ผ่อนคอนโดฉบับมนุษย์เงินเดือน ผ่อนสินเชื่อยังไงให้ผ่าน เดือนละ 5,000 ก็ผ่อนได้!
มนุษย์เงินเมื่อทำงานไปสักพัก ก็มักจะคิดถึงการมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลในด้านของความสะดวกสบายในการเดินทาง เรื่องความเป็นส่วนตัว รวมไปถึงอิสระในการอยู่อาศัย ทำให้หลาย ๆ คนมักจะหาผ่อนคอนโดที่ทำเลอยู่ในเมือง ใกล้สถานีขนส่งสาธารณะ หรือบางคนอาจลงทุนผ่อนคอนโดหวังเก็บไว้เป็นอสังหาริมทรัพย์สำหรับปล่อยเช่าต่อกรณีย้ายที่อยู่ในอนาคตได้
อย่างไรก็ตาม การผ่อนคอนโดก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่สามารถตัดสินใจได้ในทันที แต่จะต้องมีการคิดเรื่องการยื่นกู้ ฐานเงินเดือน ความสามารถในการผ่อนจ่ายแต่ละเดือน และวิธีเก็บเงินเพื่อเอาไว้ใช้เมื่อจำเป็น ดังนั้นหากใครที่คิดจะผ่อนคอนโดอยู่ ลองมาศึกษาข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ได้ในบทความนี้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
อยากผ่อนคอนโด ควรมีเงินเดือนเริ่มต้นที่เท่าไหร่
เมื่อเริ่มคิดอยากผ่อนคอนโด อันดับแรกที่ต้องมีคือฐานเงินเดือนที่เหมาะสมสำหรับผ่อนคอนโดในแต่ละเดือนการผ่อนคอนโดนั้นจะมีการคำนวณจากภาระหนี้สิน วิธีการคือนำ 60% ของเงินเดือนลบด้วยภาระหนี้สินทั้งหมด ผลลัพธ์ที่ได้คือความสามารถในการผ่อน เพื่อไม่ให้ราคาผ่อนคอนโดกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากเกินไป การผ่อนคอนโดจะมีระยะเวลาการผ่อนโดยประมาณอยู่ที่ 30 ปี และวงเงินที่กู้ซื้อคอนโดได้นั้นจะมีสูตรคำนวณด้วยการนำความสามารถในการผ่อน คูณด้วย 1,000,000 จากนั้นหารด้วย 6,000 จึงจะได้วงเงินกู้สูงสุด หรือดูได้จากตัวอย่างตารางคำนวณค่าผ่อนคอนโด ดังนี้
เงินเดือน (บาท) |
ความสามารถในการผ่อน (บาท) |
วงเงินกู้สูงสุด (บาท) |
10,000 |
6,000 |
1,000,000 |
15,000 |
9,000 |
1,500,000 |
20,000 |
12,000 |
2,000,000 |
25,000 |
15,000 |
2,500,000 |
30,000 |
18,000 |
3,000,000 |
35,000 |
21,000 |
3,500,000 |
40,000 |
24,000 |
4,000,000 |
45,000 |
27,000 |
4,500,000 |
50,000 |
30,000 |
5,000,000 |
55,000 |
33,000 |
5,500,000 |
60,000 |
36,000 |
6,000,000 |
65,000 |
39,000 |
6,500,000 |
70,000 |
42,000 |
7,000,000 |
75,000 |
45,000 |
7,500,000 |
80,000 |
48,000 |
8,000,000 |
85,000 |
51,000 |
8,500,000 |
90,000 |
54,000 |
9,000,000 |
95,000 |
57,000 |
9,500,000 |
100,000 |
60,000 |
10,000,000 |
ข้อมูลจากเว็บไซต์ แสนสิริ (Sansiri)
จากตารางผ่อนคอนโด จะเห็นได้ว่าวงเงินที่กู้ได้สูงสุดจะขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือนและความสามารถในการผ่อน ทั้งนี้ตัวเลขเป็นการคำนวณให้เห็นภาพเท่านั้น จำนวนเงินจริงที่ต้องผ่อนแต่ละเดือนก็จะขึ้นอยู่กับราคาคอนโด และเงินที่ทำการกู้จริง
ผ่อนคอนโดเดือนละ 5,000 ทำได้จริงไหม
การซื้อคอนโด ผ่อนเดือนละ 5,000 บาทนั้นสามารถทำได้หรือไม่? อย่างที่ได้อธิบายสูตรการคำนวณความสามารถในการผ่อนคอนโดโดยการนำรายได้ทั้งหมดหรือเงินเดือน คูณ 60% จากนั้นลบด้วยภาระหนี้สินก็จะได้เป็นความสามารถในการผ่อนแต่ละเดือน โดยมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่มีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท เพราะฉะนั้นหากเทียบจากตารางความสามารถในการผ่อนจะอยู่ที่ 9,000 บาทต่อเดือน และขอสินเชื้อเงินกู้ได้สูงถึง 1.5 ล้านบาท เพราะฉะนั้นการผ่อนคอนโด 5,000 บาทจึงเป็นเรื่องที่ทำได้
รวมเรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจผ่อนคอนโดหลังแรก
ทำเลส่งผลต่อราคาของคอนโด
การเลือกทำเลของคอนโดก็สำคัญ ยิ่งอยู่ใจกลางเมืองมากราคาก็จะยิ่งสูง หากไม่ต้องการผ่อนคอนโดในอัตราที่สูงมากในแต่ละเดือน อาจจะเลือกทำเลคอนโดที่อยู่บริเวณรอบนอกใจกลางเมืองแต่ใกล้รถไฟฟ้าแทน เพื่อที่จะได้คอนโดราคาถูกลงมา แต่ยังคงเดินทางสะดวก
เตรียมเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายแฝงในการผ่อนคอนโด
การผ่อนคอนโด นอกจากเงินสำหรับจ่ายผ่อนในแต่ละเดือนแล้ว ยังต้องมีการเตรียมเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่ตามมาอีกด้วย ดังนั้นควรจะต้องมีการวางแผนทางการเงินอย่างรัดกุม เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาหมุนเงินไม่ทันในภายหลัง โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องตระเตรียมคร่าว ๆ มีดังนี้
- เงินวางจองคอนโด
- เงินสำหรับทำสัญญา
- ค่าจดจำนอง คิดเป็น 1% ของวงเงินกู้ ชำระที่กรมที่ดินในวันโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินโดยกรมที่ดิน
- เงินดาวน์ตามที่กำหนด ส่วนใหญ่จำนวนเงินดาวน์จะคิดเป็น 5-10% จากราคาคอนโด
- ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า และมิเตอร์น้ำ
- ค่าประกันภัยอาคาร ในกรณีที่มีการทำประกันโดยนิติบุคคลคอนโด
- ค่าส่วนกลาง โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ต้องมีการวางแผนตั้งแต่ก่อนการเลือกซื้อคอนโดเพราะจะต้องจ่ายทุกเดือนตลอดระยะเวลาที่มีการครอบครองคอนโด ซึ่งค่าส่วนกลางนี้จะคิดตามขนาดห้องเป็นหน่วยตารางเมตร
- ค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ เช่น ค่าขนย้ายสัมภาระ ค่าเฟอร์นิเจอร์ในกรณีที่ซื้อห้องเปล่า หรือซื้อคอนโดมือสองที่ไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์มาด้วย
วางแผนและประเมินระยะเวลาในการกู้
การชำระค่าผ่อนคอนโดส่วนมากมักมีระยะเวลาอยู่ที่ประมาณ 30-40 ปี โดยขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ด้วยเช่นกัน หากในระยะเวลานั้นผู้กู้จะอายุเกินที่กำหนด ระยะเวลาที่ให้กู้ยืมได้อาจจะน้อยลง รวมไปถึงค่าชำระหนี้แต่ละเดือนก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเมื่อคิดจะซื้อคอนโด ควรต้องมีการวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งจำนวนในการวางเงินดาวน์ ประเมินระยะเวลาการกู้แบบคร่าว ๆ ว่าสามารถกู้ยืมได้กี่ปี และแต่ละเดือนต้องชำระหนี้เท่าไหร่เพื่อชำระให้ครบภายในที่กำหนด
วางแผนการผ่อนให้จบไวที่สุด
ในการกู้ยืมเงินมาเพื่อซื้ออะไรก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผ่อนคอนโด ไม่ควรที่จะวางใจหรือหละหลวม เนื่องจากจะมีดอกเบี้ยเพิ่มพูนจนทำให้รู้สึกท้อในการผ่อน ดังนั้นจึงควรที่จะวางแผนลดระยะเวลาการผ่อน เช่น การโปะเงินก้อนเพื่อลดเงินต้นเพื่อประหยัดการจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งการโปะเงินก้อนของมนุษย์เงินเดือนอาจจะใช้การสะสมโบนัส หรือวางแผนการเงินด้วยแอปรายรับรายจ่ายเพื่อดูเงินออมแต่ละเดือน และอาจแยกเงินออมบางส่วนมารวมกับโบนัสเพื่อเป็นรวมเงินก้อนในการโปะลดเงินต้น เป็นต้น
ทำเข้าใจเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ย และรีไฟแนนซ์
ส่วนใหญ่ธนาคารมักจะให้โปรโมชันอัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงของการผ่อนคอนโด 3 ปีแรก หลังจากนั้นดอกเบี้ยก็จะมีการปรับตาม MRR หรือดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้การปลดหนี้เงินผ่อนในแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดังนั้นควรที่จะทำความเข้าใจในเรื่องของการรีไฟแนนซ์และรีเทนชั่น เพื่อเป็นการลดดอกเบี้ย
โดยการรีเทนชั่นหรือกรขอลดดอกเบี้ยจะทำกับธนาคารเดิมที่ปล่อยเงินกู้สำหรับคนที่มีเครดิตในการผ่อนที่ดี ส่วนรีไฟแนนซ์ คือการทำสินเชื่อเงินกู้ผ่อนคอนโดกับธนาคารอื่นที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าและนำเงินกู้ที่ได้มาปิดกับธนาคารเดิม จากนั้นก็ทำการผ่อนคอนโดกับธนาคารใหม่ที่ไปทำรีไฟแนนซ์ แต่ก็จะมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องชำระเหมือนกับการขอสินเชื่อครั้งแรก ดังนั้นอาจจะต้องลองเปรียบเทียบความคุ้มค่าว่าแต่ละแบบ อย่างไหนเหมาะสมกับตนเองมากกว่ากัน
เตรียมตัวช่วยด้านการเงินในยามฉุกเฉิน
ในกรณีที่จำเป็นหรือฉุกเฉินในอนาคต การเตรียมตัวช่วยด้านการเงินเพิ่มเติมก็เป็นเรื่องที่ดี อย่างการเลือกใช้บัตรกดเงินสด KTC PROUD หากต้องการแก้ไขสภาพคล่องทางการเงินในยามฉุกเฉิน ซึ่งบัตรกดเงินสด คือบัตรที่สามารถเบิกถอนเงินโดยคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เหมาะสำหรับใช้เป็นตัวช่วยเมื่อจำเป็นรวมถึงลดผลกระทบกับค่าใช้จ่ายในการผ่อนคอนโด
ทั้งนี้ต้องไม่ลืมที่จะวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่น ลองคิดเผื่อหากมีกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้นและต้องใช้ตัวช่วยเสริม จะมีการวางแผนการเงินอย่างไรให้สามารถชำระคืนได้อย่างไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน เป็นต้น
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
ชำระหนี้เก่าเพื่อสร้างเครดิตทางการเงินที่ดี
การผ่อนคอนโด ควรจะชำระหนี้ให้ตรงเวลาตามที่กำหนด เพื่อเป็นการสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีที่จะส่งผลต่อการทำธุรกรรมอื่น ๆ ในอนาคตได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการขอรีเทนชั่นเพื่อลดดอกเบี้ย การทำรีไฟแนนซ์ ขอสินเชื่อเงินกู้กับธนาคารใหม่ที่มีดอกเบี้ยน้อยกว่า เป็นต้น
วางแผนผ่อนคอนโดฉบับมนุษย์เงินเดือนทำได้จริง
การผ่อนคอนโด ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคอนโดกับโครงการหรือกับธนาคาร สิ่งที่ต้องมีคือวินัยในการชำระหนี้คืน และศึกษาในเรื่องของดอกเบี้ยต่าง ๆ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของตนเองให้ได้มากที่สุด ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อคอนโด ควรมีการวางแผนด้านต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อเงินกู้ การเตรียมเงินดาวน์เพื่อลดภาระการผ่อนแต่ละเดือน จัดรายรับรายจ่ายให้ละเอียด รวมถึงค่าใช้จ่ายแฝงต่าง ๆ ที่จะมาพร้อมกับการซื้อคอนโด
นอกจากนี้ การวางแผนสำหรับหาตัวช่วยเสริมด้านการเงินในกรณีฉุกเฉินไว้ล่วงหน้าก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้มีแผนสำรองในการจัดแจงการเงิน เพื่อไม่ให้กระทบค่าใช้จ่ายในการผ่อนคอนโด รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และยังสามารถแบ่งเงินมาเพื่อชำระคืนหากใช้ตัวช่วยเสริมอย่างการใช้บัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยบริหารเงินยามฉุกเฉิน ใช้อย่างชาญฉลาด หมดปัญหาเรื่องหมุนเงินไม่ทันจ่ายค่าผ่อนคอนโดแน่นอน
สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD แถมสิทธิประโยชน์มากมาย ผ่อนบ้าน ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า และผ่อนเฟอร์นิเจอร์
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี