รู้ก่อนทัวร์! JR Rail Pass ไอเทมสำคัญของนักเดินทาง
ขณะนี้มีหลายประเทศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก หนึ่งในนั้นคือประเทศ “ญี่ปุ่น” ที่ได้มีการปรับมาตรการเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน จึงทำให้หลายคนอยากจองตั๋วเครื่องบินทัวร์ญี่ปุ่นกันเสียตอนนี้ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยหลงใหลมานักต่อนัก เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยที่เที่ยวญี่ปุ่นที่น่าสนใจแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมของอร่อย แหล่งช้อปปิ้ง มีสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่โดดเด่น และยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัดเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง อาจเกิดความสับสนเล็กน้อยในเรื่องของการเดินทางโดยรถไฟ เพราะญี่ปุ่นนอกจากจะมีบริษัทเอกชนที่ทำการเดินรถไฟหลายเจ้าแล้ว แต่ละเจ้ายังมีเส้นทางรถไฟที่ยิบย่อยจนทำให้นักเดินทางเกิดความงุนงงได้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังหลงเหลือความโชคดีอยู่บ้าง เนื่องจากมีสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทางด้วยรถไฟอย่าง JR Pass ไอเทมสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ช่วยให้การเดินทางราบรื่นขึ้น สะดวกขึ้น และช่วยตัดปัญหาราคาค่าโดยสารที่แพงจนสู้ไม่ไหว วันนี้ KTC มีคำตอบซื้อ JR Pass ที่ไหนถูกที่สุด? ส่งฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมมาเป็นตัวเลือกให้กับนักเดินทางทุกคน
JR Pass คืออะไร? ช่วยเพิ่มความสะดวกให้การเดินทางได้จริงหรือ
JR Pass คือคำย่อของ Japan Rail Pass เป็นตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่ายสำหรับการเดินทางในประเทศญี่ปุ่น โดยนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถซื้อ JR Pass เพื่อใช้บริการรถไฟ JR หรือบริษัทในเครือ Japan Railways ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีให้เลือกใช้บริการทั้งหมด 6 บริษัทรถไฟในญี่ปุ่น ได้แก่ JR Kyushu, JR Shikoku, JR West, JR Center, JR East และ JR Hokkaido รวมไปถึงรถบัสและเรือที่อยู่ในเครือของ JR (มีเงื่อนไข) โดยสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เวลา 7 วัน 14 วัน หรือ 21 วัน ในการตะลุยแดนปลาดิบด้วยวิธีประหยัดและสะดวกสบาย
ใช้ JR Pass ขึ้นรถไฟในญี่ปุ่นได้ราคาคุ้มค่ากว่า
JR Pass เป็นบัตรโดยสารสำหรับ “นักท่องเที่ยวชั่วคราว” ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น ดังนั้นคนญี่ปุ่นหรือคนที่ทำงานในประเทศญี่ปุ่นจะไม่สามารถใช้บริการ JR Pass ได้ มาถึงอีกคำถามที่หลายคนสงสัย JR Pass มีกี่แบบ? คำตอบคือ JR Pass แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ที่นั่งชั้นกรีนคาร์ (JR Pass Green Car) และที่นั่งธรรมดา (JR Pass Ordinary Car)
โดยรถไฟ JR ส่วนใหญ่มักเป็นที่นั่งแบบ Ordinary Car แต่สำหรับรถไฟที่เดินทางระยะไกลจะมีที่นั่ง Green Car ไว้บริการ ซึ่งผู้ที่ถือบัตร JR Pass Green Car จะสามารถโดยสารได้ทั้ง 2 แบบ แต่สำหรับ JR Pass Ordinary Car จะโดยสารได้ค่รถไฟที่เป็นที่นั่งชั้นธรรมดาเท่านั้น ทั้งนี้ต้องตรวจสอบสายรถไฟ รถบัส และเรือก่อนใช้บริการด้วย JR Pass ทุกครั้ง เพราะหากโดยสารในห้องโดยสารที่ไม่ตรงตามประเภทของตั๋วที่ซื้อ อาจทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้หรือต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม
ท่องเที่ยวญี่ปุ่นหลายวัน คุ้มไหมที่จะซื้อ JR Pass
หากถามว่า JR Pass คุ้มไหมที่จะซื้อ? คำตอบคือ “คุ้มค่า” หากคุณมีแผนที่จะเที่ยวทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นแบบข้ามภูมิภาค เช่น ต้องการเที่ยวทั้งในโตเกียวและโอซาก้าที่ใช้เวลาเดินทางนานหลายชั่วโมงและใช้รถไฟหลายสาย หากคุณต้องการเดินทางไปมาหลายแห่ง แต่เลือกใช้ตั๋วโดยสารแบบเที่ยวเดียวจะทำให้เสียเงินที่แพงกว่ามาก แต่ทั้งนี้หากคุณท่องเที่ยวแบบไม่มีการข้ามภูมิภาค เที่ยวเพียงไม่กี่เมือง หรือต้องการเที่ยวภูมิภาคนั้น ๆ แบบจัดเต็ม แนะนำให้เลือกซื้อ JR Pass เฉพาะภูมิภาค (เป็นแบบเหมาเหมือนกับ JR Pass) เช่น Hokkaido Rail Pass, Kansai Area Pass, All Shikoku Rail Passฯลฯ จะได้ราคาตั๋วที่ถูกกว่า
JR Pass ซื้อที่ไหน? คุณสามารถซื้อบัตร JR Pass ได้ที่สนามบินต่าง ๆ รวมไปถึงที่สำนักงานจำหน่ายบัตร JR Pass ของประเทศญี่ปุ่น แต่ข้อจำกัดของการซื้อที่ญี่ปุ่นโดยตรง อาจทำให้คุณต้องจ่ายเงินในราคาที่แพงกว่าพอสมควร ดังนั้นเพื่อให้ประหยัดและได้ JR Pass ราคาถูก แนะนำสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC รูดซื้อผ่านบัตรเครดิต KTC ที่ช่วยให้คุณจองตั๋วเดินทางในประเทศญี่ปุ่นสุดคุ้มในราคาแสนประหยัด ไม่คิดค่าธรรมเนียมรูดบัตร ไม่คิดค่าออกตั๋ว และไม่คิดค่าจัดส่ง พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าอีกขั้นด้วยการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักโรงแรม โปรโมชั่นท่องเที่ยว และร้านอาหารง่าย ๆ ผ่านบัตรเครดิตเที่ยวญี่ปุ่น ที่มอบสิทธิประโยชน์ให้มากมาย ทั้งโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% ดอกเบี้ยราคาพิเศษ และสะสมแต้มบัตรเครดิตเพื่อรับสิทธิความคุ้มค่า สะดวก รวดเร็ว ด้วยบัตรเครดิตท่องเที่ยว KTC ที่ช่วยให้คุณช้อปง่าย ไม่ต้องพกเงินสดให้ยุ่งยาก