เทคนิคการถ่ายภาพช่วงหน้าฝน สวยปังทุกช็อตเหมือนมืออาชีพ

แชร์เคล็ดลับ ถ่ายภาพในหน้าฝนอย่างไรให้สวย

สำหรับคนที่รักในการถ่ายภาพ ช่วงหน้าฝนทีไรมักอดไม่ได้ที่ต้องออกไปท่องโลกกว้างเพื่อชื่นชมความงดงามทางธรรมชาติ เพราะช่วงเวลาแบบนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากฤดูกาลไหน ๆ ให้ทั้งอารมณ์ที่โรแมนติก ลึกลับ สงบ โศกเศร้า ปะปนกันไปท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย สำหรับใครที่เป็นมือใหม่เรื่องการถ่ายภาพวันนี้ทีมงาน KTC จะมาแชร์เทคนิคถ่ายภาพในช่วงหน้าฝนอย่างไรให้สวยปังอย่างมืออาชีพ จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างตามมาดูกันเลย

สิ่งที่ต้องพกติดตัวสำหรับถ่ายภาพในหน้าฝน

การถ่ายภาพหน้าฝนเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามสูง ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกตลอดเวลา เมฆหมอกหนา ท้องฟ้าไร้แสงอาทิตย์ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความเปียกชื้น อย่างไรก็ตามก็ถือเป็นความท้าทายสำหรับช่างภาพ เพราะภาพถ่ายที่ได้ในช่วงเวลาแบบนี้จะกลายเป็นงานศิลปะที่ล้ำค่า แต่ก่อนอื่นการจะออกไปถ่ายรูปในหน้าฝนจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม

อุปกรณ์กันฝน

ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงเสื้อกันฝนสำหรับตัวคุณเอง แต่ยังรวมไปถึงอุปกรณ์กันฝนสำหรับกล้องราคาแพงไม่ว่าจะเป็นเคสกล้องกันน้ำ เลนส์ฮูด ผ้าใบกันฝนสำหรับเอาไว้หลบฝน ตรวจเช็กภาพ เปลี่ยนเลนส์ รวมทั้งรองเท้าสำหรับเดินป่าที่มีความสามารถในการยึดเกาะพื้นผิวในสภาพภูมิประเทศที่เปียกชื้น

กล้องที่ทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อย

แน่นอนว่าบรรยากาศในช่วงหน้าฝนเต็มไปด้วยเมฆหมอกแทบไม่มีแสงแดด จึงจำเป็นต้องเลือกใช้กล้องถ่ายรูปภาพสวยคมชัดที่ทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อย ขอแนะนำกล้อง DSLR (Digital Single Lens Reflex) กล้องถ่ายรูปที่สะท้อนภาพเลนส์เดี่ยวระบบดิจิทัล หรือกล้อง Mirrorless ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เพราะการถ่ายภาพฝนแทบจะใช้กล้องมือถือไม่ได้เลย ต่อให้เป็นมือถือสเปคแรงแค่ไหนก็ตาม เพราะต้องอาศัยช่วงไดนามิกที่กว้างและความไวแสง ISO ที่สูง สำหรับการถ่ายภาพในสภาพอากาศที่เปียกชื้นและมีแสงน้อย

ขาตั้งกล้อง

ฉากฝนตกบางฉากต้องเปิดรับแสงนานเพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์ที่น่าทึ่งยิ่งขึ้น ขาตั้งกล้องจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำมากนัก แต่ขาตั้งกล้องจะช่วยลดความเสี่ยงที่ภาพจะเบลอและกล้องสั่น รวมไปถึงหากคุณเลือกถ่ายภาพฝนตกตอนกลางคืน ขาตั้งกล้องถ่ายรูปก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

อุปกรณ์กันน้ำสำหรับกล้อง จำเป็นสำหรับการถ่ายภาพในช่วงฝนตก

เทคนิคการตั้งค่ากล้องเพื่อถ่ายภาพสายฝนให้สวยงาม

โดยหลักการแล้ว การตั้งค่ากล้องขึ้นอยู่กับประเภทของภาพถ่าย อาทิ ภาพทิวทัศน์ ภาพเมือง หรือภาพบุคคลกลางสายฝน ต่อไปนี้คือการตั้งค่ากล้องที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับการถ่ายภาพช่วงหน้าฝน สามารถนำไปใช้ถ่ายตามที่เที่ยวหน้าฝนได้ทุกที่

เลือกใช้ฟิลเตอร์ที่เหมาะสม

การถ่ายภาพช่วงหน้าฝนจำเป็นต้องมีฟิลเตอร์พกติดตัวมากกว่าหนึ่งตัว เพื่อการถ่ายภาพที่ตอบโจทย์ ขอแนะนำฟิลเตอร์โพลาไรซ์ (PL) เป็นฟิลเตอร์สำหรับใช้เพื่อลดแสงสะท้อนและแสงจ้า เพิ่มความอิ่มตัวของสีของภาพ มักใช้ในการถ่ายภาพทิวทัศน์ เพื่อทำให้สีสันดูสดใสยิ่งขึ้นและสร้างท้องฟ้าที่น่าทึ่ง

นอกจากนี้ฟิลเตอร์ Neutral Density Filter (ND) ก็จะขาดไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นฟิลเตอร์ที่ทำหน้าที่ “ลด” ปริมาณแสงให้น้อยได้ตามต้องการ ในสถานการณ์ที่มีแสงมากเกินไป อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถลด Shutter Speed ให้ต่ำลงได้ เพื่อสร้างภาพเบลอจากการถ่ายภาพเคลื่อนไหว เช่น สายฝน หรือน้ำตก เป็นต้น

ตั้งค่า ISO ปานกลางถึงสูง

ใช้ค่า ISO ที่สูงขึ้นเพื่อรับมือกับสภาวะแสงน้อยในช่วงหน้าฝน ซึ่งจะช่วยให้คุณรักษาความเร็วชัตเตอร์ให้เร็วและจับเม็ดฝนได้

ความเร็วชัตเตอร์

ความเร็วชัตเตอร์มีส่วนสำคัญอย่างมากในการจับภาพฝนกำลังตก หยดน้ำ น้ำกระเซ็น หรือวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวอื่น ๆ เหตุการณ์ทั้งหมดต้องการความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วมากพอจึงจะได้ภาพที่สวยงาม

รูรับแสงขนาดใหญ่

รูรับแสงกว้างช่วยให้แสงเข้าสู่กล้องได้มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญกับการถ่ายภาพในวันฝนตกและมีแสงน้อย

ใช้แมนนวลโฟกัส

การถ่ายภาพใด ๆ ก็ตามย่อมมีวัตถุหลักซึ่งควรค่าแก่การเอาใจใส่ อย่าปล่อยให้กล้องเลือกจุดโฟกัสเอง เพราะอาจเสี่ยงไปโฟกัสในจุดที่ไม่สำคัญหรือคุณไม่ต้องการ การเลือกโหมดโฟกัสแบบแมนนวลช่วยให้คุณควบคุมค่าแสงได้ และยังสามารถเลือกเพิ่มส่วนที่สว่างหรือมืดของฉากได้ด้วย

ใช้แฟลชในโหมดแมนนวล

การใช้แฟลชในโหมดแมนนวลคืออีกวิธีสำหรับเทคนิคถ่ายภาพเม็ดฝนให้สะท้อนแสงอย่างที่คุณต้องการ นอกจากนี้การใช้แฟลชยังช่วยให้คุณรักษาความเร็วชัตเตอร์ให้สูงได้ด้วยเช่นกัน

ข้อแนะนำเมื่อกล้องถ่ายรูปเปียกน้ำ

การถ่ายภาพช่วงหน้าฝน มีความเป็นไปได้มากที่กล้องถ่ายรูปคู่ใจของคุณอาจเปียกน้ำฝนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกล้องราคาแพง มีข้อแนะนำดี ๆ มาฝากดังนี้

1. ห้ามเปิด-ปิดกล้องเด็ดขาด

การเปิด-ปิดกล้องเพื่อตรวจเช็กว่ากล้องยังใช้งานได้อยู่ไหม เป็นการกระทำที่ผิดและอาจสร้างความเสียหายมากขึ้นให้กับกล้อง เนื่องจากความชื้นอาจทำให้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เกิดการช็อตได้

2. ถอดแบตเตอรี่ออกทันที

ควรถอดแบตเตอรี่และเมมโมรี่การ์ดออกจากกล้องให้เร็วที่สุด เพราะความชื้นอาจทำให้เกิดความเสียหายกับวงจรภายใน ซึ่งอาจทำให้กล้องไม่สามารถบันทึกภาพลงใน Memory card ได้

3. ห้ามใช้ไดร์เป่าผมเป่ากล้อง

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า เมื่อกล้องเปียกให้รีบทำให้แห้งโดยการนำไดร์เป่าผมมาเป่า ซึ่งแท้จริงแล้วความร้อนจากไดร์เป่าผมอาจทำให้แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความเสียหายได้ ควรเปลี่ยนมาใช้เป็นลูกยางเป่าจะปลอดภัยกว่า

4. ไล่ความชื้นด้วยซิลิก้าเจล

เมื่อทำการถอดแบตเตอรี่และเมมโมรี่การ์ดออกแล้ว หลังเช็ดและเป่าด้วยยางเป่าไล่น้ำ ให้นำกล้องใส่ถุงพลาสติกที่มีซิลก้าเจล หรือถุงไล่ความชื้นบรรจุอยู่ เพื่อให้ดูดซับความชื้นที่หลงเหลือออกจนหมด

5. นำกล้องตรวจเช็กสภาพที่ศูนย์บริการ

หลังทำทุกขั้นตอนครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายควรนำกล้องไปตรวจเช็กสภาพที่ศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะที่ศูนย์บริการจะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยและพร้อมมากกว่า

ช้อปคุ้มเพื่อคนรักกล้อง กับบัตรเครดิต KTC

KTC เอาใจคนรักการถ่ายภาพ จัดโปรโมชั่นกล้องและอุปกรณ์มากมาย

สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ท่านใดที่กำลังคิดจะซื้อกล้องถ่ายรูปสวย ๆ ล่าสุด KTC จัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อคนรักกล้องโดยเฉพาะ

ร้าน Big Camera

ช้อปสินค้ากล้องและอุปกรณ์เสริมที่ BIG CAMERA กับบัตร KTC รับความคุ้มค่า 2 ต่อ

คุ้มที่ 1 : ผ่อนชำระ 0% พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 36,000 บาท
คุ้มที่ 2 : แลกรับเครดิตเงินคืนเพิ่มทันทีสูงสุด 17%

ระยะเวลาโปรโมชั่น
ตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค. 66

ร้าน World Camera

ช้อปสินค้ากล้องและอุปกรณ์เสริมที่ WORLD CAMERA กับบัตร KTC รับความคุ้มค่า 2 ต่อ

คุ้มที่ 1 : ผ่อนชำระ 0% พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 36,000 บาท
คุ้มที่ 2 : แลกรับเครดิตเงินคืนเพิ่มทันที 15%

ระยะเวลาโปรโมชั่น
ตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค. 66

ร้าน Zoom Camera

ช้อปสินค้ากล้องและอุปกรณ์เสริมที่ ZOOM CAMERA กับบัตร KTC รับความคุ้มค่า 2 ต่อ

คุ้มที่ 1 : ผ่อนชำระ 0% พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 36,000 บาท
คุ้มที่ 2 : แลกรับเครดิตเงินคืนเพิ่มทันที 13%

ระยะเวลาโปรโมชั่น
ตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค. 66

การถ่ายภาพท่ามกลางสายฝนทำให้คุณออกจาก Comfort Zone ได้เรียนรู้ที่จะทำงานในสภาวะที่ยากลำบากและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นการฝึกฝนทักษะและความอดทนได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้อุปกรณ์ที่ใช้ต้องตอบโจทย์การใช้งาน เพื่อให้ภาพถ่ายที่ได้เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่คุณต้องการจะสื่อนั่นเอง

คลิกดูรายละเอียดโปรโมชั่น ช้อปคุ้ม เพื่อคนรักกล้อง กับบัตร KTC