ปัจจุบัน การเรียนต่อปริญญาโทกลายเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนวัยทำงาน คนว่างงานที่กำลังมองหาการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิต รวมถึงผู้ที่ต้องการศึกษาความรู้เพิ่มเติมสำหรับต่อยอดการทำงานหรือเปลี่ยนสายอาชีพ ซึ่งนอกเหนือจากการได้ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังสามารถนำมาปรับวุฒิการศึกษา เสริมในประวัติเพื่ออัปเงินเดือนให้สูงขึ้นได้อีกเช่นกัน จึงไม่แปลกใจที่คนยุคใหม่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการต่อปริญญาโทมากขึ้น
หากสนใจเรียนต่อปริญญาโทแต่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรดี KTC ขอแนะนำข้อควรรู้ต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนปริญญาโทต่างประเทศ ในประเทศ และคำแนะนำอื่น ๆ สำหรับวัยทำงานไว้ให้คุณแล้วในบทความนี้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- 1. พิจารณาสายอาชีพที่สามารถทำได้หลังจากเรียนจบ
- 2. ตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าเรียนต่อเพื่ออะไร
- 3. ศึกษาข้อมูลของหลักสูตรที่อยากเรียนให้ครบถ้วน
- 4. เลือกเวลาเรียนที่ตอบโจทย์ตนเอง
- 5. เตรียมตัวสอบวัดระดับให้พร้อม
- 6. เรียนปริญญาโท ไม่จำเป็นต้องจบตรงสาย
- 7. คำนวณค่าใช้จ่ายและงบประมาณต่าง ๆ
- เรียนต่อปริญญาโทวัยทำงาน พร้อมปรับวุฒิเพื่อสายงานในอนาคต
1. พิจารณาสายอาชีพที่สามารถทำได้หลังจากเรียนจบ
การพิจารณาสายอาชีพที่สามารถทำงานได้หลังเรียนจบ นับเป็นสิ่งแรกที่คุณควรนึกถึง เพราะนอกจากจะทำให้ทราบถึงความเป็นไปได้ของการทำงานในสายอาชีพที่คุณสนใจแล้ว บางตำแหน่งงานเองต้องการบุคคลที่มีความรู้เฉพาะทาง และวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทด้วยเช่นกัน หากคุณต้องการทำงานในตำแหน่งดังกล่าวก็จำเป็นต้องไปเรียนต่อปริญญาโท และเลือกเรียนหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการพิจารณาสายอาชีพกับการศึกษาข้อมูลตำแหน่งงานจะช่วยให้วางแผนเป้าหมายการทำงาน และตัดสินใจไปศึกษาต่อป.โทได้ง่ายขึ้น
ในบางกรณีสำหรับเด็กจบใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยทำงานโดยมีวุฒิปริญญาโทแล้ว จะช่วยให้ประวัติของคุณดึงดูดฝ่ายบุคคล (Human Resource) ได้ ทำให้มีโอกาสหางานง่าย และพิจารณาสายอาชีพที่เกี่ยวข้องได้ชัดเจนมากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาโทเพื่อย้ายสายอาชีพ คุณจำเป็นต้องรู้ว่าตนเองต้องการเปลี่ยนไปทำงานสายอาชีพใด โดยอาจพิจารณาจากเทรนด์การทำงาน หรือพิจารณาจากสายอาชีพในปัจจุบันของคุณว่าสามารถต่อยอดไปสายอาชีพใดได้บ้าง
>> อ่านเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่ “ค่าแรงขั้นต่ำ”
2. ตั้งเป้าหมายชัดเจนว่าเรียนต่อเพื่ออะไร
ก่อนที่จะตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโท คุณควรกำหนดเป้าหมายให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะการศึกษาต่อป.โทนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาเตรียมตัว และพิจารณาถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเอกสารที่จำเป็นอย่างผลสอบวัดระดับหรือเอกสารวีซ่า การคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเทอมกับระยะเวลาเรียนอย่างน้อย 1-2 ปีขึ้นไป และอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณต้องเตรียมความพร้อม และใช้ความพยายามในการร่ำเรียนเพื่อให้ได้วุฒิการศึกษา
หากคุณไม่มีเป้าหมายการไปเรียนต่อก็อาจส่งผลให้คุณเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ และเสียโอกาสในการทำงานที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งเป้าหมายส่วนใหญ่ของคนวัยทำงานที่สนใจเรียนต่อปริญญาโทมีหลายประการ ดังนี้
- ขยายความรู้เฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับสายงานเดิมเพื่อต่อยอดในตำแหน่งงานที่สูงมากขึ้น
- ความต้องการเปลี่ยนสายอาชีพ ด้วยการเลือกเรียนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับงานที่ตนเองสนใจ
- ปรับวุฒิการศึกษาเพื่อเพิ่มโอกาสการจ้างงาน และเป็นข้อได้เปรียบในการอัปเงินเดือนของข้าราชการและเอกชนให้สูงขึ้น
- ทำความรู้จักกับสังคมใหม่ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากผู้เรียนในแต่ละประเทศและสถาบัน ทำให้ได้ข้อคิดและทัศนคติในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
- เพิ่มทักษะด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากลที่ใช้สื่อสารกันทั่วโลก หากคุณเรียนต่อปริญญาโทในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างการเรียนต่อนิวซีแลนด์ หรือการเรียนต่อปริญญาโทออสเตรเลียนั้น ภาษาอังกฤษถือเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในการสื่อสารและการเรียนอย่างแน่นอน
- เตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนต่อปริญญาเอกในอนาคต
3. ศึกษาข้อมูลของหลักสูตรที่อยากเรียนให้ครบถ้วน
การเลือกเรียนหลักสูตรที่ตรงกับเป้าหมายที่คุณกำหนดเอาไว้มีสิ่งสำคัญคือ ควรคำนึงถึงความสนใจ ความถนัด และศักยภาพของตนเอง และต้องศึกษาข้อมูลของหลักสูตรนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าหลักสูตรที่คุณเลือกเรียนจะสามารถนำความรู้ไปพัฒนา ต่อยอดกับสายอาชีพที่สนใจในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาเรียนเฉพาะทาง ทักษะการสื่อสาร หรือทัศนคติในการทำงาน เป็นต้น เพราะการไปเรียนต่อปริญญาโทเองก็มีใช้ค่าใช้จ่ายสูงมากทีเดียว
ปัจจุบันมีหลักสูตรมากมายให้คุณได้เลือกเรียนเพื่อต่อยอดทางสายอาชีพแบบเฉพาะทางมากขึ้น แม้ศึกษาจบไม่ตรงสายก็สามารถเรียนต่อได้ สำหรับเรียนต่อปริญญาโท แนะนำว่าควรมองหาการเรียนแบบหลักสูตรมากกว่าการเรียนแบบคอร์สระยะสั้น เช่น
- Political Science หลักสูตรเรียนต่อป.โทรัฐศาสตร์
- Business Administration หลักสูตรเรียนต่อป.โทการตลาดและธุรกิจ
- Project Management หลักสูตรเรียนต่อป.โทบริหาร
- Health Administration หลักสูตรด้านสุขภาพ
- Education หลักสูตรด้านการศึกษา
- Human resources หลักสูตรด้านบริหารทรัพยากรบุคคล
ทั้งนี้ แต่ละหลักสูตรต่างมีรูปแบบการเรียน และระยะเวลาเรียนที่แตกต่างกัน ดังนั้น ควรศึกษาหลักสูตรที่ตรงตามความต้องการให้ละเอียดก่อนสมัครเรียนต่อปริญญาโท
4. เลือกเวลาเรียนที่ตอบโจทย์ตนเอง
อย่างที่กล่าวไปว่า แต่ละหลักสูตรสำหรับเรียนต่อปริญญาโทนั้นมีระยะเวลาการเรียนที่แตกต่างกัน โดยบางหลักสูตรอาจใช้เวลาตั้งแต่ 2-5 ปี เช่น เรียนต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจ, เรียนต่อปริญญาโทรัฐศาสตร์, เรียนต่อปริญญาโทวิศวะ หรือเรียนต่อปริญญาโทบริหารการศึกษา เป็นต้น โดยอาจขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน และศักยภาพของผู้เรียนด้วยเช่นกัน
หากคุณกำลังสนใจเรียนต่อปริญญาโทก็ควรพิจารณาถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตของสายอาชีพในปัจจุบันตามหลักสูตรที่เรียนด้วย หากสายอาชีพดังกล่าวมีอัตราการเติบโตน้อยควรมองหาสาขาวิชาใหม่ หรือเลือกเส้นทางที่สามารถเก็บประสบการณ์การทำงานได้แทน
ทั้งนี้ หลักสูตรแต่ละสถาบันอาจมีเวลาเรียนที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปหลักสูตรเรียนต่อโทต่างประเทศสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ เวลาเรียนแบบ Full-time เป็นการเรียนแบบเต็มเวลาที่เน้นเรื่องเรียนและการทำรายงานเป็นหลัก และเวลาเรียนแบบ Part-time เป็นการเรียนนอกเวลาที่ใช้กับการเรียนต่อป.โทออนไลน์ได้และสามารถเลือกเวลาเรียนได้เอง ทำให้คุณสามารถแบ่งเวลาเพื่อเก็บประสบการณ์การทำงานระหว่างเรียน แต่เวลาเรียนรูปแบบนี้จำเป็นต้องอาศัยความรับผิดชอบสูงเช่นกัน
5. เตรียมตัวสอบวัดระดับให้พร้อม
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้หากคุณตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทก็คือ ผลสอบวัดระดับทางภาษา ซึ่งเป็นการวัดระดับความสามารถทางการสื่อสารภาษาอังกฤษของผู้เรียนทั้งการอ่าน, การเขียน, การฟัง และการพูด เนื่องจากปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้สื่อสารกันทั่วโลก นอกเหนือจากผลสอบวัดระดับทางภาษาอังกฤษแล้ว การเรียนต่อปริญญาโทบางประเทศอาจจำเป็นต้องศึกษาภาษาที่ 3 ร่วมด้วย เช่น เรียนต่อป.โทเกาหลี หรือเรียนต่อป.โทบัญชีจีน ซึ่งจำเป็นต้องเตรียมตัวสอบวัดระดับภาษาของประเทศนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาที่ 3 ต่างมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน การวัดระดับภาษาจึงช่วยให้ผู้เรียนทราบว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจทางภาษามากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้เลือกเรียนตามหลักสูตรและระดับที่เหมาะสมกับตนเอง
หากต้องการทราบว่าเรียนต่อป.โทต้องใช้เกรดเท่าไรนั้น ควรศึกษาถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับคะแนนและเกณฑ์ขั้นต่ำของแต่ละสถาบันศึกษาให้ดี รวมถึงข้อมูลการสอบวัดระดับทางภาษาแต่ละประเภทให้ละเอียดด้วย เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการสอบสำหรับยื่นผลวัดระดับทางภาษาไปตามสถาบันศึกษาที่ต้องการได้ โดยผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่สามารถใช้สมัครเรียนต่อโท มีดังนี้
- ผลสอบวัดระดับทางภาษาที่ใช้สำหรับเรียนต่อป.โทในประเทศ ได้แก่ CU-TEP, TU-GET, TOEIC, TOEFL หรือ IELTS เป็นต้น
- ผลสอบวัดระดับทางภาษาสำหรับเรียนต่อป.โทต่างประเทศ ได้แก่ TOEFL, IELTS, PTE, ITP หรือ GMAT เป็นต้น
6. เรียนปริญญาโท ไม่จำเป็นต้องจบตรงสาย
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าการเรียนต่อปริญญาโทนั้น ไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาปริญญาตรีที่ตรงสายกับหลักสูตรที่ต้องการเรียนมาก่อนก็ได้ แม้ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเรียนได้เช่นกัน จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการเปลี่ยนสายอาชีพด้วยเหตุผลต่าง ๆ
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อปริญญาโท แต่เรียบจบปริญญาตรีมาไม่ตรงสาย นอกเหนือจากการยื่นผลวัดระดับทางภาษาแล้ว แนะนำให้หาคอร์สระยะสั้น หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสนใจและเรื่องที่จะเรียนต่อด้วย เพื่อให้คุณได้มีโอกาสรับเลือกเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทตามสาขาที่คุณสนใจจากสถาบันการศึกษามากยิ่งขึ้น
ซึ่งหลักสูตรที่คุณสามารถเลือกเรียนต่อปริญญาโทโดยไม่ต้องจบตรงสายได้ เช่น การเรียนต่อป.โท MBA หรือ Master of Business Administration ซึ่งเป็นหลักสูตรด้านธุรกิจที่ครอบคลุมหลายหัวข้อ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การตลาดเศรษฐศาสตร์ และการบริหาร หรือการเรียนต่อโทจิตวิทยา ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องจิตใจกับพฤติกรรมของมนุษย์ และสายการเรียนอื่น ๆ อีกมากมาย
7. คำนวณค่าใช้จ่ายและงบประมาณต่าง ๆ
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามหากคุณตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทก็คือ การคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องใช้ตลอดหลักสูตรการเรียน สำหรับการเรียนต่อปริญญาโทในประเทศควรให้เวลากับการหาข้อมูล และรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเทอมของแต่ละสถาบันศึกษาเพื่อไม่ให้เกินงบประมาณที่คุณตั้งเอาไว้
แต่หากคุณวางแผนไปเรียนต่อปริญญาโทต่างประเทศควรพิจารณาค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าเทอมด้วย ได้แก่ ค่าธรรมเนียมขอวีซ่า, ค่าที่พัก, ค่าเดินทาง, ค่าตั๋วเครื่องบิน หรือค่าประกันภัยสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ ตลอดจนเรียนรู้วิธีเก็บเงินเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างเรียนต่อด้วยเช่นกัน
สำหรับใครที่อยากเรียนต่อปริญญาโทแต่มีงบที่จำกัด ก็สามารถยื่นขอทุนการศึกษาจากรัฐบาลหรือสถาบันการศึกษาเอกชนได้ ซึ่งผู้ขอยื่นทุนจำเป็นต้องมีคุณสมบัติเรียนต่อปริญญาโทตรงตามเงื่อนไข เช่น ผลการเรียน, สัญชาติ, ทักษะความสามารถพิเศษ หรือสาขาที่จบการศึกษา เป็นต้น
เรียนต่อปริญญาโทวัยทำงาน พร้อมปรับวุฒิเพื่อสายงานในอนาคต
สรุปแล้ว หากใครที่กำลังสนใจเรียนต่อปริญญาโทในวัยทำงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้เพิ่มเติมสำหรับปรับวุฒิการศึกษาและต่อยอดการอัปเงินเดือนที่สูงมากขึ้น ตลอดจนบุคคลที่สนใจเปลี่ยนสายอาชีพ ควรมีการวางแผนเรื่องการเรียนให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาสายอาชีพที่สามารถทำได้หลังเรียนจบ การเลือกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพที่สนใจ และเป้าหมายที่ตนเองได้กำหนดไว้ ตลอดจนเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องระยะเวลาการเรียน ผลสอบวัดระดับทางภาษา และการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้อยู่ในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้
สำหรับการวางแผนเรื่องการเงิน หากต้องการไปเรียนต่อปริญญาโท บัตรกดเงินสด KTC PROUD นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกน่าสนใจที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการใช้จ่ายที่สะดวกมากขึ้นสำหรับมนุษย์เงินเดือน เพราะบัตรกดเงินสดคือ หนึ่งในสินเชื่อถูกกฏหมายสำหรับบุคคลที่มีฟังก์ชันการใช้จ่ายแบบครอบคลุมจบครบจบในบัตรเดียว ทั้งการรูดซื้อสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมรายการ โอนเป็นเงินสดเข้าบัญชี กดถอนเงินสดจากตู้ ATM หรือผ่อนชำระสินค้าได้นานกว่าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด KTC PROUD จึงเหมาะสำหรับเป็นตัวช่วยดูแลค่าใช้จ่ายขณะเรียนต่อได้เป็นอย่างดี
กดเงินสดหรือผ่อน 0% ด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD
รายได้รวมเริ่มต้นเพียง 12,000 บาท
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกไม่เกิน 25% ต่อปี เริ่มคำนวณดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่ได้รับเงินกู้