ไหว้พระทำบุญวันพระใหญ่ที่อยุธยา อิ่มบุญ สุขใจกันถ้วนหน้า
วันพระเป็นวันสำคัญที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ได้มารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้งการฟังเทศน์ฟังธรรม รักษาศีล ช่วยเหลือสังคม ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และทำบุญทำทาน ซึ่งแน่นอนว่าใกล้เข้าสู่ช่วงกลางปีแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคงกำลังมองหาสถานที่ทำบุญในวันพระใหญ่ใกล้กรุงเทพ เพื่อเติมแต้มบุญที่ช่วยให้การใช้ชีวิตราบรื่นตลอดครึ่งปีหลัง บทความนี้ KTC ชวนทุกคนเยือน “อยุธยา” ราชธานีเก่าของไทย ตระเวนไหว้พระทำบุญ ณ วัดเก่าแก่ที่เป็นที่เที่ยวอยุธยายอดฮิต อิ่มบุญอิ่มใจพร้อมปิดท้ายอิ่มท้องกันที่ร้านอาหารอยุธยาเจ้าเด็ด ที่มีเมนูความอร่อยหลากหลายรอเสิร์ฟ รสชาติถูกปากในราคาถูกใจ
วันพระใหญ่คือ? มีความสำคัญอย่างไรกับชาวพุทธ
วันพระใหญ่เป็นวันมงคลที่ศาสนิกชนนิยมเข้าวัดเพื่อทำบุญ ฟังเทศน์ ถือศีล และงดเว้นจากการทำบาปทั้งปวง โดยความแตกต่างระหว่างวันพระใหญ่และวันพระเล็ก คือ วันพระเล็กจะเกิดขึ้นในวันขึ้น 8 ค่ำและวันแรม 8 ค่ำ ส่วนวันพระใหญ่ที่เป็นโอกาสพิเศษจะเกิดขึ้นทุกวันขึ้น 15 ค่ำและวันแรม 15 ค่ำในเดือนเต็ม และวันแรม 14 ค่ำในเดือนขาด ทั้งนี้จะรวมไปถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษาที่ถือว่าเป็นหนึ่งในวันพระใหญ่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้วันพระใหญ่ยังเป็นวันที่พระจะลงอุโบสถหรือสวดปาฏิโมกข์ เพื่อทบทวนวินัยสงฆ์ทั้ง 227 ข้อ เป็นสังฆกรรมเฉพาะพระภิกษุเท่านั้น ทั้งยังเป็นวันพิเศษที่ญาติโยมนิยมเข้าวัดเข้าวา เพื่อชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ด้วยการถือศีล ทำบุญ ทำทาน และปฏิบัติธรรม แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าจะเป็นวันพระใหญ่ วันพระเล็ก หรือวันธรรมดา การรักษาศีล ทำจิตใจให้สงบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และมีจิตใจที่เมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ถือเป็นกิจกรรมที่สามารถปฏิบัติกันได้ทุกวัน ไม่มีถูกไม่มีผิด โดยปี 2566 วันพระใหญ่ตรงตามวันที่ ดังนี้
เดือนมกราคม
- วันศุกร์ที่ 6 มกราคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2
- วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 แรม 15 ค่ำ เดือน 2
เดือนกุมภาพันธ์
- วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3
- วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 แรม 14 ค่ำ เดือน 3
เดือนมีนาคม
- วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 (วันมาฆบูชา)
- วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 แรม 15 ค่ำ เดือน 4
เดือนเมษายน
- วันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5
- วันพุธที่ 19 เมษายน 2566 แรม 14 ค่ำ เดือน 5
เดือนพฤษภาคม
- วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
- วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 แรม 15 ค่ำ เดือน 6
วันพระใหญ่ 2566 ตรงกับวันไหนบ้าง
เดือนมิถุนายน
- วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 (วันวิสาขบูชา)
- วันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน 2566 แรม 14 ค่ำ เดือน 7
เดือนกรกฎาคม
- วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
- วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2566 แรม 15 ค่ำ เดือน 8
เดือนสิงหาคม
- วันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 (วันอาสาฬหบูชา)
- วันพุธที่ 2 สิงหาคม 2566 แรม 1 ค่ำ เดือน 8 (วันเข้าพรรษา)
- วันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566 แรม 15 ค่ำ เดือน 8
- วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9
เดือนกันยายน
- วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน 2566 แรม 14 ค่ำ เดือน 9
- วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10
เดือนตุลาคม
- วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2566 แรม 15 ค่ำ เดือน 10
- วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
เดือนพฤศจิกายน
- วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2566 แรม 14 ค่ำ เดือน 11
- วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
เดือนธันวาคม
- วันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2566 แรม 15 ค่ำ เดือน 12
- วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1
สายมูห้ามพลาด ไหว้พระอยุธยาเสริมสิริมงคล เดินทางง่าย ใกล้กรุงเทพ
วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคล สถานที่รวมเรื่องราวประวัติศาสตร์อยุธยา
วัดใหญ่ชัยมงคลถือเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตของอยุธยา โดยที่นี่มีจุดเด่นอยู่ที่เจดีย์องค์ใหญ่ที่มีความเชื่อกันว่าได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่เมื่อคราวที่กรุงศรีอธุยาเสียกรุงครั้งที่ 2 วัดใหญ่ฯ เคยถูกทิ้งร้างไว้ และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ วัดแห่งนี้ได้รวบรวมประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาไว้มากมาย อีกทั้งภายในวัดยังเต็มไปด้วยความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก ปัจจุบันวัดใหญ่ชัยมงคลถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมากราบไหว้และให้ความเคารพนับถือกันเป็นจำนวนมาก
ที่ตั้ง : ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
วัดพุทไธศวรรย์
วัดพุทไธศวรรย์ วัดเก่าแก่อยุธยา
วัดพุทไธศวรรย์เป็นพระอารมหลวงเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บริเวณนอกเกาะเมืองอยุธยา ทั้งยังเป็นวัดที่พระเจ้าอู่ทองโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นภายในบริเวณที่เคยตั้งพลับพลาที่ประทับ ภายในวัดมีความสวยงามที่น่าสนใจ ทั้งพระมหาธาตุที่เป็นปรางค์ประธานสีขาวโดดเด่นด้วยศิลปะแบบขอม ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ตรงกึ่งกลางอาณาเขตพุทธาวาส วิหารพระพุทไธศวรรย์ ทั้งยังมีระพุทธรูปปางมารวิชัยที่เชื่อกันว่าหากมีอาการเจ็บป่วยแล้วไปขอพร จะช่วยให้อาการป่วยต่าง ๆ ทุเลาลงได้
ที่ตั้ง : ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
วัดตะโก
วัดตะโก วัดชื่อดังโดดเด่นเรื่องการขอเงิน
วัดตะโกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2345 เป็นวัดอยุธยาขอพรเรื่องเงินและค้าขายร่ำรวยที่ได้รับความนิยม โดยที่นี่เป็นที่ประดิษฐานสรีระสังขารหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก เกจิอาจารย์ชื่อดังในเรื่องวัตถุมงคลต่าง ๆ เมตตามหานิยมและความมั่งคั่ง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีศาลากลางน้ำทรงไทยที่ล้อมด้วยพญานาคสีขาวให้ได้เดินชมและถ่ายรูปเล่นแบบเพลิน ๆ ใครมองหาวัดสวยที่อยู่นอกเขตอำเภอเมืองอยุธยาต้องห้ามพลาด
ที่ตั้ง : ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดเก่าแก่ของอยุธยา
วัดพนัญเชิงวรวิหารตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักที่มาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต หรือ “พระพุทธไตรรัตนนายก” พระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ โดยผู้คนนิยมไปกราบไหว้ ขอพรให้แคล้วคลาด ปลอดภัย และเสริมบารมีให้ชีวิต ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง ไม่แออัด มีที่จอดรถไว้บริการนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่สำคัญวัดพนัญเชิงวรวิหารยังติดหนึ่งในลิสต์สถานที่ไหว้พระ 9 วัดอยุธยาที่ต้องห้ามพลาดด้วยเสมอ
ที่ตั้ง : ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
วัดพระศรีสรรเพชญ์
วัดพระศรีสรรเพชญ์ โดดเด่นด้วยเจดีย์ทรงลังกา 3 องค์
วัดพระศรีสรรเพชญ์ สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2035 ทั้งยังเคยเป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวัง หรือเป็นวัดที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงของพระนครศรีอยุธยาในสมัยอดีต ที่สำคัญยังเป็นวัดประจำวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา หากให้เทียบก็เปรียบเสมือนกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามในกรุงเทพฯ นั่นเอง สำหรับจุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ เจดีย์ทรงลังกา จำนวน 3 องค์ที่วางเรียงรายกันอย่างสวยงาม โดยภายในบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 มีความสวยและความสง่าที่ต้องไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง
ที่ตั้ง : ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
แชร์โล ร้านอาหารอยุธยาบรรยากาศดี อร่อยถูกปาก ราคาถูกใจ
อยุธยาไม่ได้มีดีแค่สถานที่เที่ยวอยุธยาและวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยร้านอาหารบรรยากาศดี รสชาติอร่อย หากใครมีโอกาสไปเยือนอยุธยาต้องห้ามพลาดแวะชิมกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ พร้อมเมนูแสนอร่อยที่ผ่านการรังสรรมาเป็นอย่างดี ใครกำลังมองหาร้านอาหารในอยุธยาราคาถูก รสชาติอร่อยถูกปาก KTC มีมาแนะนำ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC เท่านั้น
ร้านอาหารท่าหลวง
ร้านอาหารท่าหลวงอยุธยา / ภาพจาก : เพจ ร้านท่าหลวง Raan Tha Luang - Riverside Bar & Eating Place
ร้านอาหารท่าหลวงเป็นร้านอาหารริมน้ำบนถนนอู่ทอง ทั้งยังเป็นร้านอาหารไทยที่ได้รับตรา Thai SELECT ที่ช่วยการันตีเรื่องการปรุงอาหารตามมาตรฐาน สำหรับโซนที่นั่งที่เปิดให้บริการมีทั้งห้องแอร์เย็นฉ่ำ หรือใครจะเลือกรับแอร์ธรรมชาติก็สามารถเลือกนั่งบริเวณริมน้ำได้เช่นกัน สำหรับเมนูห้ามพลาดของที่นี่คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ และปลาแม่น้ำสด ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้า บรรยากาศดี ใครไปแล้วต้องแวะเช็กอินสักครั้ง
เวลาเปิดให้บริการ : 10.00 – 22.00 น.
ที่ตั้ง : ถนนอู่ทอง (ใกล้ตลาดเจ้าพรหม) ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
ร้านอาหารเรือนสายน้ำ
ร้านอาหารเรือนสายน้ำ / ภาพจาก : เพจ ร้านอาหารเรือนสายน้ำ
เรือนสายน้ำ ร้านอาหารไทยบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดดเด่นด้วยอาหารไทยพื้นบ้านรสชาติกลมกล่อมตามต้นตำรับ มีให้เลือกหลากหลายเมนู พร้อมด้วยเมนูกุ้งแม่น้ำเปาเนื้อหวานเด้ง มันเยิ้ม ๆ กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรลับของทางร้าน นอกจากเมนูอาหารคาวแล้ว ในส่วนของอาหารหวานก็ไม่น้อยหน้า อิ่มอร่อยจนต้องกลับไปกินซ้ำ ใครชื่นชอบร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวัง
เวลาเปิดให้บริการ : 10.00 – 22.00 น. (แนะนำสอบถามเวลาเปิด - ปิดกับทางร้านก่อนใช้บริการ)
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะเกิด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
ร้านอาหาร Good View Phranakhon
ร้านอาหาร Good View Phranakhon / ภาพจาก : เพจ GoodviewPhranakhon กู๊ดวิวพระนคร
Good View Phranakhon ร้านอาหารที่ออกแบบที่นั่งให้ลูกค้าเลือกใช้บริการหลายแบบ ทั้งที่นั่งริมน้ำรับลมเย็น ๆ ชมวิวสะพานสวย ๆ หรือจะเลือกนั่งบนแพริมน้ำชิลล์ ๆ ก็ได้เช่นกัน ในส่วนของเมนูอาหารก็ทำออกมาได้ดี เพราะทางร้านมีอาหารไทยสไตล์พื้นบ้านรสชาติจัดจ้านไว้บริการ ทั้งห่อหมกมะพร้าวอ่อน ผัดฉ่าปลาคัง ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน หรือจะเป็นเมนูกุ้งแม่น้ำเผาพร้อมน้ำจิ้มแซ่บ ๆ ก็น่าสนใจ ถูกใจทั้งบรรยากาศ ถูกใจทั้งรสชาติอาหาร ไปแล้วต้องอยากกินซ้ำแน่นอน
เวลาเปิดให้บริการ : 10.00 – 22.00 น.
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
ร้านอาหารบ้านอู่ทอง
ร้านอาหารบ้านอู่ทอง / ภาพจาก : เพจ ร้านอาหารบ้านอู่ทอง
ร้านอาหารบ้านอู่ทองเป็นร้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์บ้านไม้แสนอบอุ่น โดยแบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 โซน คือโซนภายในร้านที่มีโต๊ะนั่งจัดไว้แบบกำลังดี ไม่อึดอัดมากนัก พร้อมลมแอร์เย็น ๆ ที่เหมาะสำหรับการนั่งกินเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนโซนที่ 2 เป็นโซนริมแม่น้ำเจ้าพระยาชิลล์ ๆ ที่สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ได้อย่างสบายตา เพลิดเพลินไปกับสายน้ำและเรือที่แล่นผ่านไปมา สำหรับเมนูอาหารมีให้เลือกลิ้มรสหลากหลาย แต่ที่พลาดไม่ได้คือเมนูกุ้งเผาไซซ์จัมโบ้ ที่ทางร้านคัดสรรมาเป็นอย่างดี ยิ่งกินคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน รับรองว่ากินเพลิน ๆ จนลืมอิ่มแน่นอน
เวลาเปิดให้บริการ : 10.00 – 22.00 น.
ที่ตั้ง : ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
ร้านอาหารเสวนา 2480
ร้านอาหารเสวนา 2480 / ภาพจาก : เพจ Sewana2480
ใครมองหาร้านอาหารชิลล์ ๆ สไตล์คาเฟ่ เสวนา 2480 เป็นตัวเลือกร้านอาหารที่น่าสนใจ ที่นี่จัดเต็มทั้งเมนูอาหารไทย อาหารฟิวชั่น กาแฟ และเครื่องดื่มรสชาติอร่อย มีให้เลือกทั้งเมนูเครื่องดื่มทั่วไปและแอลกอฮอล์อ่อน ๆ เพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหาร นอกจากนี้ยังออกแบบร้านในสไตล์น่ารัก ๆ ให้ความอบอุ่นแบบขั้นสุด ที่สำคัญราคาแต่ละเมนูยังจับต้องได้ ถูกใจคนรักความคุ้มค่าแน่นอน
เวลาเปิดให้บริการ : 11.30 – 22.00 น. (แนะนำสอบถามเวลาเปิด - ปิดกับทางร้านก่อนใช้บริการ)
ที่ตั้ง : ตำบลเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
ร้านอาหาร Ayutthaya Retreat
ร้านอาหาร Ayutthaya Retreat/ ภาพจาก : เพจ Ayutthaya Retreat
เติมเต็มวันพักผ่อนด้วยร้านอาหารบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยร้านอาหารสไตล์บ้านไทยและของตกแต่งโบราณ ที่ ร้านอาหาร Ayutthaya Retreat ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพตามมุมต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณบึงบัวที่ถือเป็นไฮไลต์ของร้านอาหารแห่งนี้ ที่นี่มีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ ทั้งโซนเอาท์ดอร์ที่โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า อาคารทรงไทย ที่นั่งริมสระน้ำ นอกจากนี้ยังมีเปลไว้นอนพักผ่อนแบบชิลล์ ๆ ให้บริการอีกด้วย สำหรับเมนูอาหารก็หลากหลายตามสไตล์ร้านอาหารไทย จัดเต็มทั้งเมนูคาวหวานและเครื่องดื่ม อิ่มอร่อยพร้อมอิ่มใจกับบรรยากาศแน่นอน
เวลาเปิดให้บริการ : 09.00 – 17.00 น.
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
เพลาฌาย คาเฟ่
เพลาฌาย คาเฟ่ / ภาพจาก : เพจ เพลาฌาย คาเฟ่ - Phe la chay Cafe
ชวนไปจิบกาแฟเบา ๆ กันต่อที่เพลาฌาย คาเฟ่ ร้านกาแฟสวย ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในพุทธอุทยานมหาราช ตลาดหลวงปู่ทวด เพลาฌาย(เพ ลา ชาย) ตกแต่งร้านด้วยสไตล์ Timeless Thai Style ที่เป็นการผสมผสานยุคสมัยเก่า กลาง และใหม่ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญยังเน้นการตกแต่งร้านด้วยโทนสีที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ โครงสร้างหลักของอาคารเป็นไม้ มีทำเลติดกับแม่น้ำที่สามารถมองเห็นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ได้แบบเต็ม ๆ ที่สำคัญยังมีภาพถ่ายต่าง ๆ ที่เล่าเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของหลวงปู่ทวดให้นักท่องเที่ยวได้แวะชมอีกด้วย
เวลาเปิดให้บริการ : 09.00 – 17.00 น. (หยุดร้านทุกวันอังคาร)
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
บุษบา คาเฟ่ แอนด์ มิล
บุษบา คาเฟ่ แอนด์ มิล / ภาพจาก : เพจ Busaba Ayutthaya Cuisine
บุษบา คาเฟ่ แอนด์ มิล คาเฟ่สไตล์โมเดิร์น Casual Dining ภายในร้านโปร่งแสง ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีไม้ที่มองแล้วสบายตา มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก มีเมนูอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกลิ้มรสมากมาย โดยเฉพาะเมนูอาหารฟิวฉัน (ไม่ใช่ฟิวชั่นเพราะทำตามสไตล์ของบุษบา) ที่ทำออกมาได้ดีแบบขั้นสุด ที่สำคัญนอกจากจะได้อิ่มหนำกับเมนูอาหารคาวแล้ว ที่นี่ยังจัดเต็มด้วยเมนูเครื่องดื่มและของหวานแบบฉ่ำ ๆ ใครเป็นสายกินที่ชอบการถ่ายรูป ร้านนี้ตอบโจทย์ได้ครบทุกข้อแน่นอน
เวลาเปิดให้บริการ : 10.00 – 20.30 น. (วันเสาร์และอาทิตย์ร้านเปิดเวลา 09.00 น.)
ที่ตั้ง : ถนนอู่ทอง ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด :
หลังตระเวนไหว้พระวัดอยุธยาในวันพระใหญ่จนหนำใจแล้ว อย่าลืมปิดท้ายด้วยการชิมอาหารอร่อย ๆ ในร้านอาหารอยุธยาที่ KTC นำมาฝาก รับรองว่าอิ่มอร่อยสมคำร่ำลือ ที่สำคัญยังมีสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC รับส่วนลดสูงสุด 10% พร้อมแลกรับเครดิตเงินคืน 10% ณ ร้านอาหารจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ร่วมรายการ