เมื่อพูดถึงแฟชั่นระดับโลก ชื่อของ "มิลาน" (Milan) ประเทศอิตาลี ย่อมติดอันดับต้น ๆ ในใจของคนรักแฟชั่นทั่วโลก มิลานไม่ได้เป็นเพียงเมืองที่มีสถาปัตยกรรมงดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของงานดีไซน์และนวัตกรรมทางแฟชั่นระดับโลก โดยเฉพาะในช่วง Milan Fashion Week ที่จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ซึ่งดึงดูดดีไซเนอร์ชื่อดัง นางแบบ และนักข่าวจากทั่วโลกให้มารวมตัวกันที่นี่
ทำไมมิลานถึงเป็นศูนย์กลางของแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลก ?
อิตาลีมีประวัติศาสตร์ด้านแฟชั่นมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะมิลานซึ่งเป็นเมืองที่รวมเหล่าดีไซเนอร์ชื่อดัง โรงงานผลิตผ้า เครื่องหนัง และช่างฝีมือคุณภาพสูงไว้มากมาย แบรนด์ต่าง ๆ ในมิลานจึงสามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่การออกแบบจนถึงการผลิต ที่สำคัญ มิลานยังเป็นแหล่งรวมของนักออกแบบแฟชั่นหัวก้าวหน้าที่กล้าสร้างสรรค์ ทำให้เมืองนี้กลายเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นของโลกอย่างแท้จริง
แบรนด์แฟชั่นจากมิลานที่มีชื่อเสียงระดับโลก
1. Gucci
เมื่อพูดถึงแบรนด์แฟชั่นจากมิลานที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ชื่อของ Gucci ย่อมติดอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน ด้วยความหรูหรา ผสานกลิ่นอายความคลาสสิกแบบอิตาเลียน และนวัตกรรมทางดีไซน์ที่โดดเด่น Gucci จึงกลายเป็นแบรนด์ที่ครองใจทั้งคนดังระดับโลก แฟชั่นนิสต้า และนักสะสมแบรนด์เนมมานานหลายทศวรรษ สิ่งที่ทำให้ Gucci มีเอกลักษณ์คือการผสมผสานระหว่างความหรูหราแบบดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็น ลวดลาย GG อันโดดเด่น, ดีไซน์ที่แปลกใหม่, หรือการใช้วัสดุคุณภาพสูง ทำให้สินค้าอย่างกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า และเครื่องประดับของ Gucci เป็นที่ต้องการในระดับโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Gucci ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นภายใต้การนำของ Alessandro Michele ซึ่งเปลี่ยนโฉมแบรนด์ให้มีความสนุก สดใหม่ และโดนใจเจนเนอเรชันใหม่มากยิ่งขึ้น โดยยังคงไว้ซึ่งรากฐานของความหรูหราและความเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับอิตาเลียนแท้
2. Prada
Prada คือหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นจากมิลานที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ทันสมัย และล้ำหน้าเสมอ Prada กลายเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นแนวมินิมอลที่มีรสนิยมสูง และสะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ได้อย่างมีชั้นเชิง แบรนด์ก่อตั้งขึ้นในปี 1913 โดย Mario Prada ที่เมืองมิลาน เริ่มต้นจากการเป็นร้านเครื่องหนังสุดหรูที่ขายกระเป๋าเดินทางและเครื่องหนังชั้นดีให้แก่ราชวงศ์และผู้มีฐานะ ต่อมาในยุค 1980s ภายใต้การบริหารของ Miuccia Prada หลานสาวของผู้ก่อตั้ง Prada ได้พลิกโฉมแบรนด์ให้กลายเป็นผู้นำแฟชั่นที่เน้นความเรียบง่าย สง่างาม และสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร ความโดดเด่นของ Prada อยู่ที่ การออกแบบที่ไม่ตามกระแส, การเลือกใช้วัสดุที่ล้ำสมัย เช่น ไนลอนรีไซเคิล หรือวัสดุเทคนิคัลต่าง ๆ รวมถึงแนวคิดเชิงศิลปะและสังคมที่ถูกถ่ายทอดลงในทุกคอลเลกชัน ทำให้ Prada เป็นแบรนด์ที่ครองใจทั้งสายแฟชั่น สายอาร์ต และกลุ่ม Gen Z ที่ชื่นชอบแฟชั่นที่มีความหมาย Prada ยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผลักดันวงการแฟชั่นในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงโชว์แฟชั่นสุดล้ำใน Milan Fashion Week หรือการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ในด้านความยั่งยืน
3.Versace
Versace ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 โดย Gianni Versace นักออกแบบผู้มีวิสัยทัศน์จากเมืองเรจโจ ดิ คาลาเบรีย แต่เลือกใช้ มิลาน เป็นฐานการเติบโตของแบรนด์ เพราะเป็นศูนย์กลางแฟชั่นและวัฒนธรรมระดับโลก ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับจิตวิญญาณที่กล้าท้าทายของแบรนด์นี้ จุดเด่นของ Versace คือการออกแบบที่หรูหรา เย้ายวน และสะดุดตา ด้วยลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะกรีกโรมัน เช่น หัวเมดูซ่า ซึ่งกลายเป็นโลโก้อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงการใช้ลายพิมพ์สีทอง ลวดลายบารอก (Baroque) และการตัดเย็บที่โชว์สรีระอย่างมั่นใจ แบรนด์นี้ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่ง “ความหรูหราสายดราม่า” ที่ผสานศิลปะคลาสสิกเข้ากับดีไซน์สมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืน
4. Dolce & Gabbana (D&G)
Dolce & Gabbana (D&G) คือแบรนด์แฟชั่นจากมิลานที่มีสไตล์ชัดเจน โดดเด่นด้วยกลิ่นอายความเป็นอิตาเลียนแท้ ๆ ทั้งในเรื่องความหรูหรา ความเย้ายวน และแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมซิซิเลียน (Sicilian) ทำให้ D&G เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกมาอย่างยาวนาน จุดเริ่มต้นของแบรนด์คือการนำเสนอความงามแบบอิตาลีดั้งเดิม ผ่านดีไซน์ที่เน้นความเฟมินีน อารมณ์ร้อนแรง และรายละเอียดสุดประณีต ไม่ว่าจะเป็นลายลูกไม้สีดำ, ชุดเดรสลายดอก, หรือการใช้ลายพิมพ์ศิลปะแบบบารอก ที่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ D&G หนึ่งในจุดแข็งของ Dolce & Gabbana คือการ ยึดโยงรากเหง้าอิตาลี มาผสมผสานกับความร่วมสมัย ทำให้แบรนด์มีเสน่ห์ที่ทั้งคลาสสิกและทันสมัยในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะคอลเลกชันเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้าที่ใส่แล้วช่วยเสริมบุคลิกให้ดูมั่นใจและน่าจดจำ D&G ยังเป็นแบรนด์ที่มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นระดับโลก ผ่านโชว์อลังการใน Milan Fashion Week และการร่วมงานกับคนดังมากมาย เช่น Madonna, Kylie Minogue และ Monica Bellucci
5. Armani
Armani คือหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นจากมิลานที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวแทนของความหรูหราแบบเรียบง่ายและไร้กาลเวลา ก่อตั้งโดยดีไซเนอร์ระดับตำนาน Giorgio Armani ในปี 1975 ที่เมืองมิลาน แบรนด์นี้กลายเป็นผู้นำของโลกแฟชั่นด้วยสไตล์ที่สง่างาม เนี้ยบ และเต็มไปด้วยความคลาสสิกที่ไม่เคยตกยุค สิ่งที่ทำให้ Armani โดดเด่น คือการออกแบบที่เน้น เส้นสายสะอาดตา โครงชุดที่สมบูรณ์แบบ และสีโทนนิ่ง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งผู้ชายและผู้หญิงทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่คนดัง นักธุรกิจ และคนในวงการฮอลลีวูด ที่มักเลือก Armani ในงานพรมแดงหรือโอกาสสำคัญ นอกจากเสื้อผ้าไฮเอนด์ Armani ยังแตกไลน์ธุรกิจออกเป็นหลายแบรนด์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลายระดับ เช่น
- Giorgio Armani – แบรนด์หลักที่เน้นความหรูหราและพรีเมียม
- Emporio Armani – สายแฟชั่นร่วมสมัยสำหรับคนรุ่นใหม่
- Armani Exchange (A|X) – สไตล์แคชชวลในราคาที่เข้าถึงได้
- Armani Casa – สายไลฟ์สไตล์และของแต่งบ้านสุดหรู
6. Bottega Veneta
Bottega Veneta ก่อตั้งขึ้นในปี 1966 ที่เมือง Vicenza ทางตอนเหนือของอิตาลี แต่สำนักงานใหญ่และหัวใจของวงการแฟชั่นแบรนด์นี้อยู่ที่ มิลาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโชว์รูมหลัก โดดเด่นในฐานะแบรนด์หรูที่เลือกจะ “พูดเบา ๆ แต่ทรงพลัง” ด้วยปรัชญา “When your own initials are enough” หรือ “เมื่อชื่อของคุณก็มีคุณค่าเพียงพอ” ทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นตัวแทนของความหรูหราแบบ “Quiet Luxury” ที่แท้จริง จุดเด่นของ Bottega Veneta คือ งานเครื่องหนังแฮนด์เมดสุดประณีต โดยเฉพาะเทคนิคการสานหนังแบบ Intrecciato ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ ซึ่งปรากฏอยู่ในสินค้าหลักอย่างกระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับในยุคของดีไซเนอร์รุ่นใหม่อย่าง Daniel Lee และต่อมาคือ Matthieu Blazy, แบรนด์ได้ถูกรีเฟรชให้ทันสมัยมากขึ้น พร้อมกับดีไซน์ที่แหวกขนบ สะอาดตา แต่ยังคงความพรีเมียมและความปราณีตในทุกรายละเอียด Bottega Veneta กลายเป็นที่นิยมในหมู่คนดังและสายแฟที่ชื่นชอบสไตล์มินิมอลหรูแบบไม่อวด ทำให้แบรนด์นี้ครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว
7. Moschino
Moschino ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี จุดยืนของแบรนด์คือการนำเสนอแฟชั่นที่ไม่จำเจ แหวกแนว และเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากแบรนด์หรูอื่น ๆ อย่างชัดเจน ถ้าพูดถึงแบรนด์แฟชั่นจากมิลานที่ฉีกทุกกฎของความหรูหราแบบดั้งเดิม พร้อมนำเสนอความสนุก ขี้เล่น และประชดประชันวงการแฟชั่นได้อย่างแสบสันต์ Moschino คือตัวแทนของแนวคิดนั้น แบรนด์นี้ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ สดใส จัดจ้าน และแฝงนัยทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมป๊อป อาหารฟาสต์ฟู้ด ลายการ์ตูน หรือแม้แต่การประชดแบรนด์แฟชั่นด้วยตัวเอง เช่น เสื้อที่มีคำว่า “This Is Not A Moschino T-Shirt”แม้จะดูสนุกและตลกในแวบแรก แต่ลึก ๆ แล้ว Moschino คือนักเล่าเรื่องแฟชั่นตัวจริง โดยเฉพาะในยุคของ Jeremy Scott ที่เข้ามาปลุกชีพแบรนด์ในช่วงปี 2013–2023 ทำให้ Moschino กลายเป็นที่รักของเหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลก ทั้ง Katy Perry, Madonna และ Cardi B ต่างก็เคยสวมใส่ผลงานสุดแหวกของแบรนด์นี้บนพรมแดง แฟชั่นโชว์ของ Moschino ในมิลานก็เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของ Milan Fashion Week ทุกฤดูกาล เพราะเต็มไปด้วยไอเดียสุดครีเอทีฟที่ไม่ซ้ำใคร และมักจะสร้างไวรัลในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว
8. Etro
ถ้าคุณเป็นสายแฟชั่นที่ชอบงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์และลวดลายสุดโดดเด่น Etro คือหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นจากมิลานที่ไม่ควรพลาด ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง ลายเพสลีย์ (Paisley) อันโด่งดัง และความพิถีพิถันในเรื่องของผ้าและสีสัน ทำให้ Etro กลายเป็นตัวแทนของความหรูหราแบบโบฮีเมียนที่มีสไตล์เฉพาะตัว โดย Etro ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 โดย Gimmo Etro ที่เมืองมิลาน จุดเริ่มต้นของแบรนด์คือการผลิตสิ่งทอคุณภาพสูง ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นแบรนด์แฟชั่นเต็มรูปแบบ ทั้งเสื้อผ้าบุรุษและสตรี รวมถึงแอคเซสซอรี กระเป๋า น้ำหอม และของตกแต่งบ้าน สิ่งที่ทำให้ Etro โดดเด่นในตลาดแฟชั่นระดับโลก คือการนำศิลปะจากวัฒนธรรมต่าง ๆ มาเล่าเรื่องผ่านเสื้อผ้า ด้วยลายพิมพ์ที่มีชีวิตชีวา สีสันสดใส และการออกแบบที่เน้นความเป็นอิสระ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบแฟชั่นที่แตกต่าง ไม่ซ้ำใคร
9. Marni
Marni ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 โดย Consuelo Castiglioni ที่เมืองมิลาน ด้วยแนวคิดที่ต้องการสร้างแบรนด์แฟชั่นสำหรับผู้หญิงที่เบื่อความจำเจ ชอบความแปลกใหม่ และมองแฟชั่นเป็นพื้นที่สำหรับการทดลอง ไม่ใช่แค่การแต่งกาย โดดเด่นด้วยสไตล์ อาร์ต ๆ แหวกแนว และไม่ตามขนบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายแฟชั่นที่ชอบความไม่ธรรมดาและกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะผู้ที่มองหาแฟชั่นที่ผสมผสาน ความสร้างสรรค์, ศิลปะ และโครงสร้างที่ไม่คาดคิด เข้าด้วยกันอย่างลงตัว จุดเด่นของแบรนด์นี้อยู่ที่การใช้ สีสันสดใส ลายพิมพ์กราฟิก โครงชุดที่ไม่สมมาตร และการผสมผสานวัสดุที่ไม่คาดคิด เช่น ผ้าไหมกับหนัง, ผ้าฝ้ายกับเฟอร์ หรือแม้แต่พลาสติกกับขนสัตว์ ซึ่งสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ที่ก้าวข้ามขอบเขตแฟชั่นแบบดั้งเดิมได้อย่างชัดเจน
10. Missoni
Missoni ก่อตั้งขึ้นในปี 1953 โดยคู่รัก Ottavio และ Rosita Missoni ที่เมือง Gallarate ใกล้มิลาน แม้ไม่ได้เริ่มต้นในเมืองมิลานโดยตรง แต่ สำนักงานใหญ่และแฟล็กชิพของแบรนด์ตั้งอยู่ในมิลาน แบรนด์ Missoni โด่งดังจากการใช้ เทคนิคการถักไหมพรมที่มีความซับซ้อน รวมถึงการเลือกเฉดสีที่แสดงออกถึงความอบอุ่น สดใส และความเป็นอิตาเลียนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา จึงไม่แปลกที่ Missoni กลายเป็นที่รักของทั้งสายแฟชั่นที่ชอบความยูนีค และกลุ่มที่ชื่นชอบงานศิลป์และดีไซน์ร่วมสมัย หากพูดถึงแบรนด์แฟชั่นจากอิตาลีที่มีเอกลักษณ์เรื่อง “ลายถัก” และ “สีสัน” อย่างชัดเจนที่สุด Missoni คือหนึ่งในตัวแทนที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร ด้วยดีไซน์ลวดลายซิกแซก (Zigzag) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเทคนิคการถักผ้าแบบพิเศษที่ผสมผสานเฉดสีหลากหลายเข้าด้วยกันอย่างมีศิลปะ ทำให้ Missoni กลายเป็นแบรนด์ที่จดจำได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น นอกจากเสื้อผ้าแล้ว Missoni ยังขยายไลน์ไปยังสินค้าตกแต่งบ้านภายใต้แบรนด์ Missoni Home ที่ใช้ลวดลายถักซิกแซกและสีสันในแบบเดียวกันกับแฟชั่นไลน์หลัก กลายเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่ครอบคลุมทั้งตัวตนและพื้นที่อยู่อาศัย
ทำไมต้องซื้อแบรนด์แฟชั่นจากมิลาน?
การซื้อสินค้าแฟชั่นจากมิลานไม่เพียงแต่ได้ของแท้จากต้นทาง แต่ยังมาพร้อมประสบการณ์การช้อปปิ้งในบรรยากาศสุดหรู และโอกาสในการได้เลือกชมสินค้าคอลเลกชันใหม่ก่อนที่อื่น บางครั้งยังมีดีลพิเศษหรือราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะในช่วงเซลล์กลางปีและปลายปี
พิกัดแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์แฟชั่นในมิลาน
- Galleria Vittorio Emanuele II – ห้างสรรพสินค้าสไตล์โบราณที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เต็มไปด้วยร้านแฟชั่นระดับไฮเอนด์อย่าง Prada, Louis Vuitton และ Gucci
- Quadrilatero della Moda (Fashion Quadrilateral) – ย่านช้อปปิ้งที่รวมแบรนด์ดังไว้ใน 4 ถนนหลัก: Via Montenapoleone, Via della Spiga, Via Sant'Andrea และ Via Manzoni เป็นแหล่งรวมสินค้าไฮแฟชั่นระดับพรีเมียม
- Corso Buenos Aires – สำหรับสายแฟที่ต้องการสินค้าแฟชั่นในราคาจับต้องได้ ที่นี่เต็มไปด้วยร้านแฟชั่นแบรนด์กลางถึงสูง รวมทั้งแบรนด์ท้องถิ่นมากมาย
- Serravalle Designer Outlet – เอาท์เล็ตชื่อดังที่อยู่ห่างจากมิลานประมาณ 1 ชั่วโมง รวมแบรนด์หรูมากมายในราคาลดสูงสุดถึง 70% เหมาะสำหรับนักช้อปตัวจริง
ซื้อแบรนด์เนมที่มิลานถูกกว่าที่อื่นจริงไหม ?
คำตอบคือ “จริง” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาขายในเอเชียหรืออเมริกา นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถขอคืนภาษี (Tax Refund) ได้สูงสุดถึง 12-14% เมื่อซื้อสินค้าที่มียอดเกินเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งยิ่งทำให้การช้อปแบรนด์เนมในมิลานคุ้มค่าขึ้นไปอีก
บัตรเครดิต KTC รูดช้อปทั่วโลก เรทถูกกว่า เมื่อจ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศผ่านบัตรเครดิต KTC
» พิเศษ กับการคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินตราต่างประเทศ ที่ถูกกว่าเพียง 2% (จากปกติอัตราตลาด 2.5%)
» พร้อมรับคะแนน KTC สูงสุด x3 เมื่อมียอดใช้จ่ายตามที่กำหนด
1 ม.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68
โปรโมชั่น 9 เอาท์เล็ตทั่วยุโรป ในเครือ The Bicester Collection กับบัตรเครดิต KTC
รับส่วนลด 10% สำหรับการซื้อสินค้าที่เอาท์เล็ตในเครือ The Bicester Collection ทั่วยุโรป
1 ม.ค. 68 – 31 ธ.ค. 69
มิลาน เมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก คือบ้านของแบรนด์หรูระดับตำนานอย่าง Gucci, Prada, Versace, Dolce & Gabbana, Armani, Bottega Veneta, Moschino, Etro, Marni และ Missoni ที่ครองใจสายแฟชั่นทั่วโลกด้วยดีไซน์อันโดดเด่นและคุณภาพเหนือระดับ ไม่ว่าคุณจะเลือกช้อปที่ Galleria Vittorio Emanuele II, Quadrilatero della Moda, Corso Buenos Aires หรือ Serravalle Designer Outlet ก็สามารถเป็นเจ้าของไอเท็มแบรนด์เนมในราคาสุดคุ้มได้ง่ายขึ้น และอย่าลืมนึกถึง บัตรเครดิต KTC ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และถ้ายังไม่มีบัตรเครดิต KTC ก็สามารถเลือกสมัครบัตรเครดิตที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และสมัครด้วยตัวเองได้ง่ายๆ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC