มนุษย์ได้คิดค้นสร้างสิ่งประดิษฐ์ หรือเทคโนโลยีใหม่ในทุกปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย ลดความเสี่ยงจากการทำงานที่ผิดพลาดของมนุษย์ รวมถึงการสร้างเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจคือ “สิ่งประดิษฐ์เพื่อสุขภาพ” เพราะจะเข้ามาปรับปรุง และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาทางด้านสุขภาพต่าง ๆ สำหรับปี 2025 มีงานวิจัย และนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจหลายโครงการ มาดูกันว่านวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ล้ำสมัยจะมีอะไรบ้างที่จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้น
สิ่งประดิษฐ์เพื่อสุขภาพ ช่วยปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดีขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาทางด้านสุขภาพต่าง ๆ
15 นวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์เพื่อสุขภาพ
1.แผ่นแปะอัจฉริยะ (Smart skin patch)
โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer) เป็นโรคที่มีความเสี่ยงสูงต่อผู้สูงอายุ หรือแม้แต่คนที่ยังอายุน้อย ซึ่งแผ่นแปะอัจฉริยะจะมาช่วยวินิจฉัยของโรคอัลไซเมอร์ได้ในระยะเบื้องต้น เพราะอาการของอัลไซเมอร์จะเด่นชัดก็ต่อเมื่อผู้ป่วยเกิดความหลงลืมไประยะหนึ่งแล้ว แผ่นแปะนี้จะประกอบไปด้วยเข็มขนาดเล็ก ที่สามารถเซ็นเซอร์ในระดับโมเลกุล เพื่อวัดความปกติของการอักเสบของเซลล์ประสาท
2.Generative AI (ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์)
เทรนด์การนำ AI มาช่วยลดระยะเวลาในการทำงานของมนุษย์ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่า “Generative AI” สามารถนำมาต่อยอด และช่วยลดเวลาของบุคลากรทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการเรื่องข้อมูลผู้ป่วย วิเคราะห์สาเหตุการป่วย หรือเพิ่มความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่การช่วยรักษาในโรคที่ใช้ระยะเวลานานในการรักษา
3.การติดตามผู้ป่วยทางไกล (Remote patient monitoring)
การติดตามผู้ป่วยทางไกล หรือ RPM เป็นนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้งานจริงตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ปี 2025 จะเป็นปีที่มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้มากขึ้น เพราะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางมาโรงพยาบาล และช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้สะดวก ซึ่งจะถูกคิดค้น และประดิษฐ์ออกมาในรูปแบบของอุปกรณ์ต่าง ๆ มีจุดเด่นที่สามารถใช้ควบคู่กับแอปพลิเคชันได้ พร้อมกับแสดงผลแบบเรียลไทม์
4.การบำบัดเสมือนจริง (Virtual Reality Therapy)
ทางเลือกใหม่ของการบำบัด ที่จะช่วยลดเวลาเดินทาง และสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเองจากที่บ้าน ซึ่งการบำบัดนี้ถูกใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาจิตเวช โดยเน้น 3 โรคหลัก ได้แก่ โรคกังวล (Anxiety) โรคกลัว (Phobia) และโรค PTSD ซึ่งโปรแกรมการบำบัดเริ่มต้นได้ด้วยการใส่แว่น VR ที่สามารถซื้อได้ สนนราคา 10,000 - 20,000 บาทเป็นต้นไป ทั้งนี้แนะนำให้ผู้ป่วยกินยาอย่างสม่ำเสมอ และเข้าพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
5.การบำบัดด้วย Chimeric Antigen Receptor (CAR) ชนิดใหม่
แม้ว่าการบำบัดด้วย CAR สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งจะถูกคิดค้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในปี 2025 นี้ ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (NCI) ได้พัฒนาการบำบัด CAR รูปแบบใหม่ ที่สามารถโจมตีโปรตีน Glypican-2 (GPC2) ได้โดยเฉพาะ ซึ่งโปรตีนชนิดนี้มักพบในผู้ป่วยมะเร็งในปริมาณที่สูงเกินปกติ ทำให้การบำบัดนี้มีประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น ทั้งในผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่
6.วัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบไม่ต้องเจาะเลือด (CGM)
ในปัจจุบันนี้คุณสามารถวัดระดับน้ำตาลในเลือดโดยไม่จำเป็นต้องเจาะเลือดอีกต่อไป เครื่องมือทางการแพทย์ล้ำยุคนี้มีชื่อว่า Continuous Glucose Monitoring หรือ CGM ได้ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้เซ็นเซอร์วัดค่าของเหลวระหว่างเซลล์ ซึ่งจำเป็นต้องฝังไว้บริเวณใต้ท้องแขน หรือหน้าท้อง เป็นนวัตกรรมที่จะถูกนำเข้ามาแทนที่เครื่องเจาะเลือดเพื่อวัดค่าน้ำตาลแบบเดิม ข้อดีคือวัดระดับน้ำตาลในเลือดได้แบบเรียลไทม์ และแสดงผลผ่านแอปพลิเคชัน
7.ปรับปรุง และค้นพบยาชนิดใหม่ด้วย AI
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Notre Dame ได้พัฒนา Conditional Randomized Transformer (CRT) ซึ่งเป็นโมเดล AI ที่ผสมผสานการปรับแต่งอย่างละเอียดและช่วยสร้างโมเลกุล นวัตกรรมพลัง AI นี้จะช่วยให้ทีมนักวิจัยค้นพบและปรับปรุงยาสูตรใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากนี้ไปการพัฒนายาสูตรใหม่ก็จะใช้เวลารวดเร็วขึ้น และไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
8.อุปกรณ์สวมใส่บนร่างกายพัฒนาด้วย AI (Wearable AI Technology)
อุปกรณ์ที่ใช้สวมใส่เพื่อแจ้งเตือนปัญหาเรื่องสุขภาพ หรือช่วยติดตามผลการออกกำลังต่าง ๆ อย่างเช่น Smart Watch หรือ Smart Ring ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีการนำ AI เข้ามาพัฒนาระบบให้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงการอ่านค่าอย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่คนชอบออกกำลังกาย หรือสายสุขภาพต้องห้ามพลาด อีกทั้งยังเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัว
9.นวัตกรรมช่วยลดน้ำหนัก (Weight Management)
เพราะการลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่กินยาบางชนิดเป็นเรื่องไม่ง่าย ในทางการแพทย์จึงมีตัวช่วยนำนวัตกรรมช่วยลดน้ำหนักเข้ามาใช้กับผู้ป่วย หรือคนทั่วไปที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน สำหรับนวัตกรรมเหล่านี้มีรูปแบบหลากหลาย อาทิ การใช้อุปกรณ์ช่วยสลายไขมันจากความเย็น โปรแกรมช่วยคำนวณค่าไขมันเชิงลึก และยาที่ทำให้ลดความอยากอาหาร เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพที่ต้องควบคุมน้ำหนัก
10.สารเคลือบอาหารกินได้ป้องกันไวรัส
หลังจากการระบาดของโรค COVID-19 หลายบริษัทหันมาวิจัย และผลิตเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อป้องกันไวรัส และเชื้อโรคมากขึ้น ซึ่งนักวิจัยของ EIT Food ได้พัฒนาสารเคลือบที่สามารถรับประทานได้จากสารสกัดสาหร่าย และเซลล์แบคทีเรีย ที่นอกจากจะช่วยป้องกันไวรัสที่ติดมากับพืช ผัก ผลไม้ ยังช่วยให้วัตถุดิบและอาหารคงความสดใหม่ได้นานขึ้น
11.ชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับสำเร็จรูปชนิดเร็ว (OV-ATK)
ทีมนักวิจัยจากสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดีร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้คิดค้น “ชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับสำเร็จรูปชนิดเร็ว (OV-ATK)” ที่สามารถตรวจพยาธิใบไม้ตับได้โดยวิธีใหม่ ที่รวดเร็ว แม่นยำ และสะดวกมากกว่าเดิม ด้วยการตรวจจับจำเพาะ หรือโมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ซึ่งพัฒนาต่อจากระบบ ELISA โดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที และวางจำหน่ายทั่วไป
12.หุ่นยนต์ผ่าตัด (Robotic Surgery)
เป็นนวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ที่นำเข้ามาใช้ในการผ่าตัด และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่หลายโรงพยาบาลใช้มีชื่อว่า “da Vinci Xi” โดยเชื่อว่าในปี 2025 นี้ หุ่นยนต์ผ่าตัดจะถูกพัฒนาจากรุ่นเดิม และนำมาใช้งานมากขึ้น เพราะทั้งแม่นยำ ลดความเสี่ยงต่อการผิดพลาด ทั้งทำให้เกิดแผลน้อยกว่าการผ่าตัดปกติ ทั้งนี้ การใช้หุ่นยนต์ยังอยู่ในความดูแล และควบคุมของแพทย์ สามารถช่วยผ่าตัดได้หลายโรค อาทิ โรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจ โรคลำไส้ และอื่น ๆ อีกมากมาย
13.การสกัด CO₂ จากกระแสก๊าซธรรมชาติ
University of Colorado Boulder ได้คิดค้นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาเยื่อผสมเมทริกซ์แบบไร้ซีโอไลต์ (Zeolite-Free) ที่มีโครงสร้างแบบครอสลิงก์ (crosslinked) ซึ่งสามารถสกัด CO₂ ออกจากกระแสก๊าซธรรมชาติ ถ้าหากว่าโครงการพัฒนานี้สำเร็จ จะทำให้ช่วยพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability) ได้เป็นอย่างดี
14.แผ่นปิดกะโหลกศีรษะไทเทเนียม (Cranioplastic Implant)
คนไทยเพิ่งทำการพัฒนาแผ่นปิดกะโหลกศีรษะจากวัสดุไทเทเนียม และมีผู้ป่วยได้ใช้งานไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ข้อดีคือช่วยลดเวลา และช่วยเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำของการผ่าตัดที่จำเป็นต้องเปิดกะโหลกศีรษะ อีกทั้งยังต่อเข้ากับกะโหลกศีรษะจริงได้เป็นอย่างดี เพราะใช้การพิมพ์ 3 มิติ ทำให้เป็นการผลิตแผ่นปิดกะโหลกโดยเฉพาะบุคคล ซึ่งจะถูกนำมาใช้กับผู้ป่วยอย่างแพร่หลายในปี 2025 แน่นอน
15.เท้าเทียมไดนามิกเอสเพส (sPace)
อวัยวะเทียมที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เพราะถูกพัฒนาโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเพิ่งถูกบรรจุเข้าในสิทธิประโยชน์ของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ถึงแม้ว่าเท้าเทียมนี้จะมีการใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่การถูกบรรจุเข้าในสิทธิประโยชน์ จะทำให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงเท้าเทียม sPace มากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก https://thestandard.co/life/health-wellness-trend-2025/, https://www.thecoverage.info/news/content/8162
แม้นวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ที่กล่าวมาหลายอย่าง ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย และยังไม่มีกำหนดเปิดตัวในอนาคต แต่คุณสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการมีสุขภาพที่ดีได้ด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และนำอุปกรณ์ Digital Health ล้ำสมัยมาเป็นตัวช่วยดูแลสุขภาพ สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ แล้วอย่าลืมเช็กโปรโมชั่น อาทิ ซื้อนาฬิกา Smart Watch หรือ Galaxy Ring ด้วยบัตรเครดิต KTC เพราะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการและอื่น ๆ อีกมากมาย
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC