ปัญหาใบขับขี่ตลอดชีพสูญหาย เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับผู้ถือใบขับขี่จำนวนมาก เพราะเป็นเอกสารสำคัญที่ไม่มีการออกให้กับผู้ขับขี่รายใหม่แล้วในปัจจุบัน วันนี้ KTC มีคำตอบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ครบถ้วน พร้อมแนะนำขั้นตอนการดำเนินการอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ใช้รถได้ใบขับขี่ตลอดชีพกลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ใบขับขี่ตลอดชีพ คืออะไร
ใบขับขี่ตลอดชีพ เป็นใบอนุญาตขับขี่พิเศษที่เคยออกให้กับผู้ขับขี่ก่อนปี พ.ศ. 2546 โดยมีเงื่อนไขพิเศษในการออกใบอนุญาต ผู้ที่จะได้รับใบขับขี่ตลอดชีพจะต้องผ่านการถือครองใบขับขี่ประเภทบุคคลอายุ 1 ปีมาก่อน และต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำสูงกว่าใบขับขี่ทั่วไปถึง 10 เท่า
ข้อพิเศษของใบขับขี่ตลอดชีพคือ ผู้ถือไม่จำเป็นต้องต่ออายุ หรือทดสอบสมรรถภาพร่างกายเป็นระยะ ๆ เหมือนใบขับขี่ประเภทอื่น และสามารถใช้ได้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ทั้งนี้ จะออกให้เฉพาะรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่รวมถึงรถประเภทอื่น ๆ เช่น รถสาธารณะหรือรถบรรทุก
ใบขับขี่ตลอดชีพยังมีอยู่ไหม
ปัจจุบันใบขับขี่ตลอดชีพยังคงมีอยู่และใช้ได้ตามปกติสำหรับผู้ที่เคยทำไว้ก่อนปี 2546 แต่กรมการขนส่งทางบกได้ยกเลิกการออกใบขับขี่ประเภทนี้ไปแล้ว โดยเปลี่ยนเป็นใบขับขี่อายุ 5 ปีแทน เพื่อให้สามารถตรวจสอบสมรรถภาพของผู้ขับขี่ได้อย่างสม่ำเสมอ
การยกเลิกการออกใบขับขี่ตลอดชีพเป็นไปตามพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2546 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่ต้องมีการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับขี่เป็นระยะ
รู้จักกับประเภทใบขับขี่ในปัจจุบัน
ปัจจุบันใบขับขี่ในประเทศไทยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้
1. ใบขับขี่ชั่วคราว (อายุ 2 ปี)
- สำหรับผู้ที่สอบได้ใหม่
- ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ต้องผ่านการอบรมและทดสอบภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
- ค่าธรรมเนียม 100 บาท
- ไม่สามารถต่ออายุได้ ต้องเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ 5 ปี
2. ใบขับขี่ส่วนบุคคล 5 ปี
- สำหรับผู้ที่เคยมีใบขับขี่ชั่วคราวมาก่อน
- ค่าธรรมเนียม 500 บาท
- ต้องต่ออายุทุก 5 ปี
- ต้องผ่านการตรวจสมรรถภาพร่างกายเมื่อต่ออายุ
3. ใบขับขี่สาธารณะ
- สำหรับขับรถรับจ้างสาธารณะ
- ต้องมีใบขับขี่ส่วนบุคคลมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
- ต้องผ่านการอบรมเพิ่มเติม
- มีการตรวจประวัติอาชญากรรม
ใบขับขี่ตลอดชีพหายต้องทำอย่างไร
เมื่อใบขับขี่ตลอดชีพหายสูญหาย ผู้ถือใบขับขี่สามารถขอทำใหม่ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องสอบใหม่หรือทำการทดสอบใด ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกมีฐานข้อมูลประวัติการถือครองใบขับขี่ของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว
ข้อดีของการทำใบขับขี่ตลอดชีพใหม่ในปัจจุบันคือ
- ได้รับใบขับขี่แบบสมาร์ตการ์ดที่ทนทานกว่า
- มีระบบป้องกันการปลอมแปลง
- สามารถใช้เป็นบัตรประจำตัวได้
- สามารถใช้ขับขี่ในประเทศอาเซียนได้
ขั้นตอนการขอทำใบขับขี่ตลอดชีพใหม่
การขอทำใบขับขี่ตลอดชีพใหม่ในปัจจุบันสะดวกกว่าในอดีตมาก โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชน
3. เลือกบริการ "ออกใบแทน ชำรุด สูญหาย"
4. เลือกสถานที่ให้บริการที่สะดวก
5. จองคิวตามวันและเวลาที่ต้องการ
6. บันทึกหลักฐานการจองคิว
7. ยื่นเอกสารที่เคาน์เตอร์บริการ
8. ตรวจสอบประวัติในฐานข้อมูล
9. ถ่ายรูปทำบัตรใหม่
10. ชำระค่าธรรมเนียม
11. รับใบขับขี่ใหม่
เอกสารที่จำเป็นต้องใช้
1. เอกสารหลัก
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
- ใบแจ้งความ (ถ้ามี)
2. เอกสารเพิ่มเติม (กรณีพิเศษ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีข้อมูลไม่ตรงกับฐานข้อมูล)
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- ใบรับรองแพทย์ (เฉพาะกรณีที่มีโรคประจำตัว)
ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย
- ค่าคำขอ 5 บาท
- ค่าธรรมเนียมใบแทน 100 บาท
- ค่าถ่ายรูปทำบัตรแบบสมาร์ตการ์ด (ได้รับการยกเว้น)
ใบขับขี่ตลอดชีพต้องเปลี่ยนใหม่ไหม
ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนใบขับขี่ตลอดชีพเป็นแบบใหม่ หากใบเดิมยังอยู่ในสภาพดีและใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม หากใบขับขี่เก่าชำรุดหรือเลือนราง แนะนำให้เปลี่ยนเป็นแบบสมาร์ตการ์ดที่ทนทานกว่า โดยยังคงสถานะตลอดชีพเช่นเดิม
ข้อดีของการเปลี่ยนเป็นบัตรแบบใหม่
- มีความทนทานมากกว่า
- ป้องกันการปลอมแปลงได้ดีกว่า
- สะดวกในการพกพา
- รองรับการใช้งานในต่างประเทศ
- มีข้อมูลครบถ้วนตามมาตรฐานสากล
จะมีการยกเลิกใบขับขี่ตลอดชีพหรือเปล่า
ปัจจุบันยังไม่มีนโยบายยกเลิกใบขับขี่ตลอดชีพสำหรับผู้ที่มีอยู่แล้ว และผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพยังสามารถใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการออกใบขับขี่ตลอดชีพให้กับผู้ขอใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน
เหตุผลที่ยกเลิกการออกใบขับขี่ตลอดชีพ
- เพื่อตรวจสอบสมรรถภาพร่างกายของผู้ขับขี่เป็นระยะ
- สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่ต้องมีการต่ออายุใบขับขี่
- ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากผู้ขับขี่ที่มีปัญหาสุขภาพ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและตรวจสอบผู้ขับขี่
- ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลผู้ขับขี่ให้เป็นปัจจุบัน
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกยังคงรักษาสิทธิ์ของผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพตามกฎหมายเดิม โดยไม่บังคับให้เปลี่ยนเป็นใบขับขี่ 5 ปี แต่แนะนำให้ผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ควรตรวจสุขภาพและประเมินสมรรถภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น
สรุปบทความ ใบขับขี่ตลอดชีพหายต้องทำอย่างไร
สรุปได้ว่า ใบขับขี่ตลอดชีพที่หายสามารถทำใหม่ได้โดยไม่ต้องสอบใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีความสะดวกมากขึ้นผ่านระบบจองคิวออนไลน์ DLT Smart Queue เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อม และดำเนินการที่กรมการขนส่งทางบก โดยจะได้ใบขับขี่รูปแบบใหม่ที่ยังคงสถานะตลอดชีพเช่นเดิม แม้จะไม่มีการออกใบขับขี่ตลอดชีพให้กับผู้ขอใหม่แล้ว แต่ผู้ที่มีอยู่เดิมยังคงใช้สิทธิ์ได้ตามปกติ ส่วนคนที่มีรถใช้งาน และกำลังประสบปัญหาขาดเงินหมุนเวียน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน คือทางออกที่ช่วยคุณได้ ด้วยวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินสภาพรถถึงหน้าบ้าน ที่สำคัญยังอนุมัติไวใน 1 ชม. รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*
*กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นได้*