การเที่ยวคนเดียว หรือ Solo Travel ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างใด หากเป็นเทรนด์ที่มีมานานแล้ว และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ ในประเทศไทยเองก็ปรากฏแนวโน้มที่ผู้คนเริ่มหันมาออกเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลายคนถึงกับตั้งเป้าหมายเอาไว้เลยว่า ต้องได้ลองเที่ยวคนเดียวดูสักครั้งในชีวิต ซึ่งถ้าคุณเองก็อยากลองออกทริปโซโล่ แนะนำเริ่มต้นเที่ยวในประเทศก่อน เพราะอุปสรรคด้านการสื่อสารน้อยกว่าการไปต่างประเทศ ไม่ต้องลางานก็เที่ยวเสาร์-อาทิตย์ได้ และในไทยเองก็มีที่เที่ยวสวยๆ และสงบมากมาย เหมาะกับการหนีความวุ่นวายไปฮีลใจ ซึ่ง KTC ได้รวม 5 ที่เที่ยวคนเดียวไม่ต้องง้อใคร ที่คัดมาแล้วว่าเหมาะกับทุกคน
โดยเฉพาะผู้หญิงเที่ยวคนเดียว ปลอดภัยหายห่วง ไปเที่ยวได้ชิลๆ ในปี 2568
สุขภาพดี ชีวิตดีกับบัตรเครดิต KTC ที่โรงพยาบาลและคลินิก ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
นอกจากการเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง ทั้งการศึกษาวิธีเดินทาง ซื้อตั๋วเครื่องบิน หรือว่าจองที่พัก อย่าลืมเรื่องของสุขภาพ หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะออกทริป ดังนั้นจึงควรเช็กข้อมูลของโรงพยาบาล คลินิก หรือสถานพยาบาลใกล้จุดท่องเที่ยว เผื่อเกิดเหตุป่วยฉุกเฉินจะได้เข้ารับการรักษาทันเวลา สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC มีโปรโมชั่นชำระค่ารักษาด้วยโปรโมชั่นสุขภาพดี ชีวิตดีกับบัตรเครดิต KTC มาแนะนำดังนี้
- ลดสูงสุด 30% สิทธิประโยชน์โรงพยาบาลและคลินิก ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ส่วนลดค่าห้อง ค่ายา ค่าทันตกรรม โปรแกรมตรวจสุขภาพ สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ประกอบด้วย โรงพยาบาล/คลินิกในเขตกรุงเทพและปริมณฑล, ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคใต้, ภาคตะวันออก, ภาคเหนือ และภาคตะวันตก
- แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13% แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13% เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรฯ แบบเต็มจำนวนครบทุก 1,000 บาท/เซลส์สลิป และแลกคะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน รับเครดิตเงินคืน 130 บาท
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ม.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68
1.บางกะเจ้า (Bangkachao)
กำลังหาที่เที่ยวสำหรับไปเที่ยวคนเดียวที่ไหนดี ใกล้กรุงเทพฯ แนะนำให้ไปเที่ยวที่ “บางกระเจ้า” เพราะเป็นพื้นที่ปอดสีเขียวขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ซ่อนตัวอยู่ในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางง่าย โดยกิจกรรมหลักที่ได้รับความนิยมก็คือการเช่าจักรยานปั่นชมสวนตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลัดเลาะริมแม่น้ำ และไปเที่ยวยังจุดต่างๆ ในบางกะเจ้า ที่มีครบทั้งวัด ตลาดน้ำ ร้านอาหาร สวนสาธารณะ และสวนพฤกษชาติ นอกจากจะเหมาะกับการเที่ยวคนเดียว เพราะทั้งสงบ ร่มรื่นให้คุณได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ยังเหมาะกับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว เพราะมีบ้านธูปหอมที่เป็นแหล่งชุมชนสอนการทำธูป ผ้ามัดย้อม และอาหารไทย โดยมีไกด์ท้องถิ่นคอยให้คำอธิบาย บางกะเจ้ายังเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีเวลา เพราะสามารถเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้ ไม่ต้องค้างคืน เดินทางด้วย BTS แล้วต่อรถสาธารณะไปอีกหน่อยก็ถึงแหล่งโอเอซิสใกล้กรุงแล้ว
- เดือนหรือช่วงเวลาที่ควรไป : ไปได้ตลอดปี แต่ถ้าไปช่วงหน้าร้อน (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม ควรเตรียมครีมกันแดด หมวก ขวดน้ำ หรือพัดลมพกพา)
- เวลาทำการ : สถานที่ส่วนใหญ่ปิดตั้งแต่ 18.00 น. เปิดทุกวัน
- ที่อยู่ : 69 หมู่ 6 ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ (https://maps.app.goo.gl/VbbSNq1TC2mNZLHQA)
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี แต่มีค่าเช่าจักรยาน 50 บาท เหมาทั้งวัน
- วิธีเดินทาง : นั่ง BTS ไปลงสถานีบางนา ทางออกที่ 2 เรียกรถแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ไปวัดบางนานอก เสร็จแล้วนั่งเรือข้ามฟากไปลงวัดบางน้ำผึ้งนอก
2.ตลาดน้ำอัมพวา (Amphawa Floating Market)
อยากลองเที่ยวคนเดียว เป็นผู้หญิงก็ไปได้ไม่อันตราย เดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ “ตลาดน้ำอัมพวา” ตลาดน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในอำเภออัมพวา โดยตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดน้ำท้องถิ่นที่เปิดเฉพาะแค่วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ซึ่งตลาดจะมีความคึกคักช่วงบ่ายเป็นต้นไป ดังนั้นถ้าหากใครไปถึงตลาดน้ำอัมพวาตั้งแต่เช้า แนะนำให้เริ่มต้นทริปด้วยการซื้อทัวร์ล่องเรือชมวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง หรือแพ็กเกจล่องเรือไหว้พระ เพราะจะได้นั่งเรือไปไหว้พระตามวัดต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง หลังจากเดินเล่นตลาดน้ำอัมพวาแล้ว ถ้าใครพอมีเวลาอยากให้ลองซื้อทัวร์ไปชมหิ่งห้อยตอนกลางคืน เพราะเป็นไฮไลต์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวอัมพวา ส่วนที่พักอัมพวาสำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว แนะนำให้จองที่พักในตลาดน้ำอัมพวา จะได้ไม่ต้องเดินทางไกลตอนกลางคืน แต่ถ้าคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว บริเวณอัมพวามีที่พักแนวโฮมสเตย์ที่ราคาไม่แพง และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติเหมาะกับไปพักผ่อนนอนเล่นสักคืน
- เดือนหรือช่วงเวลาที่ควรไป : ไปได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าอยากเห็นหิ่งห้อยเยอะๆ ให้ไปช่วงหน้าฝน หรือเลือกไปคืนเดือนมืด
- เวลาทำการ : ตลาดน้ำอัมพวาจะเปิดแค่ วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ตั้งแต่ 10.00 - 21.00 น.
- ที่อยู่ : ตำบลอัมพวา ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม จังหวัดสมุทรสงคราม (https://maps.app.goo.gl/BjhYYpWMj6RohMbH7)
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี แต่มีค่าซื้อทัวร์นั่งเรือประมาณคนละ 300 บาท
- วิธีเดินทาง : เดินทางไปยังอัมพวาได้ด้วยรถไฟจากสถานีวงเวียนใหญ่ ไปลงที่แม่กลอง จากนั้นนั่งรถสาธารณะไปลงที่อัมพวา หรือจะนั่งรถตู้จากสายใต้ใหม่ได้
3.เกาะล้าน (Koh Larn)
หากจุดหมายปลายทางของคุณคือทะเล หรือเกาะสักแห่ง แนะนำ “เกาะล้าน” หนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนบนเกาะที่ทัศนียภาพงดงาม และอยู่ใกล้กรุงเทพฯ สามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถตู้สาธารณะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่นาน และมีวิธีเดินทางที่ไม่ซับซ้อน โดยไปลงที่ตัวเมือง จากนั้นนั่งเรือต่อไปยังเกาะล้านด้วยเรือเฟอร์รี่ หรือสปีดโบ๊ทก็ได้ ส่วนถ้าอยากไปเที่ยวเกาะล้านแบบไม่ต้องรีบร้อน เน้นความชิลเป็นหลัก แนะนำให้จองที่พักบนเกาะล้านแล้วนอนค้าง 1-2 คืน แล้วตอนกลางวันก็เช่ามอเตอร์ไซค์ตระเวนเที่ยวไปรอบเกาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ไม่ควรพลาดจุดชมวิวบนเกาะ หรือใครอยากทำกิจกรรมก็มีให้เลือกเยอะ ทั้งดำนำดูปะการัง ตกปลา พาราเซลลิ่ง หรือเจ็ตสกี แนะนำจองที่พักเกาะล้านล่วงหน้าก่อนไป โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่พักมักจะเต็มตลอด
- เดือนหรือช่วงเวลาที่ควรไป : ไปได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดตลอด
- ที่อยู่ : อำเภอพัทยา จังหวัดชลบุรี (https://maps.app.goo.gl/im7u5XcLdt5VxdcJ9)
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : ขึ้นรถตู้สาธารณะที่ขนส่งเอกมัย นั่งไปลงตัวเมืองพัทยา หรือไปลงที่ท่าเรือบาลีฮาย จากนั้นโดยสารด้วยเรือเฟอร์รี่หรือเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือบาลีฮายในเวลาเพียง 15-45 นาที
4.หมู่บ้านแม่กำปอง (Mae Kum Pong)
สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านท่ามกลางขุนเขาที่แม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ ในเชียงใหม่ อำเภอแม่ออน ที่ถึงแม้จะอยู่บนเขา และใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ แต่การเดินทางไปแม่กำปองนั้นสะดวก เหมาะกับการเดินทางคนเดียว หรือผู้หญิงก็ไปเที่ยวคนเดียวได้ เพราะมีรถสองแถวรับ-ส่งในตัวเมืองเชียงใหม่ โดดเด่นด้วยการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีโฮมสเตย์บรรยากาศดีราคาไม่แพงมากมายให้เลือก และนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด แม่กำปองได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายปี เพราะอากาศจะเย็นเป็นพิเศษ และมีหมอกในยามเช้า เนื่องจากหมู่บ้านแม่กำปองอยู่กลางหุบเขา และสูงจากระดับน้ำทะเล 1,300 เมตร ส่วนคนที่อยากไปเที่ยวแม่กำปองสามารถไปเที่ยวได้ตลอดปี เพราะอากาศดี เย็นสบายมากกว่าที่อำเภอเมือง
- เดือนหรือช่วงเวลาที่ควรไป : ไปได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าอยากเห็นหมอกตอนเช้าให้ไปช่วงปลายปี หรือปลายฝนต้นหนาว เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
- เวลาทำการ : เปิดตลอด
- ที่อยู่ : หมู่บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ (https://maps.app.goo.gl/ciZtMLnageuBum749)
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : ขึ้นรถสองแถวที่ท่ารถตรงตลาดวโรรส โดยจะต้องเป็นรถสองแถวสีเหลือง ให้สอบถามคนขับว่ามีรถคันไหนบ้างที่ผ่านแม่กำปอง ค่ารถคนละ 150 บาทต่อเที่ยว
5.ย่านเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town)
ถ้าให้แนะนำจังหวัดขึ้นชื่อของภาคใต้ก็คงหนีไม่พ้น “ภูเก็ต” จังหวัดที่อยู่ติดทะเลอันดามัน และมีลักษณะเป็นเกาะขนาดใหญ่ รายล้อมภูเก็ตก็มีเกาะน้อยใหญ่มากมายให้นั่งเรือไปเที่ยวกันได้ แต่ถ้าใครอยากเริ่มต้นการไปเที่ยวคนเดียวที่ภูเก็ต แนะนำให้เริ่มด้วยการไปเที่ยวที่ย่านภูเก็ตเมืองเก่าก่อนเลย เพราะย่านนี้มีตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่สวยงาม และเต็มไปด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อ คาเฟ่ ร้านขนมหวาน และมุมถ่ายรูปสวยๆ เต็มไปหมด ส่วนที่พักในย่านเมืองเก่าก็มีให้เลือกเยอะ และราคาไม่แพง สำหรับผู้หญิงคนเดียวที่มาเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตแล้วไม่ได้เช่ารถขับ แนะนำให้นอนค้างย่านเมืองเก่า 2 วัน 1 คืน แล้วค่อยขึ้นรถประจำทาง หรือเรียกรถแท็กซี่ตระเวนไปเที่ยวย่านอื่นๆ ในภูเก็ต
- เดือนหรือช่วงเวลาที่ควรไป : ไปได้ตลอดทั้งปี
- เวลาทำการ : เปิดตลอด
- ที่อยู่ : อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต (https://maps.app.goo.gl/nhuX7bUqvLd42JLg7)
- ค่าเข้าสถานที่ : ฟรี
- วิธีเดินทาง : นั่งแอร์พอร์ตบัสจากสนามบินภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ราคาค่าโดยสาร 100 บาทต่อคนต่อเที่ยว
ถ้าใครอยากไปเที่ยวแต่เพื่อนไม่ว่าง ยังไม่มีใครสะดวกไปด้วย แนะนำลองเที่ยวคนเดียวดูสักครั้ง เพราะการเที่ยวคนเดียวไม่ใช่แค่การออกไปผจญภัยกับสิ่งใหม่ตามลำพัง แต่ยังช่วยให้ได้ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างมิตรภาพใหม่ๆ กับผู้คนที่พบเจอระหว่างทาง แนะนำควรพกอุปกรณ์ที่จำเป็นติดกระเป๋าไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือยาสามัญ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บป่วยเมื่อไหร่ ให้รีบหาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แล้วไปหาหมอทันที และอย่าลืมใช้บัตรเครดิต KTC ในการชำระเงิน เพราะมีโปรโมชั่นส่วนลดกับโรงพยาบาล และคลินิกทั่วประเทศ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC