เมื่อถึงวัยทำงานถือว่าเป็นอีกวัยหนึ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตการทำงาน การเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันต่างๆ รวมไปถึงการใช้จ่ายที่ต้องมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น จุดเริ่มต้นการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นในวัยทำงานนี้แหละ เพราะมีคุณสมบัติที่จะสามารถสมัครบัตรเครดิตสักใบเป็นของตนเอง แต่ก่อนจะมีบัตรเครดิตสักใบ หลายๆคนมักมีกังวลใจว่าใช้บัตรแล้วจะเกิดดอกเบี้ยว่า ใช้แล้วเกิดดอกเบี้ยเลยหรือเปล่า?
ทั้งนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า ดอกเบี้ยบัตรเครดิตนี้มันจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ ทำยังไงไม่ให้เสียดอกเบี้ย วันนี้เราจะมาหาคำตอบให้กับสิ่งนี้ไปพร้อมๆ กัน!
TIP : คำว่า “ดอกเบี้ย” ที่เราเรียกกันนั้น หมายถึง ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน (ดอกเบี้ยฯ) ซึ่งมีอัตรารวมอยู่ที่ 16% *แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงปรับดอกเบี้ยฯตามแต่ละช่วงได้เหมือนกัน โปรดตรวจสอบแต่ละสถาบันการเงินอีกครั้ง
|
วิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าบัตรเครดิตจะมีการคิดดอกเบี้ย ก็ต่อเมื่อจ่ายไม่ครบหรือจ่ายขั้นต่ำ “แต่หากจ่ายเต็มจำนวนตรงตามที่สถาบันการเงินกำหนด การใช้บัตรเครดิตในรอบนั้นก็จะไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้น” ซึ่งระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 45-55 วันขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันสรุปยอดบัญชี ไปจนถึงวันครบกำหนดชำระของรอบบัญชีถัดไป
TIP : ระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย คือ ช่วงที่เรานำเงินในวงเงินบัตรไปใช้ก่อน โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย
|
ถ้าบัตรเครดิตของคุณ วันสรุปยอดบัญชีคือ ทุกวันที่ 17 ของเดือน และวันครบกำหนดชำระ คือ ทุกวันที่ 1 หรือ 2 ของเดือน หากเรารูดบัตรเครดิตหลังวันสรุปยอดบัญชี ซึ่งคือ ช่วงเวลาตั้งแต่ 18 พฤษภาคม ถึง 2 กรกฎาคม นี่คือช่วงเวลา “ระยะปลอดดอกเบี้ย” สามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ไปบริหารการเงิน ก่อนที่จะต้องจ่ายคืนเต็มจำนวนในวันครบกำหนดชำระ แบบไม่เสียดอกเบี้ยนานสูงสุดถึง 45 วัน
นี่คือจุดเด่นที่ทำให้คนหันมาใช้บัตรเครดิตกัน เพราะมีแต่ได้กับได้ หากมีวินัยและรู้จักการบริหารการเงินที่ดี ทำให้เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเราไปก่อน แต่เมื่อถึงวันครบกำหนดชำระแล้ว หากเราไม่สามารถชำระเต็มจำนวนที่ใช้ไปได้เมื่อไหร่ “ดอกเบี้ยบัตรเครดิต ก็จะเกิดขึ้นทันที”
สูตรการคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตในกรณีจ่ายขั้นต่ำ (เป็นการคำนวณแบบประมาณการ)
ดอกเบี้ยบัตรเครดิต = (ยอดใช้จ่าย x อัตราดอกเบี้ยฯ x จำนวนวัน) / 366
(จำนวนวันในรอบปี = 365/366 วัน ขึ้นอยู่กับจำนวนวันของแต่ละปี)
การจ่ายขั้นต่ำ 10% ของยอดที่ต้องชำระ แม้จะเป็นช่องทางที่ช่วยให้สถานะทางการเงินของเรายังรอดต่อไปได้ หรือไม่เสียประวัติเครดิตของเรา แต่การจ่ายขั้นต่ำนั้น ดอกเบี้ยบัตรเครดิตก็จะถูกคิดย้อนกลับตั้งแต่ ณ วันที่บันทึกรายการ (Posting date) คิดคำนวณไปจนกว่าจะจ่ายครบทั้งหมดของยอดเรียกเก็บเต็มจำนวน
ตัวอย่างเช่น
รูดซื้อของในราคา 20,000 บาท วันที่ 18 พฤษภาคม 2563
วันที่บันทึกรายการ (Posting date) คือ วันที่ 18 พฤษภาคม 2563
วันสรุปยอดบัญชีคือ ทุกวันที่ 17 ของเดือน
วันครบกำหนดชำระ คือ ทุกวันที่ 1 หรือ 2 ของเดือนถัดไป
(อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 16%)
สมมุติว่า ในวันที่ 2 กรกฎาคม เลือกจ่ายแบบขั้นต่ำ 10% = 2,000 บาท
การคำนวณดอกเบี้ย จะเป็นดังนี้
1. ดอกเบี้ยเงินต้น
จะถูกคำนวณจากวันที่บันทึกรายการถึงวันก่อนวันชำระ 1 วัน ( วันที่ 18 พฤษภาคม – 1 กรกฎาคม = 45 วัน )
: (20,000 บาท × 16% × 45 วัน) ¸ 366 วัน = 393.44บาท
2. ดอกเบี้ยค้างชำระ
จะถูกคำนวณตั้งแต่วันที่ชำระขั้นต่ำ จนถึงวันสรุปยอดบัญชีถัดไป ( 2 – 17 กรกฎาคม = 16 วัน )
: (20,000 - 2,000 บาท) × 16% × 16 วัน ¸ 366 วัน = 125.9 บาท
ดังนั้น ในรอบวันสรุปยอดบัญชีวันที่ 17 กรกฎาคม จะมียอดดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเพิ่มทั้งหมด คือ 393.44 + 125.9 = 519.34 บาท
สรุป เมื่อถึงรอบครบกำหนดชำระถัดไปในวันที่ 2 สิงหาคม จะมียอดคงค้างพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น เป็นจำนวนเงิน ดังนี้
: 18,000 + 519.34 = 18,519.34 บาท
TIP : จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่า การชำระค่าบัตรเครดิตเพียงบางส่วน จะทำให้เกิดดอกเบี้ยตามมา ซึ่งถ้าจ่ายให้ครบเต็มจำนวน ก็จะไม่มีดอกเบี้ยดังกล่าว KTC สนับสนุนการใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็น ไม่เกินตัวคือทางที่ดีที่สุด และใช้การจ่ายขั้นต่ำในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อลดการเกิดดอกเบี้ย
|
เลือกใช้โอกาสดีๆ ที่บัตรเครดิตมอบให้ (จ่ายตรง จ่ายครบ)
หลายๆ คนอาจจะเริ่มกลัว โปรดอย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะที่จริงแล้วการใช้บัตรเครดิตนั้น มีประโยชน์กว่าที่คิด เช่น
: สะสมคะแนนจากทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร (25 บาท = 1 คะแนน KTC FOREVER ซึ่งคะแนนไม่มีวันหมดอายุ)
: สิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับคนใช้บัตรเครดิต การรับเครดิตเงินคืน หรือส่วนลดตามโปรโมชั่นมากมาย
: สามารถผ่อนชำระสินค้าหลายๆ อย่างได้ในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 10 เดือน โดยไม่ต้องควักเงินก้อนโตของตัวเองออกมาใช้ก่อน แถมยังมีเวลาให้เราสามารถบริหารจัดการการเงินของเราให้คล่องตัวขึ้นอีก
สุดท้ายนี้การมีบัตรเครดิตเป็นของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่อย่างใด แต่เป็นจุดเริ่มต้นวินัยของการบริหารเงินที่ดี แถมสร้างเครดิตดีให้กับสถานะการเงินของตัวเองอีกด้วย หากเราใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ ไม่เกินตัว โดยไม่หวังเอาเงินอนาคตมาใช้ในเรื่องไม่จำเป็น จ่ายตรงเวลา เราก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากบัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
หมายเหตุ: ดอกเบี้ย หมายถึง ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ซึ่งมีอัตรารวมกัน 16%
*แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงปรับดอกเบี้ยฯตามแต่ละช่วงได้เหมือนกัน โปรดตรวจสอบแต่ละสถาบันการเงินอีกครั้ง
สมัครบัตรเครดิต เพื่อสร้างเครดิตดี…. ที่นี่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี