หากพูดถึงการออมเงิน หลายคนอาจคุ้นเคยกับบัญชีออมทรัพย์ที่ช่วยให้การออมเงินเป็นเรื่องง่าย และมีดอกเบี้ยเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ แต่คุณรู้หรือไม่ ? ว่ายังมีการออมเงินอีกประเภทหนึ่งที่ชื่อว่า “บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก” ซึ่งตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการฝาก-ถอนเงินได้ตามความต้องการ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า เงินฝากเผื่อเรียก คืออะไร ? บัญชีเงินฝากเผื่อเรียกถอนยังไง ? บัญชีประเภทนี้เหมาะกับใคร ? และแตกต่างกับเงินฝากออมทรัพย์อย่างไร ? บทความนี้จะพาคุณไปไขทุกข้อสงสัย เพื่อให้การออมเงินของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น
เงินฝากเผื่อเรียก คืออะไร ?
เงินฝากเผื่อเรียก หรืออีกหนึ่งชื่อที่ทราบกันดี นั่นก็คือ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เป็นบัญชีประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่เน้นความสะดวกในการฝากและถอนเงิน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการหมุนเงินหรือทำธุรกรรมทางการเงินเป็นประจำ บัญชีประเภทนี้เหมาะสำหรับการเก็บเงินระยะสั้น ไม่เน้นดอกเบี้ยสะสมเหมือนบัญชีเงินฝากประจำ เพราะให้ดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่า ซึ่งลักษณะสำคัญของเงินฝากเผื่อเรียกมีดังนี้
- ไม่มีระยะเวลาฝากที่แน่นอน : คุณสามารถฝากหรือถอนเงินได้ทุกเมื่อโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา
- ดอกเบี้ยต่ำ : แม้จะมีดอกเบี้ย แต่จะต่ำกว่าบัญชีเงินฝากประจำ เพราะบัญชีนี้เน้นความสะดวกในการใช้งานมากกว่า
- เหมาะสำหรับธุรกรรมบ่อยครั้ง : เช่น ใช้จ่ายในธุรกิจ โอนเงินเข้า-ออก หรือเป็นบัญชีสำรองสำหรับการใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน
“เงินฝากเผื่อเรียก” กับ “เงินฝากออมทรัพย์” ต่างกันอย่างไร ?
เงินฝากเผื่อเรียก และ เงินฝากออมทรัพย์ ถือเป็นบัญชีเงินฝากประเภทเดียวกันในบางธนาคาร โดยชื่อเรียกอาจแตกต่างกันไป ทั้งนี้เนื่องจากทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นในการฝาก-ถอน และออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่คล้ายคลึงกัน แต่ยังคงมีความแตกต่างเล็กน้อยดังนี้
• อัตราดอกเบี้ย
ปกติแล้ว เงินฝากออมทรัพย์ จะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า เงินฝากเผื่อเรียก โดยอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากออมทรัพย์จะอยู่ในช่วง 0.25% - 1.50% ขึ้นอยู่กับธนาคารและเงื่อนไขต่างๆ ในขณะที่เงินฝากเผื่อเรียกมักให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า อยู่ในช่วง 0.30% - 0.50% หรือบางธนาคารอาจไม่ให้ดอกเบี้ยเลยก็ได้
• วัตถุประสงค์การใช้งาน
สำหรับเงินฝากเผื่อเรียกนั้นเหมาะสำหรับการทำธุรกรรมบ่อยๆ เช่น การโอนจ่ายในธุรกิจ ขณะที่บัญชีออมทรัพย์เน้นการเก็บเงินระยะยาวหรือใช้เป็นบัญชีส่วนตัว
• ความสะดวกในการใช้งาน
สำหรับบัญชีออมทรัพย์มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า เพราะรองรับการใช้งานผ่านบัตร ATM หรือแอปพลิเคชันของธนาคาร
เงินฝากเผื่อเรียก คือ บัญชีเงินฝากที่ให้ความยืดหยุ่นในการฝากถอนและการบริหารเงินแก่ลูกค้า
เงินฝากเผื่อเรียก ถอนได้ไหม ถอนยังไง ?
หลายคนอาจสงสัยว่าบัญชีเผื่อเรียกถอนได้ไหม ? ซึ่งความเป็นจริงแล้ว บัญชีเงินฝากเผื่อเรียกนั้นสามารถถอนได้ตามปกติ แต่การถอนเงินจากบัญชีประเภทนี้อาจมีรายละเอียดและข้อกำหนดเฉพาะที่แตกต่างจากบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารที่ให้บริการ โดยวิธีการถอนเงินมีดังนี้
- ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
- การถอนเงินจากบัญชีเงินฝากเผื่อเรียกส่วนใหญ่มักต้องทำที่เคาน์เตอร์ธนาคาร
- ผู้ถอนต้องนำสมุดบัญชีและบัตรประชาชนมาแสดง
- ธนาคารอาจกำหนดให้แจ้งล่วงหน้าหากต้องการถอนเงินจำนวนมาก
- ผ่านระบบออนไลน์ (สำหรับบางธนาคาร)
- ปัจจุบันบางธนาคารเริ่มเปิดให้ทำรายการถอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน
- ก่อนใช้งานควรตรวจสอบว่าบัญชีรองรับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางนี้หรือไม่
- เงื่อนไขในการถอน
- บางธนาคารอาจกำหนด จำนวนเงินขั้นต่ำในการถอน เช่น ถอนขั้นต่ำ 500 บาท
- อาจมีการจำกัดจำนวนครั้งที่สามารถถอนได้ในแต่ละเดือน
- ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน
- การถอนเงินจากบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก อาจมีค่าธรรมเนียมในกรณีที่ถอนเงินบ่อยครั้งหรือถอนเกินจำนวนที่กำหนด
เงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยสูง ?
แม้ว่าเงินฝากเผื่อเรียก จะเน้นที่ความยืดหยุ่นในการฝาก-ถอนมากกว่าการสร้างผลตอบแทน แต่ธนาคารบางแห่งก็ยังมีข้อเสนออัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจสำหรับบัญชีประเภทนี้ โดยเฉพาะธนาคารเฉพาะทางที่มุ่งส่งเสริมการออมโดยตรง หรือธนาคารที่นำเสนอบัญชีเงินฝากดิจิทัลพร้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงและคุ้มค่า ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากเผื่อเรียกในบางธนาคารอาจอยู่ในช่วง 0.25% - 1.00% หรือบางธนาคารอาจสูงถึง 2.00% ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินฝากหรือเงื่อนไขพิเศษที่ธนาคารกำหนด
ทั้งนี้ก่อนเลือกธนาคาร ควรพิจารณาเงื่อนไขให้ถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ยอดเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชีและการถอน การคิดดอกเบี้ย ระยะเวลาสำหรับแคมเปญส่งเสริมการออมนั้นๆ รวมถึงความสะดวกสบายในการใช้งานบัญชี
บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก โอนได้ไหม?
แน่นอนว่าบัญชีเงินฝากเผื่อเรียกสามารถโอนได้ เหมือนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ปกติทั่วไป แต่การโอนเงินจากบัญชีประเภทนี้อาจมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปตามธนาคาร
วิธีการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก
- โอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
- สำหรับบัญชีเผื่อเรียกที่ไม่ได้ผูกกับระบบออนไลน์ การโอนเงินมักต้องทำที่เคาน์เตอร์ธนาคาร
- ต้องนำสมุดบัญชีพร้อมบัตรประชาชนไปดำเนินการ
- โอนผ่านระบบออนไลน์ (บางธนาคาร)
- บัญชีเงินฝากเผื่อเรียกของบางธนาคาร เช่น บัญชีเผื่อเรียกพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจ อาจรองรับการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันหรือออนไลน์
- ก่อนทำรายการควรตรวจสอบว่า บัญชีนี้รองรับการใช้งานออนไลน์หรือไม่
เงื่อนไขในการโอน
- อาจมีข้อกำหนดเรื่องจำนวนเงินขั้นต่ำหรือสูงสุดที่สามารถโอนได้ในแต่ละวัน
- ธนาคารบางแห่งอาจคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมหากโอนเงินบ่อยครั้ง
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- หากบัญชีเผื่อเรียกที่ใช้งานถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจ หรือมีไว้เพื่อรองรับการหมุนเวียนเงินเป็นหลัก บางครั้งการโอนเงินอาจมีกระบวนการซับซ้อนกว่า เช่น ต้องใช้เอกสารยืนยันเพิ่มเติม
- หากเป็นบัญชีเผื่อเรียกของผู้เยาว์หรือบัญชีร่วม การโอนเงินอาจต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ถือบัญชีร่วม
บัญชีเงินฝากเผื่อเรียกเพื่อผู้เยาว์ ถอนได้ไหม ?
อีกหนึ่งคำถามที่พบบ่อยนั่นก็คือ บัญชีเงินฝากเผื่อเรียกเพื่อผู้เยาว์สามารถถอนได้ไหม ? บัญชีประเภทนี้ คือบัญชีเงินฝากประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการออมให้กับเด็กหรือเยาวชน โดยบัญชีนี้มักจะต้องมีผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเป็นผู้เปิดและจัดการร่วมกับธนาคาร โดยที่สามารถถอนได้เช่นกัน แต่การถอนเงินจะมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมและจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของธนาคาร
เงื่อนไขการถอนเงินของบัญชีผู้เยาว์
- ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง
- การถอนเงินจากบัญชีเพื่อผู้เยาว์ ผู้ปกครองที่เป็นผู้ดูแลบัญชีจะต้องยินยอมและลงชื่อในเอกสารที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ปกครองต้องแสดงเอกสารประจำตัว เช่น บัตรประชาชน พร้อมสมุดบัญชี
- ถอนได้เฉพาะที่เคาน์เตอร์ธนาคาร
- การถอนเงินจากบัญชีผู้เยาว์มักไม่สามารถทำผ่าน ATM หรือแอปพลิเคชัน
- ต้องดำเนินการที่เคาน์เตอร์ธนาคารเท่านั้น
เงื่อนไขเพิ่มเติม
- หากผู้เยาว์อายุครบตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด เช่น 15 ปี หรือ 20 ปี อาจสามารถดำเนินการเองได้ แต่ต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตน
- ธนาคารบางแห่งอาจกำหนดวงเงินที่ถอนได้ในแต่ละครั้งเพื่อปกป้องเงินออมของเด็ก
บัญชีเงินฝากเผื่อเรียกเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการเงิน พร้อมให้คุณอุ่นใจเพราะสามารถถอนใช้ได้ทุกเมื่อ แต่หากคุณต้องการทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและตอบโจทย์ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น การมีบัตรเครดิตไว้ใช้งานควบคู่ไปด้วยจะช่วยให้การจัดการการเงินสะดวกและคุ้มค่ากว่าเดิม
บัตรเครดิต KTC เป็นตัวช่วยที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์หลากหลาย ทั้งการสะสมคะแนน เพื่อแลกรับส่วนลด สิทธิพิเศษ และโปรโมชั่นตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายช้อป กิน เที่ยว และที่สำคัญยังไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีอีกด้วย ใครที่สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านทางออนไลน์ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC