โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
ขับรถแบบไหนให้ประหยัดน้ำมัน ในยุคน้ำมันแพง
รถยนต์ถือได้ว่าเป็นยานพาหนะที่สำคัญสำหรับการเดินทางในปัจจุบัน และน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นแหล่งพลังงานหลักของรถยนต์ที่ใช้ในการขับเคลื่อน แต่ทุกวันนี้การเติมน้ำมันไม่เป็นมิตรต่อเงินในกระเป๋ามากนัก หลังราคาน้ำมันปรับพุ่งอย่างต่อเนื่องตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงเช่นนี้ พี่เบิ้มก็มีเทคนิคดี ๆ มาแนะนำผู้ใช้รถ ว่าควรขับรถแบบไหนถึงช่วยประหยัดน้ำมันได้มาฝากกันครับ
วิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน เทคนิคดี ๆ ช่วยเซฟเงินในกระเป๋ายุคน้ำมันแพง
เติมน้ำมันรถยนต์
1. ใช้ความเร็วให้เหมาะสมและสม่ำเสมอ
หลายคนมีความเข้าใจว่ายิ่งขับรถช้า ยิ่งประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น หรือเชื่อว่ายิ่งขับรถเร็วเท่าไหร่ รถยนต์ของเรายิ่งกินน้ำมันเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ความเชื่อทั้ง 2 แบบถือเป็นเรื่องที่ผิด แล้วแบบนี้เวลาขับรถความใช้ความเร็วเท่าไหร่ ถึงช่วยประหยัดน้ำมัน? คำตอบคือรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดและประหยัดน้ำมันที่สุดในช่วงความเร็ว 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระหว่างขับขี่ควรรักษาความเร็วของรถให้สม่ำเสมอตลอดเส้นทาง เพื่อลดอัตราการเผาผลาญของเชื้อเพลิง ถ้าทำตามนี้ได้ พี่เบิ้มเชื่อว่าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
2. หลีกเลี่ยงการออกตัวแรงหรือเบรกกะทันหัน
หลายคนมักติดนิสัยออกตัวแบบกระชากหรือพุ่งออกตัวด้วยความเร็ว พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุเป็นอย่างมาก ทั้งยังส่งผลให้ครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกันการเบรกแบบกะทันหันบ่อย ๆ ก็ส่งผลให้น้ำมันเชื้อเพลิงลดเร็วขึ้น เพราะเป็นการเร่งอัตราเผาผลาญเชื้อเพลิงให้เร็วขึ้นนั่นเอง ดังนั้นก่อนหยุดรถควรค่อย ๆ ชะลอความเร็วรถยนต์แล้วถึงเหยียบเบรก นอกจากวิธีนี้จะช่วยประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย
3. ใส่เกียร์ว่างเมื่อรถติดเป็นเวลานาน
ปัญหาการจราจรหนาแน่นหรือการจราจรติดขัดส่งผลทำให้รถติดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน หากคุณต้องเผชิญกับช่วงเวลารถติด พี่เบิ้มแนะนำว่าให้เข้าเกียร์ว่างไว้จะดีกว่าการเข้าเกียร์เดินหน้าทิ้งไว้ เพราะการเข้าเกียร์ว่างในขณะที่รถจอดอยู่นั้นจะช่วยประหยัดน้ำมัน ทั้งยังไม่ต้องคอยเหยียบเบรกไว้ตลอดเวลา
4. ตรวจเช็คสภาพลมยางก่อนขับขี่
ตรวจเช็คสภาพลมยางให้มีความเหมาะสมตามมาตรฐานที่กำหนดสำหรับการขับขี่อยู่เสมอ หากปล่อยให้ลมยางอ่อนเกินไป นอกจากส่งผลทำให้เกิดแรงเสียดสีระหว่างขับขี่มากขึ้น ยังส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก แน่นอนว่ายิ่งเครื่องยนต์ทำงานหนักมากเท่าใด การเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงก็สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นถ้าไม่อยากเติมน้ำมันรถบ่อย ๆ พี่เบิ้มแนะนำให้เช็คและเติมลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง และเช็คทุกครั้งก่อนเดินทางไกลนะครับ
5. หลีกเลี่ยงการบรรทุกของหนัก
สำหรับรถยนต์ทั่วไปควรหลีกเลี่ยงการบรรทุกสิ่งของหนัก ๆ ไว้บนรถ เพราะส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและกินน้ำมันเพิ่มมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การสิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่รู้ตัว
6. ปรับอุณหภูมิแอร์รถยนต์ให้เหมาะสมและหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์รถยนต์ทิ้งไว้
การทำงานของเครื่องปรับอากาศในรถยนต์เป็นอีกหนึ่งส่วนของตัวรถที่ดึงพลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันมาใช้งาน ทั้งนี้ควรปรับอุณหภูมิแอร์ในรถยนต์ให้เหมาะสม ไม่ควรเปิดอุณหภูมิที่ต่ำหรือเย็นจนเกินไป เพราะจะทำให้รถยนต์กินน้ำมันมากยิ่งขึ้น รวมถึงหากมีความจำเป็นที่ต้องจอดรถเป็นระยะเวลานานควรดับเครื่องยนต์และปิดแอร์จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
7. หมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์
นอกจากเทคนิคและวิธีการขับขี่รถยนต์ให้ประหยัดน้ำมันแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือสภาพรถยนต์ที่ควรดูแลเป็นอย่างดี โดยควรนำรถไปตรวจเช็คสภาพเป็นประจำทุกปี และควรปฏิบัติตามข้อกำหนดการบำรุงรักษาที่ผู้ผลิตรถยนต์ได้มีการแนะนำ เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรอง และการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ทั้งภายนอกและภายในตัวเครื่องรถยนต์ เพราะนอกจากจะตรวจเช็คความผิดปกติของรถยนต์ได้แล้วนั้น ยังป้องกันการเสื่อมสภาพของส่วนประกอบต่าง ๆ ของรถยนต์ได้อีกด้วย ดังนั้นการตรวจเช็คสภาพรถยนต์จะช่วยให้รถของคุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยในการประหยัดน้ำมันรถยนต์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ราคาน้ำมันแพง
ในยุคที่น้ำมันแพงเช่นนี้หลายคนเริ่มมองหาวิธีและเทคนิคที่จะช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามลองนำเทคนิคที่พี่เบิ้มแนะนำไปปรับนำใช้ในการขับขี่รถยนต์ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันรถได้มากขึ้น อีกทั้งในช่วงภาวะเศรษฐกิจในยุคข้าวยากหมากแพงบวกกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 เช่นนี้ส่งผลให้หลายคนขาดสภาพคล่องทางการเงินและอาจกำลังมองหาวงเงินสำรองฉุกเฉิน พี่เบิ้มมีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก นั่นคือสินเชื่อทะเบียนรถ KTC พี่เบิ้ม ที่อนุมัติไวภายใน 2 ชั่วโมง แถมรถยังมีใช้งานตามปกติ ให้วงเงินใหญ่เบิ้ม เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนพี่เบิ้ม Delivery ก็จะเดินทางไปรับสมัครและตรวจสอบสภาพรถถึงที่บ้าน หากผ่านการอนุมัติได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทันที ให้พี่เบิ้มเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเรื่องการเงินสำหรับคนไม่ท้อหากต้องการเงินก้อนฉุกเฉินให้พี่เบิ้มพร้อมอยู่เคียงข้างคุณ
สมัครสินเชื่อทะเบียนรถ KTC พี่เบิ้ม มีวงเงินใช้จ่ายยามฉุกเฉิน แถมยังมีรถขับ
