โรคยอดฮิตของคนทำงานที่อาจมาเยือนโดยไม่รู้ตัว
ในการทำงานบางครั้งต้องเจอกับภาวะเครียดกดดัน หรือต้องทำสิ่งเดิม ๆ อยู่ซ้ำ ๆ จนส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายอย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือเอกสารต่าง ๆ อยู่ตลอดทั้งวัน ไปจนถึงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบอยู่เสมอ ทำให้หลายคนละเลยการดูแลสุขภาพใกล้ตัว เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย หรือการนอนหลับพักผ่อน พฤติกรรมเหล่านี้อาจเกิดเป็นความเคยชิน แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ พฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลต่อร่างกายและก่อให้เกิดโรคที่ตามมาได้เช่นเดียวกัน วันนี้พี่เบิ้มจะพาไปทำความรู้จักกับโรคยอดฮิตของคนไทยในวัยทำงานกัน จะมีโรคไหนและส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมเช่นใดไปดูกันครับ
โรคที่พบบ่อยในปัจจุบัน สำหรับคนวัยทำงาน
โรคยอดฮิตมนุษย์เงินเดือน
1.โรคกระเพาะอาหาร
โรคกระเพาะ เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยในวัยทำงานเนื่องจากพฤติกรรมการทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง ไม่ตรงต่อเวลา หรือทำงานเพลินจนไม่ได้ทานอาหาร จนก่อให้เกิดอาการปวดท้องแบบจุกแสบ และจะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เกิดจากการอักเสบบริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้กลับมารับประทานอาหารให้ตรงเวลา อาจทำให้เรื้อรังจนเกิดอาการที่รุนแรงยิ่งขึ้น ดังนั้นใครที่เริ่มมีอาการของโรคนี้ ควรทานอาหารให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงห่างไกลจากโรคกระเพาะ
2.โรคอ้วน
โรคอ้วน เป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อยในมนุษย์ออฟฟิศ เพราะหลายคนมีพฤติกรรมการทานของว่าง เครื่องดื่มชงประเภทต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำปั่น ชานมไข่มุก หรือขนม ลูกอม เยลลี่ไว้ทานเล่นระหว่างทำงาน ของกินเหล่านี้ล้วนแล้วมีส่วนผสมของน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง บวกกับพฤติกรรมความเร่งรีบที่อาจทำให้เมนูหลักของอาหารในหลาย ๆ วัน คืออาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด และด้วยเวลาที่ไม่เพียงพอทำให้หลายคนก็ไม่ได้ออกกำลังกายจนกลายมาเป็นสาเหตุของโรคอ้วน แม้โรคอ้วนจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะโรคอ้วนต่างหากที่น่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นโรคไขมันพอกตับ โรคเบาหวาน หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
3.โรคเครียด
ในการทำงานย่อมมีความเครียดและแรงกดดันเสมอเพื่อให้งานที่ทำออกนั้นดีที่สุด ทั้งเครียดเรื่องงาน เรื่องความรับผิดชอบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเครียดเหล่านี้ก่อให้เกิดโรคที่มนุษย์ออฟฟิศนั้นต้องประสบอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งโรคเครียดส่งผลกระทบต่อสุขภาพและร่างกายมากกว่าที่คิดเนื่องจากเมื่อรู้สึกเครียดร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นเร็ว มือเท้าเย็น หากปล่อยไว้จนเรื้อรังก็อาจเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า โรคปวดหัวไมเกรน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคความดันโลหิต เป็นต้น
4.โรคจอประสาทตาเสื่อม
ถือเป็นโรคที่เกิดจากการทํางานคอมพิวเตอร์ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่ต้องใช้สายตาจ้องหน้าจอจอคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊คแทบตลอดเวลา โดยพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อดวงตามากกว่าที่คิด ทั้งยังอาจก่อให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม อาการคือรู้สึกว่าสามารถมองเห็นได้ไม่ชัดเจน สายตาพร่ามัว หากมีอาการหนักอาจเห็นเป็นภาพบิดเบี้ยว หรือมีจุดดำบังกลางตา ซึ่งอาจลุกลามจนถึงขั้นตาบอด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานต้องใช้คอมพิวเตอร์ตลอดเวลา ดังนั้นคุณจึงควรเลือกหาต้นไม้สีเขียวเล็ก ๆ วางไว้บนโต๊ะทำงานเพื่อเป็นจุดพักสายตา หรือพักสายตาบ่อย ๆ ทานวิตามิน อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงสายตาก็ทำให้หลีกเลี่ยงการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้
5.โรคออฟฟิศซินโดรม
โรคที่คนวัยทำงานหรือมนุษย์ออฟฟิศมีความเสี่ยงเป็นได้มากที่สุด ทั้งยังเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อกระดูก ระบบกล้ามเนื้อ ระบบการมองเห็น และระบบย่อยอาหาร จากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานโดยแทบจะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ก่อให้เกิดอาการปวดคอ บ่า หลัง และอาจก่อให้เกิดโรคร้ายอื่น ๆ ตามมาได้อีก ดังนั้นหากต้องการหลีกเลี่ยงคือควรปรับลักษณะการนั่งให้เป็นท่านั่งที่สบายที่สุดในการทำงาน รวมถึงเปลี่ยนท่านั่งที่ถูกต้องเพื่อลดอาการปวดเมื่อย ตลอดจนเปลี่ยนอิริยาบถทุกชั่วโมงด้วยลุกเดินยืดเส้นยืดสาย
6. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคยอดฮิตของคนวัยทำงานที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ โดยสาเหตุหลักเกิดจากการอั้นปัสสาวะ ดื่มน้ำน้อย เป็นพฤติกรรมที่หากทำอยู่บ่อยครั้งนอกจากจะติดเป็นนิสัยยังก่อให้เกิดโรคตามมาได้อีกด้วย
โรคที่พบบ่อยในพนักงานออฟฟิศ
โรคเหล่านี้ถือเป็นโรคที่พบบ่อยในปัจจุบันและเป็นโรคที่เกิดจากการทํางานออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของการทำงานที่อาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพและร่างกายแบบไม่รู้ตัว โดยหากไม่อยากเจ็บป่วยด้วยโรคเหล่านี้ควรเริ่มหันมาดูแลสุขภาพและร่างกายเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการทานอาหารให้ตรงเวลา เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างน้อย 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงห่างไกลการเจ็บป่วย และหากเกิดเจ็บป่วยแบบไม่คาดฝันที่ต้องใช้เงินก้อนสำหรับใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือเงินก้อนสำรองฉุกเฉิน สำหรับคนมีรถยนต์พี่เบิ้มแนะนำ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่อนุมัติไวภายใน 2 ชั่วโมง ให้วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท รถยังมีขับ เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนพี่เบิ้ม Delivery ก็พร้อมเดินทางไปรับสมัครและตรวจสอบสภาพรถถึงหน้าบ้าน เมื่อผ่านการอนุมัติรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที เพราะเรื่องการเจ็บป่วยไม่ใช้เรื่องที่สามารถรอได้พี่เบิ้มพร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกสถานการณ์
อ้างอิงข้อมูล : โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลพญาไท
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มีวงเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน…ที่นี่