ปารีสเมืองในฝันของเหล่านักเดินทาง เมืองแห่งความโรแมนติก เมืองแห่งศิลปะ เมืองแห่งวัฒนธรรม เมืองที่สวยงามที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง วันนี้ KTC WORLD ขอรวบรวม ที่เที่ยวปารีสที่จะทำให้เหล่านักเดินทางได้สัมผัสกลิ่นอายของปารีสได้อย่างแท้จริงเอาไว้
ที่เที่ยวปารีสที่ไม่ควรพลาด
1. สะพาน Pont Neuf
สะพานปงต์เนิฟ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำแซนที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส และยังเป็นสะพานที่กว้างที่สุด ใช้เวลาสร้างประมาณ 30 ปี ท้องสะพานเป็นช่องโค้งกลมทรงรูปไข่ มีการแกะสลักขอบสะพานดูสวยงาม นอกจากการมาเที่ยวชมความสวยงามของสะพานแล้วเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคือ การอธิฐานเรื่องความรัก โดยการคล้องกุญแจร่วมกันของคู่รักก่อนที่จะโยนลูกกุญแจทิ้งลงในแม่น้ำเซน โดยเชื่อกันว่าจะทำให้ความรักคงอยู่ตลอดกาล หากนักท่องเที่ยวคนใดได้มาเที่ยวปารีสกับคู่รักแล้วก็อย่าลืมแวะมาโยนกุญแจที่นี่
2. สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (Alexander III Bridge)
สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 หรือปงอาแล็กซ็องดร์-ทรัว สะพานเชื่อมต่อระหว่างสองฝั่งคือฝั่งหอไอเฟลกับฝั่งถนนช็องเซลีเซ เป็นสะพานที่สวยงามเนื่องจากมีการประดับตกแต่งมากที่สุด โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว มีประติมากรรมรูปปั้นม้าเพกาซัสที่ทำจากทองสำริด ทูตสวรรค์ และเทพธิดาประดับอยู่ ด้วยความสวยงามของสะพานนี้ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปไม่ขาดสาย อีกทั้งยังเป็นฉากในซีรีส์ และเป็นสถานที่ถ่ายแบบของแบรนด์เสื้อผ้าหลายแบรนด์
3. โบสถ์ Saint – Chapelle
โบสถ์แซงท์ ชาแปลล์ เป็นโบสถ์เก่าแก่นิกายโรมันคาทอลิก โบสถ์นี้ถูกสร้างขึ้นจากคำสั่งของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 โดยมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบแรยอน็อง สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์แซงท์ ชาแปลล์ คือหน้าต่างประดับกระจกสีที่แคบและสูงสวยงามแปลกตา และเนื่องจากที่นี่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองพอดีจึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ง่าย ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยว
4. สุสานใต้ดิน คาตาคอมส์ ออฟ ปารีส (Paris Catacombs)
เป็นอุโมงค์ใต้ดินที่มีซากกระดูกมนุษย์กองเรียงรายตลอดแนวกำแพงยาวหลายกิโลเมตร โดยซากกระดูกนี้มาจากผู้คนกว่า 6 ล้านคน โซนแรกจากทางเข้าจะเจอกับกำแพงแกะสลัก ถัดมาเป็นนแกลเลอรีรูปสุสานในอดีต และด้านในเป็นกำแพงกะโหลก กระดูก เรียงยาวจนสุดทาง นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวปารีสแล้วอยากหาที่เที่ยวแบบขนลุกก็ต้องมาที่นี่เลย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการร้านขายของที่ระลึกที่สามารถซื้อกลับไปฝากได้อีกด้วย
5. โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย่ (Palais Garnier)
โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย่ (Palais Garnier) หรือ Paris Opera ตั้งอยู่บนถนน Boulevard des Capucines ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามการจัดตกแต่งใช้หินอ่อนหลากหลายสี และแกะสลักแนวกรีกโรมัน เป็นสถานที่จัดแสดงโอเปร่า บัลเล่ต์ และการแสดงดนตรีชื่อดัง โดยสามารถจุผู้ชมได้ถึง 1,900 ที่นั่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หากมาถึงเมืองปารีสแล้วที่เที่ยวปารีสที่ไม่ควรพลาดชมความสวยงามก็ต้องที่นี่เลย
6. ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)
ประตูชัยฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่ห้ามพลาดในการมาเยือนปารีส สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่กองทัพฝรั่งเศสในสมัยนโปเลียน ตั้งอยู่กลางวงเวียน Place Charles de Gaulle บนถนนสายหลักของปารีส ใครที่ต้องการชมวิวจากมุมสูงก็สามารถขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อชมทิวทัศน์แบบพาโนรามาของถนน Champs-Élysées แหล่งช้อปปิ้งหลักของช่วปารีสที่ทอดยาวไปจนถึงหอไอเฟลได้อย่างงดงาม ิ
ที่อยู่: Place Charles de Gaulle, 75008 Paris, France ิ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10.00 น. - 23.00 น. ิ
ค่าเข้า: 13 EUR/ท่าน
7. ย่านมองมาร์ท Montmartre
ย่านมองมาร์ทอยู่ทางตอนเหนือของปารีส ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่เร่งรีบ เป็นจุดชมวิวของปารีสได้แบบพาโนรามา เนื่องจากที่นี่อยู่บนพื้นที่เนินสูง บ้านเรือนอาคารต่างๆก็มีความสวยงาม ที่นี่มีทั้งพิพิธภัณฑ์ อย่าง Montmartre Museum หรือพิพิธภัณฑ์มงมาร์ มีร้านอาหารที่เป็นเอกลักษณ์อย่างร้าน La Maison Rose มี โบสถ์ Pierre Cathedral ย่านนี้ถือเป็นย่านศิลปะอย่างแท้จริง นอกจากมาเดินชมศิลปะต่างๆแล้วก็ยังสามารถมานั่งชิลๆชมวิวของปารีสได้ ที่เที่ยวปารีสที่ต้องมาเยือนสักครั้ง
8. พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace)
อีกหนึ่งที่เที่ยวของปารีสที่ไม่ไปไม่ได้เพราะที่นี่ถือเป็นจุดเช็คอินสำคัญอีกจุดหนึ่งของการมาเที่ยวปารีส ที่นี่คือ พระราชวังแวร์ซายส์ (Chateau de Versailles) อดีตพระราชวังหลวงอันหรูหราของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตัวอาคารหลักสร้างโดยสถาปัตยกรรมแบบบาโรก - รอคโคโค แบ่งเป็นห้องมากกว่า 700 ห้อง ภายในมีห้องกระจก (Hall of Mirrors) ที่สะท้อนแสงระยิบระยับอย่างสวยงาม พื้นที่โดยรอบแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ The Palace, The Estate of Trianon, The Royal Stables, The Park และ The Gardens สวนแวร์ซายส์ที่ตกแต่งอย่างงดงามด้วยแปลงดอกไม้บานสะพรั่ง พร้อมด้วยน้ำพุและเขาวงกตพุ่มไม้ ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีการแสดงน้ำพุดนตรีเพิ่มความพิเศษให้กับบรรยากาศโดยรอบอีกด้วย
ที่อยู่: Place d’Armes, 78000 Versailles, France
เวลาเปิด-ปิด: อังคาร - อาทิตย์ 9.00 น. - 17.30 น.
ค่าเข้่า: เริ่มต้น 19.50 EUR/ท่าน
9. สวนและพระราชวัง ลุกซ็องบูร์ (Luxembourg Gardens and Palace)
สวนลุกซ็องบูร์เป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในกรุงปารีส รอบๆสวนเรียงรายด้วยต้นไม้ มีสนามหญ้าเขียวขจี มีไม้ดอกสวยงาม ตอนบนของสวนจะเป็นพระราชวังลุกซ็องบูร์ ที่ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการของวุฒิสภา นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่นิยมมานั่งเล่นถ่ายรูปชมความสวยงามของสวนและพระราชวัง
10. พิพิธภัณฑ์ศิลปะของมูลนิธิหลุยส์ วิตตอง Fondation Louis Vuitton
อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่เที่ยวปารีสที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยไป คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะของมูลนิธิหลุยส์ วิตตอง Fondation Louis Vuitton หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่ามีเพียงคอลเลคชั่นต่างๆจากแบรนด์ หลุยส์ วิคตองเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีศิลปะจากหลากหลายแขนงที่สลับสับเปลี่ยนมาจัดแสดง แต่ไฮไลท์ของที่นี่ก็คงจะหนีไม่พ้นรุ่น Limited Edition ต่างๆของหลุยส์ วิตตอง ภายในประกอบด้วยห้องจัดแสดงทั้งหมด 11 ห้อง มีจุดถ่ายรูปสำหรับสายถ่ายรูปเยอะจุใจอย่างแน่นอน
11. จตุรัส ปลาซ เดส์ วอสจ์ (Place des Vosges)
จตุรัส ปลาซ เดส์ วอสจ์ หรือจัตุรัสโวชส์ เป็นจตุรัสเก่าแก่ ตั้งอยู่ในย่านเลอ มาเรส์(Le Marais) มีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส มีอาคารสีแดงที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ล้อมรอบ ภายในสวนบรรยากาศร่มรื่นเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวปารีสหรือแม้แต่นักท่องเที่ยวเองต่างก็ไปนั่งเล่นถ่ายรูป นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่นัดพบปะสังสรรค์ เป็นแหล่งกิน ดื่ม ช็อปปิ้งอีกด้วย
12. จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde)
เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์เนื่องจากที่นี่เคยเกิดสงครามกลางเมืองจนเกิดการนองเลือดขึ้น เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของฝรั่งเศส ตรงกลางจัตุรัสมีเสาโอเบลิสก์ (L’Obélisque) ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น โดยเสานี้ทำมาจากหินแกรนิต ยอดของเสามีแผ่นทองปิดทำให้เสามีความสวยงาม นอกจากนี้ยังมี ประติมากรรมน้ำพุ Fontaine de Jacques Hirtoff ที่ถือเป็นภาพจำของจัตุรัสคองคอร์ดแห่งนี้ นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเช็คอิน
13. หอไอเฟล (Eiffel Tower)
ที่มาของเมืองแห่งความโรแมนติก หอไอเฟลถือเป็นแลนด์มาร์กของเมืองปารีส ที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่ไปเที่ยวปารีสจะต้องถ่ายรูปคู่กับหอไอเฟลไม่มากก็น้อยเก็บไว้ว่าได้มาเที่ยวที่ปารีสแล้ว หอไอเฟล เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็ก สูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้น แบ่งออกเป็นสามส่วน คือส่วนฐาน ที่ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวขายของที่ระลึก ส่วนกลางสำหรับชมวิว ส่วนยอดต้องจองตั๋วสำหรับขึ้นไปด้านบนเพื่อชมวิว และอีกหนึ่งไฮไลท์คือการทานอาหารบนหอไอเฟล หอไอเฟลสวยทั้งเวลากลางกวันและเวลากลางคืน เนื่องจากกลางคืนหอไอเฟลจะเปิดไฟในเวลา 21.00 เป็นเวลา 10 นาที
14. มหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral)
ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส เป็นหนึ่งในวิหารชื่อดังของโลก มีสถาปัตยกรรมกอธิคที่สวยงาม มีการแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและวัฒนธรรม ตัวอาคารมีความสูงถึง 69 เมตร มหาวิหารน็อทร์-ดามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ด้านนอกอาคาร ภายในอาคาร และส่วนบนหอคอย ทั้งสามส่วนของมหาวิหารถูกตกแต่งอย่างสวยงาม งานประติมากรรมทุกชิ้นที่ประดับประดาอยู่มีความละเอียดอ่อนช้อย ด้านบนหอคอยสามารถชมวิหารในมุมสูงและสามารถชมวิวได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเที่ยวในปารีสที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
15. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
หลายๆคนคงจะคุ้นตากันดีกับดีไซน์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองปารีส จัดแสดงผลงานเก่าแก่มากมาย กว่า 400,000 ชิ้น จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญระดับโลก ผลงานที่จัดแสดงอยู่ที่นี่ เช่น โมนาลิซ่า ผลงานโด่งดังของ Leonardo da Vinci ศิลปินชาวตาเลียน ประติมากรรม Nike Winged Victory of Samothrace เทพีแห่งชัยชนะรูปสลักนางฟ้ามีปีกบนเรือหิน ประติมากรรม The Dying Slave รูปสลักหินอ่อน ผลงานของ Michelangelo Buonarroti และอีกมากมาย หากเข้ามาที่นี่แล้วจะเหมือนหลงเข้าไปในโลกของศิลปะอย่างแท้จริง ด้านในพิพิธภัณฑ์ประดับประดาและสวยงามไปด้วยภาพวาดและงานศิลปะแล้ว ด้านนอกเองก็สวยงามไม่แพ้กันด้วยทรงพีระมิด และเป็นพีระมิดแก้วก็ทำให้ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้ได้มาถ่ายรูปเช็คอินกันไม่ขาดสาย
16. ถนนช็องเซลีเซ (Champs-Élysées)
เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกหลากหลายแบรนด์ เหล่านักช็อปตัวยงต้องชอบที่นี่อย่างแน่นอน นอกจากสินค้าแบรนด์ดังแล้วยังมีร้านอาหารที่มีความหรูหราอลังการและอีกมากมายที่สร้างความตื่นตาตื่นใจตลอดสองข้างทาง ไปเดินเล่นถ่ายรูป เช็คอิน เท่านี้ก็ถือว่ามาถึงฝรั่งเศสแล้ว
17. ห้างสรรพสินค้าลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette)
เป็นห้างสรรพสินค้าสุดหรูที่ภายในอาคารมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดัง มากกว่า 3,500 ร้าน มีภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสรสเลิศที่ให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ไปลิ้มชิมรสชาติฝรั่งเศสอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีโซนจำหน่ายอาหารสด และเฟอร์นิเจอร์เครื่องมือเครื่องใช้ภายในบ้านให้ได้เดินเที่ยวชม หรือจะซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วยก็ได้ ถึงแม้ว่าไม่ได้มาช็อปปิ้งที่นี่ก็สามารถมาเดินเล่นถ่ายรูปรับรองว่าได้รูปสวยๆกลับไปอย่างแน่นอน
18. ห้างสรรพสินค้าเก่า La Samaritaine
เอาใจสายช็อปกับที่เที่ยวปารีสที่ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยอาคารแบบดั้งเดิม การตกแต่งแบบ Art Nouveau และ Art Déco ที่นี่รวบรวมแฟชั่น ร้านอาหาร งานศิลปะ รวมกว่า 600 แบรนด์ นอกจากจะได้ช็อปปิ้งแล้วที่ห้างสรรพสินค้า La Samaritaine แห่งนี้ยังมีนิทรรศการงานศิลปะสลับหมุนเวียนมาจัดให้ได้ชมกันได้ตลอดๆอีกด้วย
19. ร้านอาหาร La Maison Rose
ร้านอาหารชื่อดังของย่าน Montmarte ย่านที่เรียกได้ว่าสวยที่สุดในปารีส ตัวอาคารสีชมพูตัดกับหน้าต่างสีเขียว ถือเป็นทั้งจุดถ่ายรูปเช็คอิน และจุดนั่งพักทานอาหารอร่อยๆ บรรยากาศในร้านให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน อาหารมีทั้งของคาวและของหวาน ย่าน Montmarte เป็นอีกย่านหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวปารีส
20. คาเฟ่ les deux magots
ร้านคาเฟ่ที่เปิดมายาวนานกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในย่าน แซงต์-แจร์แมง เดส์ เพรส์ (Saint Germaian des pres ) ร้านตกแต่งสไตล์ปารีสแท้ๆดูสวยงาม เป็นร้านกาแฟที่เป็นที่นิยมของทั้งนักท่องเที่ยวและชาวปารีสเอง อีกทั้งที่นี่ยังเคยเป็นที่นัดพบ พบปะสังสรรค์ของเหล่าดารา ศิลปิน หรือกวีชื่อดังหลายท่าน หากนักท่องเที่ยวอยากสัมผัสบรรยากาศการนั่งจิบชากาแฟแบบชาวปารีสแท้ๆ ก็ต้องมาที่นี่เลย แต่ทางร้านก็ไม่ได้มีแค่ชา กาแฟ เบียร์ ไวน์ แชมเปญ น้ำผลไม้ อาหารเช้า อาหารกลางวัน รวมไปถึงมื้อค่ำ
21. ร้าน Cafe de Flore
เอาใจสายคาเฟ่กับอีกหนึ่งคาเฟ่เก่าแก่ของชาวปารีส ภายในร้านตกแต่ง แบบอาร์ตเดโค ร้านเป็นกระจกมีเก้าอี้สีแดงและเฟอร์นิเจอร์สีมะฮอกกะนี ร้านมี 2 โซนคือ โซนด้านในและโซนด้านนอก ศิลปินหลายๆคนนิยมไปนั่งหาแรงบันดาลใจที่นี่ เมนูขึ้นชื่อของที่นี่มีทั้งชา กาแฟ ช็อกโกแลตร้อน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขนมหวาน ถึงแม้จะเปิดมานานแต่ที่นี่ก็ยังคงเป็นที่นิยม หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวปารีสก็อย่าลืมแวะไปนั่งจิบชาสัมผัสบรรยากาศสุดคลาสสิก
22. สวน Jardin des Plantes
ฤดูใบไม้ผลิคือ ช่วงเวลาทองที่สวน Jardin des Plantes สวนพฤกษศาสตร์เก่าแก่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1635 จะงดงามและเต็มไปด้วยความงามของดอกซากุระบานสะพรั่ง พร้อมกลีบดอกสีชมพูอ่อนร่วงโปรยปรายลงมา นอกจากนี้ยังมีเรือนกระจก (Les Grandes Serres) ที่จัดแสดงพืชเขตร้อนและพืชทะเลทรายหายาก รวมถึงสวนกุหลาบที่เริ่มผลิดอกในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและอากาศที่สดชื่น เหมาะแก่การปูเสื่อปิกนิกใต้ร่มไม้ใหญ่ ลิ้มรสขนมปังครัวซ็องหรือบาแกตต์สดใหม่ พร้อมเครื่องดื่มหอมกรุ่น มานั่งพักผ่อนบนผืนหญ้าสีเขียว สูดอากาศบริสุทธิ์และเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติสวยงาม สัมผัสประสบการณ์ปิกนิกแบบชาวปารีเซียงอย่างแท้จริง
ที่อยู่: 57, Rue Cuvier 75005, Paris, France
Opening Hours: ทุกวัน 7.30 น. - 20.00 น.
Admission Fee: เริ่มต้น 7 EUR/ท่าน
23. พิพิธภัณฑ์ออร์เซ
พิพิธภัณฑ์ออร์เซ ถือเป็นสถานที่เก็บรักษาผลงานศิลปะอิมเพรสชันนิสม์และโพสต์ - อิมเพรสชันนิสม์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีความสำคัญทางด้านจิตวิญญาณไม่แพ้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ตั้งอยู่ในอาคารสถานีรถไฟเก่าที่ได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นแกลเลอรี่ศิลปะอันหรูหรา จัดแสดงผลงานชิ้นเอกของศิลปินชื่อดัง เช่น Monet, Manet, Van Gogh, Paul Cézanne และ Renoir รวมถึงยังเก็บรักษานาฬิกาแขวนเรือนยักษ์ สัญลักษณ์ประจำสถานีรถไฟเดิมไว้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย
ที่อยู่: 1 Rue de la Légion d’Honneur, 75007 Paris, France
เวลาเปิด-ปิด: อังคาร - อาทิตย์ 9.30 น. - 18.00 น.
ค่าเข้า: 14 EUR/ท่าน
24. Maison de Balzac
อีกหนึ่งพิกัดสุดโรแมนติกสำหรับคนรักศิลปะและวรรณกรรม อดีตบ้านเก่าของนักเขียนชื่อดัง ออนอเร่ เดอ บัลซัค (Honoré de Balzac) ในย่าน Passy ทางฝั่งตะวันตกของปารีส เป็นสถานที่ที่บัลซัคใช้เขียนนิยายหลายเรื่องใน La Comédie Humaine ผลงานชิ้นเอกของเขา ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ต้นฉบับลายมือ และเฟอร์นิเจอร์จากยุคศตวรรษที่ 19 บรรยากาศอบอุ่น เงียบสงบ และเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์จากยุคโรแมนติก นอกจากนี้ยังมีสวนเล็ก ๆ สไตล์ฝรั่งเศส และ Rose Bakery คาเฟ่สุดชิคให้ได้นั่งพักผ่อนหรือจิบกาแฟสบาย ๆ พร้อมชมวิวหอไอเฟลที่ตั้งตระหง่าน ถือเป็นมุมลับที่ให้คุณดื่มด่ำเสน่ห์ของปารีสในอีกมิติหนึ่ง
ที่อยู่: 47 Rue Raynouard, 75016 Paris, France
เวลาเปิด-ปิด: อังคาร - อาทิตย์ 10.00 น. - 18.00 น.
25. Musee Picasso
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่โด่งดังของกรุงปารีส แหล่งเก็บรวบรวมผลงานชิ้นสำคัญของ Pablo Picasso เอาไว้มากที่สุดในโลก ทั้งภาพวาด งานประติมากรรม และสิ่งประดิษฐ์ที่สะท้อนถึงความหลากหลายในการสร้างสรรค์ศิลปะของปิกัสโซในช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงผลงานจากคอลเล็กชันส่วนตัวและศิลปินร่วมสมัยที่สะท้อนอิทธิพลของปิกัสโซในวงการศิลปะอีกด้วย
ที่อยู่: 5 Rue de Thorigny, 75003 Paris, France
เวลาเปิด-ปิด: อังคาร - อาทิตย์ 10.30 น. - 18.00 น.
ค่าเข้า: เริ่มต้น 12 EUR/ท่าน
26. European Night of Museums
หากคุณมาเยือนปารีสในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อย่าพลาดร่วมสำรวจโลกแห่งศิลปะไปกับเทศกาล European Night of Museums หรือ La Nuit Européenne des Musées ซึ่งจัดขึ้นทุก ๆ วันเสาร์ที่สามของเดือนพฤษภาคม (18 พ.ค. 68) โดยพิพิธภัณฑ์ชั้นนำหลายแห่งในปารีส ไม่ว่าจะเป็น Louvre Museum / Musée d’Orsay / Centre Pompidou และ Musée Picasso จะเปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเที่ยงคืน ถือเป็นโอกาสที่ดีในการรับชมผลงานศิลปะระดับโลกในบรรยากาศที่แตกต่าง ด้วยแสงไฟยามค่ำคืนที่สร้างมิติใหม่ให้กับงานศิลปะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษ เช่น คอนเสิร์ตดนตรีสด การแสดงศิลปะการละคร และเวิร์คช็อปศิลปะอีกมากมาย
เวลาเปิด-ปิด: 18 พ.ค. 68 เสาร์ 18.00 น. – 24.00 น.
27. ย่าน Le Marais
เพลิดเพลินไปกับร่องรอยประวัติศาสตร์ใน Le Marais ย่านเก่าแก่ใจกลางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโบราณของกรุงปารีส ระหว่างทางจะได้พบกับจุดท่องเที่ยวน่าสนใจตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็น ซากกำแพงเมืองปารีสที่ยังหลงเหลือให้ได้เยี่ยมชม คฤหาสน์ "Hôtel de Sully" และจัตุรัส Place des Vosges อันเก่าแก่ นอกจากนี้ยังสามารถเดินไปช้อปปิ้งกันต่อที่ถนน Rue des Francs Bourgeois และ Rue des Rosiers ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้าดีไซน์เก๋และห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง Le BHV Marais อีกด้วย
28. ย่าน Montmartre
ย่านสุดชิคที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เต็มไปด้วยการตกแต่งบ้านเรือนด้วยสีสันสดใสและกลิ่นอายของศิลปะ ได้ชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของศิลปินชื่อดังหลายคน เช่น Pablo Picasso และ Vincent van Gogh รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงามจากจุดสูงสุดที่มหาวิหารซาเคร-เกอร์ (Sacré-Cœur) ที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองปารีสจากมุมสูงได้ และยังสามารถเดินเล่นไปที่ Place du Tertre ลานจัตุรัสที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของจิตรกรที่มารวมตัวกันวาดภาพกันตลอดวัน
29. ตลาดของเก่า From Bouquinistes to Brocanteurs
สำหรับผู้ที่หลงรักของเก่า ตลาด Les bouquinistes de Paris ริมแม่น้ำแซนในฤดูใบไม้ผลิคือเช็กลิสต์ห้ามพลาด ตลาดโบราณในกล่องสีเขียวที่เรียงรายริมฝั่งแม่น้ำแซนมากว่า 450 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เต็มไปด้วยร้านหนังสือคลาสสิก โปสการ์ดเก่าแก่จากยุค Belle Époque ภาพพิมพ์ศิลปะวินเทจ และการ์ตูนฝรั่งเศสหายาก ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในยุคที่ปารีสเป็นศูนย์กลางของปัญญาชนและศิลปิน นอกจากนี้ทุกสุดสัปดาห์ยังมีตลาดนัด Brocanteurs ที่ Marché aux Puces de Saint-Ouen ซึ่งเต็มไปด้วยของเก่าวินเทจ ทั้งเฟอร์นิเจอร์เครื่องประดับสไตล์ฝรั่งเศส เสื้อผ้าแบรนด์ดังจากยุค 60s-80s และของสะสมอีกมากมาย ถึงแม้ไม่ได้ซื้อกลับมา แต่การได้สัมผัสวัฒนธรรมการซื้อขายดั้งเดิมและพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าที่หลงใหลในหนังสือและวรรณกรรมก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่น้อย
ที่อยู่: Bords de Seine - du Pont Marie au quai Voltaire, 75004, Paris, France
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 10.00 น. - 18.00 น.
30. ล่องเรือ Bateaux-Mouches ชมวิวเมืองบนแม่น้ำ Marne
การล่องเรือ Bateaux-Mouches บนแม่น้ำ Marne เป็นหนึ่งในวิธีท่องเที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในการชมปารีสจากมุมมองที่แตกต่าง เพลิดเพลินไปบนเส้นทางล่องเรือพาคุณผ่านหมู่บ้านเก่าแก่ริมแม่น้ำและทิวทัศน์ธรรมชาติในบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิเมื่อดอกไม้ป่าบานและต้นไม้เริ่มผลิใบใหม่ พร้อมอิ่มเอมไปกับมื้ออาหารฝรั่งเศสดั้งเดิมสุดหรูระหว่างล่องเรือ ชมแสงสีทองของพระอาทิตย์ตกสะท้อนบนผิวน้ำ สร้างภาพจำที่งดงาม น่าประทับใจ
31. Le Clarence
ลิ้มรสความอร่อยในมื้ออาหารระดับโลก ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านอาหาร แต่เป็นการเดินทางผ่านประสบการณ์สุดพิเศษราวกับอยู่ในโลกคู่ขนาน ตั้งอยู่ในคฤหาสน์ส่วนตัวที่ตกแต่งด้วยโคมไฟแชนเดอเลียร์คริสตัลและภาพเขียนแนวนีโอคลาสสิกสุดหรู รังสรรค์ความอร่อยโดย เชฟ Christophe Pelé ที่นำเสนอเมนูตามฤดูกาลได้อย่างสร้างสรรค์น่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น กุ้งเทมปุระ ปลาไหลทารกย่าง และปลากะพงแดงย่างกับไขกระดูก
ที่อยู่: 31 Avenue Franklin-Delano-Roosevelt, 75008 Paris
โทร: +33 1 82 82 10 10 เวลาเปิด-ปิด: พุธ - เสาร์ 12.30 น. - 13.30 น. / 19.30 น. - 21.00 น.
32. Vaisseau
จากร้านอาหาร Pop-up ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง สู่ร้านประจำของเหล่านักชิม Vaisseau คืออาณาจักรแห่งความคิดสร้างสรรค์ของเชฟ Adrien Cachot ที่คัดสรรส่วนผสมแปลกใหม่ เช่น เครื่องในลูกวัวและกระดูกปลา นำมาปรุงด้วยเทคนิคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทั้งญี่ปุ่นและฝรั่งเศส เพื่อให้คุณได้สัมผัสรสชาติที่ไม่เหมือนใคร
ที่อยู่: 35 Rue Faidherbe, 75011 Paris
โทร: +33 1 88 61 70 41
เวลาเปิด-ปิด: มื้อกลางวัน (พุธ - ศุกร์) 12.00 น. – 13.30 น.
มื้อค่ำ (จันทร์ – ศุกร์) 19.30 น. – 21.00 น. 12.30 น. - 13.30 น. / 19.30 น. - 21.00 น.
33. Les Enfants du Marche
ร้านอาหาร Outdoor แบบเปิดโล่ง อาบแสงแดดอุ่น ๆ ให้บรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง พร้อมสัมผัสรสชาติอาหารฝรั่งเศสแท้ ๆ จากเชฟชาวญี่ปุ่น Shunta Suzuki ผู้สร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น หอยแมลงภู่ Groix ในซอสกอร์กอนโซลา หรือเมนูเนื้อสัตว์ที่จัดเต็มความเข้มข้น
ที่อยู่: 39 Rue de Bretagne, 75003 Paris
โทร: +33 6 69 99 21 21
เวลาเปิด-ปิด: อังคาร - อาทิตย์ 9.00 น. - 17.00 น.
34. Le Tout-Paris
อิ่มเอมมื้อค่ำสุดหรูที่ Le Tout-Paris ร้านอาหารมิชลินระดับโลกบนชั้น 7 ของห้าง Samaritaine ตกแต่งในสไตล์ Art Deco ผสานความร่วมสมัยในโทนสีแดง-ทอง เพิ่มความหรูหรา เมนูแนะนำ ได้แก่ Beef Tartare เนื้อคุณภาพเยี่ยม Soufflé au Fromage ชีสนุ่มหอมกรุ่น และ Coq au Vin ไก่ตุ๋นไวน์แดงรสเลิศ พร้อมเพลิดเพลินกับวิวพาโนรามาของหอไอเฟลและแม่น้ำแซน โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตกที่แต่งแต้มท้องฟ้าเป็นสีส้ม สร้างบรรยากาศโรแมนติกที่น่าจดจำ
ที่อยู่: 8 Quai du Louvre, 75001 Paris, France
โทร: +33 1 79 35 50 22
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 7.00 น. - 1.00 น.
โรงแรมในปารีส
Hotel Paris Louvre Opera
โรงแรมบูธีคที่มีเสน่ห์แบบปารีเซียง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และโรงละครโอเปร่า ภายในตกแต่งผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว พร้อมห้องพักได้รับการออกแบบอย่างประณีต และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบชนชั้นสูงปารีสอย่างแท้จริง
ที่อยู่: 4 Rue des Petits Champs, 75002 Paris, France
โทร: +33 1 42 96 20 41
เว็บไซต์: www.hotelparislouvreopera.com
Miiro Le Grand Hotel Cayre
ที่พักสุดหรูในย่าน Saint-Germain-des-Prés หนึ่งในชุมชนที่มีเสน่ห์ที่สุดของกรุงปารีส โดดเด่นด้วยการตกแต่งสง่างามด้วยสไตล์ร่วมสมัย มีบริการฟิตเนส สปา และห้องอาหารระดับพรีเมียมที่เสิร์ฟเมนูฝรั่งเศสแบบต้นตำรับ ตอบโจทย์การพักผ่อนในทุกรูปแบบ
ที่อยู่: 10 Rue de Babylone, 75007 Paris, France
โทร: +33 1 45 49 70 00
เว็บไซต์: www.miirohotelcayre.com
Courtyard Paris Gare de Lyon
ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Gare de Lyon เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ ผ่อนคลายในห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น พร้อมบริการครบครัน สามารถเดินทางไปยังแลนมาร์คสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เพียงไม่กี่นาที
ที่อยู่: 209-211 Rue de Bercy, 75012 Paris, France
โทร: +33 1 80 20 63 00
เว็บไซต์: www.marriott.com
Cheval Blanc Paris
หนึ่งในโรงแรมที่หรูหราที่สุดในกรุงปารีส ตั้งอยู่ภายในอาคาร Samaritaine ให้บริการห้องพักที่ตกแต่งเรียบหรู พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสุดเอ็กซ์คลูซีฟและวิวแม่น้ำแซนอันงดงาม มอบความเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารมิชลิน สปาระดับเวิลด์คลาส และสระว่ายน้ำที่หันหน้าออกสู่วิวเมืองปารีสแบบพาโนรามา ิ
ที่อยู่: 8 Quai du Louvre, 75001 Paris, France
โทร: +33 1 79 35 50 50
เว็บไซต์: www.chevalblanc.com
สมาชิกบัตรเครดิต KTC เที่ยวไทย เที่ยวต่างประเทศ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม / รีสอร์ท จองรถเช่า ประกันการเดินทาง หรือ ปรึกษาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว โปรโมชั่นสายการบิน โปรโมชั่นที่พัก ฯลฯ แสนสะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดบัตร ได้ที่ KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050 ให้บริการข้อมูลการเดินทาง จองและวางแผนการเดินทาง (Travel Planner) ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ส่งอีเมล์มาที่ ktcworld@ktc.co.th หรือ สอบถามข้อมูลผ่านช่องทาง LINE: KTC WORLD และ Facebook : KTC WORLD Community
ตรวจสอบโปรโมชั่น / สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC ที่ KTC WORLD TRAVEL SERVICE คลิก
อ่านเรื่องราวการท่องเที่ยวอื่นๆเพิ่มเติม
.