Human Resource Management and Development

การบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

เป้าหมายปี 2572
ระดับความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรเท่ากับร้อยละ 77


จำนวนชั่วโมงฝึกอบรมพนักงานต่อคนต่อปีเฉลี่ย 82 ชั่วโมง

ผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อยร้อยละ 50
เป้าหมายปี 2567
ระดับความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรเท่ากับร้อยละ 72

จำนวนชั่วโมงฝึกอบรมพนักงานต่อคนต่อปีเฉลี่ย 77 ชั่วโมง

ผู้หญิงดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อยร้อยละ 50
ผลการดำเนินงาน 2567
ระดับความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรเท่ากับร้อยละ 75

จำนวนชั่วโมงฝึกอบรมพนักงานต่อคนต่อปีเฉลี่ย 81.12 ชั่วโมง

ร้อยละ 76.47 ของตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงดำรงตำแหน่งโดยผู้หญิง
โอกาสและความท้าทาย

บริษัทตระหนักดีว่าพนักงานคือรากฐานแห่งความสำเร็จขององค์กร เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและผลักดันการเติบโตขององค์กร เคทีซีจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ ความรู้ และความเชี่ยวชาญของพนักงาน เพื่อให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของธุรกิจ เทคโนโลยี และความต้องการของตลาด โดยถ้าหากบุคลากรไม่ได้รับการพัฒนาทักษะและความรู้ให้เท่าทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาจส่งผลให้บริษัทสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างความพร้อมให้พนักงานสามารถเติบโตในหน้าที่การงานได้อย่างเหมาะสม เสริมสร้างความมั่นใจและภาคภูมิใจในงานที่ทำ พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าร่วมกัน อีกทั้งบริษัทยังให้ความสำคัญกับการเคารพในความหลากหลายบนพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดี การละเลยสิทธิของพนักงานหรือการจัดสวัสดิการอย่างไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ผลกระทบเชิงลบ เช่น ความผูกพันธ์องค์กรลดลง ประสิทธิภาพการทำงานลดลง อัตราการลาออกที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นเคทีซีมุ่งมั่นสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปิดกว้าง ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย พร้อมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน

ความสำเร็จที่สำคัญ
  • ผลระดับความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรอยู่ที่ร้อยละ 75
  • จำนวนชั่วโมงการฝึกอบรมพนักงานต่อคนต่อปีเฉลี่ย 81.12 ชั่วโมง
  • สัดส่วนผู้หญิงในผู้บริหารระดับสูงอยู่ที่ร้อยละ 76.47

บริษัทมีการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพดังนี้

การบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมความหลากหลายในการอยู่ร่วมกันและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม
การบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล ความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร

การสรรหาพนักงานและการว่าจ้าง

บริษัทมีการวางแผนและบริหารจัดการอัตรากำลังคนเพื่อให้มีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด โดยกำหนดกลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้ที่มีความสามารถเข้าร่วมงานกับบริษัท โดยการประกาศรับสมัครงานของบริษัทในตำแหน่งต่าง ๆ จะอยู่บนหลักการเคารพสิทธิมนุษยชน เปิดโอกาสการจ้างงานอย่างเท่าเทียม และมีกระบวนการคัดเลือกอย่างโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบทรัพยากรบุคคลและมาตรฐานการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสรรหาพนักงานและการจ้างงานของบริษัท ซึ่งจะพิจารณาตามความจำเป็นและความเหมาะสมของงาน โดยพนักงานที่ได้รับการจ้างจะต้องมีคุณสมบัติ ประสบการณ์ และความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งงาน โดยไม่คำนึงถึงเรื่องที่มิใช่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน รวมถึงการพิจารณาอัตราค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับคุณสมบัติผู้สมัครและอุตสาหกรรม บริษัทจะประกาศรับสมัครและสรรหาพนักงานทดแทนอัตราว่างจากภายในบริษัทก่อนเป็นหลัก หากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถสรรหาบุคลากรภายในที่เหมาะสมขึ้นมาทดแทนได้ทันที หรือหากเป็นงานใหม่ที่ต้องการบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะ และไม่สามารถสรรหาได้จากภายใน จะพิจารณารับบุคคลภายนอกตามความจำเป็นและเหมาะสมทางธุรกิจผ่านช่องทางและรูปแบบการสรรหาพนักงานที่หลากหลาย และสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล เช่น การประชาสัมพันธ์ทางสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook, Line@, LinkedIn และเว็บไซต์ของบริษัท เป็นต้น

บริษัทพิจารณาการสรรหาและคัดเลือกผู้มีศักยภาพ รวมถึงพิจารณาอัตราค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับคุณสมบัติผู้สมัคร และอุตสาหกรรมเพื่อเข้ามาปฏิบัติงานกับบริษัทให้ทันต่อความต้องการของสายงาน ทั้งนี้ การประกาศรับสมัครงานของบริษัทในตำแหน่งต่าง ๆ อยู่บนหลักการเคารพสิทธิมนุษยชน และเป็นไปตามระเบียบทรัพยากรบุคคล และคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสรรหาพนักงาน และการว่าจ้างของบริษัท เปิดโอกาสการจ้างงานอย่างเท่าเทียม และมีกระบวนการคัดเลือกอย่างโปร่งใส ซึ่งจะพิจารณาตามความจำเป็นและความเหมาะสมของงาน โดยพนักงานที่จะได้รับการจ้างจะต้องมีคุณวุฒิ คุณสมบัติ ประสบการณ์ และความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งงาน ไม่คำนึงถึงถิ่นกำเนิด สีผิว เพศ เพศสภาพ เชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ ความคิดเห็นทางการเมือง ฐานะ ชาติตระกูล หรืออื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน

การสรรหาบุคลากรภายนอกองค์กร
เท่ากับ 270 คน
คิดเป็นสัดส่วน 97.83%
การสรรหาบุคลากรภายในองค์กร
เท่ากับ 6 คน
คิดเป็นสัดส่วน 2.17%
รวมการสรรหาบุคคลกรทั้งหมด 276 คน คิดเป็นสัดส่วน 100.00%

การส่งเสริมความหลากหลายในการอยู่ร่วมกันและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม

เคทีซีปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเป็นธรรม เคารพสิทธิมนุษยชน และห้ามมิให้มีการเลือกปฏิบัติหรือการล่วงละเมิดในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทางเพศ เพศสภาพ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา อายุ ความบกพร่องทางร่างกาย หรือสถานะของชนกลุ่มน้อย โดยถือปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับด้านแรงงานอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยึดหลักสิทธิมนุษยชนที่กำหนดไว้ในคู่มือจรรยาบรรณธุรกิจเป็นแนวทางในการบริหารจัดการองค์กร เช่น การกำหนดค่าตอบแทนที่เท่าเทียม การสนับสนุนเสรีภาพในการสมาคม และสิทธิในการเจรจาต่อรองร่วมเป็นต้น เพื่อสนับสนุนความหลากหลายและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมในองค์กร ทั้งนี้ บริษัทได้เผยแพร่คู่มือจรรยาบรรณธุรกิจทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้พนักงานสามารถศึกษาและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมถึงจัดให้มีช่องทางแจ้งเบาะแสสำหรับรายงานหากพบกรณีการเลือกปฏิบัติหรือการล่วงละเมิดที่ขัดต่อคู่มือจรรยาบรรณธุรกิจ โดยมีกลไกตรวจสอบข้อร้องเรียน กระบวนการพิจารณาที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม รวมถึงมีมาตรการทางวินัยที่เหมาะสม เพื่อให้พนักงานได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรมและสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองได้อย่างเท่าเทียม พร้อมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียว่าบริษัทดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ

องค์ประกอบพนักงานในปี 2567

องค์ประกอบพนักงานในปี 2567

นอกจากนี้เคทีซีมุ่งมั่นส่งเสริมการจ้างงานกลุ่มผู้ด้อยโอกาส เช่น ผู้พิการหรือผู้ทุพพลภาพ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 (พ.ร.บ.) ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ รวมถึงเพื่อคุ้มครองให้คนพิการมีงานทำหรือประกอบอาชีพโดยมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยมิเป็นธรรม เนื่องจากสาเหตุทางกายหรือสุขภาพซึ่งกําหนดให้หน่วยงานของรัฐ นายจ้าง หรือเจ้าของสถานประกอบการต้องรับคนพิการเข้าทำงานตามมาตรา 33 หรือส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 หรือเลือกดำเนินการให้สัมปทานและจัดจ้างเหมาช่วงงานตามมาตรา 35

ในปี 2567 บริษัทได้จ้างงานผู้พิการให้ทํางานนอกสถานที่ตามภูมิลําเนาของตน ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้ผู้พิการซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลสามารถประกอบอาชีพเต็มเวลาและพึ่งพาตนเองได้

ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550

การจูงใจและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ

การจูงใจและรักษาผู้มีบุคลากรที่มีความสามารถถือเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จที่ยั่งยืนของบริษัท กระบวนการสรรหา การฝึกอบรมและการช่วยให้พนักงานปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร ต้องอาศัยการลงทุนทั้งด้านเวลาและทรัพยากรอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการบุคลากรในเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างความผูกพันในระยะยาวและส่งเสริมความมั่นคงในอาชีพของพนักงานภายในองค์กร

เคทีซีมุ่งมั่นที่จะปลูกฝังวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจภายในองค์กร (Trusted Organization) โดยขับเคลื่อนด้วยค่านิยมหลักขององค์กรที่รวมอยู่ใน DNA ของพนักงานทุกคน

การจูงใจและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ

ค่านิยมองค์กร

ค่านิยมองค์กร

การประเมินผลการปฏิบัติงาน

บริษัทกำหนดนโยบายส่งเสริมให้พนักงานที่มีศักยภาพสามารถเติบโตในตำแหน่งงานและเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถโอนย้ายงานตามความถนัดและความสนใจ และมีระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ผลงานของพนักงานบรรลุเป้าหมายตามที่บริษัทได้ตั้งไว้ บริษัทวางแผนกำหนดตัววัดผลการดำเนินงาน เป้าหมาย และเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินผล รูปแบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานทุกคนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นปีเพื่อความชัดเจน สอดคล้องกับทิศทางตามกลยุทธ์ และยุทธศาสตร์ของบริษัท โดยการประเมินผลการปฏิบัติงานในรูปแบบตัวชี้วัดผลงาน Key Performance Indicator (KPI) ซึ่งได้พิจารณาให้สอดคล้องกับการประเมินตามแนวทางของ Balance Scorecardทั้งในด้านการเงิน ด้านลูกค้า ด้านกระบวนการภายในมาใช้เป็นเครื่องมือกำหนดเป้าหมายการทำงานของพนักงาน โดยมีการตกลงร่วมกันระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ปฏิบัติงานในการผลักดันให้พนักงานมีผลงานสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือภายในองค์กร เพื่อสะท้อนการทำงานภายใต้เป้าหมายเดียวกันและยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงาน จึงได้กำหนดให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับมีเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานร่วมกัน (Group KPI) เช่น การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ Market Conduct การปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสารสนเทศและข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งประเมินร่วมกับ KPI รายบุคคล โดยมีเกณฑ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้บริษัทได้นำเอาส่วนหนึ่งจากผลการประเมินแบบ 360 องศา ที่มีตัวชี้วัดในด้าน Core Values และ Core Competenciesมาใช้ในการประเมินร่วมกับ KPI และมีการนำผลการประเมินของพนักงานทั้งบริษัท มาจัดอันดับเปรียบเทียบตามรูปแบบBell Curve ทั้งนี้มีการเชื่อมโยงผลที่ได้จากการประเมินผลการปฏิบัติงานไปใช้ในการพิจารณาผลตอบแทนให้แก่พนักงานทั่วทั้งองค์กร เพื่อพิจารณากำหนดการปรับเงินเดือน ค่าตอบแทนพิเศษ รวมถึงการพิจารณาเลื่อนระดับที่ชัดเจน และมีการติดตามผลการดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงานที่กำหนดไว้เป็นประจำ เพื่อมุ่งเน้นประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและเป็นการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานดี มีความมุ่งมั่นในการทำงาน

ในปี 2567 พนักงาน ร้อยละ 100 ทำการประเมินผลการปฏิบัติงาน

การจัดทำแผนผู้สืบทอดตำแหน่ง

บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและการวางแผนสืบทอดตำแหน่งสำคัญในองค์กร (Succession Plan) เพื่อให้มั่นใจว่า การดำเนินธุรกิจจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในระยะยาว บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับ 2 ส่วนด้วยกัน คือ ผู้ที่จะมาทดแทนหรือดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง (Key Position) และตำแหน่งงานสำคัญที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจขององค์กร (Critical Position) ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและลดความเสี่ยงจากการสูญเสียบุคลากรสำคัญ รวมถึง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้พร้อมสำหรับการดำรงตำแหน่งสำคัญในอนาคต โดยผู้บริหารระดับสูงพิจารณาคัดเลือก ผู้สืบทอดตำแหน่ง โดยใช้เกณฑ์การประเมินศักยภาพ (Potential) และความพร้อม (Readiness) ของพนักงาน รวมทั้งพิจารณา จากผลงานในอดีต ทักษะการเป็นผู้นำ และความสามารถในการปรับตัว จากนั้นมีการจัดทำแผนพัฒนา (Individual Development Plan) สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้สืบทอด (Successor) โดยเน้นการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งเป้าหมาย โดยแผนพัฒนา ประกอบด้วย การเรียนรู้จากการงานจริง (On The Job Training), การมอบหมายงานพิเศษ (Special Assignments) และการให้คำปรึกษา แนะนำและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ (Coaching & Feedback)

การจัดทำแผนผู้สืบทอดตำแหน่งสำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

บริษัทมีการจัดทำแผนการสืบทอดตำแหน่งสำหรับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยมอบหมายให้คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนจัดทำแผนสืบทอดตำแหน่งผู้บริหาร เพื่อเตรียมความพร้อมให้มีผู้สืบทอดตำแหน่งในกรณีที่ผู้บริหาร ในตำแหน่งนั้น ๆ เกษียณอายุ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพื่อให้การบริหารงานของบริษัทสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องโดยคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาหลักเกณฑ์การสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารเพื่อให้ คณะกรรมการ สรรหาและกำหนดค่าตอบแทนใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารกรณี ตำแหน่งว่างลง ก่อนเสนอ คณะกรรมการบริษัทพิจารณาแต่งตั้ง ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีความรู้ ความสามารถและมี ประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจบัตรเครดิต หรือด้านการบริหารการเงินหรือการธนาคาร หรือสถาบันการเงิน หรือธุรกิจอื่น ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบัตรเครดิตอีกทั้งเป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์และแนวคิด ที่ครอบคลุมและเหมาะสมในการบริหารกิจการ เป็นต้น

หมายเหตุ:
ผู้บริหาร หมายความว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารสี่รายแรกนับต่อจาก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลงมา ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับผู้ดำรงตำแหน่งระดับบริหารรายที่สี่ทุกราย(1) และให้หมายความรวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บริหารในสายงาน บัญชีหรือการเงินที่เป็นระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปหรือเทียบเท่า
(1) ผู้บริหารทุกรายที่มีสายการบังคับบัญชาตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารตามโครงสร้างของบริษัท

การบริหารค่าตอบแทนของพนักงาน

บริษัทดำเนินการตามนโยบายการบริหารค่าตอบแทน โดยมุ่งเน้นการจ่ายผลตอบแทนแก่พนักงานอย่างเป็นธรรมและเสมอภาคโดยพิจารณาปัจจัยสำคัญต่าง ๆ เช่น ประสบการณ์ ความสามารถ ความเสมอภาค และการไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกับผลการปฏิบัติงานและความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน ทั้งนี้ การกำกับดูแลนโยบายดังกล่าว รวมถึงการทบทวนค่าตอบแทนและผลประโยชน์ของพนักงานอย่างสม่ำเสมออยู่ภายใต้การจัดการของสายงานทรัพยากรบุคคล ทั้งนี้ผลประโยชน์ที่บริษัทมอบให้แก่พนักงานครอบคลุมถึงกองทุนเงินทดแทน กองทุนประกันสังคม และโครงการผลประโยชน์ของพนักงานหลังออกจากงาน ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินการสำรวจเกี่ยวกับค่าตอบแทนและสวัสดิการประจำปี ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อปรับปรุงโครงสร้างค่าตอบแทนของบริษัทให้มีความเหมาะสมและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

อีกทั้ง บริษัทเสนอแผนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ยืดหยุ่น โดยเปิดโอกาสให้พนักงานเลือกอัตราการออมที่ต้องการ และบริษัทจะสมทบเงินในอัตราที่สอดคล้องกันตามนโยบายที่กำหนด โดยสัดส่วนเงินสมทบของบริษัทจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการทำงานของพนักงาน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและสนับสนุนการออมเพื่อการเกษียณอายุของพนักงาน

โครงการสวัสดิการสนับสนุนพนักงาน

นอกเหนือจากการพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงานแล้ว เคทีซียังให้ความสำคัญกับการดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่มอบสิทธิประโยชน์อย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงโครงการต่อไปนี้

สภาพแวดล้อมการทำงาน

  • บริษัทมีนโยบายชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นให้พนักงานสามารถเลือกเวลาการเข้างานและเลิกงานได้ภายใต้กรอบเวลาที่บริษัทกำหนดเพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางและเลี่ยงความแออัดจากปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน
  • บริษัทได้ออกแบบและจัดสรรพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้พนักงานสามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทำงานได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องนั่งประจำที่โต๊ะ นอกจากนี้ในกรณีฉุกเฉินบริษัทได้จัดเตรียมแนวทางการทำงานจากที่บ้าน พร้อมทั้งมาตรการเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับการปฏิบัติงานจากระยะไกล เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานยังคงมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย

สวัสดิการกรณีคลอดบุตร
วันลาเพื่อคลอดบุตร
วันลาเพื่อคลอดบุตร

การให้พนักงานหญิงที่ตั้งครรภ์มีสิทธิ์ลาเพื่อคลอดบุตรได้ไม่เกิน 98 วัน รวมถึงวันลาเพื่อเตรียมก่อนคลอดบุตรด้วย โดยพนักงานจะได้รับค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ลาแต่ไม่เกิน 60 วัน โดยนับรวมวันหยุด ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ 45 วัน

การเปลี่ยนงานเพื่อหญิงตั้งครรภ์
การเปลี่ยนงานเพื่อหญิงตั้งครรภ์

การให้พนักงานซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่มีใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งรับรองว่าไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมต่อไปได้ พนักงานนั้นมีสิทธิ์ขอให้บริษัทเปลี่ยนงานในหน้าที่เดิมเป็นการชั่วคราวได้ทั้งก่อนหรือหลังคลอด โดยบริษัทจะพิจารณาเปลี่ยนงานที่เหมาะสมให้แก่พนักงานหญิงนั้นตามสมควร

การจัดห้องปั๊มนมบุตร
การจัดห้องปั๊มนมบุตร

การจัดสรรพื้นที่ห้องพยาบาลให้สามารถใช้ประโยชน์เพื่อเป็นห้องสำหรับปั๊มนมบุตร โดยเป็นการดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้ทารกได้กินนมแม่ และเพื่อให้เกิดสุขภาวะที่ดีของแม่และเด็ก

การให้เงินขวัญถุง
การให้เงินขวัญถุง

การให้เงินขวัญถุงสำหรับพนักงานชายที่ภรรยาคลอดบุตรเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ต่อบุตร 1 คน สูงสุด 5 คน

สวัสดิการครอบครัว

  • สตรีที่ตั้งครรภ์มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรได้สูงสุด 98 วัน ซึ่งรวมถึงวันลาเพื่อเตรียมก่อนคลอดบุตรด้วย โดยพนักงานจะได้รับค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ลาแต่ไม่เกิน 60 วัน โดยนับรวมวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายแรงงานในประเทศไทยกำหนดไว้ที่ 45 วัน
  • พนักงานหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมต่อไปได้ มีสิทธิขอให้บริษัทเปลี่ยนงานในหน้าที่เดิมเป็นการชั่วคราวได้ทั้งก่อนหรือหลังคลอด โดยบริษัทจะพิจารณาเปลี่ยนงานที่เหมาะสมให้แก่พนักงานหญิงนั้นตามสมควร
  • มีการจัดสรรพื้นที่ห้องพยาบาลเป็นห้องสำหรับปั๊มนมบุตร
  • การให้เงินขวัญถุงสำหรับพนักงานคลอดบุตรเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ต่อบุตร 1 คน สูงสุด 5 คน
  • จัดให้มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลให้แก่พนักงาน ครอบคลุมไปถึงครอบครัวของพนักงาน ซึ่งกำหนดเป็นภาคสมัครใจ โดยบริษัทจะช่วยออกค่าเบี้ยประกันสุขภาพจำนวนครึ่งหนึ่งสำหรับครอบครัวของพนักงานประจำ รวมถึงสามารถรับวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ ในราคาพิเศษ

การบริหารจัดการแรงงาน 

การบริหารจัดการชั่วโมงการทำงานและการทำงานล่วงเวลา

บริษัทให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) โดยมีการบริหารจัดการชั่วโมงการทำงานอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการทำงานล่วงเวลาหรือการทำงานที่มากเกินควร โดยกำหนดชั่วโมงการทำงานอย่างชัดเจนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน โดยไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน (รวมเวลาพัก 1 ชั่วโมง) และไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การทำงานล่วงเวลาจะต้องได้รับการอนุมัติล่วงหน้าผ่านระบบ SAP และต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ซึ่งกำหนดไว้ไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์จะต้องได้รับอนุมัติแยกต่างหาก และมีการจ่ายค่าตอบแทนตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการทำงานล่วงเวลาทั้งหมดจะถูกตรวจสอบและควบคุมในทุกเดือนโดยฝ่ายการเงินและฝ่ายทรัพยากรบุคคล

สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน

แนวทางดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างครบถ้วนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวัสดิการ การจ้างงาน หรือการเลิกจ้าง โดยบริษัทจัดให้มีสิทธิประโยชน์พื้นฐานตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การสมทบประกันสังคม วันลาพักผ่อนประจำปี (อย่างน้อย 12 วัน หลังจากทำงานครบ 1 ปี) วันหยุดตามประเพณี และการลาป่วย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย) ทั้งนี้ ในหลายกรณี บริษัทจัดให้มีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่เกินกว่าข้อกำหนดของกฎหมาย

นโยบายและกระบวนการเลิกจ้างครั้งสำคัญ

ในกรณีมีความจำเป็นต้องดำเนินการเลิกจ้างครั้งสำคัญ บริษัทจะดำเนินการด้วยความรอบคอบและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน โดยมีการวางแผนล่วงหน้า พร้อมจัดเตรียมข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างครบถ้วน เช่น การประเมินผลกระทบทั้งในแง่บวกและลบ เพื่อเสนอต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือคณะกรรมการบริษัทพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านภาพลักษณ์ ชื่อเสียง และเสถียรภาพทางการเงินขององค์กร บริษัทให้ความสำคัญกับการเลิกจ้างที่เป็นธรรม โปร่งใส และสอดคล้องกับกฎหมายแรงงานไทยและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยกระบวนการเลิกจ้างอ้างอิงจากหลักเกณฑ์ที่เป็นกลาง ให้ความเคารพในสิทธิของพนักงาน และมีขั้นตอนตรวจสอบและบันทึกอย่างชัดเจนในทุกกรณี บริษัทจะดำเนินการตามกระบวนการเอกสารอย่างถูกต้อง เช่น การออกหนังสือเตือนกรณีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม (ยกเว้นกรณีร้ายแรง) และการจัดทำแผนพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานในกรณีที่เหมาะสม ทั้งนี้ การเลิกจ้างทุกรายจะต้องได้รับการตรวจสอบและอนุมัติจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลและฝ่ายกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่ามีความเป็นธรรม สม่ำเสมอ และเป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากเป็นการเลิกจ้างตามระเบียบข้อบังคับของบริษัท จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องตามระเบียบที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

การปฏิบัติตามกฎหมายและการจัดเก็บเอกสาร

บริษัทมีการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานอย่างครบถ้วนตามกฎหมายแรงงานไทย พร้อมทั้งมีการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและสนับสนุนสวัสดิภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง

เสรีภาพในการสมาคมหรือแสดงความคิดเห็น

เคทีซีจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการเพื่อเป็นกลไกในการให้อํานาจการเจรจาต่อรองกับพนักงานเกี่ยวกับสวัสดิการและการปฏิบัติงาน ซึ่งคณะกรรมการทำหน้าที่ร่วมหารือกับนายจ้างในด้านสวัสดิการของพนักงาน โดยมีหน้าที่และความรับผิดชอบดังนี้

คณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ ประกอบด้วย
คณะกรรมการฝ่ายลูกจ้าง
คิดเป็นสัดส่วน 70 %
คณะกรรมการฝ่ายนายจ้าง
คิดเป็นสัดส่วน 30 %
ทำหน้าที่ดังนี้
  • เป็นตัวแทนของพนักงานในการพิจารณสวัสดิการและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อพนักงานทุกคน เพื่อให้พนักงานได้รับสิทธิและสวัสดิการอย่างเป็นธรรม รวมถึงเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการสร้างความผูกพันกับองค์กร
  • ให้คําปรึกษาหารือ และเสนอแนะความเห็นแก่นายจ้างในการจัดสวัสดิการสำหรับลูกจ้าง
  • ตรวจตรา ควบคุม ดูแล การจัดสวัสดิการที่นายจ้างมอบให้แก่ลูกจ้าง
  • เสนอข้อคิดเห็น และแนวทางในการจัดสวัสดิการที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกจ้างต่อคณะกรรมการสวัสดิการแรงงาน

คณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการ ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มอาสาสมัคร ซึ่งมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 14 คน โดยมีพนักงานร้อยละ 100 ได้รับการคุ้มครองภายใต้การดูแลของคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการ เพื่อให้สามารถต่อรองด้านแรงงานและสวัสดิการกับบริษัทได้อย่างเป็นธรรม

โอกาสเรียนรู้ผ่านการฝึกงาน

บริษัทเห็นความสำคัญของกลุ่มเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศและสังคมในอนาคต จึงมุ่งสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพนักศึกษา ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี โดยได้จัดทำโครงการ KTC COOP ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดจาก โครงการ KTC LEARN&EARNที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาโครงการสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาฝึกงานภายในบริษัท เพื่อเรียนรู้แนวคิด วิธีปฏิบัติการทำงาน และพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ นำไปปรับใช้เมื่อก้าวสู่โลกแห่งการทำงาน โดยมีพนักงานที่ได้รับมอบหมายเป็นพี่เลี้ยง (Mentor) ทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ถ่ายทอดทักษะการทำงาน และติดตามผลการปฏิบัติงานของนักศึกษาตลอดเวลาการฝึกงานระยะเวลาหนึ่งภาคการศึกษา อีกทั้งมีโอกาสเข้าร่วมหลักสูตรการเรียนรู้ต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิตสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อรถยนต์ รวมถึงหลักสูตรพัฒนาตนเอง อาทิ Growth Mindset และความรู้ด้านการเงิน เป็นต้น โครงการดังกล่าวมีบทบาทสำคัญที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพสู่ตลาดแรงงานและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติ อีกทั้งยังเป็นกลไกสำคัญในการดึงดูดและสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพเข้าสู่องค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ

โอกาสเรียนรู้ผ่านการฝึกงาน

นอกจากนี้ เคทีซีจัดให้มีโครงการ Management Trainee (MT) ซึ่งเป็นโปรแกรมสร้างผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีการออกแบบหลักสูตรเพื่อเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์เชิงลึกผ่านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติและการโค้ชจากผู้บริหารระดับสูง เพื่อเตรียมความพร้อมสู่บทบาทผู้นำองค์กรในอนาคต

การพัฒนาทรัพยากรบุคคล

บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทความรับผิดชอบในงานและทิศทางการดำเนินธุรกิจ โดยได้จัดทำแผนแม่บทการเรียนรู้และการพัฒนาประจำปีที่เน้นการยกระดับทักษะการเรียนรู้ทักษะใหม่ และการเสริมสร้างขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างเข้มแข็งทั่วทั้งองค์กร

การพัฒนาทรัพยากรบุคคล

นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดให้บริการ KTC e-Library ห้องสมุดออนไลน์ฟรี รวมถึงมีบริการให้พนักงานยืมหนังสือที่น่าสนใจหรือได้รับการแนะนำจากผู้บริหาร เพื่อสนับสนุนการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เคทีซีมุ่งส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการส่วนบุคคล โดยนำแนวทางการเรียนรู้แบบผสมผสาน 70:20:10 มาใช้ โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้

การพัฒนาทรัพยากรบุคคล การเรียนรู้

ในปี 2567 บริษัทได้จัดอบรมในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ

หลักสูตร Six Sigma Green Belt
หลักสูตร Power BI
หลักสูตร Value Based-Marketing
RPA Horizon : Unlocking Efficiency

Leadership Development Program

ชื่อหลักสูตร: Multiplier Leadership Program

รายละเอียดหลักสูตร:
หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะภาวะผู้นำของผู้บริหาร หัวหน้างาน หรือผู้ที่มีบทบาทในการชี้นำทีม ให้สามารถเป็น “ผู้นำที่ส่งเสริมศักยภาพของผู้อื่น (Multiplier)” ในขณะที่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมของ “ผู้นำที่ลดทอนความสามารถของทีม (Diminisher)” โดยเน้นการเรียนรู้หลักการและการฝึกปฏิบัติ พร้อมนำเครื่องมือที่ได้จากการอบรมไปใช้จริงเพื่อพัฒนาศักยภาพของทีมอย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ของการฝึกอบรม

  • เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในบทบาทและพฤติกรรมของตนเองในฐานะผู้นำ พร้อมปรับแนวทางการนำทีมให้สามารถส่งเสริมศักยภาพของทีมได้อย่างเต็มที่ โดยมุ่งเน้นการเป็นผู้นำที่เปิดโอกาสและสนับสนุนการเติบโตของสมาชิกในทีม
  • เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารคน ผ่านการใช้เครื่องมือและเทคนิคที่สามารถนำไปใช้ได้จริง พร้อมสร้างทีมที่มีแรงจูงใจ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
ชื่อหลักสูตร: Leader as a COACH

รายละเอียดหลักสูตร:
Leader as a COACH คือหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะความเป็น “ผู้นำแบบโค้ช” โดยเน้นการเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้สั่งการ” สู่ “ผู้ส่งเสริมศักยภาพ” ผ่านกระบวนการฟังอย่างตั้งใจ การตั้งคำถามอย่างมีเป้าหมาย และการสนทนาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทีมได้คิด ค้นหาคำตอบ และเติบโตด้วยตนเอง หลักสูตรนี้มุ่งเสริมสร้างแนวคิดของการเป็นผู้นำที่เน้นการสนับสนุนมากกว่าการควบคุม พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกันภายในทีมและองค์กร เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนทั้งในระดับบุคคลและทีม

ประโยชน์ของการฝึกอบรม

  • เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการและแนวทางเป็นผู้นำที่ส่งเสริมศักยภาพอย่างเป็นระบบ พร้อมสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารและพัฒนาทีมได้จริง
  • เพื่อส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองภายในทีมอย่างต่อเนื่อง ลดการพึ่งพาการตัดสินใจจากหัวหน้า โดยกระตุ้นให้ทีมมีความคิดเป็นของตนเอง กล้าตัดสินใจ และรับผิดชอบร่วมกัน
  • เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจระหว่างผู้นำและทีมงาน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร 

บริษัทให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร โดยดำเนินการสำรวจเป็นประจำปีทุกปี เพื่อประเมินระดับความพึงพอใจและความมุ่งมั่นของพนักงานที่มีต่อองค์กร โดยพนักงานทุกคนให้ความเห็นผ่านแบบสำรวจซึ่งประกอบด้วยคำถาม 3 ส่วน จำนวน 80 ข้อ ให้พนักงานได้จัดอันดับคะแนนความพึงพอใจแบ่งเป็น 6 ระดับ

ประเมินความพึงพอใจของพนักงานที่มีต่อองค์กรผ่าน 5 ตัวขับเคลื่อนหลัก

  • ความเป็นผู้นำที่สร้างความผูกพัน
  • การให้ความสำคัญกับพนักงานที่มีความสามารถ
  • ความคล่องตัว
  • ปัจจัยพื้นฐาน
  • งาน

ผลการสํารวจความพึงพอใจของพนักงานประจําปีจะเผยแพร่ให้พนักงานทุกคนทราบทางอีเมล

ผลการสํารวจความพึงพอใจของพนักงานประจําปีจะเผยแพร่ให้พนักงานทุกคนทราบทางอีเมล

กิจกรรม แต่งไทยใส่บาตรในวันสงกรานต์

เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทย และเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับพนักงานในองค์กร
จึงจัดให้มีกิจกรรม แต่งไทยใส่บาตรเป็นประจำทุกปี โดยนิมนต์พระมารับบิณฑบาต 9 รูป และจัดทั้ง 2 อาคาร

มีพนักงานเข้าร่วมประมาณ 400 คน อาคารละ 200 คน


กิจกรรม เคลียร์บ้าน ได้บุญ.. ปลายปีเพื่อโครงการ “เหลือขอ” มูลนิธิบ้านนกขมิ้น

จุดประสงค์เพื่อให้พนักงานได้มีจิตใจ เป็นผู้ให้และแบ่งปันให้กับน้องๆ ผู้ด้อยโอกาส และยังเป็นการเคลียร์ของใช้ในบ้านที่เราต้องการทิ้ง แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ให้ส่งต่อได้อีกด้วย

โดยตั้งจุดรับบริจาคของจากพนักงานทั้ง 2 อาคาร
- รับของใหม่ อาทิ อุปกรณ์การเรียน กล่องดินสอ สี สมุด ดินสอ ปากกา ข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อนำไปมอบเป็นของขวัญวันเด็ก ให้น้องๆ ในมูลนิธิบ้านนกขมิ้น - รับสิ่งของที่ใช้แล้ว เหลือใช้ ส่งต่อให้กับโครงการ “เหลือขอ” ในมูลนิธิบ้านนกขมิ้นอีกเช่นกัน เพื่อนำไปคัดแยกและทำประโยชน์ต่อไป

พนักงานทั้งองค์กรร่วมบริจาค


กิจกรรม ดีท็อกซ์ ดีทอล์ค คุณธรรมนำทาง อบรมปฏิบัติธรรม 2 วัน 1 คืน

ในช่วงเดือนสิงหาคมเป็นเดือนแห่งวันแม่ การจัดอบรมปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และมุ่งเน้นการพัฒนาจิตใจ ปรับทัศนคติในเชิงบวก ด้วยการเจริญสติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินชีวิต ทั้งในครอบครัว และการปฏิบัติงาน จัดที่ วัดป่าศรีถาวรนิมิต จ.นครนายก   

มีพนักงานเข้าร่วมทั้งหมด 45 คน
ผลประเมินความพึงพอใจกิจกรรมโดยเฉลี่ย 9.74


ลอยกระทงที่ไหน ในสไตล์ของคุณ

เพื่อให้พนักงานได้ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย ในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยใช้วิธีที่ร่วมสมัยกับกิจกรรม “ลอยกระทงที่ไหนในสไตล์ของคุณ” แล้วส่งภาพถ่าย พร้อมคำอธิษฐาน มาลุ้นรับรางวัล

ยอดวิวกิจกรรม 512 คน มีพนักงานเข้าร่วมประกวด 25 คน