กระชับ ไม่เจ็บเท้า ช่วยให้การวิ่งคล่องตัวและช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการวิ่งได้เป็นอย่างดี
รองเท้าวิ่งผู้หญิงมือใหม่ มีเคล็ดลับการเลือกซื้ออย่างไร
การเลือกซื้อรองเท้าวิ่งสักคู่ไม่เพียงแต่ดูที่รูปลักษณ์ความสวยงามเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพการรองรับน้ำหนัก และคุณภาพของวัสดุที่มีความเหมาะสมกับการวิ่งแต่ละระดับ เพื่อให้คุณมีรองเท้าวิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งความสำคัญของรองเท้าวิ่งไม่ได้ช่วยให้การออกตัวหรือการเคลื่อนไหวร่างกายราบรื่นเท่านั้น แต่ยังให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพเท้าในระยะยาว ป้องกันอาการบาดเจ็บตรงบริเวณต่าง ๆ ลดความเสี่ยงต่อแรงกระแทกบริเวณหัวเข่า ข้อเท้า และช่วยให้คุณวิ่งได้อย่างคล่องตัว สม่ำเสมอ ไร้กังวล
>>อ่านบทความวิธีเลือกรองเท้าวิ่งระดับเริ่มต้น...ที่นี่<<
รองเท้าวิ่งมีกี่ประเภท เหมาะกับใครบ้าง
รองเท้าวิ่งเป็นไอเทมสำคัญที่ได้รับการพัฒนาด้านคุณภาพและความสวยงามมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ใช่ว่ารองเท้าวิ่งแบบไหนก็ใส่ได้เหมือน ๆ กัน เพราะหากคุณเคยวิ่งมาสักระยะ บวกกับมีรองเท้าวิ่งหลายคู่ อาจพอสังเกตได้ว่ารองเท้าวิ่งบางคู่พื้นแข็งจนใส่วิ่งได้แค่ในระยะสั้น ๆ ส่วนอีกคู่พื้นนุ่มแต่ทำความเร็วได้ยาก สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะรองเท้าวิ่งมีให้เลือกมากถึง 5 ประเภท แต่ละประเภทมีวัตถุประสงค์และการใช้งานที่ต่างกัน ดังนี้
1. รองเท้าวิ่งแบบ Road/Indoor
สำหรับรองเท้าวิ่งประเภทแรกเป็นรองเท้าวิ่ง Road หรือ Indoor เหมาะสำหรับการวิ่งบนพื้นผิวเรียบ เช่น พื้นถนน พื้นสนาม พื้นยางในร่ม หรือพื้นสวนสาธารณะที่ไม่มีความขรุขระมากเกินไป เพราะพื้นรองเท้าประเภทนี้จะไม่มีปุ่มที่ช่วยยึดเกาะมากนัก เพื่อให้ผู้วิ่งรู้สึกสะดวกสบายและวิ่งได้อย่างลื่นไหล สำหรับรองเท้าวิ่ง Road หรือ Indoor มักมีพื้นรองเท้าที่หนาแต่น้ำหนักเบา สวมใส่ง่าย สบาย และรองรับแรงกระแทกได้ดี ที่สำคัญยังเหมาะสำหรับการใส่เพื่อซ้อมวิ่งในทุกวันอีกด้วย
2. รองเท้าวิ่งแบบ Trail
รองเท้าวิ่ง Trail เป็นรองเท้าวิ่งที่ถูกออกแบบมาสำหรับวิ่งบนพื้นที่มีความขรุขระ อาทิ เส้นทางที่มีหิน ดิน โคลน หรือพื้นถนนที่พื้นผิวไม่เรียบ ซึ่งรองเท้า Trail จะมีปุ่มอยู่ที่พื้นรองเท้าเพื่อป้องกันการลื่น เกาะพื้นถนนที่ขรุขระ ซึ่งวัสดุทั้งภายนอกและภายในจะช่วยป้องกันเท้าจากเศษหิน ของมีคม รากไม้ และอื่น ๆ โดยตัวเลือกของรองเท้าประเภทนี้มีหลากหลาย เช่น รองเท้าเทรลน้ำหนักเบาและพื้นบาง เหมาะสำหรับการวิ่งทำความเร็วในเส้นทางทุรกันดาร (Off-Rode) ไปจนถึงรองเท้าเทรลที่มีลักษณะคล้ายรองเท้าบูทเดินป่าที่พื้นรองเท้ามีความหนาพิเศษ วัสดุมีความเหนียวทนทานกว่ารองเท้าวิ่งบนทางเรียบทั่วไป เพื่อลดการฉีกขาดและรอยขูดจากการวิ่งชนสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ระหว่างทาง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้วิ่งมากขนาดไหนและถนนหรือภูมิประเทศสำหรับการวิ่งเป็นอย่างไร
3. รองเท้าวิ่งแบบ Lightweight Trainers
เป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบาและมีความนุ่มไม่มากนัก จึงเหมาะสำหรับการใส่ซ้อมทำความเร็ว ดูดซับแรงกระแทกได้พอสมควร แต่หากไม่เคยวิ่งด้วยการใส่รองเท้าประเภทนี้มาก่อน หรือใส่แค่รองเท้าที่มีพื้นรองเท้าหนานุ่ม แนะนำว่าให้เริ่มจากการเดินหรือจ็อกกิงเบา ๆ เพื่อให้เท้ารู้สึกชินและมีความแข็งแรงระดับหนึ่ง จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มระยะและความเร็วในการวิ่งแต่ละอาทิตย์ จะช่วยให้คุณรู้สึกชินเท้าและวิ่งสบายมากขึ้น
4. รองเท้าวิ่งแบบ Competition Shoes
Competition shoes หรือ Race day shoes เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับการแข่งขัน มีลักษณะพื้นรองเท้าสูงเพื่อรองรับแรงกระแทก ถึงอย่างไรรองเท้าประเภทนี้อาจมีความต่างกันในด้านของพื้นรับแรงกระแทก โดยมีตั้งแต่รองเท้าพื้นบางที่เหมาะสำหรับการวิ่งระยะสั้น (Racing flats) ไปจนถึงรองเท้าพื้นหนาและนุ่มที่เหมาะสำหรับการวิ่งระยะไกล
5. รองเท้าวิ่งแบบ Spikes
รองเท้า Spikes หรือรองเท้าตะปู เป็นรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบา โดยความโดดเด่นอยู่ตรงพื้นรองเท้าดีไซน์เหล็กแหลมเล็ก ๆ ติดตั้งอยู่บนพื้นรองเท้าที่เป็นแผ่นพลาสติกแข็ง ที่นอกจากช่วยเกาะพื้นได้ดีขึ้นแล้ว ยังเหมาะสำหรับการทำความเร็วระยะสั้นอีกด้วย
รองเท้าวิ่งยี่ห้อไหนดีสำหรับผู้หญิง นุ่ม กระชับ
รองเท้าวิ่ง Adidas RUN FALCON 2.0
รองเท้า Adidas RUN FALCON 2.0 ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา / ภาพจาก : www.adidas.co.th
รองเท้าวิ่ง Adidas ผู้หญิง รุ่น RUNFALCON มีจุดเด่นอยู่ตรงอัปเปอร์ผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี และส้นรองเท้าไร้ตะเข็บช่วยรองรับแรงกระแทก มาพร้อมพื้นชั้นล่างที่ทำจากยาง มีความทนทานช่วยให้การทรงตัวดีกว่าเดิม ทั้งยังมีเกราะช่วงกลางเท้า แผ่นหุ้มส้นรองเท้าที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ มั่นใจได้ว่ารองรับแรงกระแทกทุกก้าวในการวิ่งได้แน่นอน ที่สำคัญน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เหมาะทั้งสำหรับวิ่งบนถนนและลู่วิ่งไฟฟ้า ดีไซน์สวย มีหลายสีสันให้เลือกเป็นเจ้าของ
ราคา : 2,200 บาท
รองเท้าวิ่ง Nike Pegasus 40
Nike Pegasus 40 น้ำหนักเบา ตอบสนองนุ่มนวล / ภาพจาก : www.snkrtoday.com
รองเท้าวิ่ง Nike Pegasus 40 เป็นการออกแบบที่เน้นความสบายในการใช้งาน ถูกออกแบบมาสำหรับใส่ซ้อมวิ่งในทุก ๆ วัน พร้อมปรับอัปเปอร์ใหม่เป็นตาข่าย Engineered Mesh ชั้นเดียว เพื่อการระบายอากาศที่ดีและลดกลิ่นอับได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับบริเวณรอบ ๆ ข้อเท้าให้มีความยืดหยุ่น และมีการนำเทคโนโลยี Flywire ออก แทนที่ด้วยแถบรัดตรงกลางเท้า ที่มีลักษณะเหมือนกับ Zoom Fly 5 ช่วยโอบกระชับเท้าให้เข้าที่มากกว่าเดิม มาพร้อม Nike React เทคโนโลยีโฟมที่ทนทาน น้ำหนักเบา ตอบสนองนุ่มนวล ช่วยให้ผู้วิ่งสปริงตัวได้ทุกย่างก้าวและให้สปีดที่สม่ำเสมอจนถึงจุดหมาย เป็นรองเท้าที่เหมาะทั้งสำหรับการวิ่งระยะสั้นและระยะไกล
ราคา : 4,700 บาท
รองเท้าวิ่ง ASICS Novablast 3 Platinum
ASICS Novablast 3 Platinum นุ่มเด้ง ช่วยซับแรงกระแทก / ภาพจาก : www.supersports.co.th
รองเท้าวิ่ง ASICS Novablast 3 Platinum ดีไซน์สวยงามโฉบเฉี่ยว มีจุดเด่นตรงพื้นรองเท้าที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชอบความนุ่มเด้งด้วยเทคโนโลยี FF Blast+ ช่วยซับแรงกระแทกและตอบสนองการเด้งกลับขณะวิ่งได้ดี พร้อมเพิ่มพื้นรองเท้าชั้นนอกด้วย AHAR ที่มีความทนทานสูง เสริมด้วยอัปเปอร์ผ้าตาข่ายระบายอากาศ และลิ้นรองเท้าที่ผ่านการเย็บมาเป็นอย่างดี ช่วยกระชับเท้าส่วนกลางและลดการลื่นไหลของลิ้นรองเท้า เป็นรองเท้าที่เหมาะทั้งสำหรับลักษณะเท้าปกติและผู้ที่มีอุ้งเท้าสูง
ราคา : 4,900 บาท
รองเท้าวิ่ง NEW BALANCE Fuelcell Rebel V3
NEW BALANCE Fuelcell Rebel V3 สีสันสวยสะดุดตา ตอบโจทย์ทุกการวิ่ง / ภาพจาก : www.supersports.co.th
NEW BALANCE Fuelcell Rebel V3 เป็นรองเท้าวิ่งผู้หญิง ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มพลังในการวิ่งประจำวัน การวิ่งฝึกซ้อม ตลอดจนการวิ่งระยะไกล โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีพื้นโฟม FuelCell ที่น้ำหนักเบา ตอบสนองพื้นได้ดี ช่วยรองรับแรงกระแทกและส่งแรงคืนอย่างมีประสิทธิภาพ อัปเปอร์ถักน้ำหนักเบาเป็นโครงสร้างที่เหมาะสม กระชับ เข้ากับรูปเท้า และช่วยระบายความร้อนขณะวิ่ง ทั้งยังมีพื้นยางชั้นด้านนอกสีสันสนใส ผิวแบบ Blown Rubber Outsole ยึดเกาะได้ดีทุกสภาพพื้นผิว ช่วยให้คุณเคลื่อนไหวด้วยความเร็วตามต้องการ
ราคา : 4,990 บาท
รองเท้าวิ่ง SKECHERS GO RUN Ride 10™
SKECHERS GO RUN Ride 10™ รองรับแรงกระแทก เหมาะวิ่งทุกโอกาส / ภาพจาก : www.supersports.co.th
รองเท้าวิ่ง SKECHERS GO RUN Ride 10™ สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา มีระบบพื้นรองเท้าชั้นใน Skechers Arch Fit® พร้อมแผ่นรองรับส่วนโค้งตามรูปเท้า พื้นรองเท้าชั้นกลางกันกระแทก HYPER BURST® ที่ให้การตอบสนองได้ดี น้ำหนักเบา และพื้นรองเท้าชั้นนอก Goodyear® Performance ที่ทนทาน ยึดเกาะได้ดี มีความยืดหยุ่น ช่วยให้คุณมีความมั่นคงทุกก้าววิ่ง มาพร้อมอัปเปอร์ทำจากผ้าตาข่ายระบายอากาศ ดีไซน์สวย สีสันโดดเด่น
ราคา : 3,690 บาท
รองเท้าวิ่งซักได้ไหม? ดูแลอย่างไรให้รองเท้าคู่โปรดอยู่ได้นาน
หลังจากที่คุณเลือกซื้อรองเท้าวิ่งมาใช้งานแล้ว การดูแลรักษารองเท้าวิ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าดูแลรักษาไม่ดีหรือทำความสะอาดผิดวิธี อาจทำให้รองเท้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการทำความสะอาดรองเท้า คือห้ามนำเข้าเครื่องซักผ้าเด็ดขาด เนื่องจากแรงหมุนของถังปั่นเป็นแบบอัตโนมัติ อาจทำให้หน้าผ้าและตัวรองเท้าได้รับความเสียหายได้ ทางที่ดีใช้วิธีซักรองเท้าด้วยมือดีกว่า แม้จะเสียเวลาสักหน่อยแต่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและยืดอายุการใช้งานรองเท้าได้ดีกว่าแน่นอน สำหรับขั้นตอนการทำความสะอาดรองเท้าอย่างถูกวิธี มีดังนี้
- ใช้แปรงขนนุ่มปัดเศษฝุ่น ดิน หรือทรายออกจากรองเท้า ทำอย่างเบามือเพื่อไม่ให้รองเท้าเป็นรอยขีดข่วน
- หากสามารถถอดแผ่นรองฝ่าเท้าด้านในได้ แนะนำให้ถอดออกมาผึ่งลมขณะที่เช็ดรองเท้าส่วนอื่น เพื่อเป็นการลดกลิ่นอับและความชื้น แต่หากมีกลิ่นอับมากเกินไป แนะนำใช้ผงเบกกิ้งโซดาโรยให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 วัน แล้วเคาะแผ่นรองเท้าเพื่อให้ผงเบกกิ้งโซดาที่เหลือหลุดออก เป็นวิธีที่ช่วยลดกลิ่นอับได้ดี
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผ้าแบบไม่มีสารเคมีผสมกับน้ำอุ่น แล้วจุ่มผ้าลงในน้ำเล็กน้อย จากนั้นนำมาเช็ดทำความสะอาดคราบที่เกาะอยู่บนรองเท้าและปล่อยทิ้งไว้สักพัก ทั้งนี้ไม่ควรทิ้งไว้นานเพราะอาจทำให้รองเท้าเปลี่ยนสี
- ใช้ผ้าผืนใหม่ชุบน้ำสะอาด จากนั้นนำมาเช็ดคราบผลิตภัณฑ์ซักผ้าออกจากรองเท้าจนหมด
- ตากรองเท้าให้แห้งในห้องอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบแห้ง เครื่องทำความร้อน หรือแสงแดดที่แรงเกินไป เพราะอาจทำให้รองเท้าเสียทรงและสีซีดได้
- หากรองเท้าด้านในเปียกให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์อัดเข้าไปในรองเท้า เพื่อให้กระดาษช่วยซับน้ำที่เหลือออก และเชือกรองเท้าที่เปรอะเปื้อน สามารถถอดเชือกรองเท้าออกมาซักได้ตามปกติ
นอกจากขั้นตอนการทำความสะอาดรองเท้าวิ่งแล้ว การใช้งานอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน เพราะหากใช้งานแบบผิด ๆ มักส่งผลให้อายุการใช้งานของรองเท้าวิ่งสั้นลง โดยข้อห้ามในการใช้งานที่สำคัญคือ ห้ามถอดหรือใส่รองเท้าโดยการเหยียบส้นเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ส้นรองเท้าเสียหายและผิดรูปทรง ควรใส่รองเท้าวิ่งเพื่อวิ่งเท่านั้น ไม่ใส่ขณะเล่นกีฬาอื่น ๆ และหากที่บ้านมีรองเท้าวิ่งมากกว่า 1 คู่ แนะนำให้สลับใช้งาน เพื่อให้รองเท้าวิ่งได้พักและฟื้นฟูตัวเองให้อยู่ในสภาพเดิม หากทำตามเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ รับรองว่าช่วยให้รองเท้าคู่ใจอยู่กับคุณได้นานขึ้นและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งได้ดีกว่าแน่นอน
ทั้งหมดนี้เป็นรองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง พร้อมเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับประเภทรองเท้าและวิธีการดูแลรองเท้าที่ KTC นำมาบอกต่อ หากใครกำลังมองหารองเท้าวิ่งคู่ใจไว้ออกกำลังกายสักคู่ ในตอนนี้มีแบรนด์รองเท้าที่น่าสนใจหลายแบรนด์ แต่หากต้องการเพิ่มความคุ้มค่าให้เงินในกระเป๋า อย่าลืมเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ที่ร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาที่ร่วมรายการ เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ ส่วนลด แลกรับเครดิตเงินคืน โปรโมชั่นผ่อน 0% และอื่น ๆ อีกมากมาย คุ้มค่า สบายกระเป๋า สิทธิพิเศษดี ๆ เฉพาะสมาชิกบัตรเครดิต KTC เท่านั้น
คลิกดูโปรโมชั่นเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาสุดคุ้ม ผ่านบัตรเครดิต KTC…ที่นี่