อัตราการลดการปล่อยก๊าซเรือน กระจก (ขอบเขตที่ 2) ลดลงร้อยละ 1.5
อัตราการลดการปล่อยก๊าซเรือน กระจก (ขอบเขตที่ 2) ลดลงร้อยละ 0.5
ตราการลดการปล่อยก๊าซเรือน กระจก (ขอบเขตที่ 2) ลดลงร้อยละ 8
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนำมาซึ่งทั้งความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจทั่วโลก บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงด้านกายภาพทั้งความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของภัยธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและต้นทุน นอกจากนี้ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนผ่านที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอันอาจนำมาซึ่งการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นจากภาครัฐ การปรับกลไกการกำหนดราคาคาร์บอน รวมถึงความคาดหวังของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากข้อตกลงปารีสและมติจากการประชุม COP26 ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฉบับที่ 26 โดยเน้นความพยายามร่วมกันในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม นำไปสู่เป้าหมายระดับชาติของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2608 เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวและพัฒนาแนวทางรับมือกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยปัจจัยเหล่านี้อาจจะส่งผลให้บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้น ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง และการสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ในขณะที่การบริหารจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นระบบช่วยลดการใช้ทรัพยากรและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องของบริษัทลดลง
บริษัทดำเนินกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศให้สอดคล้องกับแนวโน้มระดับโลก โดยมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรม แนวทางลดการปล่อยคาร์บอน และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย เสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สร้างความไว้วางใจ และเพิ่มความแข็งแกร่งของจุดยืนทางการตลาด นอกจากนี้ บริษัทได้นำแนวทางการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate-related Financial Disclosures: TCFD) มาใช้ ซึ่งครอบคลุมด้านการกำกับดูแลสภาพภูมิอากาศ กลยุทธ์ การบริหารความเสี่ยง รวมถึงตัวชี้วัดและเป้าหมาย โดยแนวทางนี้ช่วยให้กลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของบริษัทสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติในระดับสากล พร้อมยกระดับความโปร่งใสและความรับผิดชอบ โดยมีรายละเอียดดังนี้
โครงสร้างการกำกับดูแลของบริษัทช่วยให้บริษัทบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดบทบาทและความรับผิดชอบอย่างชัดเจนเพื่อให้มั่นใจว่ามีการดูแลและจัดการปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศอย่างเหมาะสม
บริษัทกำหนดดัชนีชี้วัดผลสำเร็จระดับองค์กรที่สอดคล้องกับความสำเร็จด้านความยั่งยืนซึ่งครอบคลุมถึงการบริหารจัดการประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พนักงานทุกคนตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน ทั้งนี้ผลการดำเนินงานตามดัชนีชี้วัดผลสำเร็จดังกล่าวเป็นเกณฑ์หนึ่งในการพิจารณาผลตอบแทนของพนักงาน
เคทีซีนำความเสี่ยงและโอกาสด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งด้านกายภาพและด้านการเปลี่ยนผ่านที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกรอบการบริหารความเสี่ยงขององค์กร แนวทางนี้ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศของบริษัท พร้อมทั้งพัฒนาแนวทางในการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สายงานที่เกี่ยวข้องต้องประเมินความเสี่ยงของสภาพภูมิอากาศด้านกายภาพและด้านการเปลี่ยนผ่านประจำปี โดยใช้เครื่องมือการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ขององค์กร หากผลการประเมินชี้ว่าความเสี่ยงดังกล่าวอยู่ในระดับ “ค่อนข้างสูง” ขึ้นไป สายงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดทำแผนรองรับและรายงานต่อผู้บริหารและคณะอนุกรรมการ Risk Management Committee
บริษัทดำเนินการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ และกำหนดมาตรการบรรเทาผลกระทบ ดังนี้
อย่างไรก็ตาม การประเมินความเสี่ยงโดยใช้เครื่องมือการประเมินความเสี่ยงด้าน ESG ในปี 2567 ชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ในระดับต่ำ และไม่พบผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อองค์กร
การให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ขยายตลาดไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่และขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ จึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นผ่านแนวทางดังนี้
บริษัทประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงขององค์กร โดยติดตามความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประจำปีในขอบเขตที่ 1 ขอบเขตที่ 2 และขอบเขตที่ 3 ทั้งนี้การคำนวณก๊าซเรือนกระจกเป็นไปตามแนวทางขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)