ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยี ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องปรับตัวอยู่เสมอ ซึ่งในปี 2025 นี้ มีแนวโน้มว่าหลายอุตสาหกรรมจะเติบโตแบบก้าวกระโดด ขณะที่บางธุรกิจอาจต้องเผชิญกับความท้าทายและต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ลองมาดูกันว่ามี 10 เทรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจอะไรบ้างที่เป็นดาวรุ่ง และ 10 ธุรกิจดาวร่วงในปี 2025 นี้มีอะไรบ้าง
10 ธุรกิจที่น่าสนใจ 2025 ดาวรุ่งแห่งปี มีอะไรบ้าง ?
1. ธุรกิจ E-commerce และ Social Commerce
ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาช้อปออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจร้านค้าออนไลน์เติบโตอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, TikTok, LINE SHOPPING ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยี AI และ Chatbot มาใช้ในการบริการลูกค้า ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด จนทำให้ธุรกิจ E-commerce และ Social Commerce กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจดาวรุ่งแห่งปี
2. ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพและ Plant-Based
เทรนด์การดูแลสุขภาพและโภชนาการกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกรับประทานอาหารคลีน วีแกน และโปรตีนจากพืชกันมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพและ Plant-Base จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 2025 นี้ หากธุรกิจใดสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและมีรสชาติอร่อยได้ด้วย ก็จะสามารถแข่งขันในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วได้
3. ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและธรรมชาติ
ในปี 2025 นี้ นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการพักผ่อนที่ต้องได้รับทั้งความสนุกและส่งเสริมสุขภาพ ดังนั้น ธุรกิจที่น่าสนใจอย่างการท่องเที่ยวในรูปแบบ Wellness Tourism ฟาร์มสเตย์ หรือกิจกรรมเชิงนิเวศ จึงกลายเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะผู้บริโภคต้องการประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ
4. ธุรกิจเสื้อผ้าและแฟชั่นยั่งยืน (Sustainable Fashion)
การที่ผู้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจแฟชั่นที่มุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าอย่างยั่งยืนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ธุรกิจที่ใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสนับสนุนแนวคิด Zero-Waste และการทำงานร่วมกับแบรนด์ที่มีจริยธรรมในการผลิตสินค้า จะเติบโตได้ดีในกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้
5. ธุรกิจสื่อบันเทิงและเกมออนไลน์
ธุรกิจสื่อบันเทิงและเกมออนไลน์ยังคงเป็นธุรกิจดาวรุ่งที่น่าจับตามองในปีนี้ โดยเฉพาะการเติบโตของเกมออนไลน์และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาความบันเทิงใหม่ๆ ธุรกิจที่สามารถนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ เช่น ระบบการเล่นเกมแบบโซเชียล e-Sports หรือการสร้างประสบการณ์เสมือนจริง (VR/AR) จะมีโอกาสในการเติบโตสูง และสามารถแข่งขันในตลาดที่กำลังเติบโตนี้ได้
6. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ Smart Home
เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การใช้ชีวิตในบ้านที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีจึงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ธุรกิจที่ผลิตหรือจำหน่ายอุปกรณ์ Smart Home เช่น กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ ลำโพงอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียง กำลังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยในบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ
7. ธุรกิจดูแลผู้สูงวัยและบริการสุขภาพ
เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว ดังนั้น ธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการดูแลผู้สูงวัยจึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่น บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน การจำหน่ายอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย หรือบริการสุขภาพเฉพาะทาง
8. EdTech และการเรียนออนไลน์
การเรียนออนไลน์และการพัฒนาทักษะเฉพาะทางผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลยังคงเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ภาษา การตลาดดิจิทัล และทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนั้น ธุรกิจ EdTech จึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ ลงทุนน้อย และมีโอกาสเติบโตสูงในปี 2025 นี้
9. ธุรกิจขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง
เทรนด์ Pet Parent ที่เน้นการดูแลและเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงในทุกด้านยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสัตว์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความสุขของสัตว์เลี้ยง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารสัตว์ ของเล่น เสื้อผ้า และบริการต่างๆ เช่น ร้านขายอาหารสัตว์ บริการสปาสำหรับสัตว์เลี้ยง ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ดูแลสัตว์ จึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วและขยายตัวในตลาดได้อย่างต่อเนื่องในปี 2025 นี้
10. ธุรกิจพลังงานสะอาด และ EV Charging Station
การขยายตัวของพลังงานสะอาดและการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการผลิตอุปกรณ์เสริมต่างๆ มีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีศักยภาพในการเติบโตจนกลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งของปี 2025 นี้ได้
10 ธุรกิจดาวร่วงที่ต้องปรับตัวในปี 2025 นี้ มีอะไรบ้าง ?
ธุรกิจที่เคยรุ่งเรืองอาจกลายเป็นดาวร่วงหากไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป นี่คือ 10 ธุรกิจที่ต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในปี 2025
1. ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม
การค้าปลีกแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักเมื่อผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นในทุกๆ วัน ด้วยความสะดวกสบายในการช้อปออนไลน์จากที่บ้าน การส่งสินค้าถึงที่ บริการเก็บเงินปลายทาง และตัวเลือกในการซื้อสินค้าที่หลากหลาย สะดวกสบาย หากธุรกิจค้าปลีกที่ยังคงยึดถือการขายแบบดั้งเดิม ไม่มีช่องทางสั่งซื้อออนไลน์ ก็อาจประสบปัญหาด้านยอดขายที่ลดลง ซึ่งต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
2. ร้านอาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่ไม่มีบริการเดลิเวอรี่
ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาสั่งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น หากร้านไหนไม่ปรับตัวหรือไม่มีบริการเดลิเวอรี่ รวมถึงไม่มีช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น GrabFood, LINE MAN, Facebook, Instagram หรือ TikTok อาจจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ยากลำบาก ดังนั้น การเปิดช่องทางใหม่ๆ เช่น บริการจัดส่งถึงบ้าน หรือการเพิ่มบริการที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและสะดวก จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และรักษาลูกค้าเดิมได้
3. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์
การเติบโตอย่างรวดเร็วของสื่อดิจิทัลและพฤติกรรมการอ่านที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก ยอดขายหนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคหันไปใช้สื่อดิจิทัลที่สะดวกกว่า เช่น E-books, Audiobooks ไปจนถึงการฟัง Podcast ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นเพื่อให้ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงอยู่ได้ จึงจำเป็นต้องปรับตัว โดยการหันมาเสนอเนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
4. ธุรกิจโรงภาพยนตร์
การสตรีมมิ่งออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมาก ธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่เคยเป็นแหล่งบันเทิงหลักสำหรับผู้ชมก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะผู้บริโภคสามารถดูหนังจากที่บ้านได้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Netflix, Disney+ และ Prime Video ซึ่งสะดวกและคุ้มค่าด้วยการจ่ายค่าบริการรายเดือนก็สามารถชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วย
5. ธุรกิจขายเครื่องเล่นเกม
การเติบโตของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมเกมและการเล่นเกมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้ร้านขายเครื่องเล่นเกมต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลง ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดในการดำเนินธุรกิจ ร้านค้าควรปรับตัวด้วยการขยายไลน์สินค้าและบริการให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ เช่น การจำหน่ายเกมดิจิทัล บริการเติมเงินเกมออนไลน์ หรือการนำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมที่ล้ำสมัยขึ้น
6. ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่า CD หรือ VDO
ยุคทองของแผ่น CD และ VDO สิ้นสุดลงแล้ว ปัจจุบันผู้บริโภคหันไปชมผ่านบริการสตรีมมิ่ง เช่น Netflix, Disney+, Prime Video ที่ให้ความสะดวกสบายและเข้าถึงคอนเทนต์ได้ทุกที่ทุกเวลา ส่งผลให้ธุรกิจจำหน่ายและให้เช่า CD หรือ VDO ต้องเผชิญกับยอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
หากต้องการให้อยู่รอด ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวหรือขยายไปสู่การขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ของสะสม แผ่นเสียง แผ่นภาพยนตร์หายาก หรือเปิดพื้นที่จัดกิจกรรมสำหรับคอหนังและนักสะสม เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความคลาสสิกและสร้างจุดขายที่แตกต่างจากบริการสตรีมมิ่งทั่วไป
7. ธุรกิจคนกลางจำหน่ายอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบเดิม (CD, DVD, Thumb Drive ฯลฯ)
เมื่อการเก็บข้อมูลย้ายขึ้นไปอยู่บนระบบคลาวด์และแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ความต้องการใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบเดิม เช่น CD, DVD และ Thumb Drive ก็ค่อยๆ ลดลง อีกทั้งบริการสตรีมมิ่งและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลออนไลน์ ทำให้ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องพกพาอุปกรณ์เหล่านี้อีกต่อไป ธุรกิจที่ต้องการอยู่รอดอาจต้องปรับตัวไปสู่ตลาดที่มีมูลค่ามากขึ้น เช่น อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีระบบเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยสูง หรือพัฒนาโซลูชันที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ได้โดยตรง เพื่อรองรับการใช้งานที่ทันสมัยและสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน
8. ธุรกิจถ่ายเอกสาร
ปัจจุบันองค์กรและบุคคลทั่วไปหันมาใช้การสแกนเอกสาร จัดเก็บ และส่งต่อเอกสารผ่านระบบคลาวด์หรือไฟล์ดิจิทัลแทน อีกทั้งการประชุมและการเรียนการสอนก็ปรับไปใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้บริการถ่ายเอกสารลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อความอยู่รอด ธุรกิจจะต้องปรับตัวโดยการเพิ่มบริการที่ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล เช่น บริการสแกนและแปลงเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัล บริการการให้เช่าเครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์สำหรับองค์กรและสถาบันการศึกษา บริการให้เช่าเครื่องพิมพ์สำหรับพรินต์ภาพในงานเลี้ยง เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิม
9. ธุรกิจรถยนต์มือสอง
ตลาดรถยนต์มือสองกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในปี 2025 ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรง แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำให้ผู้ซื้อ-ผู้ขายจากศูนย์รถยนต์มือหนึ่ง สามารถไลฟ์พูดคุยกันได้ง่ายๆ แบบเรียลไทม์ อีกทั้งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมโปรโมชั่นและต้นทุนการใช้งานที่ต่ำกว่ารถยนต์สันดาป ทำให้ผู้ประกอบกิจการธุรกิจรถยนต์มือสองต้องปรับตัวให้ทันกระแส เช่น การโปรโมทโชว์รูมรถยนต์มือสองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพิ่มบริการรับซื้อ-ขายถึงที่ หรือให้การรับประกันที่ครอบคลุมมากขึ้น
10. ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบดั้งเดิม
ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับบ้านและคอนโด รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์พื้นที่จำกัด หากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้ยังคงยึดติดกับการดีไซน์รูปแบบเดิมๆ อาจทำให้เสียโอกาสการขายให้กับเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุอื่นและออกแบบได้ทันสมัย ซึ่งอาจมีราคาย่อมเยากว่าด้วย ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ จึงจำเป็นต้องปรับตัวด้วยการปรับดีไซน์ให้โมเดิร์นมากขึ้น หรือเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเหมาะกับคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ การทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ก็สำคัญ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ได้มีแค่เรื่องสินค้าและบริการเท่านั้น แต่รวมถึงวิธีการชำระเงินด้วย ดังนั้นสิ่งสำคัญในการทำให้ธุรกิจอยู่รอดก็คือ การให้บริการชำระเงินที่ง่ายและสะดวกสบายต่อลูกค้า โดยเราขอแนะนำ KTC MERCHANT บริการรับชำระเงินหลากหลายรูปแบบจาก KTC เช่น
- Payment Gateway : รับชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ธุรกิจออนไลน์โดยเฉพาะ อีกทั้งรองรับบัตรเครดิตและเดบิต เครือข่าย Visa, Mastercard, JCB, UnionPay จากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก สามารถชำระเต็มจำนวน หรือผ่อนชำระกับบัตรเครดิต KTC ก็ได้ รวมไปถึงสามารถแลกคะแนน KTC FOREVER ก็สามารถทำได้เช่นกัน
- เครื่องรูดบัตร EDC : บริการรับชำระเงินทุกรูปแบบในเครื่องเดียว รูดง่าย ขายง่าย แลกคะแนนได้ ผ่อนสบาย รับชำระได้ทุกที่
- QR PAY : บริการรับชำระเงินผ่าน QR Code ด้วย KTC Merchant Application ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว
- LINK PAY : บริการรับชำระด้วยลิงก์ผ่านโซเชียลมีเดีย ที่เจ้าของร้านสามารถสร้างลิงก์ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ อีกทั้งร้านค้าสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะให้ลูกค้าชำระเต็มจำนวนผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และ Alipay หรือจะผ่อนชำระกับบัตรเครดิต KTC ก็ได้เช่นกัน
เพิ่มโอกาสในการขายและรองรับลูกค้าวันนี้ สมัครบริการ KTC MERCHANT ผ่านออนไลน์ได้เลย พร้อมอนุมัติและติดตั้งภายใน 7-10 วัน* หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 123 5700 กด 3 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ตอบรับทุกบริการ ชำระเงิน ด้วย KTC MERCHANT