ขับรถเส้นทางเอก-ทางโทอย่างไรให้ปลอดภัย
ในการใช้ยานพาหนะบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ตามแต่ การเคารพกฎหมายจราจรเป็นสิ่งที่คนใช้รถใช้ถนนทุกคนพึงกระทำ เพราะไม่ได้เป็นแค่เรื่องของวินัยการขับขี่ที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนภายในบ้านเราให้น้อยลงด้วยได้ เพราะอย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากการขับขี่ในประเทศไทยนั้นสูงติดอันดับโลก และหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของทางเอก ทางโท หลายคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อเจอทางแยก ควรจะขับขี่อย่างไร ฝ่ายไหนควรจะไปก่อน วันนี้เราจะพามาทำความเข้าใจกันให้มากขึ้นว่าทางเอก ทางโท คืออะไร
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทางเอก-ทางโท คืออะไร ต้องให้รถทางไหนไปก่อน
อุบัติเหตุรถชนบนทางแยก หรือทางร่วมทางแยก เป็นสิ่งที่พบเจอได้บ่อยมากที่สุด และส่วนมากมักจะเป็นอุบัติที่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต เพราะไม่มีใครรู้ว่าควรจะให้รถฝ่ายไหนไปก่อน เราเลยจะพาไปทำความเข้าใจถึงทางเอก ทางโท ว่าคืออะไรในความหมายของการขับขี่ และรถฝ่ายไหนควรจะได้ไปก่อนให้กระจ่างกันไปเลย
ความหมายของทางเอก
ทางเอก คือ ถนนเส้นหลัก หรือถนนเส้นที่ใหญ่ที่สุดในการสัญจรบนเส้นทางนั้น โดยสังเกตได้จากเลนถนนที่มีจำนวนช่องมากกว่า และจะไม่มีเส้นหยุดรถ หรือป้ายสัญลักษณ์ให้หยุดรถบริเวณทางร่วมในการสัญจร
ความหมายของทางโท
ทางโท คือ ถนนเส้นรอง หรือซอยย่อยต่าง ๆ จะมีขนาดเลนถนนที่เล็กกว่าในการสัญจร และจะมีป้ายเตือนให้หยุดรถ หรือมีเส้นหยุดรถเตือนบริเวณทางแยกที่ตัดกับถนนเส้นหลักเสมอ
ความแตกต่างของทางเอกและทางโท
เมื่อพูดในทางกฎหมาย สิ่งที่คนขับขี่ต้องรู้ไว้ก็คือ ทางเอกจะมีสิทธิ์มากกว่าทางโทเสมอ เพราะถือเป็นการสัญจรบนเส้นทางหลัก รถที่มาจากทางโทจะต้องรอให้รถทางเอกผ่านไปก่อน และเมื่อสังเกตเห็นระยะห่างที่ว่างพอในระดับที่ปลอดภัย จึงค่อยสัญจรผ่านทางร่วมทางแยกนั้นได้ เพราะหากทางเอกจะต้องหยุดรถให้ทางโทผ่านไปก่อนเสมอ จะทำให้รถทางเอกที่เป็นเส้นทางหลักในการสัญจรเกิดการจราจรติดขัด และอาจทำให้สภาพท้องถนนโดยรวมเป็นอัมพาตได้
วิธีขับรถในเส้นทางเอกและทางโทให้ปลอดภัย
ในทางทฤษฎี หลายคนอาจจะเข้าใจดีว่าทางเอก ทางโทคืออะไร ในกลับกันในทางปฏิบัติ การสังเกตทางร่วมทางแยกให้รถทางไหนไปก่อนนั้นก็ไม่ง่าย โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน หรือช่วยโพล้เพล้ที่มองเห็นถนนได้ไม่ชัดเจน หรือถนนทั้งสองเส้นอาจมีจำนวนเลนเท่ากันจนเกิดความสับสน ว่าสรุปแล้วเส้นทางที่เรากำลังวิ่งมานั้นเป็นทางเอก หรือว่าเป็นทางโทกันแน่ และควรจะขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย เรามีวิธีมาบอก
เส้นทางที่ทางเอก-ทางโทตัดกัน
วิธีขับรถในเส้นที่ทางเอก และทางโทตัดกัน หากไม่มีป้ายสัญลักษณ์บอกอย่างชัดเจน ว่าถนนเส้นไหนเป็นเส้นหลัก ให้สังเกตจากเส้นทึบบนถนน หากเส้นทึบตัดขวางถนนเส้นใด ถนนเส้นนั้นถือเป็นทางโท และจะต้องให้รถทางเอกไปก่อนเสมอ
ถนนที่ไม่มีเส้นประหรือเส้นทึบตัดขวางถนน
วิธีขับรถบนถนนที่ไม่มีเส้นประ หรือเส้นทึบตัดขวางถนน ให้สังเกตจากจำนวนเลนการเดินรถเป็นหลัก หากถนนเส้นไหนมีเลนในการเดินรถมากกว่า ให้ยึดถนนเส้นนั้นเป็นทางเอก และถนนที่มีเลนการเดินรถน้อยกว่าจะถือเป็นทางโทเสมอ
ขับผ่านเส้นทางร่วมกับเส้นวงเวียน
วิธีขับรถผ่านเส้นทางร่วมกับเส้นวงเวียน ให้สังเกตว่าขณะนี้รถเราอยู่ในทางเอก หรือทางโท หากเป็นทางเอกก็ให้ขับผ่านไปตามปกติเหมือนกับกรณีอื่น ๆ และหากเป็นทางโท ก็ต้องชะลอให้รถทางเอกไปก่อนเสมอ กรณีที่ต้องขับผ่านวงเวียน จะยึดให้รถที่อยู่ทางขวามือต้องให้ทางรถทางซ้ายมือที่อยู่ในวงเวียนขับผ่านไปก่อนเสมอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในการเฉี่ยวชนที่อาจเกิดขึ้น
เทคนิคขับขี่ให้ปลอดภัยเมื่อเจอทางเอกทางโท
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าทางเอก ทางโท คืออะไร แต่อีกหนึ่งเทคนิคในการขับขี่ให้ปลอดภัย ที่จะสามารถเซฟผู้ขับขี่บนท้องถนนได้เป็นอย่างดี ก็คือการชะลอความเร็วลงเมื่อถึงทางแยกทุกครั้ง โดยไม่จำเป็นจะต้องไปคิดเรื่องทางเอก ทางโท เพราะถือเป็นการป้องกันอุบัติเหตุเบื้องต้นที่คนใช้รถทุกคนควรกระทำ และต้องหมั่นสังเกตรถบนท้องถนนในทางร่วมแยกอยู่ตลอดเวลาว่ามีท่าทีจะหยุดรถหรือไม่ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไปได้มากทีเดียว
สรุปบทความ ขับรถเส้นทางเอก-ทางโทอย่างไรให้ปลอดภัย
เพราะการขับขี่บนท้องถนนนั้นมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา การเคารพกฎหมายจราจร และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่คนใช้รถอย่างเรา ๆ ไม่ควรจะมองข้าม เพราะอุบัติเหตุเพียงครั้งเดียว อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปตลอดกาล จึงควรใช้รถด้วยความระมัดระวังอยู่เสมอ และคิดเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ต่างกับการใช้ชีวิต ที่เราจะต้องวางแผนในการบริหารจัดการเงินให้ดี เพราะอาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่มักจะมีมาให้แก้ปัญหากันแบบไม่รู้ตัว ใครที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอยู่ และต้องการเงินก้อนฉุกเฉินไว้หมุนเวียน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน คืออีกหนึ่งทางออกสำหรับคนมีรถ ที่ต้องการเงินก้อนใหญ่แบบเร่งด่วน ผ่านการสมัครที่ไม่ยุ่งยาก อนุมัติไว รับเงินได้ทันที และยังผ่อนได้ยาวสูงสุด 84 เดือน โดยไม่ต้องมีคนค้ำ พร้อมไปหาคุณถึงที่แบบไม่มีวันหยุด เพื่อจบปัญหาสภาพคล่องให้คุณได้อย่างครบจบ
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21% - 24% ต่อปี*