สถานที่ท่องเที่ยวไทยฟีลเมืองนอก วิวสวย มุมถ่ายรูปเพียบ
เชื่อว่าหลายคนคงใฝ่ฝันอยากจะไปเที่ยวเมืองนอกสักครั้งในชีวิต แต่พอเห็นราคาตั๋วเครื่องบิน ที่พักโรงแรม รวมไปถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้วเป็นต้องตัดใจ บวกกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศยังคงต้องเฝ้าระวัง แต่ทว่าไม่ต้องไปเที่ยวที่ไหนไกลเพราะเมืองไทยก็มีสถานที่ท่องเที่ยวฟีลเมืองนอกเหมือนกัน เชื่อว่าไม่ยากเกินไปถ้าจะหาที่เที่ยวฟีลต่างประเทศ ถ่ายรูปสวย ๆ ไว้โพสต์ลงโซเชียล วันนี้ KTC ขอแนะนำสถานที่เที่ยวในประเทศไทยฟีลเมืองนอกมาฝาก แต่ก่อนอื่นไปทำความเข้าใจกันสักนิดว่าเดินทางเที่ยวไทยอย่างไรให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ ณ ตอนนี้
แนะนำเที่ยวอย่างไรปลอดภัยจากโควิด-19
- ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด อาทิ รักษาระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงใช้สิ่งของส่วนตัว หรือภาชนะต่าง ๆ ร่วมกัน
- หากเป็นไปได้ให้เดินทางด้วยรถส่วนตัว นอกจากสะดวกสบายแล้ว ยังสามารถแวะเที่ยวได้ตามต้องการ
- ลองหาที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพราะในประเทศไทย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ที่สำคัญยังช่วยหลีกเลี่ยงความแออัดหนาแน่นในสถานที่ที่มีคนไปเที่ยวเยอะ
แนะนำ 10 ที่เที่ยวเมืองไทย สวยเหมือนบินไปเที่ยวเมืองนอก
1. บ้านรักไทย (Ban Rak Thai)
บ้านรักไทยจังหวัดเชียงใหม่
เริ่มแรกที่เที่ยวฟีลเมืองนอก ที่ บ้านรักไทย ตั้งอยู่หมู่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอดีต ทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) “ก๊กมินตั๊ง” ที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,776 เมตร ทิวทัศน์ของหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยทิวเขาและแมกไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บ้านรักไทยมีกิจกรรมหลายอย่างไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สนุก อาทิ การเดินป่าศึกษาเส้นทางโดยมัคคุเทศก์น้อย การขี่ม้าพาข้ามแดนไปฝั่งพม่า รวมไปถึงยังมีบ้านดินไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องกับสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิด ทั้งยังได้บรรยากาศเหมือนวาร์ปไปเที่ยวเมืองจีนเลย
ที่ตั้ง : ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000
เวลาเปิด-ปิด : เปิด 24 ชั่วโมง
พิกัด :
2. หมู่บ้านมังกรสวรรค์ (Muban Mungkorn Sawan)
หมู่บ้านมังกรสวรรค์จังหวัดสุพรรณบุรี ขอบคุณภาพจาก : www.tvpoolonline.com
หมู่บ้านมังกรสวรรค์สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ (ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง) และ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ที่นี่จำลองหมู่บ้านพื้นเมืองของลี่เจียง เมืองเก่าแก่โบราณกว่า 800 ปี ภายในหมู่บ้านมังกรสวรรค์ออกแบบคล้ายกับเมืองเก่าต้าเหยียน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งศิลปะจีนขนานแท้ จุดเด่นของที่นี่คือมีสะพานข้ามสระน้ำสวยงาม พร้อมทั้งหอชมวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้าน และศาลหลักเมืองสุพรรณบุรีที่อยู่ใกล้เคียง
ที่ตั้ง : ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี 72000
เวลาเปิด-ปิด : 8.00 - 18.00 น.
พิกัด :
3. ฮิโนกิแลนด์ (Hinoki Land)
ฮิโนกิแลนด์เชียงใหม่ ขอบคุณภาพจาก FB : @bannhinoki
ฮิโนกิแลนด์อาณาจักรไม้ฮิโนกิแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย สถานที่เที่ยวเชียงใหม่สไตล์ญี่ปุ่นยุคโบราณ เนรมิตพื้นที่กว่า 83 ไร่ สร้างเป็นเมืองจำลองแบบญี่ปุ่น ประดับตกแต่งด้วยโคมแดงขนาดยักษ์แบบวัดอาซากุสะที่โตเกียว เสาแดงโทริอิเหมือนที่วัดฟูชิมิอินาริที่เกียวโต และยังมีปราสาทฮิโนกิที่สร้างจากไม้หอมทั้งหลัง สูง 4 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ ที่สำคัญฮิโนกิแลนด์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ อากาศเย็นสบายสดชื่น และมีให้บริการเช่าชุดกิโมโนถ่ายภาพด้วย
ค่าเข้าชม :
- ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 30 บาท
- คนในพื้นที่รับสิทธิ์เข้าชมฟรี
ที่ตั้ง : บ้านร้องธาร ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ 50320
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 - 17.00 น.
พิกัด :
4. ลอนดอน สตรีท (London Street)
ลอนดอน สตรีท แห่งแรกในกรุงเทพฯ ขอบคุณภาพจาก FB : @LondonStreetPattanakarn
ลอนดอน สตรีท ฟู้ดมอลล์สไตล์ลอนดอนชิกแห่งแรกในกรุงเทพฯ มาพร้อมการออกแบบและการตกแต่งในสไตล์อังกฤษ จำลองถนนเส้นยอดฮิตในกรุงลอนดอนมาไว้กลางกรุงเทพฯ ตัวอาคารถอดแบบจำลองของหอนาฬิกาบิ๊กเบน (Bigben) ในกรุงลอนดอน สามารถโพสท่าถ่ายรูปเก๋ ๆ ได้ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารแบรนด์ดัง ให้คุณลิ้มลองรสชาติอาหารเมนูสุดพิเศษได้ทุกสไตล์
ที่ตั้ง : ถ. พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 11.00 - 21.00 น. ศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 10:30 - 22:00 น.
พิกัด :
5. เจพาร์ค นิฮอน มูระ (J-Park Sriracha Nihon Mura)
เจพาร์ค นิฮอน มูระ จังหวัดชลบุรี ขอบคุณภาพจาก FB : @jpark.nihonmura
เจพาร์ค นิฮอน มูระ ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่จำลองเมืองเก่าของญี่ปุ่น ตัวอาคารออกแบบให้มีสถาปัตยกรรมแบบบ้านเรือนในช่วงยุคเอโดะของญี่ปุ่น โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือปราสาทสีทองที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปราสาททองแห่งวัดคินคะคุจิ เมืองเกียวโต ตกแต่งด้วยโคมไฟโบราณ สะพานข้ามสระน้ำสีแดง และสวนสไตล์ญี่ปุ่น ให้คุณเดินเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 6 ซอย ศรีราชา-หนองยายบู่ 6 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20110
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 - 22.00 น.
พิกัด :
6. มิโมซ่า พัทยา (Mimosa Pattaya)
มิโมซ่าพัทยา ขอบคุณภาพจาก FB : @mimosapattaya
Mimosa Pattaya ที่เที่ยวพัทยาเมืองเเห่งความโรแมนติกภายใต้แนวคิด "The City of Love เมืองเเห่งความรัก" โดยจำลองแบบกลิ่นอายสถาปัตยกรรมเมืองโบราณของฝรั่งเศส สีสันสดใส และโอบล้อมด้วยบรรยากาศสุดโรเเมนติก มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมสินค้าและร้านอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีโชว์สุดอลังการ ณ ลานน้ำพุดนตรี โดยการแสดงจะมี 2 รอบ ได้แก่ เวลา 19.00 น. และ 20.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท
ที่ตั้ง : ถ. สุขุมวิท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 20250
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 - 21.00 น.
พิกัด :
7. ภูป่าเปาะ (Phu Pa Po)
ภูป่าเปาะจังหวัดเลย ขอบคุณภาพจาก : www.tourismthailand.org
ภูป่าเปาะ หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าฟูจิเมืองเลย สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งในจังหวัดเลย เป็นภูเขาสูงปลายยอดตัดราบบนภูมีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น สภาพภูมิอากาศหนาวเย็น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสูดอากาศสดชื่นเต็มปอด ที่นี่ยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพ ภูเขาเมืองเลยได้เกือบทั้งหมด อาทิ ภูหลวง ภูกระดึง ภูยอง ภูค้อ ภูกระแต และสวนหินผางาม อีกทั้งยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด
ที่ตั้ง : ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย 42230
เวลาเปิด-ปิด : 08.30 - 16.30 น.
พิกัด :
8. อัลปาก้าฮิลล์ (Alpaca Hill)
อัลปาก้า ฮิลล์ จังหวัดราชบุรี ขอบคุณภาพจาก FB : @AlpacaHillThailand
เที่ยวนิวซีแลนด์เมืองไทย ที่อัลปาก้า ฮิลล์ ฟาร์มเพาะพันธุ์อัลปาก้าแห่งแรกและแห่งเดียวของไทย บนพื้นที่กว่า 250 ไร่ ที่นี่ยังมีโซนบ้านฮอบบิทน่ารัก ๆ ที่เหมือนในประเทศนิวซีแลนด์ให้เยี่ยมชมและถ่ายรูปสวย ๆ นอกจากนี้ยังมีสัตว์หลากหลายชนิด สามารถเข้าชมแบบใกล้ชิด ถ่ายรูปคู่ พร้อมป้อนอาหาร อาทิ อัลปาก้า หนูแฮมสเตอร์นกฮูก หนูแกสบี้ จิงโจ้แคระ กระต่ายยักษ์ และหนูตะเภา เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อน
ค่าเข้าชม : เริ่มต้น 290 บาท/คน สำหรับเด็กสูงไม่เกิน 110 เซนติเมตร และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป (เข้าชมฟรี)
ที่ตั้ง : หมู่ 8 ถนนผาปก-ตะโกล่าง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 70180
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.30 - 17.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 17.00 น.
พิกัด :
9. เกาะพยาม (Koh Phayam)
เกาะพยามจังหวัดระนอง ขอบคุณภาพจาก : www.tourismthailand.org
เกาะพยามตั้งอยู่ฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดระนอง เป็นเกาะที่ได้ชื่อว่าเป็น "มัลดีฟส์ในเมืองไทย" ด้วยบรรยากาศท้องฟ้าสวย หาดทรายขาว และน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก ที่นี่มีความเป็นธรรมชาติสูง ผู้คนไม่พลุกพล่าน เต็มไปด้วยความเงียบสงบ เหมาะสำหรับมาเที่ยวพักผ่อน อีกทั้งบนเกาะยังมีที่พักติดทะเลสวย ๆ ให้คุณได้ชมความสวยงามและใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
การเดินทางไปเกาะพยาม : ลงเรือที่ท่าเรือเทียบเทศบาล ตำบลปากน้ำ (ท่าเรือเกาะพยาม) มีเรือเมล์และสปีดโบ๊ตบริการ (ควรไปถึงท่าเรือก่อนเวลาเรือออกครึ่งชั่วโมง)
เรือเมล์ : ค่าบริการคนละ 250 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สปีดโบ้ท : ค่าบริการคนละ 350 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35-40 นาที
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง 85000
พิกัด :
10. เกาะพระทอง (Koh Phra Thong)
เกาะพระทองจังหวัดพังงา ขอบคุณภาพจาก : www.tourismthailand.org
เกาะพระทองเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในพังงาและใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเมืองไทย ที่นี่เกิดจากซากปะการังทับถมกันมายาวนานนับล้านปี จนเกิดเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิประเทศแปลกตา โดยมีลักษณะค่อนข้างแบนราบ กลายเป็นลักษณะโดดเด่นของเกาะแห่งนี้ ทางด้านตะวันออกเต็มไปด้วยแนวป่าโกงกาง ด้านตะวันตกเป็นหาดทราย ส่วนบริเวณกลางเกาะเป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ กิจกรรมไฮไลต์บนเกาะพระทอง คือการนั่งรถเที่ยวทุ่งหญ้าสะวันนาขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า “ทุ่งหญ้าซาฟารี” หรือ “แอฟริกาเมืองไทย” ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นอันซีนไทยแลนด์
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา 82150
เวลาเปิด-ปิด : 08.00 - 17.00 น.
พิกัด :
สำหรับที่เที่ยวเมืองไทย 2022 ฟีลเหมือนต่างประเทศที่กล่าวไปข้างต้น บอกเลยว่าที่เที่ยวเมืองในไทยสวยไม่แพ้ชาติไหนในโลก อีกทั้งยังเป็นสถานที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งคนไทยและต่างชาติ ให้คุณใช้เวลาช่วงวันหยุดไปกับการพักผ่อน อย่าพลาดที่จะเดินทางไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิต
เพื่อให้การเที่ยวของคุณคุ้มค่ามากกว่าเคย สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC สามารถจองที่พักโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน รวมถึงชำระค่าบริการต่าง ๆ ผ่าน KTC WORLD ซึ่งมีบริการสำหรับการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ช่วยดูแลและวางแผนการเดินทางให้คุณตลอดทริป หากสนใจสามารถทักแชทปรึกษา KTC World Travel Service ได้ตลอด 24 ชม. สามารถสอบถามข้อมูลได้ผ่านทาง LINE : KTC WORLD และ Facebook : KTC WORLD Community หรือโทร. 02-123-5050