เคล็ดลับเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ - ลูกค้าประจำ เพื่อการทำธุรกิจที่ยั่งยืน
ทุกวันนี้เราทุกคนอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิต จึงส่งผลให้การขายของออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ ดังนั้นการแข่งขันทางด้านการค้าจึงมีความเข้มข้นและดุเดือด เพราะแต่ละเจ้ามักเสิร์ฟกลยุทธ์ในการดึงดูดลูกค้า เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่านอกจากเจ้าของธุรกิจต้องเพิ่มฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่องแล้ว การให้ความใส่ใจลูกค้าเก่าเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำเป็นกลเม็ดสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน บทความนี้ KTC นำเสนอวิธีเพิ่มลูกค้าประจำและหาลูกค้าใหม่ ที่เหมาะสำหรับธุรกิจทั้งขนาดกลางและใหญ่ เพื่อเป็นแนวทางใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้กิจการราบรื่นและได้ผลกำไรตามต้องการ
กลยุทธ์ช่วยธุรกิจเติบโตทุกสถานการณ์ ได้ผลกำไร ลดเสี่ยงขาดทุน
ขายของไม่ดีทำยังไง? เชื่อว่าคำถามนี้เป็นคำถามคลาสสิกที่หลายธุรกิจเคยเผชิญหน้าหรือกำลังเผชิญหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ภาวะเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้นการมีกลยุทธ์ที่ช่วยประคับประคองธุรกิจให้เติบโตและอยู่รอดในทุกสถานการณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมเสมอ สำหรับเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้น มีดังนี้
- ลงทุนน้อยแต่กำไรมากขึ้น การเสียเงินลงทุนน้อยแต่ได้ผลกำไรมากเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำธุรกิจ โดยหนึ่งวิธีการลงทุนที่น่าสนใจในยุคนี้ คือการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นตัวกลางในการโปรโมทสินค้า เพราะปัจจุบันผู้คนนิยมหันมาใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้นการโปรโมทร้านค้าผ่านโซเชียลมีเดียจึงกลายเป็นทางออกที่ช่วยให้ธุรกิจประหยัดต้นทุนในการจัดทำโฆษณา และยังช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าหรือบริการได้ตามต้องการอีกด้วย
- ปรับปรุงคุณภาพของสินค้า การพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทุกธุรกิจต่างมีคู่แข่งทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการปรับปรุงระบบการผลิตให้ดีขึ้นอย่างสม่ำ ย่อมช่วยให้สินค้าของคุณขายดีอย่างต่อเนื่องและได้รับความประทับใจจากลูกค้าทุกช่วงเวลา
- ขยายกิจการให้ถูกช่วงเวลา หากเศรษฐกิจตกอยู่ในสภาวะฝืดเคือง การขยับขยายกิจการเกินตัวอาจทำให้ธุรกิจมีอันสะดุดและเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ดังนั้นแนะนำถอยทัพไปตั้งหลักเสียก่อน วางแผนการค้าให้ดีแล้วค่อยกลับมาลงสนามใหม่ เพื่อให้กิจการที่ทำสำเร็จตามต้องการ
- ขายสินค้าให้ถูกช่วงเวลา บางครั้งการขายสินค้าผิดเวลาอาจเป็นสาเหตุทำให้สินค้าและบริการของคุณไม่เป็นที่สนใจ ตัวอย่าง หากเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ไม่สู้ดีนัก การจัดทำโปรโมชั่นสินค้าหรือบริการในราคาสบายกระเป๋าให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นถึงความคุ้มค่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจ นอกจากนี้การลดจำนวนสินค้าที่ทำรายได้น้อยลง แล้วค่อยกลับมาปรับเปลี่ยนทิศทางอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจประหยัดต้นทุนและดำเนินการต่อไปได้แบบไม่มีสะดุด
- มีเงินทุนสำรองเสมอ หากธุรกิจสะดุดและไม่เป็นไปตามแผน การมีเงินทุนสำรองไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ย่อมช่วยให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปได้ดีและช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา นอกจากนี้การสะสมเสบียงต่าง ๆ ทางการค้า เช่น กำไรสะสม เครดิตการค้า ทรัพยากรมนุษย์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อมด้วยเช่นกัน
- พัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจใดที่ไม่มีการพัฒนาย่อมส่งผลให้ธุรกิจนั้นอยู่นิ่งกับที่ ดังนั้นหากต้องการให้ธุรกิจเติบโตตามแผนที่วาดไว้ การพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีอย่างสม่ำเสมอ ย่อมช่วยให้การดำเนินธุรกิจราบรื่นอย่างแน่นอน
เทคนิคการเพิ่มลูกค้าประจำทำอย่างไร
วิธีเพิ่มจำนวนลูกค้า สร้างการซื้อซ้ำ เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน
การรักษาฐานลูกค้าเดิมและการหาลูกค้าใหม่ เป็นสองสิ่งที่มีความสำคัญเท่า ๆ กัน เพราะหากมีเพียงลูกค้าเก่าที่กลับมาซื้อสินค้าซ้ำอาจทำให้ธุรกิจหยุดอยู่กับที่และไม่มีการเติบโตเท่าที่ควร กลับกันหากมีเพียงลูกค้าหน้าใหม่แต่ไม่สามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ได้ ย่อมส่งผลให้ธุรกิจไม่มีความแน่นอนด้วยเช่นกัน ซึ่งการทำธุรกิจหลายประเภทในสมัยนี้ มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง อย่างร้านอาหารที่เปิดแข่งขันในละแวกเดียวกัน ร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟ หรือร้านขายเบเกอรีก็มีให้เห็นแทบทุกถนน ดังนั้นการสร้างความแตกต่าง พร้อมข้อเสนอที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า เป็นกลยุทธ์ทางการค้าที่เจ้าของธุรกิจต้องออกแบบให้เข้ากับธุรกิจด้วยเสมอ สำหรับเทคนิคการเพิ่มลูกค้าประจำ - ลูกค้าใหม่ที่น่าสนใจ มีดังนี้
1. รักษามาตรฐานของสินค้าและบริการอยู่เสมอ
แน่นอนว่าการเปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าประจำ สินค้าและการให้บริการของคุณต้องมีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและไม่เปลี่ยนใจไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการกับร้านอื่น นอกจากเรื่องการรักษามาตรฐานแล้ว การให้บริการในเรื่องต่าง ๆ ทั้งการกล่าวทักทาย การให้คำแนะนำ การให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายที่ดีย่อมช่วยมัดใจลูกค้าได้เช่นกัน
2. ทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า
การศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าและรักษาฐานลูกค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น เพราะหากคุณรู้ว่าลูกค้าเป็นใคร ชอบหรือไม่ชอบอะไร มีความต้องการสินค้าประเภทไหน จะช่วยให้คุณเสนอการขายและปิดการขายได้ง่ายกว่าเดิม อีกทั้งโอกาสในการกลับมาซื้อซ้ำก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากนี้คุณยังสามารถนำไอเดียความชอบลูกค้ามาต่อยอดเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการในอนาคตได้อีกด้วย
3.โปรโมทสินค้าผ่านสื่อออนไลน์
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท ช่องทางที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดและทั่วถึงที่สุดคือสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น การโปรโมทสินค้าผ่านทาง Facebook ที่สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์รูปสินค้า สร้างเพจขายของ Live ขายของพูดคุยกับลูกค้า และการโพสต์ขายสินค้าลงในกลุ่มที่คนสนใจ เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าออนไลน์ให้ตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจโปรโมทขายสินค้าผ่านโซเชียล แนะนำว่าควรเช็กเงื่อนไขที่ถูกกำหนดไว้บนแพลตฟอร์มให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกปิดกั้นการมองเห็น หากเป็นเช่นนั้นอาจทำให้คุณลดโอกาสในการขายสินค้าได้เช่นกัน
4. จัดกิจกรรมให้ลูกค้ามีส่วนร่วม
การจัดกิจกรรมให้ลูกค้ามีส่วนร่วม เป็นเทคนิคส่งเสริมการขายที่น่าสนใจ เช่น ชวนเพื่อนมาซื้อ 1 แถม 1 หรือมีส่วนลดของแถมให้หากมีการกดไลก์หรือกดแชร์ลงบนโซเชียลมีเดีย วิธีช่วยให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านการบอกกันแบบปากต่อปาก นอกจากนี้การออกบูธ/งานอีเว้นต์ต่าง ๆ ในศูนย์การค้า ตลาด หรือแหล่งการค้าที่มีผู้คนพลุกพล่าน ถือเป็นกิจกรรมการโปรโมทสินค้าที่น่าสนใจ โดยการออกบูธอาจมีการแจกตัวอย่างสินค้าขนาดทดลองให้กับลูกค้า หากสินค้าของคุณดีและมีคุณภาพแน่นอนว่าช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายและสร้างฐานลูกค้าใหม่ได้เป็นอย่างดี
5. น้อมรับคำติชมของลูกค้าเสมอ
Feedback หรือคำติชมจากลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรละเลย เพราะหากผู้ประกอบการเปิดใจรับฟังคำติชมต่าง ๆ พร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไขผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากกว่าเดิม ย่อมส่งผลทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณได้มาตรฐานและตรงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งการสร้างช่องทางในการรับ Feedback จากลูกค้าสามารถทำได้หลายช่องทาง ทั้งผ่านคอมเมนต์ใต้รูปภาพของทางร้าน กล่องข้อความ (Inbox) Line Official หรือแม้แต่การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าโดยตรง (Face To Face) ที่เหมาะสำหรับธุรกิจแบบออฟไลน์ ที่สำคัญการน้อมรับคำติชมของลูกค้ามาพัฒนาสินค้า ไม่เพียงแต่ช่วยให้สินค้าดีและมีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อความต้องการของผู้บริโภค เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วลูกค้าใหม่อาจกลายเป็นลูกค้าประจำได้แน่นอน
6. เพิ่มช่องทางการติดต่อให้หลากหลาย
ช่องทางติดต่อสื่อสารที่หลากหลาย ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ดี เพราะลูกค้าบางคนอาจชอบสื่อสารผ่านแชทใน Facebook หรือ Line แต่สำหรับลูกค้าบางคนอาจชอบการโทรโดยตรงมากกว่า ดังนั้นการมีช่องทางติดต่อร้านค้าที่ครอบคลุม นอกจากช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ตามความต้องการแล้ว ยังช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการเพิ่มฐานลูกค้าประจำได้อีกด้วย
7. มอบคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อครั้งถัดไป
แน่นอนว่าใคร ๆ ก็หลงใหลในความคุ้มค่า ยิ่งเป็นสินค้าหรือบริการที่ต้องใช้เป็นประจำด้วยแล้ว หากการซื้อในครั้งถัดไปมาพร้อมกับส่วนลดหรือข้อเสนอดี ๆ สิ่งนี้ช่วยดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อหรือใช้บริการซ้ำในครั้งถัดไป ซึ่งการมอบส่วนลดสามารถมอบเป็นส่วนลดแบบเปอร์เซ็นต์ หรือส่วนลดแบบเป็นมูลค่าเงินก็ได้เช่นกัน สำหรับเงื่อนไขการแลกรับส่วนลดสามารถพิจารณาได้ตามความเหมาะสม
8. ใช้ระบบสะสมแต้มมัดใจลูกค้า
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ด้วยการให้ลูกค้าสมัครสมาชิกหรือสะสมแต้มเป็นอีกวิธีการดึงดูดลูกค้าใหม่และมัดใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำหรือเข้ารับบริการบ่อยขึ้น เพราะคะแนนสะสมยิ่งมากเท่าไหร่ลูกค้ายิ่งได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น ทั้งใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งถัดไป แลกของรางวัล หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากกว่าลูกค้าที่ไม่ได้ทำการสะสมคะแนน แต่สิ่งสำคัญคือธุรกิจนั้น ๆ ต้องมีข้อเสนอพิเศษที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าด้วยเช่นกัน
หากเจ้าของธุรกิจกำลังมองหาระบบสะสมคะแนนที่ใช้งานง่าย เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น KTC แนะนำ MAAI BY KTC แอปพลิเคชันสะสมคะแนน ที่สามารถดำเนินการได้ง่าย ๆ บนโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมในระบบเพื่อแลกรับส่วนลดและสิทธิพิเศษต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายพันธมิตรที่หลากหลาย ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน โรงภาพยนตร์ และอื่น ๆ ที่สำคัญ MAAI BY KTC ยังเป็นแพลตฟอร์มสำเร็จรูปที่ใช้งานง่าย ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ โดยที่เจ้าของกิจการไม่ต้องเสียเวลาออกแบบระบบสะสมคะแนนให้ยุ่งยาก ทั้งยังมาพร้อมข้อดีที่น่าสนใจ ดังนี้
- MAAI BY KTC มี Data Security ที่ได้มาตรฐานเดียวกันกับระบบธนาคาร
- MAAI BY KTC รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ขายสินค้า
- รักษาฐานลูกค้าเก่าและช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ลูกค้าใหม่ด้วย Digital CRM
- มีระบบจัดการคะแนน ใช้คะแนน แลกคะแนนสะสมที่แม่นยำ โดยที่เจ้าของธุรกิจสามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง
- เจ้าของธุรกิจสามารถจัดหาสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้สมาชิกได้ตามต้องการ
การวางแผนกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของธุรกิจทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะสิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรายได้ให้เจ้าของกิจการเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าและเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำในอนาคตอีกด้วย