ระวังตัวก่อนป่วยจากโรคที่มาพร้อมฝน
ประเทศไทยมีฤดูกาลทั้งหมด 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูหนาว และฤดูฝน โดยแต่ละฤดูจะมีโรคประจำฤดูกาลเกิดขึ้น หน้าฝนเองก็เช่นกัน เพราะหน้าฝนเป็นช่วงที่มีฝนตกชุก ทำให้มีเชื้อโรคหรือฝุ่นละอองต่าง ๆ ปลิวมากับสายฝนเป็นจำนวนมาก แถมนี่ยังเป็นช่วงเวลาที่สัตว์หรือแมลงซึ่งเป็นหนึ่งในพาหะนำโรคเจริญเติบโตได้ ไม่แปลกที่พอเข้าสู่ฤดูฝนผู้คนต่างเพิ่มความระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ
สัญญาณเตือนอาการป่วย
หน้าฝนเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างหนาวเย็น มีความชื้นในอากาศสูง และบางช่วงอากาศร้อนอบอ้าวจากความหนาแน่นของเมฆบนชั้นบรรยากาศ กล่าวได้ว่าหน้าฝนเป็นช่วงที่อุณหภูมิค่อนข้างแปรปรวน หากไม่รักษาสุขภาพให้ดีก็อาจป่วยได้ง่าย ๆ โดยสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าคุณใกล้เจ็บป่วยด้วยโรคประจำฤดูฝน มีดังนี้
- มีอาการคัดจมูก
- จามบ่อยผิดปกติ
- รู้สึกไม่สบายตัว
- รู้สึกร้อนหรือหนาวผิดปกติ
- ปวดหัวและปวดกระบอกตา
อาการเหล่านี้เป็นอาการเบื้องต้นที่อาจนำมาซึ่งอาการเจ็บป่วยภายหลัง ฉะนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอ งดโดนลมแรง ๆ และฝนจนกว่าอาการจะดีขี้น
7 โรคที่มักพบในช่วงหน้าฝน
โรคที่มากับฝน 2566 ไม่ต่างกับโรคที่มากับฝนในปีก่อน ๆ เพราะถือว่าเป็นโรคตามฤดูกาลไปแล้ว เมื่อถึงหน้าฝน โรคเหล่านี้ก็จะแวะเวียนมาเสมอ เช่น
1 โรคไข้หวัด
ไข้หวัดธรรมดาทำให้ไม่สบายตัว เจ็บคอ
สาเหตุ เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียในอากาศ
อาการ
- มีไข้ต่ำ ๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว
- อาจมีอาการไอและจามร่วมด้วย
- มีอาการคัดจมูก และอาจมีน้ำมูก
- อ่อนเพลียและปวดเมื่อยตามร่างกาย
ไข้หวัดกับหน้าฝนเป็นของคู่กัน เพราะหน้าฝนเป็นช่วงที่มีทั้งลมและฝน ทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ผู้ที่ได้รับเชื้อปริมาณมากจึงป่วยเป็นไข้หวัด
2 โรคไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ทำให้รู้สึกปวดศีรษะ
สาเหตุ เชื้อไวรัสสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่
อาการ
- ไข้ขึ้นสูง รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ
- ปวดศีรษะ ปวดตามเนื้อตัว และอ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- มีอาการคัดจมูก อาจจะมีน้ำมูก
ไข้หวัดใหญ่เป็นอีกโรคที่พบมากในฤดูฝน เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นในหน้าฝนที่มีอากาศชื้น หลายคนป้องกันตัวเองให้ห่างไกลโรคนี้ ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก่อนฤดูฝนมาเยือนประมาณ 1 เดือน หรือนานกว่านั้น เนื่องจากวัคซีนจะให้ผลเต็มที่หลังจากฉีดวัคซีนประมาณ 1 เดือน
3 โรคไข้เลือดออก
ยุงลายเป็นพาหะของโรคไข้เลือดออก
สาเหตุ ยุงลายที่มีพาหะไข้เลือดออก
อาการ
- ไข้ขึ้นสูงอย่างรวดเร็วในช่วงแรก แล้วค่อย ๆ ลดลง
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และปวดกระบอกตา
- เบื่ออาหารและอาเจียน
- ปัสสาวะและอุจจาระแบบมีเลือดปน
- ปลายมือ ปลายเท้าเริ่มมีสีคล้ำ
- หากเกล็ดเลือดต่ำมากจะมีตุ่มขึ้นตามผิวหนัง
ยุงลายเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก วัฏจักรชีวิตยุงลายจะเติบโตได้ดีในหน้าฝน เพราะสภาพอากาศเอื้อต่อการวางไข่ ทั้งมีแหล่งน้ำขังเกิดขึ้นจำนวนมาก เมื่อยุงลายที่มีเชื้อมากัดคนจะทำให้ป่วยเป็นไข้เลือดออก
4 โรคฉี่หนู
โรคฉี่หนูมีสาเหตุมาจากหนูตามท่อ
สาเหตุ แบคทีเรียในปัสสาวะของสัตส์พาหะ เช่น หนู สุกร โค กระบือ สุนัข และแรคคูน
อาการ
- มีไข้สูงเฉียบพลัน
- ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะบริเวณขาและน่อง
- หากป่วยหนักจะมีอาการหนาวสั่นและตาแดงร่วมด้วย
ช่วงหน้าฝนจะมีน้ำขัง ซึ่งแหล่งน้ำขังบางจุดเกิดจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่น้ำฝนชะล้างมารวมกัน ไม่รวมถึงฉี่ของสัตว์พาหะอย่างหนู เมื่อน้ำขังที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ก็นำไปสู่อาการเจ็บป่วยในที่สุด
5 โรคปอดบวม
โรคปอดบวมส่งผลกระทบต่อปอด
สาเหตุ เชื้อไวรัสและแบคทีเรียลงปอด
อาการ
- ไข้สูง
- มีอาการไอ หายใจหอบเหนื่อย
- เบื่ออาหาร และซึมลง
ช่วงหน้าฝนภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอกว่าปกติ เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว ยิ่งถ้าใครตัวเปียกหลังตากฝนเป็นเวลานาน ๆ โอกาสป่วยด้วยโรคปอดบวมยิ่งสูงขึ้น บางครั้งโรคปอดบวมเกิดขึ้นเพราะอาการป่วยอื่น ๆ อย่างไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ อาการไข้อื่น ๆ ที่มีภาวะแทรกซ้อน หรือได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสม
6 โรคอาหารเป็นพิษ
โรคอาหารเป็นพิษทำให้ขับถ่ายบ่อย
สาเหตุ อาหารที่ปนเปื้อน
อาการ
- รู้สึกปวดท้องแบบบิด
- ขับถ่ายบ่อยผิดปกติ อาจจะถ่ายเหลวหรือถ่ายแบบมีเลือดปน
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร
ความชื้นที่มากับหน้าฝนทำให้การถนอมอาหารบางอย่างเป็นไปได้ยาก เป็นผลให้มีเชื้อโรคบางชนิดเข้าไปปนเปื้อนในอาหารและส่งผลต่อร่างกาย ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ
7 โรคตาแดง
โรคตาแดงทำให้รู้สึกระคายเคืองตา
สาเหตุ เชื้อไวรัสที่เข้าสู่ดวงตา
อาการ
- เยื่อบุตาขาวแดง เปลือกตาบวม
- เคืองตาตลอดเวลา
- น้ำตาไหลง่าย
เชื้อไวรัสที่กระจายอยู่ในอากาศ และมีชีวิตได้ยาวนานขึ้นจากความชื้นในหน้าฝนมีโอกาสปลิวเข้าดวงตา หรือมาในรูปแบบฝุ่นละอองที่ทำให้เคืองตาและตาอักเสบในที่สุด
สภาพอากาศในหน้าฝนเอื้อให้เกิดโรคต่าง ๆ ทำให้ผู้คนต้องระวังตัวเองเป็นพิเศษ โดยบางคนเลือกทำประกันภัยสุขภาพ เพื่อประกันความเสี่ยงเมื่อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ในปัจจุบันสามารถผ่อนจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตได้แล้ว สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
ตัดค่าประกันภัยสุขภาพง่าย ๆ ผ่านบัตรเครดิต
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันโรคในช่วงหน้าฝน
สภาพอากาศในหน้าฝนก่อให้เกิดโรคได้ง่าย เด็ก ๆ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอาจเจ็บป่วยง่ายขึ้นในช่วงนี้ เพื่อป้องกันโรคในในหน้าฝน เรามีวิธีดูแลตัวเองมาฝาก
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ ทั้งสามารถฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วกว่าคนที่พักผ่อนน้อย ทำให้ป่วยได้ยากขึ้น
- พกร่มหรือเสื้อกันฝนทุกครั้ง
ในละอองฝนมักมีเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ ที่ปลิวมากับลมและอยู่ในเม็ดฝน การกางร่มหรือใส่เสื้อกันฝนช่วยป้องกันการรับเชื้อเหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ง
- ระวังไม่เดินลุยน้ำขัง
น้ำขังเป็นแหล่งรวมของเชื้อโรค และหากเท้ามีแผลเชื้อโรคก็จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำขัง
- รับประทานวิตามินซีหรืออาหารเสริม
วิตามินซีมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันทำให้ไม่เป็นหวัด การรับประทานวิตามินซีเป็นประจำ หรืออาหารเสริมอื่น ๆ จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดโอกาสในการเจ็บป่วย
- อาบน้ำทันทีเมื่อโดนน้ำฝน
เชื้อโรคและไวรัสที่ปลิวมากับฝนมักจะเกาะติดอยู่ตามร่างกาย การอาบน้ำช่วยชำระล้างเชื้อเหล่านี้ออกไป และยังช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้อุ่นขึ้นอีกด้วย
- พบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการป่วย
เมื่อมีความรู้สึกไม่สบายตัว เช่น ครั่นเนื้อครั่นตัว เริ่มเจ็บคอ หรืออ่อนเพลียผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง พร้อมแนวทางการรักษาก่อนจะเป็นหนัก
โรคที่มากับฝนเป็นโรคที่เกิดขึ้นทุกปี เพราะถือเป็นโรคประจำฤดูกาล ถึงอย่างนั้นไม่ควรละเลยการดูแลตัวเอง รวมถึงหาแนวทางป้องกันตัวไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะเงินทุนสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล อย่างการสมัครบัตรกดเงินสด หรือการทำประกันภัยสุขภาพเพิ่มเติม ซึ่งทุกวันนี้คุณสามารถผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ เมื่อเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่ การดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
ชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิต...ตัวเลือกดี ๆ เหมาะกับคนยุคใหม่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี
เงินด่วนยามป่วยไข้ ไม่ต้องกังวลค่าห้องและค่าหมอ
เบิกถอนเงินสด แบ่งผ่อนชำระได้ทุกที่ทุกเวลา