เวลานึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลวงของฮอกไกโด (Hokkaido) ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงหิมะและความหนาวเย็น เพราะซัปโปโรโด่งดังเรื่องสกีรีสอร์ทเป็นอย่างมาก แต่ความจริงแล้ว ซัปโปโรสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ดังนั้นวันนี้เราขอแนะนำ 20 ที่เที่ยวซัปโปโรด้วยตัวเอง ที่คุณสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดู
1. โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ (SHIROI KOIBITO PARK)
โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ (SHIROI KOIBITO PARK)
Almond crackers โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ
หากคุณเป็นช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ เมื่อมาเที่ยวซัปโปโร ที่เที่ยวที่ต้องห้ามพลาดเลยก็คือ โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิ โคอิบิโตะ เพราะโรงงานแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตคุกกี้ Shiroi Koibio ซึ่งเป็นคุกกี้เนยสอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตและไส้ช็อกโกแลต ของฝากชื่อดังแห่งเมืองซัปโปโรนั่นเอง เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว คุณจะได้ชมขั้นตอนการผลิตแบบใกล้ชิด พร้อมได้ลองทำคุกกี้ ปั้นช็อกโกแลต ทำพวงกุญแจรูปคุกกี้ ฯลฯ ยิ่งในช่วงฤดูหนาวจะมีการประดับไฟสวยงามทั้งภายในและภายนอก บอกเลยว่าโรแมนติกสุด ๆ
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. / ทัวร์โรงงาน ทุกวัน เวลา 10.00-17.00 น. (รอบสุดท้าย 16.00 น)
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) 800 เยน, เด็ก (อายุ 4-15 ปี) 400 เยน, เด็ก (อายุ 0-3 ปี) ไม่มีค่าใช้จ่าย
- ที่อยู่: 2 Chome-11-36 Miyanosawa 2 Jo, Nishi Ward, Sapporo, Hokkaido 063-0052
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/D3MqhZVyUJan9pnQ8
- วิธีเดินทาง : จากสนามบิน New Chitose Airport Station ให้ขึ้นรถไฟ JR Rapid มาลง Shin Sapporo Station (สามารถนั่งได้ทั้ง JR และ Subway) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Tozai Line แล้วลง Miyanosawa Station จากนั้นเดินต่อมาประมาณ 7 นาที
2. สวนสาธารณะมะรุยามะ (Maruyama Park)
สวนสาธารณะมะรุยามะ (Maruyama Park)
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) ข้างสวน Maruyama Park
ซัปโปโรไม่ได้มีดีแค่หิมะ แต่มีดอกซากุระสวยไม่แพ้กัน โดยเฉพาะสวนสาธารณะมะรุยามะ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโร ซึ่งถูกจำลองตามสวนสาธารณะที่มีชื่อเดียวกันในเมืองเกียวโตนั่นเอง ที่นี่พร้อมให้คุณได้ชื่นชมกับธรรมชาติของต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งต้นแมกโนเลีย ต้นเมเปิ้ล ต้นโอ๊ค ต้นยูดาส แต่ไฮไลท์ของสวนแห่งนี้ที่พลาดไม่ได้ คือ การชมดอกซากุระกว่า 1,600 ต้น ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่ง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิประมาณเดือนเมษายน บอกเลยว่างดงามตระการตาสุด ๆ และนอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว ภายในสวนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าฮอกไกโด สวนสัตว์มะรุยามะ ลานเบสบอล สนามกีฬา ฯลฯ
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
- เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
- ค่าเข้า : เข้าฟรี ยกเว้นบริเวณสวนสัตว์ ราคาผู้ใหญ่ 800 เยน, มัธยมปลาย 400 เยน, มัธยมต้นหรือต่ำกว่า เข้าฟรี
- ที่อยู่ : 3 Miyagaoka, Chuo-ku, Sapporo 064-0959
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/TH5cRnZ3dhRb76Gt6
- วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Namboku จากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Odori จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย Taizo ไปลงสถานี Maruyama-Koen แล้วใช้ทางออก 3 เดินต่อประมาณ 5 นาที
3. ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)
ทางเข้าศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine)
หากมาเที่ยวสวนสาธารณะมะรุยามะแล้ว แนะนำให้เดินมาที่ศาลเจ้าฮอกไกโด ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะด้วย โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา ที่มีความสำคัญและสวยงามเป็นอย่างมาก เพราะศาลเจ้าฮอกไกโดเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปี เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าหลายองค์ สถาปัตยกรรมภายในศาลเจ้าตกแต่งด้วยไม้สไตล์ยุคเมจิ บริเวณด้านหน้าศาลเจ้ามีประตูโทริอิอันใหญ่โตและโดดเด่น บรรยากาศภายในเงียบสงบและร่มรื่น ใครที่เป็นสายมูแนะนำให้แวะมาสักการะขอพร เชื่อกันว่าการขอพรที่ศาลเจ้าฮอกไกโดไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม ก็จะช่วยให้สมปรารถนาดังที่หวังได้ และที่ต้องห้ามพลาดเลยก็คือการเขียนคำขอพรลงบนแผ่นไม้ในศาลเจ้า ซื้อเครื่องรางนำโชคติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : ทุกวัน 07.00 - 16.00 น.
- ค่าเข้า : ฟรี
- ที่อยู่: 474 Miyagaoka, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-8505
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/RN4sf8xD474tDbnG9
- วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Namboku จากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Odori จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย Taizo ไปลงสถานี Maruyama-Koen แล้วใช้ทางออก 3 เดินเข้าสวนสาธารณะมะรุยามะได้เลย
4. สวนสัตว์มะรุยะมะ (Maruyama Zoo)
ทางเข้าสวนสัตว์มะรุยะมะ (Maruyama Zoo)
ลิง สวนสัตว์มะรุยะมะ (Maruyama Zoo)
สวนสัตว์มะรุยะมะก็เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินในสวนสาธารณะมะรุยามะที่ต้องห้ามพลาดเช่นกัน ที่นี่เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่ และเป็นสวนสัตว์แห่งแรกของฮอกไกโด ที่เปิดทำการมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1951 ภายในแบ่งออกเป็นหลายโซน มีสัตว์นานาชนิดมากกว่า 1,000 ตัว ทั้งเสือโคร่งไซบีเรีย แพนด้าแดง หมีขั้วโลก กระรอกบิน เสือ สิงโต จิงโจ้ ฯลฯ
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : มีนาคม - ตุลาคม 09.30 - 16.30 น. / พฤศจิกายน- กุมภาพันธ์ 09.30 - 16.00 น. หยุดทุกวันพุธที่ 2 และ 4 ของเดือน
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 800 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 400 เยน, ต่ำกว่านักเรียนมัธยมต้น เข้าฟรี
- ที่อยู่: 3-1 Miyagaoka, Chuo-ku, Sapporo-shi
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/YMsr7H4gEATJrTct7
- วิธีเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Namboku จากสถานี Sapporo ไปยังสถานี Odori จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย Taizo ไปลงสถานี Maruyama-Koen แล้วใช้ทางออก 3 เดินเข้าสวนสาธารณะมะรุยามะได้เลย
5. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)
เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)
เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)
หากพูดถึงที่เที่ยวซัปโปโร หน้าหนาว เราไม่อยากให้คุณพลาดเทศกาลหิมะซัปโปโร เพราะนี่คือเทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยในปี 2024 นี้ เทศกาลจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยสถานที่จัดงานจะมี 2 แห่งหลัก ๆ คือ บริเวณสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) และ ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) แต่ปี 2024 นี้พิเศษสุด ๆ เพราะจะมีการจัดงานที่ย่านซิโดเมะ (Tsu-Dome) ด้วย โดยรายละเอียดจะออกมาแจ้งอีกครั้งในช่วงเดือนธันวาคม 2566
ภายในงานคุณจะได้พบกับการจัดแสดงผลงานประติมากรรมน้ำแข็งขนาดเล็กใหญ่มากมาย ทั้งผลงานจากนักแกะสลักท้องถิ่น ศิลปินต่างประเทศ รวมถึงทีมจากนานาชาติ ที่มาเข้าร่วมแข่งขันประลองทักษะฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ในการแกะสลักน้ำแข็งและหิมะสุดอลังการ อีกทั้งในตอนกลางคืนยังมีการประดับประดาไฟให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปสวย ๆ กันด้วย
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : เดือนกุมภาพันธ์
- เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง
- ค่าเข้า : ฟรี
- ที่อยู่สถานที่จัดงานย่านสวนโอโดริ : 1-12 Chome Odorinishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 060-0042 https://maps.app.goo.gl/U46eHHurXeLqYWLb9
- วิธีเดินทางไปสวนโอโดริ : ลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Odori Station หรือ เดินจาก JR Sapporo Station มาก็ได้
- ที่อยู่สถานที่จัดงานย่านซูซูกิโนะ : Nishi 3, 4-chome Avenue between Minami 4 Jo-dori, and Minami 6 Jo-dori (Ekimae-dori) https://maps.app.goo.gl/HAMWpuWed8FmmGRg9
- วิธีเดินทางไปย่านซูซูกิโนะ : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Namboku Line มาลงสถานี Susukino Station
6. เนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha)
ภายในเนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha)
ภายนอกเนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha)
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าซัปโปโร มีที่เที่ยวสุดอัศจรรย์อย่างรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธิด้วย โดย “เนินพระพุทธเจ้า” หรือ “หุบเขาพระพุทธเจ้า” แห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น ทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) โดยรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธินี้ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่มีความสูงถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนักถึง 1,500 ตัน ท่ามกลางเนินเขาล้อมรอบรูปปั้น ช่วงฤดูร้อนก็จะรายล้อมไปด้วยทุ่งลาเวนเดอร์กว่า 150,000 ต้น ส่วนช่วงฤดูหนาวก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ซึ่งเชื่อกันว่า หากใครได้มาได้สักการะบูชาพระพุทธรูปที่นี่แล้ว ชีวิตจะมีแต่ความสุข ความเจริญ สมปรารถนาอีกด้วย
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : เมษายน - ตุลาคม 09.00 - 16.00 น. / พฤศจิกายน - มีนาคม 10.00 - 15.00 น.
- ค่าเข้า : 300 เยน และ ค่ารถบัส 380 เยน
- ที่อยู่ : 2 Takino, Minami Ward, Sapporo, Hokkaido 005-0862
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/CfuUTFGHE74C2eGU6
- วิธีเดินทาง : จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) ให้นั่งรถไฟสายนัมโบคุ (Namboku Line) มาลงสถานีมาโกะมะนาอิ (Makomanai Station) ใช้เวลา 24 นาที แล้วนั่งรถบัสที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 2 สาย Sapporo Chuo Bus 108 ต่อมาประมาณ 23 นาที
7. สวนสาธารณะฮิราโอกะ (Hiraoka Greenery Center)
สวนสาธารณะฮิราโอกะ (Hiraoka Greenery Center) ช่วงใบไม้ปลี่ยนสี
บึงสวนสาธารณะฮิราโอกะ (Hiraoka Greenery Center)
สวนสาธารณะฮิราโอกะ เป็นสวนที่มีพื้นที่กว้างกว่า 300 ไร่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนซัปโปโร โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการชมอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลหลากสีสัน หลากสายพันธุ์ พร้อมสัมผัสกับบรรยากาศอันแสนโรแมนติก ใครเป็นสายชอบถ่ายรูปกับต้นไม้ ดอกไม้ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : ปลายตุลาคม – พฤศจิกายน
- เวลาทำการ : 08.45 – 17.15 น. (หยุดวันจันทร์)
- ค่าเข้า : ฟรี
- ที่อยู่ : 3-1 Hiraoka 4 Jo, Kiyota-ku, Sapporo-shi, Hokkaido 004-0874
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/M4ctktHRP4tUNt927
- วิธีเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 69 จากสถานี Oyachi Station มาลงที่สวน (Hiraoka Station) ใช้เวลา 10 นาที แล้วเดินต่อมาที่สวนได้เลย
8. มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University)
มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University) ช่วงใบไม้ปลี่ยนสี
ถ้ามาซัปโปโร ถ้าไม่มามหาวิทยาลัยฮอกไกโดก็คงเหมือนมาไม่ถึง โดยเฉพาะบริเวณ Ginkgo Avenue หรือถนนสายต้นแปะก๊วย ที่ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คุณจะได้พบกับต้นแปะก๊วยสีเหลืองทอง ทอดยาวเป็นระยะทางกว่า 380 เมตร เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินยอดฮิตในซัปโปโรที่ต้องห้ามพลาด
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : ปลายตุลาคม – พฤศจิกายน
- เวลาทำการ : 10.00 – 21.00 น.
- ค่าเข้า : ฟรี
- ที่อยู่ : Kita 8-jo Nishi 5-chome, Kita-ku, Sapporo, Hokkaido (Kita 13-jo Gate)
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/7GXtnTUgNp8UWZUW7
- วิธีเดินทาง: เดินจากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) North Exit มาประมาณ 7 นาที
9. พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Waku Waku Skypark)
พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Waku Waku Skypark)
พิพิธภัณฑ์โดราเอมอนโซนคาเฟ่
หากใครเป็นแฟนตัวยงของโดราเอมอน ห้ามพลาดกับการไปเยือนพิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Waku Waku Skypark) ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 3 โซน Smile Road ชื่อมระหว่างอาคาร Domestic Terminal Building และ International Terminal Building ของสนามบิน New Chitose ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ จากการ์ตูนโดราเอมอน แบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โซนสนามเด็กเล่น ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถปล่อยให้เด็ก ๆ เพลิดเพลินไปกับตัวการ์ตูนจากเรื่องโดราเอมอน โซนห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนเอาไว้มากมาย นอกจากนี้ ยังมีโซนถ่ายรูปสามมิติ โซนห้องนอนโนบิตะ โซนเวิร์กชอปที่เด็ก ๆ จะได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูน โซนคาเฟ่ โซนกิฟท์ชอป ให้ได้ช้อปของที่ระลึก ฯลฯ
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : เที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00-18.00 น.
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็กมัธยม (อายุ 13-18 ปี) 500 เยน, เด็กอนุบาล-ประถม (อายุ 3-12 ปี) 400 เยน, ต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
- ที่อยู่ : New Chitose Airport 3rd Floor, Domestic terminal building
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/eb6N2EaFpt3NLG2u8
- วิธีเดินทาง : ชั้น 3 สนามบิน New Chitose
10. ตลาดปลานิโจ (Nijo Market)
ตลาดปลานิโจ หน้าหนาว
ร้านค้าตลาดปลานิโจ (Nijo Market)
ตลาดปลานิโจ เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นหนึ่งในตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 ที่นี่เป็นแหล่งรวมอาหารทะเลสด ๆ จากทั่วฮอกไกโด ใครอยากไปเที่ยวซัปโปโรแล้วอยากกินอาหารญี่ปุ่นซาซิมิ อาหารทะเลสด ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลาแซลมอน ปลาหมึก ปูฮอกไกโด หอยนางรม หอยเม่นทะเล หอยเชลล์ ปลาทูน่า ฯลฯ รวมถึงข้าวหน้าอาหารทะเลต่าง ๆ และอาหารท้องถิ่นของฮอกไกโด บอกเลยต้องมา รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับรสชาติอาหารทะเลแท้ ๆ ที่หาไม่ได้จากที่ไหนแน่นอน
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : ทุกวัน 07.00 - 17.00 น.
- ค่าเข้า : ฟรี
- ที่อยู่ : 1 Chome Minami 3 Johigashi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 060-0052
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/CrQFdVKBvYUVZvSB9
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toho หรือสาย Tozai แล้วลงสถานี Odori Station
11. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
ภายในพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
เอาใจสายดื่มกันบ้าง กับพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการผลิตเบียร์ของซัปโปโรที่โด่งดังไปทั่วโลก ไฮไลท์ของที่นี่คือการได้ชมนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเบียร์ซัปโปโร เรียนรู้วัตถุดิบต่างๆ รวมถึงกระบวนการผลิตเบียร์ ที่สำคัญมีมุมชิมเบียร์ Star Hall ที่นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มชิมรสเบียร์หลากหลายชนิดที่ส่งตรงจากโรงเบียร์ซัปโปโร โรงเบียร์ฮอกไกโด และโรงเบียร์ซัปโปโร ไคตาคุชิ รวมถึงสามารถช้อปของที่ระลึก เช่น แก้วเบียร์กลับบ้านได้ด้วย
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : อังคาร - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 18.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 17.30 น. / มุมชิมเบียร์ ปิด 16.00 น.) ส่วนร้านพิพิธภัณฑ์เปิดถึง 19.30 น.
- ค่าเข้า : เข้าฟรี ยกเว้นต้องการชิมเบียร์จะเสียค่าใช้จ่าย
- ที่อยู่ : 9 Chome-1-1 Kita 7 Johigashi, Higashi Ward, Hokkaido 065-8633
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/DwqK4xgJZVfhpmMr5
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toho Line จากสถานี Sapporo มาลงที่สถานี Higashi Kuyakusho Mae แล้วใช้ออกทางออกหมายเลข 4 จากนั้นเดินต่อมาประมาณ 10 นาที
12. หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)
หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)
ภายในหอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)
มาเที่ยวซัปโปโรทั้งทีก็ต้องเก็บแลนด์มาร์กสำคัญให้มากที่สุด หนึ่งในนั้นก็คือ หอนาฬิกาซัปโปโรที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1878 โดยหอนาฬิกาแห่งนี้ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโรและเป็นหอนาฬิกาแห่งแรกของซัปโปโรด้วย หลายคนอาจจะคิดว่าการไปเที่ยวหอนาฬิกาซัปโปโรนั้นน่าเบื่อ เพราะแค่ดูนาฬิกาแล้วเดินกลับ แต่ความจริงแล้วหอนาฬิกาแห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าที่คิด โดยตัวอาคารของที่นี่เป็นสีขาวสไตล์ตะวันตก หลังคาสีแดง ยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกยิ่งสวยเป็นพิเศษ ภายในอาคารชั้น 1 มีการจัดแสดงบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ส่วนชั้น 2 จะจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับนาฬิกา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสไปเที่ยวซัปโปโรก็อย่าลืมแวะไปชมกัน
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : 08.45-17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ที่ 4 ของเดือน เเละวันที่ 29 ธันวาคม ถึง 3 มกราคม ของทุกปี
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 200 เยน นักเรียนมัธยมต้นลงไป เข้าฟรี
- ที่อยู่ : 2 Chome Kita 1 Jonishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 060-0001
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/GVJMRfMNhEEzgchaA
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toho หรือสาย Tozai แล้วลงสถานี Odori Station แล้วเดินต่อไปประมาณ 5 นาที
13. สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park)
สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ช่วงหน้าหนาว
บรรยากาศสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
หากมีโอกาสมาเที่ยวซัปโปโรด้วยตัวเอง สวนสาธารณะโอโดริเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องเก็บ เพราะเป็นจุดที่ตั้งของ Sapporo TV Tower และอยู่ใกล้กับหอนาฬิกาซัปโปโร แบบสามารถเดินต่อถึงกันได้ และอย่างที่บอกไปว่า สวนสาธารณะโอโดริเป็นจุดสำคัญในการจัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโร แต่หากคุณมีโอกาสได้ไปเที่ยวในช่วงที่ไม่มีการจัดงานเทศกาลหิมะ บรรยากาศที่สวนแห่งนี้ก็สวยและชิลเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางสวนสาธารณะเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นหลากสีสัน ที่ต่างแย่งกันผลัดใบเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ตัดกับสีเขียวของสนามหญ้าและต้นไม้นานาชนิดเกือบหมื่นต้น สามารถปิกนิกใต้ต้นไม้ นั่งชิล ๆ สูดอากาศดี ๆ และยังเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปสวย ๆ ในซัปโปโรที่ต้องห้ามพลาด
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
- ค่าเข้า : ฟรี
- ที่อยู่ : 2 Chome Odorinishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 060-0042
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/EMSrYAuz4GKtgsNo6
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toho หรือสาย Tozai แล้วลงสถานี Odori Station ใช้ทางออกหมายเลข 27
14. สวนนากาจิมะ (Nakajima Park)
สวนนากาจิมะ (Nakajima Park) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
สวนนากาจิมะ (Nakajima Park) ช่วงซากุระ
สวนนากาจิมะ เป็นจุดชมใบไม้แดงและดอกซากุระที่สวยงามแห่งหนึ่งของซัปโปโร โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางเพื่อเพลิดเพลินไปกับวิวสวย ๆ ได้ตลอดทั้งวัน บริเวณกลางสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งคนญี่ปุ่นเองก็มักจะมาเดินเล่น นั่งปิกนิกพักผ่อนชมวิวทะเลสาบ พายเรือในทะเลสาบ วิ่งออกกำลังกาย ตีเทนนิส ปั่นจักรยานกันที่นี่
นอกจากการชื่นชมธรรมชาติแล้ว ภายในสวนนากาจิมะยังมีจุดที่น่าสนใจมากมาย ทั้ง
ฮอลล์จัดแสดงคอนเสิร์ตซัปโปโร (Sapporo Concert Hall) อาคารโฮเฮคัน (Hoheikan) หอดูดาวเมืองซัปโปโร (Sapporo Astronomical Observatory) ฯลฯ
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว: ปลายเดือนกันยายน - ต้นเดือนพฤศจิกายน
- เวลาทำการ: ทุกวัน 24 ชั่วโมง
- ค่าเข้า: ฟรี
- ที่อยู่: 1 Nakajimakoen, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0931
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/2BBsM6W2CugdWfvH6
- วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku ลงสถานี Nakajima Koen ทางออก 3 แล้วจะเจอทางเข้าด้านทิศเหนือของสวน
15. ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สวนโฮโรมิโตเกะ ตั้งอยู่บนเนินเขาโฮโรมิโตเกะ ชานเมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตารางเมตร มีทุ่งดอกไม้ทั้งหมด 7 ทุ่ง และเป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุดในซัปโปโรอีกด้วย โดยที่นี่จะปลูกต้นลาเวนเดอร์พันธุ์ French Lavender กว่า 5,000 ต้น ช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งมากที่สุด คือ ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม โดยนักท่องเที่ยวจะได้เห็นดอกลาเวนเดอร์สีม่วงตัดกับสีขอบฟ้าของเมืองซัปโปโร พร้อมสูดกลิ่นหอม ๆ ของดอกลาเวนเดอร์ แถมยังสามารถจ่ายเงินเพื่อตัดดอกลาเวนเดอร์ด้วยตัวเองกลับบ้านได้ หรือจะซื้อโปสการ์ด น้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ หรือของที่ระลึกอื่น ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วย
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : เดือนกรกฎาคม (ขึ้นอยู่กับช่วงเปิดให้ชมสวน)
- เวลาทำการ : เดือนกรกฎาคม เวลา 09.00 - 17.00 น. (ขึ้นอยู่กับช่วงเปิดให้ชมสวน)
- ค่าเข้า : เข้าฟรี แต่หากต้องการตัดดอกลาเวนเดอร์ด้วยตัวเอง จะมีค่าบริการ 500 เยน/คน และมีค่าจอดรถ 500 เยน
- ที่อยู่: 471-110 Bankei, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0945
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/bLxpL2EzrJFB6b4L7
- วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai ไปลงสถานี Maruyama Koen จากนั้นนั่งแท็กซี่หรือต่อรถบัส Bankei Bus ไปลงที่ป้าย Horomitoge-iriguchi แล้วเดินขึ้นเขาไปจะเจอป้าย Horomitoge Lavender Garden
16. ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค (Jozankei Onsen)
ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค (Jozankei Onsen) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค (Jozankei Onsen) ช่วงหน้าหนาว
ไปเที่ยวญี่ปุ่นถ้าไม่ได้แช่ออนเซ็นก็เหมือนไปไม่ถึง ดังนั้นหากมีโอกาสไปเที่ยวซัปโปโร แนะนำว่าต้องไปที่ย่านน้ำพุร้อนโจซังเค เพราะที่นี่ถือเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นที่ตั้งของเรียวกังหลายแห่งที่สามารถแช่ออนเซ็นได้
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของใบไม้หลากสีสัน ส่วนฤดูหนาวก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน นอกจากการแช่ออนเซ็นเพื่อผ่อนคลายร่างกายได้แล้ว ที่นี่ยังมีจุดเช็กอินห้ามพลาดหลายแห่ง ทั้งสะพานฟุตามิ สึริบาชิ (Futami Tsuribachi Bridge) สะพานแดงที่พาดผ่านหุบเขาและเป็นจุดชมดอกไม้เปลี่ยนสีชื่อดังในซัปโปโร สระคัปปะบุจิ (Kappabuchi Pond) สระน้ำธรรมชาติที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งอาศัยของคัปปะในตำนานญี่ปุ่น ศาลเจ้าโจซังเค (Jozankei Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี เป็นต้น
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
- ค่าเข้า : ฟรี
- ที่อยู่ : Jozankei Onsen Higashi 3-chome, Minami-ku, Sapporo
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/2uxaXECUXwo6oo56A
- วิธีเดินทาง : จากสถานีรถบัส Sapporo Station ให้นั่งรถบัส Jotetsu Bus หมายเลข 7 หรือ 8 ลงที่ Jozankei Onsen โดยรถบัสจะออกชั่วโมงละ 2-3 คัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 75 นาที
17. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Historical Village of Hokkaido) หน้าหนาว
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ชานเมืองซัปโปโร จัดแสดงสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์กว่า 60 หลัง เพื่อย้อนรอยวิวัฒนาการของฮอกไกโดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้นักท่องเที่ยวได้ชม ภายในแบ่งออกเป็นหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนหมู่บ้านชาวประมง โซนหมู่บ้านฟาร์ม โซนหมู่บ้านบนภูเขา และโซนเมือง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำอีกมากมาย เช่น นั่งรถเทียมม้าในช่วงฤดูร้อน นั่งม้าลากเลื่อนสกีในช่วงฤดูหนาว การทำอาหารญี่ปุ่นโบราณ การสาธิตการทำเครื่องปั้นดินเผา การชมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน ฯลฯ
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว : สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : พฤษภาคม - กันยายน 09.00 - 17.00 น. / ตุลาคม - เมษายน 09.00 - 16.30 น. (เข้าชมหมู่บ้านได้ถึง 30 นาทีก่อนปิด)
- ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 800 เยน / นักศึกษาและเด็กมัธยม 600 เยน / มัธยมต้นลงไปและอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้าฟรี
- ที่อยู่ : Konopporo-50-1 Atsubetsucho, Atsubetsu Ward, Sapporo, Hokkaido 004-0006
- Google Map : https://maps.app.goo.gl/W313gSBUA8pzYxTz8
- วิธีเดินทาง : นั่งรถบัส JR Hokkaido City Bus สาย 22 จากสถานี Shin-Sapporo ไปลงป้าย Kaitaku no Mura
18. ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)
ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)
วิวเมืองจากภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)
หากอยากชมวิวมุมสูงของเมืองซัปโปโรแบบ 360 องศา แนะนำให้มาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่ภูเขาโมอิวะกัน ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปในระยะทางกว่า 1,200 เมตร แล้วนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรจากมุมสูงไปตลอดทาง โดยสามารถขึ้นชมวิวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
บริเวณด้านบนภูเขาจะมีสถานีกึ่งกลางให้ได้แวะ นักท่องเที่ยวสามารถลั่นระฆังแห่งความสุข (Shiawase no kane) และคล้องกุญแจแห่งความรัก (Ai no nankinjo) คู่กันได้ด้วย หรือหากใครอยากจะดินเนอร์มองวิวมุมสูงยามค่ำคืน ด้านบนก็มีร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูให้บริการเช่นกัน
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว: สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการทั่วไป: กระเช้าลอยฟ้า ฤดูร้อนเปิด 10.30 - 22. 00 น. / ฤดูหนาวเปิด 11.00 - 22.00 น. (รอบขึ้นเที่ยวสุดท้ายเวลา 21.30 น.)
- เวลาทำการวันทำการพิเศษ: กระเช้าลอยฟ้า วันที่ 31 ธ.ค. เปิด 11.00 - 17.00 น. วันที่ 1 ม.ค. เปิด 05.00 - 17.00 น. (รอบขึ้นเที่ยวสุดท้ายเวลา 16.30 น.)
- เวลาปิดทำการ: ปิดต้นเดือนเมษายน - กลางเดือนพฤศจิกายน (ถึงสถานีกึ่งกลางภูเขา)
- ค่าเข้า: กระเช้าลอยฟ้า + รถไฟเคเบิลขนาดเล็กโมลิสคาร์ (ค่าโดยสารไปกลับถึงจุดชมวิว) ผู้ใหญ่ 2,100 เยน, เด็ก 1,050 เยน, เด็กเล็ก ไม่เกิน 2 คนต่อผู้ใหญ่ 1 คน ไม่มีค่าใช้จ่าย
- ที่อยู่: 5 Chome-3-7 Fushimi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0942, Japan
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/ZpwPSNwrGikBZYVX6
- วิธีเดินทาง: จาก Susukino สามารถนั่ง Sapporo's Only Streetcar Line มาลงที่ Ropeway Iriguchi Station (ใช้เวลา 25 นาที) จากนั้นนั่งรถบัสรับ-ส่งฟรี ไปยังสถานีกระเช้าด้านล่าง (ใช้เวลา 5 นาที)
19. จุดชมวิวเนินเขาฮิสึจิกะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill)
จุดชมวิวเนินเขาฮิสึจิกะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill)
รูปปั้น ณ จุดชมวิวเนินเขาฮิสึจิกะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill)
ซึจิกาโอกะ หรือ เนินเขาแกะ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวย ๆ ในซัปโปโรที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้สามารถมองเห็นเมืองซัปโปโรและที่ราบอิชิคาริได้ ในสมัยก่อนสงครามโลกที่นี่เป็นศูนย์วิจัยแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นศูนย์ทดลองทางเกษตรกรรมฮอกไกโด ซึ่งใช้เป็นสถานที่เลี้ยงแกะด้วย ดังนั้นนักท่องเที่ยวก็จะได้เห็นฝูงแกะที่กำลังกินหญ้าอยู่ด้วย
และที่โดดเด่นมากอีกอย่างก็คืออนุเสาวรีย์ของ ศจ.วิลเลียม เอส. คลาร์ก (Prof. William S. Clark) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา โดยท่านเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยฮอกไกโด และยังเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยพัฒนาฮอกไกโดด้วย
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว: สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ: ทุกวัน 09.00 - 17.00 น.
- ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 600 เยน, นักเรียนประถม/นักเรียนมัธยมต้น 300 เยน
- ที่อยู่: 1 Hitsujigaoka, Toyohira Ward, Sapporo, Hokkaido 062-0045
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/eEb1fNXaRrXdHDGF6
- วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toho ลงสถานี Fukuzumi แล้วนั่งรถบัส Hokkaido Chuo สาย 84 ไปลงที่ Hitsujigaoka Tenbodai
20. ย่านซูซูกิโนะ (Susukino)
ย่านซูซูกิโนะ (Susukino) หน้าหนาว
ตรอกราเมนย่านซูซูกิโนะ (Susukino)
ปิดท้ายกันด้วยความครึกครื้นที่ย่านซูซูกิโนะ ไม่เคยหลับใหล ซูซูกิโนะเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร และสถานบันเทิงมากมาย มีทุกสิ่งให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้ง กิน ดื่ม เที่ยวกลางคืน เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวก็ครบจบทุกความต้องการ
- ฤดูที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว: สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ: ทุกวัน 24 ชั่วโมง
- ค่าเข้า: ฟรี
- ที่อยู่: Minami 4 Jonishi, Chuo Ward, Sapporo, Hokkaido 064-0804
- Google Map: https://maps.app.goo.gl/S4JXZ6ThmwtzfTzR8
- วิธีเดินทาง: นั่งรถไฟฟ้าจาก Odori Station ไปลง Susukino Station (1 สถานี)
สำหรับใครแพลนจะไปเที่ยวซัปโปโร เพื่อความสะดวกประะหยัดเวลาเรื่องเที่ยว แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบิน โดยใช้บริการ KTC World Travel Service และชำระด้วยบัตรเครดิต KTC ไม่มีค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังสามารถผ่อน 0% ได้นานถึง 6 เดือนอีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อไปถึงซัปโปโร คุ้มค่ามากขึ้นหากใช้จ่ายด้วย บัตรเครดิต KTC JCB พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร เช่น รับส่วนลด 10% ที่ช็อกโกแลตเลานจ์ อ็อกซ์ฟอร์ด (Chocolate Lounge OXFORD) และร้านแกงกะหรี่แอนโทรูโป (Curry Restaurant ENTREPOT) ในชิโรอิโคอิบิโตะพาร์ค (SHIROI KOIBITO PARK), รับชุดโปสการ์ดเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่จุดชมวิวเนินเขาฮิสึจิกะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill), รับส่วนลดค่าเข้าชม 10% พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน (Doraemon Waku Waku Skypark), รับส่วนลดพิเศษ ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการในประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ สามารถดูโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่นี่
ทุกทริปเที่ยว คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC
.