ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กจบใหม่ที่กำลังมองหางานแรก คนที่ต้องการเปลี่ยนงาน หรือผู้ที่กำลังหาโอกาสความก้าวหน้าในอาชีพการงาน บอกเลยว่าความสามารถก็สำคัญ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือความเฮงความปัง การหาแหล่งที่พึ่งทางใจด้วยการมูเตลู ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าพูดถึงเรื่องงานก็มีพิกัดหลายแห่งในไทยที่ขึ้นชื่อให้สายมูได้ไปของานดีๆ กันมากมาย วันนี้ KTC เลยขอมาบอก 10 พิกัดแหล่งมูของาน พร้อมบอกวิธีการขอพรแบบทำตามได้ง่ายๆ ได้งานดีๆ สมหวังกันแน่นอน ไปดูกันเลย
1.ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
จะเริ่มต้นชีวิตในปีใหม่ให้รุ่ง หรือจะขอพรเรื่องงานก็ดี ที่แรกๆ ที่ติดลิสต์พิกัดมูของชาวกรุงเทพฯ ก็ต้องยกให้ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร เพราะเชื่อกันว่าที่นี่คือเสาหลักของบ้านเมือง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดีงามให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน การเงิน และแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง ทั้งนี้ ขั้นตอนการไหว้นั้น มีทั้งหมด 5 ขั้นตอนด้วยกัน โดยที่ศาลหลักเมืองก็มีป้ายบอกขั้นตอนและจุดโดยละเอียด เริ่มต้นตั้งแต่นำดอกบัวขึ้นไปสักการะพระพุทธรูปที่อาคารหอพระพุทธรูป ถวายธูปและเทียน กล่าวคำอธิษฐาน เสร็จแล้วนำผ้าแพรสีทั้ง 3 ผืน ผูกที่องค์หลักเมืองจำลองหลักใดหลักหนึ่ง และปิดทองที่ศาลาจำลอง จากนั้น นำพวงมาลัยถวายองค์พระหลักเมือง และนำพวงมาลัยถวายเทพารักษ์ทั้ง 5 ที่อาคารศาลเทพารักษ์ ปิดท้ายด้วยเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด
- วิธีขอพรเรื่องงาน
เมื่อต้องกล่าวคำอธิษฐานศาลหลักเมือง สามารถกล่าวคำกล่าวต่อไปนี้ เพื่อของานขอพรศาลหลักเมืองในที่ทำกินได้ ดังนี้ "ข้าพเจ้าชื่อ...นามสกุล เป็นคนจังหวัด... ตอนนี้ข้าพเจ้าได้ทำงานเป็นอาชีพ....อยู่ที่... ขอให้ปีนี้ ดวงข้าพเจ้าเปิดรับแต่สิ่งดีๆ ถ้ามีเรื่องไม่ดี ก็ขอให้คลี่คลายโดยเร็ว ขอให้ข้าพเจ้าได้อยู่อาศัย ณ ที่แห่งนี้ มีกิน มีใช้ ตลอดไม่ขาดสาย
2.ศาลเจ้าพ่อเสือ
ศาลเจ้าพ่อเสือตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลหลักเมือง อีกหนึ่งสถานที่ที่หลายคนมาขอพรในเรื่องการงาน การเงิน และโชคลาภต่างๆ รวมทั้งแก้ปีชง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ใครอยากให้การงานของตัวเองรุ่ง หรืออยากให้อุปสรรคต่างๆ ในชีวิตหมดไป ก็อธิษฐานขอกับเจ้าพ่อเสือได้ ทั้งนี้ แม้ศาลเจ้าพ่อเสือจะมีอยู่หลายแห่ง แต่ที่ทุกคนนิยมมาของาน ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ก็คือศาลเจ้าพ่อเสือที่ตั้งอยู่บนถนนตะนาว ใกล้ๆ กับเสาชิงช้า โดยภายในศาลเจ้าพ่อเสือ ก็ยังมีองค์เทพเจ้าอื่นๆ ให้ได้สักการะเพิ่มเติมอีกด้วย เช่น เทพเจ้ากวนอู และเจ้าแม่ทับทิม เป็นต้น
- วิธีขอพรเรื่องงาน
ใช้เทียนคู่ ธูป 18 ดอก พวงมาลัย กระดาษไหว้ หมูสามชั้น ไข่ ผลไม้ และข้าวเหนียวหวาน พร้อมอธิษฐานเรื่องที่อยากขอพรในใจ จากนั้นนำธูปไปปักตามจุดต่างๆ ตามด้วยเครื่องสักการะที่เตรียมให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อถวายท่านอีก 1 ครั้ง โดยเจ้าหน้าที่จะพูดคำว่า “เฮง เฮง เฮง” เพื่อเป็นการบนบานเรื่องงาน ปิดท้ายด้วยการเติมน้ำมันตะเกียง 4 ดวง และลาผลไม้กลับบ้านไปรับประทานเสริมดวง
3.องค์เทวราชเนรมิต วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
นี่คือวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยตั้งอยู่ที่ถนนศรีอยุธยา เขตดุสิต โดยภายในมีทั้งพระอุโบสถและโบราณสถานมากมาย แต่ทั้งนี้ที่หลายคนมาขอพรก็คือ องค์เทวราชเนรมิต หรือที่เรียกกันว่า เทพทันใจ ซึ่งเป็นองค์เทพประจำวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ตั้งอยู่หน้าอาคารเทวราชธรรมสถิต ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ที่นี่จึงเป็นที่ๆ หลายคนมาของานและความสำเร็จ โดยให้องค์เทวราชเนรมิตความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การเลื่อนตำแหน่ง หรือแม้แต่การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ให้ประสบความสำเร็จ และนอกจากนี้ ก็สามารถขอเรื่องโชคลาภและความมั่งคั่งได้เช่นกัน
- วิธีขอพรเรื่องงาน
ให้ท่องคาถาบูชาองค์เทวราชเนรมิต ดังนี้
ประกาศิตดลใจ ปกเกล้าคุ้มภัย อธิษฐานดั่งใจสําเร็จสมปรารถนา เทพประจําวัดเทวราชกุญชร อะหัง วันทามิ เทวะราชะนิมมิตัง อิจฉิตัง ปัตถิตัง มัยหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ ฯ
จากนั้นนำธนบัตรจำนวน 2 ใบ ม้วนเข้าด้วยกันแล้วสอดเข้าที่มือองค์เทวราชเนรมิต อธิษฐานเพียง 1 ข้อ ระบุรายละเอียดให้ชัดเจน แล้วเอาหน้าผากแตะที่นิ้วชี้องค์เทวราชเนรมิต จากนั้นนำธนบัตรใบหนึ่งใส่ตู้บริจาค อีกใบให้นำติดตัวกลับไปเป็นเงินขวัญถุงติดกระเป๋าเพื่อความสิริมงคล
4.ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง
ใครเป็นสายมูตัวจริง คงจะได้เห็นกระแสโซเชียลของที่นี่ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ โดยหลักๆ ผู้ที่มาไหว้ขอพรที่นี่ มักจะขอใน 3 เรื่องด้วยกันคือ ขอให้มีลูก ขอเรื่องหน้าที่การงาน การเรียน และขอเรื่องสุขภาพ ทั้งนี้ ศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลือง ตั้งอยู่ในพื้นที่ของซอยจุฬาลงกรณ์ 30 ซึ่งถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เพราะตั้งอยู่ที่นี่มานานกว่าร้อยปีแล้ว โดยนอกจากองค์เจ้าแม่ทับทิมแล้ว ก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์อื่นๆ อีก เช่น เทพเจ้ากวนอู จูแซเนี้ย แชเหล่งเอี้ย และแป๊ะกง เป็นต้น โดยวิธีไหว้ ภายในศาลเจ้าก็จะมีจุดกำกับอยู่
- วิธีขอพรเรื่องงาน
จุดธูปและเทียน ไหว้สักการะตามจุดที่กำกับ โดยวิธีอธิษฐานศาลเจ้าแม่ทับทิม ให้ตั้งจิตอธิษฐานบอกชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด แล้วบอกสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจน โดยอาหารและผลไม้หลังจากถวายแล้วสามารถลากลับไปกินเพื่อความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ สามารถถวายอาหารได้ทุกชนิดยกเว้นเนื้อวัว
5.วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา
วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือที่คุ้นหูในชื่อ วัดหลวงพ่อโสธร ที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพุทธโสธร" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไม่ว่าจะเรื่องใด มาขอพรที่นี่ ว่ากันว่าจะสมหวังดั่งใจคิด ไม่ว่าจะของาน ขอเงิน โชคลาภ สุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการค้าขาย แต่ทั้งนี้ก็มีสิ่งที่ห้ามขอเช่นกัน โดยใครกำลังจะเกณฑ์ทหาร แล้วต้องจับใบดำ-ใบแดง ห้ามขอว่าไม่ให้ได้เป็นทหารโดยเด็ดขาด
- วิธีขอพรเรื่องงาน
เตรียมของบนบาน ไข่ต้ม 99 ฟอง และพวงมาลัย 9 พวง จุดธูป 3 ดอก แล้วสวดบทสวดหลวงพ่อโสธร ตามด้วยคำบนบานที่ต้องการ แล้วนำไข่ต้ม พวงมาลัย มาถวาย โดยถวายไข่ต้มแบบปลอกไข่ 1 ฟอง และรอจนธูปหมด จึงลาไข่ต้มกลับไปกิน โดยขณะที่บนว่าขอให้สิ่งที่ต้องการสำเร็จ หากสำเร็จจะกลับมาแก้บนด้วยการถวายไข่ 99 ฟอง หรือแก้บนด้วยพวงมาลัย หรือถวายรำละครชาตรี หลังจากนั้นให้เข้าไปไหว้หลวงพ่อโสธรองค์จริงที่โบสถ์หินอ่อน และถวายดอกไม้
6.วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่
อีกหนึ่งพิกัดมูที่มีชื่อเสียงและอยู่ไกลถึงจังหวัดเชียงใหม่ ก็คือ วัดพระธาตุดอยคำ ในตำบลสุเทพ บอกเลยว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย โดยวัดพระธาตุดอยคำเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มากว่า 1,300 ปี และถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเชียงใหม่อีกด้วย ซึ่งโดยส่วนมากคนมักจะขอเรื่องงาน การเงิน และโชคลาภ ซึ่งต้องบอกเลยว่าสายมูตัวจริงต้องห้ามพลาดมาที่นี่สักครั้ง
- วิธีขอพรเรื่องงาน
นำพวงมาลัยดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป กล่าวชื่อ-นามสกุลของตนเอง จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานขอพรด้านการงาน โดยเล่าเรื่องที่อยากขอพรอย่างละเอียดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น พร้อมถวายพวงมาลัยดอกมะลิ
7.ศาลพระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง
อีกหนึ่งพิกัดในกรุงเทพฯ ที่ของาน ขอความสำเร็จ และเป็นที่พูดถึงอยู่บ่อยๆ ก็ต้องที่ ศาลพระพิฆเนศ สี่แยกห้วยขวาง ซึ่งสามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีห้วยขวาง ใช้ทางออก 4 โดยพระพิฆเนศนั้น เป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ปัญญา และความรู้ เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนมากมายทั่วโลก เวลาที่เหมาะสมในการไหว้พระพิฆเนศ คือ ช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็นค่ำ เพราะเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่เทพเสด็จ โดยควรเตรียมเครื่องสักการะ ได้แก่ ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ผลไม้ ขนมหวาน นม หรือ น้ำแดง และพวงมาลัยดาวเรือง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ศาล
- วิธีขอพรเรื่องงาน
เมื่อไปถึงเทวาลัยพระพิฆเนศห้วยขวาง ให้จุดธูป เทียน และถวายเครื่องสักการะ เริ่มต้นด้วยการไหว้พระพิฆเนศ 3 ครั้ง ตามด้วยไหว้พระตรีมูรติ พระแม่อุมาเทวี และพระราหูในการไหว้พระพิฆเนศ แนะนำให้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากองค์เทพด้วยความจริงใจ ขอพรควรขอพรให้ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง และกระซิบขอพรที่หนูมุสิกะอีกหนึ่งรอบ โดยให้ปิดหูอีกข้างของหนูไว้ เพราะเชื่อว่าหนูมุสิกะจะทำหน้าที่นำคำขอของเราไปบอกพระพิฆเนศ
8.สมเด็จพระปิยมหาราช ลานพระบรมรูปทรงม้า
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนกรุงเทพฯ นิยมไปกราบไหว้ขอพรมากที่สุดในเรื่องของการงาน สมเด็จพระปิยมหาราช หรือเสด็จพ่อ ร.5 ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ผู้ที่มาที่นี่โดยส่วนใหญ่นิยมของาน ความรุ่งเรืองในชีวิต โชคลาภในการประกอบอาชีพ รวมไปถึงความสุขสมหวัง
- วิธีขอพรเรื่องงาน
จุดธูป 16 ดอก พร้อมด้วยของไหว้ต่างๆ ได้แก่ ดอกกุหลาบสีชมพู น้ำมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ทองหยิบ ทองหยอด บรั่นดี ซิการ์ ข้าวคลุกกะปิ ตั้งจิตขอพรถวาย โดยเวลาที่ดีที่สุดในการไหว้คือวันอังคาร เวลา 22.00 น. หรือทุกวันพฤหัสบดี ซึ่งเปรียบเสมือนวันครู
9.ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ
ไม่พูดถึงที่นี่คงไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะชาวไทยไปจนถึงชาวต่างชาติ ก็แวะเวียนมาไหว้ขอพรที่นี่ไม่ขาดสาย ที่ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ เป็นศาลหนึ่งในบรรดาศาลบริเวณแยกราชประสงค์ ประดิษฐานบูชาท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใจกลางกรุงเทพฯ และความเชื่อที่ว่า พระพรหม คือเป็นผู้สร้างในทุกๆ สิ่ง เป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถดลบันดาลทุกอย่างให้เป็นไปได้ ฉะนั้น หากตั้งใจขอพรด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ก็มักจะสัมฤทธิ์ผล โดยสามารถขอได้ทั้งเรื่องงาน ความก้าวหน้า สุขภาพ เงิน โชคลาภ และสุขภาพ
- วิธีขอพรเรื่องงาน
ใช้ธูป 12 ดอก เทียน 4 เล่ม พวงมาลัยดอกมะลิและดาวเรือง ทองคำเปลว 4 แผ่น และสามารถนำผลไม้มาถวายร่วมด้วย เช่น มะพร้าว หรือกล้วย เป็นต้น เริ่มบูชาจากด้านพระพักตร์ของ ท้าวมหาพรหมเอราวัณ ที่หันมาทางประตูทางเข้า และวนรอบองค์ในทิศตามเข็มนาฬิกา จุดธูปไหว้ด้านละ 3 ดอก พร้อมด้วยเทียน พวงมาลัย และทองคำเปลวบูชาที่แต่ละด้านขององค์ท้าวมหาพรหม แนะนำให้มาขอพรพระพรหมเรื่องงานในวันอังคารหรือวันพฤหัสบดี เพื่อความเป็นสิริมงคล
10.วัดพระศรีมหาอุมาเทวี สีลม
วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือเรียกสั้นๆ ว่าวัดแขก ที่ตั้งอยู่ย่านออฟฟิศอย่างสีลม ฉะนั้น สำหรับผู้ที่ทำงานในย่านนี้ ก็สามารถแวะเวียนมาขอพรเรื่องงานให้เด่นให้ปังกันง่ายๆ นอกจากนี้ ยังสามารถมาขอพรในเรื่องของความรักได้อีกด้วย ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าไปไหว้ขอพรก็มีเรื่องต่างๆ ที่ควรรู้ ได้แก่ ห้ามนำเนื้อสัตว์ทุกชนิดเข้าไปในบริเวณโบสถ์ แต่สามารถถวายได้เฉพาะนม ผลไม้ ดอกไม้ และขนมอินเดียเท่านั้น ห้ามผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือนเข้าไปในบริเวณโบสถ์ ควรแต่งกายให้สุภาพ ไม่สวมกระโปรงสั้นหรือกางเกงขาสั้น การเข้าไปสักการะเพื่อขอพรต่อเหล่าองค์เทพในวัดแขกนั้น สามารถซื้อของไหว้ที่ขายอยู่บริเวณในวัดได้เลย โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 60-100 บาทต่อชุด
- วิธีขอพรเรื่องงาน
นำของไหว้ไปวางตรงกลางหน้าเทวสถาน ที่มีจุดจุดธูป เทียน และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อขอพรเรื่องงาน จากนั้นให้นำธูปและเทียนไปปักในที่ที่ทางวัดจัดไว้ให้ แล้วถือถาดใส่ของไหว้เดินเข้าไปหาพราหมณ์ในโบสถ์ โดยพราหมณ์จะทำหน้าที่รับถาดของบูชาเพื่อนำไปถวายพระแม่อุมาเทวี ให้ตั้งจิตรับพร จากนั้นจะได้ของไหว้คืนมาส่วนหนึ่ง ซึ่งสามารถนำกลับไปเป็นสิริมงคลหรือจะนำไปกินก็ได้ เมื่อได้ของไหว้คืนแล้ว พราหมณ์อีกหนึ่งท่านจะเจิมหน้าผากให้ จากนั้น ให้ทำความเคารพกราบไหว้ที่องค์เทพแต่ละองค์ทั้งภายในโบสถ์และบริเวณรอบนอกโบสถ์ และก่อนจะก้าวขาออกจากโบสถ์ ต้องไม่ลืมที่จะไหว้ลาพระแม่อุมาเทวีอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี การขอพรหรือการมูเตลูต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และก็เป็นที่พึ่งทางใจได้ดี ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ การปฏิบัติและความพยายามของตัวคุณเองเพื่อให้เรื่องที่ขอนั้นเป็นจริง ทั้งการเตรียมตัวให้พร้อม แสดงความสามารถ และคว้าโอกาสดีๆ ในชีวิตเอาไว้ แต่ที่ไม่ต้องขอก็คือการจัดการเรื่องการเงินของคุณให้ลงตัวด้วยบัตรเครดิต KTC ซึ่งพร้อมช่วยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทางการเงิน ไม่ว่าจะใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาตนเอง บัตรเครดิต KTC ช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น แถมยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมายแบบไม่ต้องขอ เพียงสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ง่ายๆ ไม่ได้ต้องธนาคาร อยู่ที่ไหนก็สมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC