รีไฟแนนซ์รถยนต์ผ่อนหมดแล้ว เรียกว่าอะไร? รวมเหตุผลที่ต้องเป็นหนี้อีกครั้ง

คนมีรถปลอดภาระ อยากรีไฟแนนซ์ทำได้จริงไหม

พอตกอยู่ในสภาวะหมุนเงินไม่ทัน ทุกอย่างเริ่มฝืดเคืองไปหมดแถมยังมีค่าใช้จ่ายประจำเดือนมารอให้เคลียร์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต หรือค่าผ่อนคอนโดที่ยังไม่หมด ทำให้หลายคนเลือกมองหาแหล่งสินเชื่อถูกกฎหมายเพื่อกู้ยืมเงินมาแก้ไขปัญหาเงินช็อต แน่นอนว่าสินเชื่อที่ให้วงเงินสูงส่วนใหญ่ต้องนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงไปเป็นประกันการกู้ยืมเงิน ถ้ามีรถยนต์ปลอดภาระหรือผ่อนหมดแล้วอยู่ 1 คัน สามารถนำไปแปลงเป็นเงินสดผ่านการรีไฟแนนซ์รถได้หรือไม่ ? วันนี้พี่เบิ้มขอพาทุกคนไปหาคำตอบเรื่องนี้กันครับ

รู้จัก รีไฟแนนซ์ คืออะไร ก่อนนำรถผ่อนหมดเข้าไฟแนนซ์ใหม่

การรีไฟแนนซ์รถ เป็นการนำรถยนต์ที่ยังผ่อนชำระไม่หมดไปยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน โดยกรณีนี้สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์กับผู้ให้บริการเงินเดิมที่เจ้าของรถเป็นลูกหนี้อยู่ หรือเปลี่ยนเป็นผู้บริการรายใหม่ก็ได้เช่นกัน สำหรับเหตุผลหลักที่หลายคนเลือกรีไฟแนนซ์รถ ก็คือต้องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยผ่อนรถให้ถูกลง ผ่อนค่างวดต่อเดือนในจำนวนเงินที่น้อยลง ยืดระยะเวลาในการผ่อนนานขึ้นไป หรือต้องการนำเงินก้อนจากส่วนต่างที่เหลือมาใช้หมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน

หาคำตอบ ผ่อนรถหมดแล้ว ยื่นรีไฟแนนซ์ได้ไหม

เมื่อพิจารณาความหมายของคำว่า รีไฟแนนซ์รถ พบว่าเป็นการทำสัญญาที่ช่วยให้ผู้รีไฟแนนซ์ผ่อนหนี้ก้อนใหม่ภายใต้เงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม และตามที่ระบุไว้ขอรีไฟแนนซ์รถหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญคือรถยนต์ที่นำมาเป็นประกันการชำระหนี้ต้องเป็นรถที่ยังไม่ปลอดภาระ ดังนั้นถ้าเป็นการนำรถที่ปลอดภาระหรือรถผ่อนหมดแล้วเข้าไฟแนนซ์ จะเรียกว่าการจำนำรถกับผู้ให้บริการโดยมีเล่มทะเบียนเป็นประกันการกู้ยืมเงิน นั่นเท่ากับว่ารถผ่อนหมดแล้วไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้ ต้องยื่นขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถหรือสินเชื่อรถแลกเงินแทน

รถผ่อนหมดแล้ว นำไปขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้

รถผ่อนหมดแล้ว ขอสินเชื่อรถแลกเงินได้ทันทีหรือต้องรอ

แม้สามารถนำรถผ่อนหมดแล้วไปยื่นขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้ แต่ไม่ใช้รถปลอดภาระทุกคันที่ทำได้ เนื่องจากหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญของธนาคารและผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินคือระยะเวลาถือครองเล่มทะเบียน ดังนั้นถ้าบริษัทไฟแนนซ์เพิ่งโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์มาให้คุณ เนื่องจากผู้ให้บริการส่วนใหญ่ได้กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการครอบครองรถเพิ่งโอนกรรมสิทธิ์ไว้ โดยระบุว่า ต้องมีระยะครอบครองกรรมสิทธิ์รถมาไม่ต่ำกว่า 30 วัน หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารหรือผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินกำหนด ถึงจะใช้เล่มทะเบียนเป็นประกันการกู้ยืมเงินได้ ฉะนั้นถ้าเพิ่งโอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองมาไม่นาน อาจต้องอดทนรอจนกว่าถือครองเล่มทะเบียนครบตามระยะเวลาที่ผู้ให้บริการสินเชื่อกำหนดถึงดำเนินการกู้ยืมเงินได้

เช็กลิสต์ เหตุผลที่จำเป็นต้องกู้สินเชื่ออีกครั้ง

ตามที่ทราบกันดีว่า รถยนต์เป็นทรัพย์สินที่เสื่อมราคาตามอายุการใช้งาน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีมูลค่าในตัวอยู่ ไม่แปลกเมื่อถึงคราวจำเป็นต้องใช้เงินก้อนหลายคนเลือกเปลี่ยนรถเป็นเงินแทนการหยิบยืมเงินจากญาติสนิทหรือเพื่อนฝูง ส่วนเหตุผลที่ต้องทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันออกไป เช่น

• ค่ารักษาพยาบาล
• ค่าเทอม
• จัดงานแต่งงาน
• เดินทางไปต่างประเทศเพื่อเรียนต่อหรือทำงาน
• ซ่อมแซมหรือต่อเติมบ้าน
• ลงทุนหรือต่อยอดธุรกิจ
• เสริมสภาพคล่องทางการเงิน
• เคลียร์หนี้สินต่าง ๆ

รถแลกเงินที่ไหนดี ไม่ต้องค้ำ ไม่ต้องโอนเล่ม ให้วงเงินสูง

รถแลกเงิน ตัวช่วยคนมีรถปลอดภาระที่ต้องการเงินด่วน

สำหรับใครที่สงสัยว่า รถผ่อนหมดแล้ว เข้าไฟแนนซ์ที่ไหนดี ? หรือสมัครสินเชื่อรถแลกเงินที่ไหนดี ? ขอแนะนำ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน เป็นสินเชื่อรถแลกเงินที่มีความโดดเด่นเรื่องระยะเวลาในการอนุมัติและการผ่อนชำระ เพราะถ้าส่งเอกสารครบถ้วนรู้ผลอนุมัติภายใน 1 ชั่วโมง พร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที และเปิดโอกาสให้คุณสามารถเลือกแบ่งจ่ายได้นานสูงสุดถึง 84 งวด ที่สำคัญ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ให้วงเงินสูงถึง 1 ล้านบาท ในอัตรามีดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.98% ต่อเดือน เมื่อทราบผลโอนเงินเข้าบัญชีทันที แถมยังมีรถไว้ขับขี่ได้ตามปกติไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเพื่อให้ผู้สนใจสมัครสินเชื่อผ่านฉลุยในครั้งเดียว ตามมาดูกันว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และสามารถสมัครผ่านช่องทางไหนบ้าง

คุณสมบัติผู้สมัคร

• สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
• รายได้ขั้นต่ำ 8,000 บาทต่อเดือน (กรณีเจ้าของกิจการ มียอดขายต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท)
• ประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 4 เดือน (กรณีเจ้าของกิจการต้องดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 6 เดือน)
• มีรถยนต์ รถกระบะ รถตู้เป็นชื่อของตนเอง โดยถือครองเล่มทะเบียนไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

เอกสารสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน

• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• สำเนาทะเบียนบ้าน
• เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือนล่าสุด (ฉบับจริง) หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทวิ 50 หรือเอกสารแสดงการประกอบอาชีพ
• สำเนาใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร หรือสถาบันการเงินย้อนหลัง 6 เดือน
• สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารกรุงเทพ
• ทะเบียนรถเล่มจริง และมีชื่อผู้กู้เป็นเจ้าของ
• สำเนากรมธรรม์ประกันภัยตามเงื่อนไข

ช่องทางการสมัคร

(1) เตรียมเอกสารให้พร้อมแล้วเดินทางไปสมัครด้วยตนเองที่จุดบริการ KTC TOUCH สาขาใกล้บ้าน

(2) กรอกแพลตฟอร์มสมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่ด้านล่างแล้วรอทีมงานพี่เบิ้ม Deliveryติดต่อกลับ เพื่อนัดหมายวันเวลาไปรับสมัครและตรวจสภาพรถถึงบ้าน

เพื่อให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากมีเงินก้อนไว้ใช้ตามความต้องการ ยังได้รับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไปใช้ต่อเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในอนาคต โดยสามารถกดเงินจากตู้ ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีค่าธรรมเนียม รวมถึงรูดซื้อสินค้าที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ และโอนเงินสดเข้าบัญชีได้อีกด้วย เมื่อมีปัญหาทางการเงินไม่ว่าจะมากหรือน้อย ขอให้พี่เบิ้มเป็นหนึ่งในช่องทางแก้ไขปัญหาด้านการเงินของคุณ

ร้อนเงิน หมุนเงินไม่ทัน KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน พร้อมอยู่เคียงข้างคุณ