เที่ยวญี่ปุ่น เมืองเกียวโต ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติอยู่แล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกซากุระบาน ประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งดอกซากุระ เกียวโต จะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งเมืองช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายน สร้างความประทับใจให้ทั้งชาวญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ดังนั้น เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 15 จุดชมซากุระเกียวโต 2025 ว่ามีที่ไหนที่ห้ามพลาดกันบ้าง เผื่อใครมีแพลนไปเที่ยวเกียวโต เพื่อชมดอกซากุระจะได้แวะไปเช็กอินกัน
1. ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine)
ศาลเจ้าฮิราโนะ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 794 ศาลเจ้าแห่งนี้มีต้นซากุระกว่า 500 ต้น ประมาณ 60 สายพันธุ์ กระจายอยู่ทั่วบริเวณศาลเจ้า ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระจะบานสะพรั่งสวยงาม ตัดกับอาคารศาลเจ้าโบราณได้อย่างลงตัว โดยในช่วงกลางคืนจะมีการประดับประดาโคมไฟด้วย และในวันที่ 10 เมษายน ของทุกปี ทางวัดจะมีการจัดเทศกาลโอกะไซ (Okasai Festival) ซึ่งจะมีขบวนแห่ย้อนยุค การแต่งกายเป็นเจ้าหญิงโอริฮิเมะ การแสดงดนตรี การแสดงพื้นบ้าน และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
- ช่วงเวลาที่ควรไป : กลางเดือนมีนาคม - ปลายเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน 06.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : 1, Hirano-Miyamotocho, Kita-ku, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/gdHJ7s4CgnBhMfFY9
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- การเดินทาง : จากสถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station) ให้นั่งรถบัสเบอร์ 205 หรือ 50
2. ถนนสายนักปราชญ์ (Tetsugaku No Michi)
ถนนสายนักปราชญ์เป็นทางเดินเท้าเล็กๆ เลียบคลองทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa Canal) โดยถนนสายนักปราชญ์นี้ ได้รับชื่อมาจากนักปราชญ์ชาวญี่ปุ่นชื่อ นิชิดะ คิทาโร่ (Nishida Kitaro) ที่เคยใช้เส้นทางนี้เดินเล่นเพื่อสงบจิตใจ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระกว่า 500 ต้นที่ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทางจะบานสะพรั่งสวยงาม ตัดรับกับผืนน้ำใสสะอาดของคลองบิวาโกะได้อย่างลงตัว โดยเส้นทางชมซากุระจะเริ่มต้นจากบริเวณหน้าวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) ไปจนถึงสุดทางที่วัดนันเซ็นจิ (Nanzenji Temple) เป็นระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร
- ช่วงเวลาที่ควรไป : กลางเดือนมีนาคม - ปลายเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
- ที่อยู่ : Sakyo Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/bTXhVHDfDd7JTxec9
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- การเดินทาง : จากหน้าสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ขึ้นรถบัสสาย 100 ลงที่ป้าย Ginkakuji-mae แล้วเดินต่อประมาณ 2 นาที
3. เคอาเกะ อินไคลน์ (Keage Incline)
จากถนนสายนักปราชญ์ สามารถเดินต่อมายังที่นี่ได้เลย โดยเคอาเกะ อินไคลน์ เป็นเส้นทางรถไฟสายเก่าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1895 ปัจจุบันไม่มีรถไฟวิ่งแล้ว จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่ไม่ควรพลาด โดยทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งสามารถเดินชมซากุระได้ตลอดเส้นทาง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ตลอดเส้นทางจะมีจุดชมวิวให้แวะถ่ายรูปอยู่หลายจุด นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับความสวยงามของดอกซากุระ และบรรยากาศที่แสนโรแมนติกจากที่นี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชม.
- ที่อยู่ : 339 Higashikomonoza-cho, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/SgkUCTJLurfmV5d58
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Tozai Line ลงสถานี Keage (T09) แล้วข้ามถนนมาก็จะเจอ Keage Incline
4. คลองโอคาซากิ (Okazaki Canal)
เปิดประสบการณ์การล่องเรือชมซากุระที่คลองโอคาซากิ ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเกียวโต ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบบิวะกับแม่น้ำคาโมะ (Kamo River) สองข้างทางเรียงรายไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น โดยคุณจะได้ชมความงามของดอกซากุระที่สะท้อนลงบนผิวน้ำ บนระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร นับว่าเป็นภาพที่งดงามไปอีกแบบ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ล่องเรือได้ทุกวัน 09.30-16.30 น.
- ที่อยู่ : Niomon-dori, Nanzenji Kusakawacho, Sakyo-ku, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/eRewqYBa5PF6qNNC7
- ค่าเข้าสถานที่ : ค่าล่องเรือ 1,000 เยน/คน เรือออกทุก 15-30 นาที
- การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tozai Line ลงที่สถานี Higashiyama Station แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
5. แม่น้ำคาโมะ (Kamo River)
หากอยากชมซากุระ เกียวโตแบบชิลๆ แนะนำให้มาที่แม่น้ำคาโมะได้เลย เพราะที่นี่สามารถมานั่งชมซากุระ ปิกนิก เดินเล่น ปั่นจักรยานชมวิวได้ บริเวณสองฝากแม่น้ำที่มีต้นซากุระเรียงรายอยู่ยาวกว่า 1 กิโลเมตร และยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เราได้ซื้อมานั่งกินชมวิวสวยๆ กันด้วย
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชม.
- ที่อยู่ : Wakamatsucho, Nak, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/ZrPoL9GsDDVqvK589
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan Line มาลงที่ Demachiyanagi Station แล้วเดินต่อประมาณ 1 นาที
6. แม่น้ำทาคาเสะ (Takase River)
แม่น้ำทาคาเสะเป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่ใช้ในการขนส่งสินค้าทางเรือเข้าสู่ใจกลางเมืองเกียวโต คลองนี้ตั้งอยู่ในย่านกิออน (Gion) ใจกลางเมืองเกียวโต มีต้นซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะ (Someiyoshino) ปลูกเรียงรายตลอดสองฝั่ง ในช่วงที่ดอกซากุระบาน แม่น้ำทาคาเสะจะกลายเป็นอุโมงค์ดอกซากุระสีชมพูอ่อน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมซากุระริมคลองได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะนั่งร้านอาหาร คาเฟ่ที่อยู่รอบๆ แล้วชมความงดงามของดอกซากุระก็ได้
- ช่วงเวลาที่ควรไป : กลางเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชม.
- ที่อยู่ : Takase River, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/GPg977Lq5N71vmXC7
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- การเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสาย Hankyu ลงที่สถานี Kawaramachi ทางออก 1A แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
7. วัดโทจิ (Toji Temple)
วัดโทจิ หรือวัดเคียวโอโกะโคคุจิ เป็นวัดทางพุทธศาสนานิกายชินงอน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2537 นอกจากจะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเกียวโตแล้ว ยังเป็นจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน โดยต้นซากุระที่นี่มีหลากหลายสายพันธุ์ ออกดอกบานตัดรับกับวิวเจดีย์ 5 ชั้นภายในวัด ซึ่งเป็นเจดีย์ไม้สูงที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงกลางคืนมีการเปิดไฟประดับรอบต้นซากุระ ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกยิ่งขึ้น
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เดือนเมษายน
- เวลาทำการ : วิหารคนโด (Kondo Hall) และวิหารโคโด (Kodo Hall) 08.00-17.00 น. ไฟกลางคืนเปิดประมาณ 16 มีนาคม - 14 เมษายน เวลา 18.30-21.30 น.
- ที่อยู่ : 1 Kujocho, Minami Ward, Kyoto,
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/WuBpGaAoqy5DjCtH6
- ค่าเข้าสถานที่ : วิหารคนโด-วิหารโคโด ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียน ม.ปลาย 400 เยน, นักเรียนประถม - มัธยมต้น 300 เยน ช่วงเวลาเปิดไฟกลางคืน ตั้งแต่นักเรียน ม.ปลายขึ้นไป 500 เยน, นักเรียนไม่เกิน ม.ต้น 300 เยน
- การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR เกียวโต (Kyoto Station) ให้ใช้ทางออกฮาจิโจกุจิ (Hachijoguchi) แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
8. วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizudera)
วัดคิโยะมิซุ หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดพุทธเก่าแก่ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตฮิงะชิยามะ (Higashiyama) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกด้วย วัดคิโยะมิซุเป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น โดยอาคารหลักของวัดเป็นระเบียงไม้ที่ยื่นออกมาจากหน้าผาสูง 28 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเกียวโตและแม่น้ำคิโยะมิซู (Kiyomizu River) ด้านล่าง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ บริเวณระเบียงไม้แห่งนี้จะปกคลุมไปด้วยดอกซากุระสีสันสดใส ตัดกับอาคารไม้สีน้ำตาลเข้มเป็นภาพที่สวยงามสุดๆ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน 06.00-18.00 น. และมีบางช่วงของแต่ละปีที่ปิด 21.30 น. สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่
- ที่อยู่ : 1 Chome-294 Kiyomizu, Higashiyama Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/kCgtC6cEv9qiCY5k7
- ค่าเข้าสถานที่ : ผู้ใหญ่ 400 เยน/คน นักเรียนชั้นประถมและ ม.ต้น 200 เยน/คน
- การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ให้ขึ้นรถบัสสาย 100 หรือ 206 ไปลงที่ป้าย Gojozaka แล้วเดินต่อไปประมาณ 20 นาที
9. วัดนินนาจิ (Ninnaji Temple)
วัดนินนาจิ เป็นอีกหนึ่งวัดของญี่ปุ่น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเช่นกัน ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงามมากมาย เช่น เจดีย์ 5 ชั้น ศาลาทอง วิหารโยชิโด และสวนญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ทำให้วัดนินนาจิมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ ต้นซากุระพันธุ์โอมุโระซากุระ (Omuro Sakura) ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์เตี้ย ดอกมีขนาดเล็กกว่าซากุระทั่วไป และบานช้ากว่าสายพันธุ์อื่นๆ ด้วย แต่มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นหากมีแพลนมาเที่ยวเกียวโต ซากุระ ประมาณกลางเดือนเมษายน ยังคงมีให้ชมอยู่ โดยเราแนะนำให้มาที่นี่ในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็น เพราะจะได้ชมซากุระท่ามกลางแสงแดดอ่อน ได้ภาพที่สวยมากจริงๆ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : กลางเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน 09.00-16.30 น.
- ที่อยู่ : 33 Omuroouchi, Ukyo Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/KpzcgaGrHYymkVieA
- ค่าเข้าสถานที่ : 600 เยน/คน
- การเดินทาง : นั่งรถใต้ดินสาย Keifuku Kitano Line ไปลงสถานี Omuro Ninnaji Station แล้วเดินต่อไปประมาณ 2 นาที
10. วัดไดโกจิ (Daigoji Temple)
วัดไดโกจิ เป็นวัดพุทธนิกายเซนที่ตั้งอยู่ในเขตฟุชิมิ (Fushimi) เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ของเกียวโต ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.805 ภายในบริเวณวัดไดโกจินั้นใหญ่มาก กินเนื้อที่ภูเขาไดโกะทั้งลูก แบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ โซน Sanboin, โซน Shimo-Daigo (Daigo-ล่าง) และโซน Kami-Daigo (Daigo-บน) ที่นี่มีต้นซากุระกว่า 800 สายพันธุ์ โดยจุดชมซากุระที่ดีที่สุด คือ บริเวณเจดีย์ 5 ชั้น และอาคารเบนเทนโดะ ที่มีสะพานสีแดงทอดข้ามสระน้ำขนาดใหญ่
- ช่วงเวลาที่ควรไป : กลางเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : 09.00-17.00 น. (เมษายน - ตุลาคม) 09.00-16.00 น. (พฤศจิกายน – ต้นธันวาคม)
- ที่อยู่ : 22 Daigohigashiojicho, Fushimi Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/SuqLvn9E7emNRkxq7
- ค่าเข้าสถานที่ : ฤดูใบไม้ผลิ ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 1,000 เยน ระดับประถมศึกษาหรือเด็กกว่า เข้าฟรี
- การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line มาลงที่ สถานี Daigo Station แล้วเดินต่อไปประมาณ 15 นาที
11. สวนมารุยามะ (Maruyama Park)
สวนมารุยามะ ตั้งอยู่ในเขตฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ใจกลางเมืองเกียวโต สวนแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกซากุระกว่า 600 ต้น หลากหลายสายพันธุ์ เรียงรายเป็นสีชมพูหวานแหวว จุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ สะพานมารุยามะ (Maruyama Bridge) ที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำ และซากุระพันธุ์กิ่งย้อยที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนสาธารณะ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชม.
- ที่อยู่ : 473 Maruyamacho, Higashiyama, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/pxNCiaDe3iZQknri7
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- การเดินทาง : จากสถานี JR Kyoto ให้นั่งรถบัสสาย 206 มุ่งหน้าสู่ Higashiyamadori/Kitaoji Bus Terminal แล้วลงที่ป้าย Gion
12. สวนฮาราดานิเอน (Haradani-en Garden)
สวนฮาราดานิเอน (Haradani-en Garden) ตั้งอยู่ใกล้กับวัดทอง หรือวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) สวนแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ในช่วงฤดูชมซากุระเท่านั้น ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของดอกซากุระพันธุ์ย้อย ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่งในเกียวโต มีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น เรียงรายอยู่ตามทางเดินและริมทะเลสาบ
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ประมาณเดือนเมษายน สามารถติดตามรายละเอียดการเปิดสวนประจำปีได้ที่นี่
- เวลาทำการ : 09.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : 36 Okitayamaharadaniinuicho, Kita Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/cPo1kECKht972vm3A
- ค่าเข้าสถานที่ : จันทร์-ศุกร์ 1,200 เยน / เสาร์-อาทิตย์ 1,500 เยน
- การเดินทาง : นั่งรถบัสของเกียวโต M1 แล้วลงที่ป้าย Haradani
13. สวนพฤกษศาสตร์เกียวโต (Kyoto Botanical Garden)
สวนพฤกษศาสตร์เกียวโต มีพื้นที่ครอบคลุม 240,000 ตารางเมตร เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินสามารถมาชมซากุระ เกียวโตบานได้ ภายในสวนพฤกษศาสตร์เกียวโตมีต้นซากุระหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ (Someiyoshino) ซากุระพันธุ์ฮามานาชิ (Hamanachi) และซากุระพันธุ์ย้อย (Shidare) ในช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของดอกซากุระที่เรียงรายอยู่ทั่วสวน ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นและสดชื่น ซึ่งข้อดีของการมาชมซากุระที่นี่ คือนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกไม้สวยๆ พันธุ์อื่นๆ ด้วย เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักดอกไม้และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ปลายเดือนมีนาคม
- เวลาทำการ : ทุกวัน 09.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : Shimogamo Hangicho, Sakyo Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/r7BWz8ig7ZMZ7bty8
- ค่าเข้าสถานที่ : 200 เยน/คน
- การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line ไปลงที่สถานี Kitayama Station
14. ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine)
ศาลเจ้าเฮอัน สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ฉลองอำนาจปกครองของเมืองเกียวโตที่ครบรอบ 1,100 ปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่ง ตัดกับสีแดงของศาลเจ้าได้อย่างงดงาม โดยจุดชมซากุระที่สวยที่สุดของศาลเจ้าเฮอันจิงกู คือ บริเวณสวนด้านหลังศาลเจ้า ที่เต็มไปด้วยต้นซากุระพันธุ์ยาเอเบนิชิดาเระ (Yaebenishidare) ซึ่งเป็นสายพันธุ์สีชมพูเข้ม ห้อยระย้าเป็นพุ่มขนาดใหญ่ บานสะพรั่งเป็นทุ่งกว้าง ทอดยาวไปตามริมสระน้ำ กลายเป็นภาพที่สวยงามราวกับเทพนิยายเลยทีเดียว
- ช่วงเวลาที่ควรไป : ต้นเดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน 06.00-17.00 น.
- ที่อยู่ : 97 Okazaki Nishitennocho, Sakyo Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/eykF3EpHGRKBHww96
- ค่าเข้าสถานที่ : เข้าชมศาลเจ้าพ่อ ฟรี เข้าชมสวน ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 300 เยน
- การเดินทาง : จากหน้าสถานีเกียวโต ให้ขึ้นรถบัสสาย 5, 100 หรือ 110 แล้วลงที่ป้าย Okazaki Koen (Bijutsukan, Heian Jingu-mae) เดินต่อประมาณ 5 นาที
15. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)
ปราสาทนิโจเป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกียวโต หากใครอยากมาซมกากุระเกียวโต 2025 นี้ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เดินทางง่าย โดยปราสาทแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม องค์การยูเนสโก ภายในปราสาทมีสวนขนาดใหญ่ที่ปลูกต้นซากุระกว่า 400 ต้น หลากหลายสายพันธุ์ และช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟด้วย
- ช่วงเวลาที่ควรไป : เดือนมีนาคม-เดือนเมษายน
- เวลาทำการ : ทุกวัน 08.45-17.00 น. ช่วงดอกซากุระบานและมีการเปิดไฟจะปิด 21.00 น.
- ที่อยู่ : 541 Nijojocho, Nakagyo Ward, Kyoto
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/Y1ZaZFgt9P1a8x3Q6
- ค่าเข้าสถานที่ : 600 เยน/คน หากชมไฟตอนกลางคืนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 400 เยน/คน
- การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ไปลงที่สถานี Nijojo-mae Station
สำหรับใครที่มีแพลนจะไปชมซากุระ เกียวโต เราขอแนะนำบริการ KTC World Travel Service จองที่เที่ยวครบจบในที่เดียว ทั้งจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก รถเช่า หรือแม้แต่ซื้อประกันการเดินทางต่างประเทศก็มีให้บริการ และคุ้มสุดเมื่อใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC สามารถเลือกผ่อนได้ 0% นาน 6 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่าย 3,000 บาท/เซลส์สลิป และทุก 1,000 คะแนน KTC FOREVER สามารถแลกรับส่วนลด 130 บาทได้ ไปเที่ยวญี่ปุ่นใช้บัตรเครดิต KTC JCB PLATINUM ทุกการใช้จ่ายที่ญี่ปุ่นได้รับคะแนน X2 อีกทั้งยังมี Airport Lounge ให้บริการ ใครยังมีมีบัตรนี้ สมัครออนไลน์ได้เลย สอบถามรายละเอียดทุกทริปเที่ยวได้ทุกวัน เวลา 08.00-22.00 น. โทร. 02 123 5050
บิน เที่ยว ครบ จบที่ KTC WORLD
.