การซื้อหรือผ่อนชำระรถยนต์เป็นการตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลต่อการเงินเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อการจัดการภาษีด้วย หลายคนอาจสงสัยว่าการซื้อหรือผ่อนรถ ลดหย่อนภาษีได้ไหม โดยเฉพาะเมื่อเลือกซื้อในนามบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างทางภาษีระหว่างบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมถึงการเช่าซื้อและลีสซิ่ง ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่สร้างประโยชน์ทางภาษีให้กับธุรกิจได้
ซื้อหรือผ่อนรถในนามบุคคลธรรมดา ลดหย่อนภาษีได้ไหม?
การซื้อหรือผ่อนรถในนามบุคคลธรรมดาไม่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจากการซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลไม่ได้ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้หรือการประกอบธุรกิจ จึงไม่เข้าข่ายลดหย่อนภาษีโดยตรง
ซื้อหรือผ่อนรถในนามนิติบุคคลช่วยประหยัดภาษีอย่างไร?
การซื้อหรือผ่อนรถยนต์ในนามบริษัทจะถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทและสามารถนำมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของค่าเสื่อมราคา ซึ่งกฎหมายกำหนดให้หักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี การหักค่าเสื่อมราคานี้จะช่วยลดกำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษีของบริษัท ทำให้ภาระภาษีลดลงในระยะยาว
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา และค่าประกันภัย ยังสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้เช่นกัน ช่วยเพิ่มประโยชน์ทางภาษีให้กับธุรกิจ
เช่าซื้อ คืออะไร?
การเช่าซื้อเป็นสัญญาที่เจ้าของทรัพย์สินให้สิทธิ์แก่ผู้เช่าในการใช้ทรัพย์สิน โดยมีเงื่อนไขว่าหากผู้เช่าจ่ายค่างวดครบตามที่ตกลงไว้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นจะถูกโอนเป็นของผู้เช่าอย่างสมบูรณ์ ในกรณีของการซื้อรถยนต์ หากผู้เช่าผ่อนจ่ายครบตามที่กำหนด รถยนต์นั้นจะเป็นของผู้เช่าตามเงื่อนไขของสัญญา ซึ่งในระหว่างที่ยังไม่ได้ผ่อนครบ ผู้เช่าจะไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์ แต่จะได้รับสิทธิ์ในการใช้งานตามระยะเวลาของสัญญา
- ค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่าซื้อ ดอกเบี้ยเงินผ่อนรถยนต์ หักลดหย่อนภาษีได้
หากกิจการเลือกทำสัญญาเช่าซื้อ (Hire Purchase) รถยนต์ จะสามารถหักค่าเสื่อมราคาได้ตามระยะเวลา โดยสามารถบันทึกค่าเสื่อมราคาได้ทุกปีเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการเช่าซื้อ รวมถึงดอกเบี้ยของเงินผ่อน ซึ่งสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ โดยการหักค่าเสื่อมราคาจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาผ่อนชำระตามที่ตกลงในสัญญา โดยจำนวนที่หักได้ในแต่ละปีจะต้องไม่เกินมูลค่าที่ผ่อนชำระในปีนั้น
ซื้อผ่อนรถยนต์สำหรับบุคคลไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ แต่นิติบุคคลนำมาคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้
ลีสซิ่ง คืออะไร?
ลีสซิ่งเป็นข้อตกลงระหว่างเจ้าของทรัพย์สิน (Leasor) และผู้เช่า (Leasee) ที่เจ้าของทรัพย์สินให้สิทธิ์ผู้เช่าในการใช้งานทรัพย์สินตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ โดยผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าตามอัตราที่กำหนด ข้อแตกต่างสำคัญจากการเช่าซื้อคือ สัญญาลีสซิ่งไม่ทำให้ผู้เช่าเป็นเจ้าของทรัพย์สิน และทรัพย์สินจะยังคงเป็นของเจ้าของตลอดระยะเวลาของสัญญา หลังจากสิ้นสุดสัญญา ผู้เช่ามีทางเลือกในการซื้อทรัพย์สินนั้น เช่าต่อ หรือคืนทรัพย์สินให้กับเจ้าของ
- ประโยชน์ทางภาษี ลิสซิ่ง
การทำสัญญาลีสซิ่งสำหรับการใช้รถยนต์เป็นการเช่าระยะยาว ซึ่งค่าเช่ารายเดือนที่จ่ายให้แก่ผู้ให้เช่าจะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด แต่จะไม่สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้ เนื่องจากการเช่าระยะยาวนี้ กิจการยังไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สิน แต่การหักค่าเช่าในภาษีได้เต็มจำนวนช่วยลดกำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษีได้
จากข้อสงสัยว่าการซื้อหรือผ่อนรถลดหย่อนภาษีได้ไหม คำตอบคือ สามารถช่วยประหยัดภาษีได้สำหรับนิติบุคคล โดยการหักค่าเสื่อมราคาในกรณีเช่าซื้อ หรือหักค่าเช่าเต็มจำนวนในกรณีลีสซิ่ง ซึ่งทั้งสองวิธีสามารถช่วยลดภาระภาษีของกิจการได้ในระยะยาว แต่สำหรับบุคคลธรรมดาไม่สามารถหักภาษีจากการซื้อหรือผ่อนรถยนต์ได้ และใครที่กำลังแพลนออกรถใหม่ สำหรับสมาชิก KTC มีโปรโมชั่นออกรถใหม่แนะนำ
โปรโมชั่น ออกรถใหม่ กับบัตรเครดิต KTC
- ชำระเงินจอง หรือเงินดาวน์สำหรับออกรถใหม่ ใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ KTC ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป / เซลส์สลิป + ใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แลกรับเครดิตเงินคืน 130 บาท โดยสามารถแลกคะเเนนได้สูงสุด ไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป
- ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 พ.ย. 67 – 30 เม.ย. 68
อย่างไรก็ตาม การวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อหรือผ่อนรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ บัตรเครดิต KTC เป็นอีกตัวช่วยที่จะมาจัดการและบริหารค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้การซื้อรถยนต์ของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย หากสนใจสามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC