อีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะสาวๆ ที่อยากมีใบหน้าเรียวสวยรวมไปจนถึงมีสัดส่วนร่างกายที่เพรียวกระชับ ก็ต้องนึกถึงเมโสแฟต (Meso Fat) สารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเสริมความงาม เนื่องจากเป็นทางเลือกสำหรับการลดไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ อย่างง่ายดายทั้งบริเวณเหนียง แก้ม หน้าท้อง หรือต้นแขน และมักจะได้ยินหลายๆ คำถามจากผู้ที่สนใจหัตถการดังกล่าวนี้ว่าฉีดเมโสแฟตจริงๆ มีผลข้างเคียงไหม อันตรายหรือเปล่า และอยู่ได้นานแค่ไหน ยิ่งหากผู้ที่ไม่เคยผ่านการฉีดเมโสแฟตมาก่อนยิ่งสงสัย วันนี้ KTC จึงมาไขข้อข้องใจเรื่องการฉีดเมโสแฟตกัน
เมโสแฟตคืออะไร
การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) คือ หัตถการเพื่อการลดและสลายไขมันส่วนเกิน ด้วยการฉีดตัวยาเข้าสู่ชั้นไขมันในบริเวณส่วนต่างๆ ที่ต้องการลดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้าอย่างแก้มและเหนียง ไปจนถึงบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา หรือจุดที่มีไขมันสะสมมากๆ เป็นต้น ซึ่งหลักการทำงานของการฉีดสลายไขมันเมโสแฟต คือ การใช้ตัวยาที่ช่วยให้ไขมันสลายตัว และขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง
ซึ่งตัวยาในเมโสแฟตนั้นมีสารออกฤทธิ์หลักๆ คือ Artichoke Extract (Cynara Scolymus) ทำหน้าที่ช่วยลดกรดไขมัน ลดไขมันเฉพาะจุด หรือต้องการลดเซลลูไลท์ Mesostabyl (Polyunsaturated Phosphatidylcholine) สารที่ช่วยลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ และ L-carnitine สารที่ช่วยให้ร่างกายนำเซลล์ไขมันไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น พร้อมกำจัดไขมันส่วนเกินตามชั้นผิวหนัง
การฉีดเมโสแฟตช่วยสลายไขมัน ลดสัดส่วน ให้ผิวเกิดความกระชับ
ฉีดเมโสแฟตช่วยเรื่องอะไร
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าหลักของการฉีดเมโสแฟตคือช่วยสลายไขมัน ฉะนั้น หากเจาะถึงผลลัพธ์ของเมโสแฟตแล้ว แน่นอนว่าเมโสแฟตเป็นตัวช่วยให้ผิวเกิดความกระชับ ช่วยลดสัดส่วนตามบริเวณต่างๆ เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เป็นต้น ช่วยลดไขมันและลดเซลลูไลท์ให้กับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมเยอะในบางจุดแต่ไม่ต้องการผ่าตัดนั่นเอง
โดยเฉพาะสาวหน้ากลม แก้มเยอะ และมีเหนียง เรียกได้ว่าเมโสแฟตนั้นได้รับความนิยมให้เป็นหนึ่งในหัตถการที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ เพราะสามารถลดเซลล์ไขมันลงได้ประมาณ 10-20% ตั้งแต่ครั้งแรก โดยช่วยลดเหนียงได้บางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะแนะนำให้ทำควบคู่กับโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า เพื่อทำให้เหนียงยุบลงและรูปหน้ากระชับขึ้น
การฉีดเมโสแฟตเหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น หรือเจ็บตัวจากการสลายไขมัน
ฉีดเมโสแฟตอันตรายไหม ข้อดีและข้อเสียของการฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟต เป็นหัตถการที่ไม่อันตราย หากอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และสถานความงามที่เชื่อถือได้ ซึ่งข้อดีของการฉีดเมโสแฟต คือการขจัดไขมันส่วนเกินอย่างที่กล่าวไป เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น หรือเจ็บตัวจากการสลายไขมัน เมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ เช่น การดูดไขมัน ที่สำคัญยังถือเป็นวิธีการที่ใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งไม่นานอีกด้วย
แต่ข้อเสียก็คือการฉีดเมโสแฟตไม่สามารถเห็นผลได้ในทันที เหมือนกับการดูดไขมัน โดยต้องอาศัยระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ของตัวยาที่ฉีดเข้าไป และไม่เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันมากๆ ทั้งนี้ ควรให้แพทย์ประเมินปริมาณไขมันและจุดในการฉีด
ฉีดเมโสแฟตกี่วันเห็นผล อยู่ได้กี่เดือน
ฉีดเมโสแฟตกี่วันเห็นผล แล้วเห็นผลทันทีเลยหรือไม่ จริงๆ แล้วการฉีดเมโสแฟตจะเห็นผลลัพธ์ ตั้งแต่ครั้งแรก เมโสแฟตสามารถสลายไขมันเก่าได้ตั้งแต่วันแรก จนถึง 5-7 วันหลังฉีด และหลังจากการฉีด จะเห็นผลเต็มที่ภายใน 1-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและบริเวณที่ฉีดเช่นกัน โดยหากฉีดที่บริเวณแก้ม อาจจะมีอาการบวมในระยะเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ไม่อันตรายและสามารถยุบหายไปได้เองใน1-2 วัน แต่ถ้าเป็นคนที่ช้ำและบวมมาก ก็สามารถกินยาลดอาการบวมได้
เมโสแฟตอยู่ได้นานกี่เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน และการรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน แต่ปกติแล้วจะสามารถรักษาผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน แนะนำให้ลดอาหารมัน อาหารทอดไขมันสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทั้งนี้ สามารถกลับมาฉีดเมโสแฟตซ้ำได้ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเคสที่มีไขมันมากๆ เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
สำหรับผู้ที่สนใจที่ฉีดเมโสแฟต การเตรียมตัวก่อนฉีดก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ควรหาข้อมูลให้พร้อม เพื่อทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดออกมาดีด้วยนั่นเอง ซึ่งนอกจากควรจะศึกษารายละเอียดของเมโสแฟต และสถานเสริมความงามหรือคลินิกที่เข้าการรักษาแล้ว ยังควรเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายด้วย ได้แก่
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยา งดยาในกลุ่มแอสไพริน และอาหารเสริม ก่อนเข้ารับการรักษาประมาณ 3 วัน เพื่อลดอาการเกิดรอยฟกช้ำ
- แจ้งโรคประจำตัว ยาที่รับประทาน รวมไปถึงยาที่แพ้ให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนฉีดเมโสแฟต
- ต้องไม่เป็นผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรอยู่
- ถ้าต้องทำหัตถการบนใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ Ultraformer III สามารถทำวันเดียวกันได้แต่ควรทำหัตถการอื่นให้เรียบร้อยก่อนเริ่มฉีดแฟต
รูปภาพจาก aurabangkokclinic.com/blog/mesofat-injection-result-period
เมโสแฟต เจ็บไหม
ความเจ็บปวดจากการฉีดเมโสแฟตมักจะอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง ซึ่งขึ้นอยู่กับความทนต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้ว
- แพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนการฉีด เพื่อลดความเจ็บปวด
- ผู้รับการรักษาอาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยระหว่างและหลังการฉีด
- อาการปวดมักจะบรรเทาลงภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังการรักษา
เมโสแฟต บวมกี่วัน
อาการบวมมักจะเกิดขึ้นทันทีหลังการฉีดและคงอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง (โดยความรุนแรงของอาการบวมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล)
เพื่อลดอาการบวม แพทย์อาจแนะนำให้
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 1-2 วันหลังการรักษา
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกาย
การดูแลหลังฉีดเมโสแฟต
แน่นอนว่าหลังจากฉีดเมโสแฟต ก็มีข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ควรทราบเช่นกัน อาทิ หลังฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน ก็อาจจะมีอาการบวมจากปริมาณตัวยาที่ฉีดเข้าไป ซึ่งตัวยาจะซึมยุบไปเองประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและเหนียง ก็อาจจะบวมอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงมีข้อควรระวังหลังจากฉีดเมโสแฟตไม่ว่าจะบริเวณหน้าและส่วนต่างๆ ดังนี้
- ไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีดตัวยาเข้าไป
- ช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก งดทาครีมบำรุง และแต่งหน้า
- หลีกเลี่ยงการอบซาวน่าหรือให้หน้าโดนความร้อน งดการทำเลเซอร์ หรือไปนวดหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากกังวลเรื่องรอยช้ำ 4-5 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดออกกำลังกายหนัก งดวิตามินและอาหารเสริม เพราะอาจเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลบวมและช้ำนานกว่าปกติ ถ้ามีอาการเขียวช้ำอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 7-14 วัน เป็นอาการปกติ ไม่อันตราย
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพราะการดื่มน้ำจะช่วยทำให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
- ควรเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีกและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น
เห็นแบบนี้แล้ว สำหรับใครที่กังวลเรื่องของไขมันส่วนเกิน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ การคุมอาหารและออกกำลังกายก็อาจจะใช้เวลานานเกินไป การฉีดเมโสแฟตถือเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและเป็นตัวช่วยหนึ่งในการลดไขมันส่วนเกินได้อย่างรวดเร็ว และสามารถทำได้หลายบริเวณด้วยกัน ทั้งนี้ อย่าลืมที่จะศึกษาข้อมูลให้ดีทั้งในเรื่องของสถานเสริมความงามที่ให้บริการ มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ และไว้วางใจได้ด้วยเช่นกัน อย่างที่ AURA BANGKOK CLINIC ที่ทุกเคสจะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา พร้อมยังมีสิทธิประโยชน์โปรแกรมฉีดโบท็อก และเมโสแฟตในราคาพิเศษกับบัตรเครดิต KTC อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก aurabangkokclinic.com/blog/mesofat-injection-result-period
พิเศษ ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนไม่จำกัด ณ AURA BANGKOK CLINIC
สิทธิประโยชน์ที่ 1: โปรแกรมฉีดโบท็อก 2 บริเวณ + แฟต 60cc ราคาพิเศษ 14,990 บาท
(ราคาปกติ 19,000 บาท) โบท็อกเลือกบริเวณ ได้แก่ กราม ลิฟต์หน้า ริ้วรอย ย้ำฟรี!
หมายเหตุ: ไม่จำกัดสิทธิ์ในการซื้อ สามารถหารกับเพื่อนได้ แบ่งใช้ได้หลายครั้ง
ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 มิ.ย. 67 – 30 ก.ย. 67
สิทธิประโยชน์ที่ 2: ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 6 เดือน* พร้อมลงทะเบียนรับเครดิตเงินคืนไม่จำกัดตลอดรายการ
ยอดผ่อนชำระ / เซลส์สลิป |
รับเครดิตเงินคืน |
10,000 – 29,999 บาท |
220 บาท |
30,000 – 54,999 บาท |
800 บาท |
55,000 – 79,999 บาท |
1,500 บาท |
80,000 – 149,999 บาท |
2,300 บาท |
150,000 บาทขึ้นไป |
5,200 บาท |
*เงื่อนไขและระยะเวลาผ่อนชำระเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด
ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 มิ.ย. 67 – 30 ก.ย. 67
ดูรายละเอียดโปรโมชั่น AURA BANGKOK CLINIC กับบัตรเครดิต KTC เพิ่มเติมคลิกที่นี่
หากสนใจโปรโมชั่นดีๆ แต่ยังไม่มีบัตร สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี พร้อมรับความคุ้มค่าทุกการใช้จ่ายกับคะแนน KTC FOREVER ที่สะสมได้ไม่จำกัด และไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้แลกรับส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนได้
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC