ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ แห่งนี้ถูกรายล้อมด้วยหลากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศเอกวาดอ โคลัมเบีย บราซิล หรือว่าโบลิเวียและยังเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอนดีสอีกด้วย
จุดเด่นของประเทศเปรูคือของล้ำค่าที่ไม่เหมือนที่ใดในโลกนั่นก็คือมรดกทางโบราณคดีสมัยก่อนยุคโคลัมบัสและสิ่งปลูกสร้างของอาณาจักร อินคาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามายังประเทศนี้
มาเปรู ต้องมาเที่ยว มาชู ปิคชู (Machu Picchu)
เมื่อพูดถึงประเทศเปรูแล้ว หลายคนคงจะนึกถึงอะไรไปไม่ได้นอกจาก มาชู ปิคชู (Machu Picchu) เชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ของผู้นำอาณาจักรอินคา ซึ่งเสื่อมลงจากการบุกรุกของชาวสเปนในศตวรรษที่ 16 จากนั้นหลายร้อยปีต่อมาจึงถูกค้นพบโดย Hiram Bingham นักโบราณคดีชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตามไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าผู้บุกรุกได้เข้ามาในอาณาจักรแห่งนี้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนคาดเดากันว่าสาเหตุที่ เมืองนี้รกร้างอาจเป็นเพราะมีไข้ทรพิษระบาด
1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ปัจจุบันมาชู ปิคชูได้กลายเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ใกล้ศูนย์พันธุ์อีกด้วย มีนักท่องเที่ยวมาเยือนสถานที่แห่งนี้เพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและตื่นตาตื่นใจไปกับสิ่งมหัศจรรย์ที่สร้างจากฝีมือมนุษย์แห่งนี้มากกว่าหนึ่งหมื่นคนต่อปี จาก มาชู ปิคชูมา สู่เมืองลิมา (Lima) เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของประเทศเปรู แน่นอนว่าศูนย์กลางของประเทศเปรูแห่งนี้ต้องมีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย และหนึ่งในสถานที่นั้นก็คือ El Circuito M?gico del Agua น้ำพุทั้ง 13 แห่งในสวนสาธารณะ Parque de la Reseva นี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2007 ด้วยงบกว่า 13 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
การแสดงน้ำพุ Fuente de la Fantasia
การมาเดินชมน้ำพุในยามค่ำคืนนั้นอาจไม่ใช่สไตล์ของใครหลายคน แต่การมาเที่ยวชมน้ำพุที่นี่นั้นอาจจะทำให้ได้ความเพลิดเพลินกลับไปไม่น้อยเนื่องจากว่าที่นี่มีการจัดการแสดงน้ำพุ Fuente de la Fantas?a ซึ่งจะจัดให้ชม 3 ครั้งต่อคืน ตั้งแต่เวลา 19.15 น., 20.15 น. และ 21.30 น. นอกจากเมืองลิมาที่มีชื่อเสียงและขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศแล้ว เมือง Arequipa ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศนี้ก็มีชื่อเสียงเช่นกัน เมือง Arequipa ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองสีขาว เนื่องจากว่าสิ่งปลูกสร้างเกือบทั้งหมดในเมืองเป็นสีขาว และยังมีภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะอีกด้วย ในแต่ละปีเมืองแห่งนี้จะมีท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งอย่างน้อย 300 วัน จึงถูกจัดว่าเป็นเมืองที่อากาศดีเมืองหนึ่งของประเทศ
Museums of Arequipa
เมื่อมาที่เมือง Arequipa แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดก็คือ The Valley of the Volcanoes ซึ่งจะมีจุดที่เคยเกิดลาวาและชั้นของลาวาเหล่านี้ยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน Colca Valley สถานที่ทัศนศึกษาที่ขึ้นชื่อของเมือง และ Museums of Arequipa ที่องกรณ์ยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม
เทือกเขา Cordillera Blanca
จากหุบเขาเลื่องชื่อต่างๆแล้วมาต่อกันที่เทือกเขา Cordillera Blanca ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในโลก สิ่งที่น่าสนใจของเทือกเขาแห่งนี้ก็คือทะเลสาบน้ำแข็ง พันธ์พืชต่างๆ และอุทยานแห่งชาติวาสการาน แหล่งกำเนิดของดอกไม้ยักษ์อย่างดอกปูย่า ดอกไม้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นราชินีดอกไม้แห่งเทือกเขาแอนดีส ดังนั้นการค้นพบดอกปูย่าจึงถือเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของการมาเยือนสถานที่แห่งนี้
หากว่าต้องการสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเปรูแล้วละก็ นักท่องเที่ยวสามารถมาที่ Islas Uros หรือเกาะลอยน้ำของชาวอูรอสที่อยู่ในอ่าวของทะเลสาบ Titicaca ห่างจากตัวเมืองปูโน่ประมาณ 14 กิโลเมตรแห่งนี้ได้ เกาะแห่งนี้มีฐานรองที่สร้างจากรากของต้นกกและถูกมุงทับอีกครั้งด้วยฟาง ชาวอูรอสที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ ไม่มีไฟฟ้า หรือน้ำประปาใช้ และยังคงแต่งกายแบบชนพื้นเมือง นับว่าเป็นวิถีชีวิตที่ปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกในปัจจุบันแต่ก็มีความเรียบง่ายอย่างแท้จริง
Do you know ? :
ประเทศเปรูเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศโดยปราศจากวีซ่าเป็นเวลา 90 วัน
How to go:
การเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศเปรูนั้นจะต้องมีการแวะเปลี่ยนเครื่อง 1-2 จุด
สายการบินที่เหมาะแก่การใช้บริการคือสายการบินลาแทม (LATAM) ซึ่งหากใช้เส้นทางยุโรปจะมีการแวะเปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้ง
หากใช้เส้นทางอเมริกาจะมีการแวะเปลี่ยนเครื่อง 2 ครั้ง ทั้งนี้เวลาในการเดินทางของทั้ง 2 เส้นทางจะใช้เวลาเท่ากันคือ 30 ชั่วโมง