คนชอบเดินทางต้องรู้ บัตรเครดิตหายที่ต่างประเทศทำยังไงได้บ้าง
บัตรเครดิตถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมสำหรับใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้บัตรเครดิตเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เพราะไม่เพียงแต่ใช้จ่ายได้ง่ายสะดวกสบาย ภายใต้วงเงินที่ได้รับการอนุมัติในบัตรจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ยังมีส่วนของสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตอย่าง การสะสมคะแนน เลือกผ่อนชำระ หรือโปรโมชันพิเศษต่าง ๆ จากพาร์ทเนอร์ที่ให้คุณสามารถเลือกใช้จ่ายได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะช่วงที่การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง มีคนจำนวนไม่น้อยเตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวไปยังหลากหลายประเทศ ทั้งประเทศฝั่งทวีปยุโรป อเมริกา และประเทศทางแถบเอเชีย หากเอ่ยถึงการใช้จ่ายในต่างประเทศ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่คนนิยมนำไปใช้คือ “บัตรเครดิต” เพราะไม่เพียงแต่นำไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ รวมถึงยังสามารถใช้เป็นวงเงินสำรองหรือวงเงินใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้อีกด้วย หมดกังวลเรื่องการใช้จ่ายเพราะร้านค้าส่วนใหญ่ในต่างประเทศ มีการรองรับการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น Visa, Mastercard, JCB, UnionPay เป็นต้น แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะในปัจจุบันมักจะเห็นข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวถูกขโมยกระเป๋าสตางค์ ถูกกรีดกระเป๋าหรือบัตรเครดิตหาย ระหว่างการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้หลายคนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นดำเนินขั้นตอนแบบไหนได้บ้าง เมื่อทำบัตรเครดิตหายบทความนี้ KTC ได้รวบรวมข้อมูลและความรู้ที่น่าสนใจมาฝากกัน
ก่อนเดินทางท่องเที่ยวเตรียมตัวยังไงให้รับมือได้กับทุกสถานการณ์
ก่อนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศไม่ควรมองข้าม ในเรื่องการเตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัย หรือในยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งการเตรียมทุกอย่างไว้ย่อมดีกว่าการมองหาช่องทางแก้ปัญหาแบบเร่งด่วนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการเดินทางไปยังต่างประเทศที่อาจพบเจอปัญหาที่มากยิ่งขึ้น เช่น การสื่อการ การดำเนินการ หรือช่องทางการติดต่อต่าง ๆ ที่ควรเตรียมตัวให้พร้อมดังนี้
1.วางแผนงบประมาณค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ
การวางแผนงบประมาณการใช้จ่ายต่าง ๆ ในต่างประเทศแบบคร่าว ๆ จะช่วยให้คุณสามารถคำนวณวงเงินที่ต้องใช้ได้ จากนั้นทำการติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต เพื่อขอปรับวงเงินชั่วคราวให้เป็นวงเงินที่เหมาะสมสำหรับการใช้จ่ายในต่างประเทศครั้งนี้ เปรียบเสมือนเป็นการจำกัดวงเงินการใช้จ่ายบัตรเครดิตใบนั้น ๆ แต่เมื่อเดินทางถึงต่างประเทศแล้วต้องการใช้วงเงินที่เพิ่มมากขึ้น หรือมีความต้องการในการใช้จ่ายเกินกว่าวงเงินที่วางแผนไว้ ก็สามารถติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตเพื่อปรับเพิ่มวงเงินขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมีคอลเซ็นเตอร์ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
2.แจ้งธนาคารว่าจะเดินทางไปต่างประเทศ
หนึ่งสิ่งสำคัญที่หลายคนไม่คาดคิด คือก่อนเดินทางไปยังต่างประเทศหลังจากแจ้งปรับวงเงินแล้วควรแจ้งธนาคารด้วยว่าจะเดินทางไปยังต่างประเทศ เพื่อให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินตรวจสอบการทำธุรกรรมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเดินทางในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูงจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ซึ่งมิจฉาชีพนั้นมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การคัดลอกข้อมูลบัตรเครดิต การฉกชิงวิ่งราวนักท่องเที่ยว การกรีดกระเป๋า ซึ่งธนาคารจะช่วยสอดส่องการใช้จ่ายให้แก่เรา หากเกินการใช้จ่ายที่ผิดปกติธนาคารจะมีการโทรแจ้งเพื่อตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าของบัตรเครดิตได้ ว่ามีการใช้จ่ายด้วยยอดชำระนั้น ๆ จริงหรือไม่ ที่สำคัญแนะนำให้เปิดโหมด Roaming มือถือในระหว่างท่องเที่ยว เพื่อให้สะดวกในการติดต่อกับธนาคารในยามเกิดกรณีเร่งด่วน หรือกรณีฉุกเฉินจะได้สามารถติดต่อได้ทันที
3.บันทึกเบอร์ติดต่อที่จำเป็นทั้งหมด
ก่อนเดินทางท่องเที่ยว ควรทำการบันทึกเบอร์โทรติดต่อที่จำเป็นหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ทั้งเบอร์โทรติดต่อของธนาคารหรือสถาบันการเงินบัตรเครดิต เบอร์ฝ่ายให้บริการลูกค้าในต่างประเทศ รวมถึงบันทึกเบอร์โทรสำหรับแจ้งความ หรือเบอร์โทรของสถานทูตไทยในประเทศนั้น เพื่อทำการปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือในยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
บัตรเครดิตหาย ทํายังไง? ขั้นตอนที่ควรปฏิบัติทันที
ถูกขโมยกระเป๋าสตางค์ในต่างประเทศ
เมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หลายคนอาจมองว่าแค่พกบัตรเครดิตไปไว้สำหรับใช้จ่ายเท่านั้นก็พอ แต่หากมีการวางแผนการใช้จ่ายและปฏิบัติขั้นตอนเหล่านี้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงและสามารถควบคุมการใช้จ่ายของวงเงินในบัตรเครดิตเบื้องต้นได้ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างถูกขโมยบัตรเครดิตหรือบัตรเครดิตหาย สิ่งที่ต้องปฏิบัติมีดังนี้
4.เมื่อรู้ตัวว่าบัตรเครดิตหายควรรีบอายัดบัตรฯ
เมื่อรู้ตัวว่าบัตรเครดิตหาย หรือหาบัตรเครดิตไม่เจอ สิ่งแรกที่ควรทำคือการอายัดบัตรเครดิตใบนั้นโดยเร็วที่สุด ให้ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อแจ้งอายัดบัตรเครดิต สามารถทำได้ 2 วิธีคือ
- อายัดบัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งปัจจุบันธนาคารหรือสถาบันการเงินมีการจัดทำแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงการกดอายัดบัตรเครดิตด้วยตัวเอง สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC สามารถกดอายัดบัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ โดยแอปพลิเคชัน KTC Mobile ดาวน์โหลดได้ทั้งผ่าน App Store, Google Play และ HUAWEI AppGallery
- โทรหา Call Center เพื่อแจ้งว่าบัตรเครดิตหายหรือถูกขโมย และทำการอายัดบัตรเครดิตใบนั้น สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ติดต่อขออายัดบัตรได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 กด 1 ทางธนาคารจะทำการสอบถามข้อมูลเพื่อยืนยันว่าผู้โทรแจ้งอายัดบัตรเป็นเจ้าของบัตรจริง และจะดำเนินการอายัดบัตรให้ทันที
*ในกรณีอายัดบัตรเครดิตไปแล้วและหาเจอภายในหลัง สามารถแจ้งปลดล็อคอายัดได้ภายใน 3 วัน หลังจากทำการอายัดบัตรฯ ไป โดยสามารถปลดล็อคได้ผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile และ KTC PHONE 02 123 5000
5.ทำการแจ้งความและควรเก็บใบแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
เมื่อรู้ตัวว่าถูกขโมยบัตรเครดิตหรือบัตรเครดิตหาย หลังอายัดบัตรเครดิตแล้วควรทำการแจ้งความ แต่ต้องเช็คก่อนว่าประเทศที่เดินทางไปหากไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ตำรวจจะรับแจ้งความเป็นภาษาอังกฤษหรือไม่ เนื่องจากในบางประเทศที่ตำรวจไม่รับแจ้งความด้วยภาษาอังกฤษ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลก่อนเข้าแจ้งความหากเจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งเป็นภาษาอังกฤษ แนะนำให้ติดต่อสถานทูตไทยในประเทศนั้น ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือในการดำเนินเรื่องต่อไป
บัตรเครดิตหายสิ่งที่ควรทำทันทีเมื่อรู้
หลังจากแจ้งอายัดบัตรเครดิตแล้ว ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินเจ้าของบัตรจะทำการออกบัตรเครดิตใบใหม่ให้ โดยการออกบัตรเครดิตใบใหม่จะมีค่าธรรมเนียมการออกบัตรตามแต่ละธนาคารที่กำหนด ซึ่งบัตรเครดิตถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สำคัญมาก ดังนั้นการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าถึงข้อมูลบัตรเครดิตได้จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด และหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทั้งกรณีบัตรเครดิตหายหรือถูกขโมยควรแจ้งอายัดบัตรทันที ดังนั้นการป้องกันไม่ให้บัตรเครดิตหายในระหว่างเดินทางท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ จึงถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด โดยมีเทคนิคและวิธีการมากมายที่ให้คุณห่างไกลจะเหล่ามิจฉาชีพในต่างแดนได้ เพื่อประโยชน์ของผู้ถือบัตรเอง
คลิกดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน KTC Mobile ได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่นี่