10 Apple Watch รุ่นไหนดีสุด พร้อมอัพเดทราคาล่าสุดปี 2025

ไอเทมที่สายสุขภาพไม่ควรพลาดก็คือ “Apple Watch” หนึ่งในนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) ที่นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาช่วยวัดและประมวลผลกิจกรรมประจำวัน รวมถึงอ่านค่าข้อมูลในด้านสุขภาพ อาทิ อัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด อัตราการหายใจ และอื่นๆ พร้อมกับจุดเด่นที่สามารถเชื่อมต่อกับไอโฟนและใช้ฟังก์ชันร่วมกันได้อย่างชาญฉลาด หากใครกำลังมองหา Apple Watch สักรุ่น ลองเลือกดู 10 รุ่น Apple Watch ดังต่อไปนี้ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ เลือก Apple Watch ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด พร้อมอัพเดทราคาล่าสุดปี 2025

วิธีเลือก Apple Watch รุ่นต่างๆ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

แนะนำก่อนซื้อ Apple Watch ให้ตั้งงบประมาณที่ต้องการ จากนั้นเลือกฟังก์ชันที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ รวมถึงขนาดหน้าจอ วัสดุตัวเรือน และชิปประมวลผล โดยราคาของ Apple Watch มีให้เลือกตั้งแต่ 7,900 - 30,000 บาทขึ้นไป

หากมีงบประมาณจำกัด หรือต้องการประหยัดเงิน แนะนำโปรโมชั่นซื้อ Apple Watch ที่ Apple Store และ Apple Online Store กับบัตรเครดิต KTC ด้วยการแลกคะแนน KTC FOREVER เพื่อรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% มีรายละเอียด ดังนี้

• แลกคะแนน KTC FOREVER รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายตามยอดที่กำหนดและแลกคะแนนตั้งแต่ 1,000 คะแนน สูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป
• แลกคะแนน KTC FOREVER รับเครดิตเงินคืน 13% (สำหรับยอดใช้จ่าย 1,000 – 9,999 บาท)
• แลกคะแนน KTC FOREVER รับเครดิตเงินคืน 15% (สำหรับยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป)
• ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ม.ค. 68 – 30 มิ.ย. 68

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

1.Apple Watch SE รุ่นที่ 2 - GPS

ถือว่าเป็น Apple Watch รุ่นที่คุ้มค่ากับราคา และเหมาะกับคนที่มีงบไม่เกิน 10,000 บาท เพราะรุ่นนี้เริ่มต้นที่ 7,900 บาท ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการฟังก์ชันพื้นฐาน และต้องการเลือกขนาดหน้าจอ เพราะมีสองขนาดให้เลือกคือ 40 และ 44 มม. มาพร้อมชิปประมวลผล SiP รุ่น S8 ที่ประมวลผลเร็ว และสามารถค้นหาไอโฟนได้ หน้าจอเป็นแบบ Retina สูงสุด 1,000 ยูนิต แต่รุ่นนี้ไม่สามารถใช้คำสั่งแตะหน้าจอได้ ใส่ว่ายน้ำได้เหมือนรุ่นอื่นทั่วไป กันน้ำลึกได้ 50 เมตร และใช้งานแบตเตอรี่ได้ 18 ชั่วโมง

ข้อดี

1. ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับ Apple Watch ทุกรุ่น
2. มีขนาดหน้าจอให้เลือก ระหว่าง 40 และ 44 มม.

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

2.Apple Watch SE รุ่นที่ 2 - GPS + CELLULAR

ใครมองหา Smart Watch ให้ลูก หรืออยากใช้แชร์โลเคชั่นให้กับคนในครอบครัว แนะนำรุ่นนี้ เพราะว่าเป็นการใช้ระบบ GPS + CELLULAR ที่เพิ่มความแม่นยำในการ Tracking ตำแหน่งของผู้สวมใส่ และสามารถเชื่อมต่อกับเบอร์โทรศัพท์ได้โดยตรง อีกทั้งยังสามารถรับสาย หรือดูแจ้งเตือนข้อความได้ผ่านนาฬิกา Apple Watch นอกจากนั้นความพิเศษคือราคาคุ้มค่า เริ่มต้นที่ 9,900 บาท ช่วยวัดค่าสุขภาพต่างๆ ได้ดี ติดตามรอบเดือน และแสดงสัญญาณชีพในขณะนอนหลับ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 18 ชั่วโมง

ข้อดี

1. เชื่อมต่อกับเบอร์โทรศัพท์ สามารถบอกตำแหน่งได้แม่นยำ
2. รับสายโทรศัพท์ หรือดูแจ้งเตือนข้อความได้แม้ไม่ได้พก iPhone

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

3.Apple Watch Series 10 - GPS (อะลูมิเนียม)

เป็น Apple Watch ในตระกูล Series รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวออกมาได้ฮือฮา และได้รับความสนใจจากสายสุขภาพที่ต้องการ Smart Watch ที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้น เหมาะกับการวิ่ง หรือออกกำลังกายเพราะตัวเรือนถูกปรับให้บางลง มีขนาดหน้าจอให้เลือกระหว่าง 46 และ 42 มม. มาพร้อมกับจอภาพคมชัดสุดประทับใจ Retina LTPO3 OLED ให้ความสว่างสูงขึ้น 40% เพิ่มการติดตามรอบเดือนสำหรับสุภาพสตรี ประมวลผลด้วย SiP รุ่น S10 ใช้ฟังก์ชันแตะสองนิ้วได้ โดดเด่นด้วยโหมดประหยัดพลังงานใช้งานได้ยาว 36 ชั่วโมง

ข้อดี

1. หน้าจอมีขนาดใหญ่ และบางลง
2. โหมดประหยัดพลังงานใช้งานได้นาน 36 ชั่วโมง

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

4. Apple Watch Series 10 - GPS + CELLULAR (อะลูมิเนียม)

เพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ ด้วยการใช้งาน Apple Watch โดยปราศจากโทรศัพท์มือถือ ให้คุณได้รับสายโทรศัพท์ และไม่พลาดทุกการอัพเดทได้แม้ขณะที่ออกกำลังกาย ซึ่งเป็นจุดเด่นของรุ่น GPS + CELLULAR เหมาะกับคนที่ต้องไม่พลาดทุกการติดต่อ ส่วนความเร็ว การประมวลผล และฟังก์ชันแตะนิ้วสองครั้ง ช่วยทำให้คุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยชิป SiP รุ่น S10 ที่ทั้งเร็ว และแรง อีกทั้งยังมีการปรับปรุงหน้าจอให้ติดตลอด ให้ผู้ใช้งานมองดูเข็มนาฬิกาได้โดยไม่ต้องออกแรงพลิกนาฬิกา

ข้อดี

1. เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ไอโฟน และฟังก์ชันรับสาย ตอบข้อความได้โดยไม่ต้องมีโทรศัพท์อยู่ใกล้
2. หน้าจอออกแบบให้กว้าง ใหญ่ และมีหน้าจอติดตลอด

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

5. Apple Watch Series 10 - GPS + CELLULAR (ไทเทเนียม)

ต้องการความพรีเมี่ยม อยากได้ Apple Watch ที่ทำจากวัสดุไทเทเนียม แต่ไม่ต้องการซื้อรุ่น Ultra ลองเลือกดู Apple Watch Series 10 รุ่นไทเทเนียมรับรองไม่ผิดหวัง เพราะเป็นรุ่นเดียวของ Series 10 ที่มาพร้อมกับ GPS + CELLULAR ให้คุณได้เชื่อมต่อนาฬิกากับ iPhone ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด จุดเด่นของรุ่นไทเทเนียม นอกจากวัสดุจะสวยหรูหรา ยังมีน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับ สแตนเลสรุ่นก่อนหน้าถึง 20% ส่วนฟังก์ชันก็ครบครัน และมีหน้าจอให้เลือกสองขนาดคือ 40 และ 44 มม. เหมือนกับรุ่นวัสดุอะลูมิเนียม

ข้อดี

1. น้ำหนักเบาขึ้นกว่าสแตนเลสสตีล 20%
2. หน้าจอสว่างมากขึ้น 40% เมื่อมองจองจากด้านข้าง

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

6. Apple Watch Ultra 2

ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์สาย Adventure ชอบดำน้ำ เดินป่า ปีนผา หรือเป็นนักกีฬา แนะนำนาฬิกา Apple Watch Ultra 2 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ และการผจญภัยโดยเฉพาะ ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นรุ่นท็อป และแพงที่สุดของ Apple Watch มาด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ที่สุด 49 มม. ตัวเรือนใช้วัสดุไทเทเนียมที่มีความทนทาน หน้าจอแบบติดตลอด สว่างแม้อยู่ในที่มืดด้วย จอภาพ Retina LTPO2 OLED สูงสุด 3,000 ยูนิต มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนรุ่นอื่น คือสามารถกันน้ำได้ 100 เมตร เหมาะกับนักดำน้ำแบบ Scuba ผ่านการทดสอบความทนทาน MIL-STD 810H และโหมดพลังงานใช้งานได้สูงสุด 72 ชั่วโมง

ข้อดี

1. ออกแบบมาสำหรับนักกีฬา หรือคนชอบทำกิจกรรม Adventure
2. กันน้ำลึกได้ 100 เมตร และกันน้ำ กันฝุ่น กันลมได้ดีมาก

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

7. Apple Watch Series 9 GPS (อะลูมิเนียม)

หากใครมีงบประมาณที่จำกัด และต้องการซื้อ Apple Watch ในตระกูลซีรีย์ แนะนำ Apple Watch Series 9 ตัวเรือนอะลูมิเนียม เพราะราคาเริ่มต้นที่ 12,000 เป็นต้นไป ถือว่าคุ้มค่า เพราะได้รุ่นที่ใช้ชิป SiP รุ่น S9 ใช้คำสั่งแตะสองนิ้วได้ และได้ Retina LTPO OLED แบบติดตลอด ด้วยขนาดหน้าจอที่มีให้เลือกระหว่าง 45 หรือ 41 มม. สามารถกันน้ำได้ 50 เมตร และรุ่นนี้พิเศษกว่ารุ่นอื่น เพราะมีตัวเรือนสีชมพู และสีแดงให้เลือก ส่วนฟังก์ชันพื้นฐานอื่นๆ สามารถทำได้ เช่น วัดหัวใจแบบไฟฟ้า วัดออกซิเจนในเลือด หรือแอป ECG

ข้อดี

1. มีวัสดุให้เลือกสองแบบ
2. มีขนาดหน้าจอ 41 มม. เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหน้าจอใหญ่

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

8. Apple Watch Series 9 GPS + CELLULAR (อะลูมิเนียม)

Apple Watch รุ่น Series 9 GPS + CELLULAR ยังคงเป็นรุ่นที่น่าสนใจ เพราะเป็นรุ่นแรกที่ทาง Apple ได้มีการพัฒนา และอัพเกรดความสามารถหลายประการ อาทิ คำสั่งแตะนิ้วสองครั้ง การค้นหาที่ตั้งจริงของ iPhone จอภาพสว่างขึ้น หรือแม้แต่มีการนำชิป SiP รุ่น S9 ที่มีประสิทธิภาพสูง ส่วนรุ่นอะลูมิเนียมนั้นเหมาะกับคนที่ต้องการนาฬิกาน้ำหนักเบา มีงบประมาณที่จำกัด เพราะราคาเริ่มต้นถูกกว่ารุ่นที่สแตนเลสอยู่เกือบเท่าตัว รุ่นนี้เหมาะกับพ่อแม่ที่อยากซื้อให้ลูก หรือซื้อให้คนในครอบครัว

ข้อดี

1. เชื่อมต่อใช้โทรศัพท์โดยที่ไม่ต้องมีโทรศัพท์อยู่ใกล้
2. น้ำหนักเบา

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

9. Apple Watch Series 9 GPS + CELLULAR (สแตนเลส)

แนะนำคนที่ชอบความหรูหรา อยากได้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน และมีหน้าจอแบบพิเศษใช้วัสดุ Sapphire Crystal ที่เป็นรอยได้ยาก ให้คุณได้ใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลว่าหน้าจอจะเป็นรอย เหมาะกับผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือ Adventure แม้ว่าน้ำหนักของ Apple Watch Series 9 ที่ทำจากสแตนเลสจะมีมากกว่ารุ่นอะลูมิเนียม และมีราคาที่แพงมากขึ้นตามไปด้วย แต่ข้อดีก็คือความทนทาน วัสดุหรูหรา ส่วนสายนาฬิกาสามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งสองรุ่น ส่วนรุ่น GPS + CELLULAR จะใช้งานการตอบข้อความ คือค้นหา iPhone ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้

ข้อดี

1. หน้าจอทำจาก Sapphire Crystal เป็นรอยยาก
2. มีน้ำหนักไม่เบา ดูหรูหรา

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.apple.com/th/

10. Apple Watch Series 8

ถึงแม้ว่าจะเป็น Apple Watch รุ่นเก่า แต่สเปคเมื่อเทียบกับราคาถือว่าคุ้มค่า เพราะเริ่มต้นที่ราคาไม่แพง และได้ฟังก์ชันที่อัพเกรดมาแล้ว โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่มีการใส่โปรแกรมติดตามรอบเดือน และเซ็นเซอร์การวัดอุณหภูมิที่แม่นยำมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน และมีการออกแบบให้ขอบบาง หน้าจอมีความเต็ม และคมชัดด้วย จอภาพ Retina LTPO OLED แบบติดตลอดที่ถือเป็นจุดเด่นของ Apple Watch ฉบับซีรีย์ แต่อาจจะต้องชาร์จบ่อยหน่อย เพราะไม่มีโหมดประหยัดพลังงาน แต่รองรับการชาร์จเร็ว

ข้อดี

1. สเปคดี คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
2. มีวัสดุให้เลือกสองแบบ

อัพเดทราคา Apple Watch ล่าสุดปี 2025

หลังจากศึกษาเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน และคุณสมบัติการแสดงผลด้านสุขภาพ แนะนำให้เปรียบเทียบราคาของแต่ละรุ่น เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่แตกต่าง และวัสดุตัวเรือนมีผลต่อเรื่องราคาเป็นอย่างมาก สามารถดูราคาของ Apple Watch ล่าสุดปี 2025 ได้ตามตารางข้างล่างนี้

ราคา Apple Watch SE รุ่นที่ 2

ราคา Apple Watch Series 10

ราคา Apple Watch Ultra 2

*ราคาเริ่มต้นจากเว็บไซต์ Apple Store

ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของ Apple Watch ที่มือใหม่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือวัสดุ และประเภทของสายนาฬิกา เพราะสายประเภทต่างๆ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อนักกีฬา หรือนักดำน้ำโดยเฉพาะ แต่ส่วนใหญ่แล้วสาย Apple Watch สามารถใช้ด้วยกันได้ นอกจากฟังก์ชันที่ต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์แล้ว การเลือกสายนาฬิกาก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่ไม่ว่าจะทั้งนาฬิกา สายนาฬิกา หรือสินค้าอื่นๆ ใน Apple Store สามารถใช้โปรโมชั่นแลกคะแนน KTC FOREVER เพื่อรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 15% สนใจโปรโมชั่นดีๆ แบบนี้ กดสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC