อีกหนึ่งตัวเลือกอยากแนะนำสำหรับมือใหม่อยากลงทุนให้รู้จักคือ “กองทุนดัชนี (Index Fund)” หรือกองทุนหุ้นจากตลาดหุ้นทั่วโลก ที่คุณเองก็สามารถลงทุนได้ผ่านกองทุนในไทย โดยการลงทุนใน Index Fund จะไม่ซับซ้อน เหมาะกับคนที่อยากลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณลงทุนในกองทุนดัชนี จะเหมือนกับการลงทุนในหุ้นหลายๆ ตัวพร้อมกัน ที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมต่ำ คนที่อยากเริ่มลงทุน Index Fund บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Index Fund ให้มากขึ้น พร้อมบอกข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเริ่มลงทุน ถ้าอยากรู้รายละเอียดกองทุน Index Fund จะมีอะไรบ้าง ห้ามพลาดบทความนี้เลย
ทุกการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงและมีโอกาสขาดทุนได้
กองทุนดัชนี (Index Fund) คืออะไร
กองทุนดัชนี หรือ Index Fund เป็นกองทุนที่มีลักษณะการบริการการลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Management) จะเน้นการบริหารให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงมากที่สุด เมื่อคุณลงทุนในกองทุนดัชนีจะถูกกระจายความเสี่ยงลงทุนสินทรัพย์ตามสัดส่วนของดัชนีที่อ้างอิง ทำให้กระจายความเสี่ยงได้ดี
ตารางเปรียบเทียบกองทุนดัชนีกับกองทุนรวมทั่วไป
กองทุนที่ขายในประเทศนั้นมีหลายประเภท แต่ถ้าหากใครสนใจกองทุนดัชนีเป็นพิเศษ แนะนำให้ลองเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างกองทุนดัชนี และกองทุนทั่วไป ซึ่งกองทุนทั้งสองประเภทต่างก็เป็นเครื่องมือทางการเงินที่นิยมใช้ในการลงทุน แต่มีหลักการทำงานและเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้
จุดประสงค์ |
กองทุนดัชนี (Index Fund) |
กองทุนทั่วไป (Mutual Fund) |
เป้าหมาย |
เลียนแบบผลตอบแทนของดัชนีตลาดหุ้น |
ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาด |
กลยุทธ์ |
กระจายความเสี่ยง |
เลือกหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีมาลงทุน |
รูปแบบการลงทุน |
เน้นตามดัชนี |
ผู้จัดการกองทุนเลือกหุ้นให้ |
ค่าธรรมเนียม |
ต่ำกว่ากองทุนทั่วไป |
สูงกว่ากองทุนดัชนี |
ความเสี่ยง |
ปานกลาง |
สูง |
เหมาะกับใคร |
นักลงทุนระยะยาว และผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง |
ผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูง และนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงสูงได้ |
กองทุนดัชนี (Index Fund) ครอบคลุมสินทรัพย์ประเภทไหนบ้าง
สินทรัพย์ของกองทุนดัชนีนั้นมีหลายประเภท ไม่ได้จำกัดแค่หุ้นเท่านั้น หากใครกำลังศึกษาข้อมูลของกองทุนดัชนี อยากรู้ว่า Index Fund ตัวไหนดี แนะนำว่าก่อนตัดสินใจลงทุนให้ลองเลือกศึกษาจากประเภทของสินทรัพย์ดังต่อไปนี้
- กองทุนดัชนีหุ้น ได้แก่ ดัชนีหุ้นทั่วโลก ดัชนีหุ้นเฉพาะกลุ่ม และดัชนีหุ้นในประเทศ ยกตัวอย่างเช่น S&P500, FTSE100, SET50
- กองทุนดัชนีตราสารหนี้ ได้แก่ ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล ดัชนีพันธบัตรองค์กร และดัชนีตราสารหนี้ระยะสั้น กลาง และยาว
- กองทุนดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ ดัชนีทองคำ และดัชนีน้ำมัน
- กองทุนดัชนีอสังหาริมทรัพย์
- ดัชนีตลาดเงิน ได้แก่ ดัชนีอัตราแลกเปลี่ยน และดัชนีอัตราดอกเบี้ย
ข้อดีของกองทุนดัชนี (Index Fund)
การลงทุนแต่ละรูปแบบนั้นมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป สำหรับข้อดีของกองทุนดัชนี (Index Fund) มีหลายประการ ซึ่งค่อนข้างเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ ที่ไม่อยากลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือต้องการกระจายความเสี่ยง เพราะนอกจากการช่วยกระจายความเสี่ยงที่เป็นจุดเด่นแล้ว ยังมีข้อดีอื่นๆ ได้แก่
- มีคนดูแลกองทุน ถ้าหากคุณเป็นคนไม่มีเวลา การลงทุนกับกองทุนดัชนีมีข้อดีตรงจะมีคนช่วยคุณดูแลกองทุน เพราะจะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญ และเลือกลงทุนหุ้นที่ดีที่สุดของดัชนีให้
- ค่าธรรมเนียมต่ำ ในส่วนของค่าธรรมเนียมกองทุนดัชนีจะมีอัตราที่ต่ำกว่ากองทุนประเภทอื่นๆ
- ไม่มีเงินมากก็ลงทุนได้ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มลงทุน สามารถเริ่มลงทุนที่ 2,000 บาท
- มีความหลากหลาย กองทุนดัชนีมีจุดเด่นที่เลือกลงทุนได้หลากหลายมาก มีให้เลือกทั้งหุ้นไทย หรือว่าหุ้นต่างประเทศ
ข้อควรระวังของกองทุนดัชนี (Index Fund)
เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง หรือว่าต่ำ ก็มีโอกาสขาดทุนได้ ฉะนั้นก่อนเลือกลงเงินซื้อกองทุน มีข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ดังนี้
- ความเสี่ยงจากตลาด เป็นความเสี่ยงที่ควรระวัง เพราะว่าถ้าหากตลาดมีความผันผวน ราคาของกองทุนดัชนีจะเคลื่อนไหวตามดัชนีอ้างอิง หากตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวลดลง ราคาของกองทุนก็จะลดลงตามไปด้วย
- ดัชนีไม่สอดคล้องกับความต้องการ แนะนำก่อนเลือกลงทุนจะต้องทำการศึกษาดัชนีมาแล้วว่าตอบโจทย์ความต้องการคุณหรือไม่ เพราะถ้าหากว่าเลือกดัชนีผิด ก็จะทำให้ไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย
- สถานการณ์โลก สิ่งสำคัญที่กระทบต่อตลาดหุ้นโลก และการลงทุนของกองทุนดัชนีก็คือสถานการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ สงคราม ภาวะเศรษฐกิจโลก ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์สำคัญ และเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก ผู้ลงทุนต้องติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
- ความเสี่ยงจากค่าเงิน เพราะค่าเงินมีการผันผวน และขึ้นลงรายวัน ดังนั้นคุณอาจจะขาดทุนจากค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงได้
เทคนิคเลือก Index Fund
เทคนิคการเลือกกองทุนดัชนี (Index Fund) ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงแค่คุณต้องเริ่มวางแผน วางเป้าหมายว่าต้องการลงทุนดัชนีตัวไหน จากนั้นก็ศึกษาวิธีลงทุน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และอย่าลืมเปรียบเทียบค่าธรรมเนียม
การลงทุนเป็นสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับคนที่อยากหารายได้ที่นอกเหนือจากการทำงานประจำ แต่แนะนำให้เลือกลงทุนจากจำนวนเงินน้อยสำหรับมือใหม่ และถ้าหากคุณอยากได้เงินสดเพื่อการหมุนเวียนในระหว่างลงทุน สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ แล้วเบิกถอนเงินสดจากบัตรฯ โอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ผ่านแอป KTC Mobile หรือเบิกถอนได้ที่ตู้ ATM ซึ่งสามารถเบิกถอนเงินสดได้ 100% ของวงเงินคงเหลือในบัตร
สำหรับข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกองทุนดัชนีเท่านั้น ซึ่งคุณสามารถศึกษา และนำไปวิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนก่อนลงทุนทุกครั้ง แต่ถ้าหากใครสนใจจะลงทุนกองทุนที่กระจายความเสี่ยง และสามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นในไทย และต่างประเทศ มีตัวเลือกค่อนข้างมาก มีความหลากหลาย กองทุนดัชนีถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC