การตั้งครรภ์และการคลอดบุตรเป็นช่วงเวลาพิเศษและสำคัญที่สุดสำหรับทุกครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ที่กำลังจะมีบุตรหรือคู่สมรสที่วางแผนมีบุตรในอนาคต แน่นอนว่าการตัดสินใจมีบุตรมักมาพร้อมค่าใช้จ่ายที่สูง ด้วยเหตุนี้ สำนักงานประกันสังคมจึงจัดสรรสิทธิประโยชน์ค่าคลอดบุตรเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับผู้ประกันตน
แม้จะมีสิทธิประโยชน์นี้ แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าจะได้รับค่าคลอดบุตรเป็นจำนวนเท่าไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง รวมถึงวิธีเช็กผลอนุมัติเงินค่าคลอดบุตร ไปจนถึงระยะเวลาในการรับเงินมีขั้นตอนอย่างไร บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงินค่าคลอดบุตรจากประกันสังคมในปี 2567 อย่างครอบคลุม เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวและวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจ เมื่อถึงเวลาต้อนรับสมาชิกใหม่ในครอบครัว
ค่าคลอดบุตรประกันสังคม คืออะไร?
ค่าคลอดบุตรประกันสังคม คือสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนสามารถเบิกได้เมื่อคลอดบุตร โดยสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไข เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตรและดูแลทารกแรกเกิด
ค่าคลอดบุตรประกันสังคมได้เท่าไร?
ประกันสังคมมอบสิทธิประโยชน์ค่าคลอดบุตรแก่ผู้ประกันตนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยแบ่งสิทธิประโยชน์ได้ ดังนี้
- ค่าบริการทางการแพทย์
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินเหมาจ่าย 15,000 บาทต่อการคลอดบุตรหนึ่งครั้ง โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร - เงินสงเคราะห์การหยุดงาน
ผู้ประกันตนหญิงมีสิทธิ์รับเงินในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นระยะเวลา 90 วัน สำหรับการคลอดบุตรคนที่ 1 และ 2 เท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร จึงจะมีสิทธิ์รับประโยชน์ทดแทนนี้ สำหรับคู่สมรสที่เป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ สามารถเลือกใช้สิทธิ์ได้เพียงฝ่ายเดียว
เอกสารสำหรับการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนประกันสังคมกรณีคลอดบุตร
ผู้ประกันตนที่ต้องการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ทดแทนประกันสังคมกรณีคลอดบุตร จำเป็นต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01 ที่กรอกข้อมูลครบถ้วนและลงลายมือชื่อ
- สำเนาสูติบัตรบุตร 1 ชุด (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
- ทะเบียนสมรสหรือหนังสือรับรอง (กรณีคุณพ่อเป็นผู้ยื่นขอ)
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก พร้อมรับรองสำเนา โดยธนาคารที่สามารถใช้ได้ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาติ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการยื่นขอและพิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเอกสารทั้งหมดสามารถยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ยกเว้นสำนักงานใหญ่ที่กระทรวงสาธารณสุข
หมายเหตุ : หากมีกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับผลการพิจารณา สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
การตรวจสอบสิทธิ์ สถานะ และผลอนุมัติค่าคลอดบุตรประกันสังคม สามารถทำได้สะดวกผ่านช่องทางออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน
เช็กสิทธิ์รับเงิน สถานะ และผลอนุมัติค่าคลอดบุตรประกันสังคมอย่างไร?
ในปัจจุบัน การตรวจสอบสิทธิ์ สถานะ และผลอนุมัติค่าคลอดบุตรประกันสังคม สามารถทำได้สะดวกผ่านช่องทางออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน โดยใช้เพียงเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสำนักงานประกันสังคมหรือโทรศัพท์สอบถาม มีวิธีดังนี้
วิธีเช็กค่าคลอดบุตรออนไลน์
- เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th กดเข้าสู่ระบบผู้ประกันตน/สมัครสมาชิก
- ผู้ที่ยังไม่เคยสมัครสมาชิก กดสมัครสมาชิก ทำตามขั้นตอน ยอมรับข้อตกลง กรอกข้อมูลส่วนตัว และยืนยันตัวตนด้วย OTP
- ผู้ที่เคยสมัครสมาชิกแล้ว เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน หรือกรณีลืมรหัส ให้กด "ลืมรหัสผ่าน" และทำตามขั้นตอน
- ตรวจสอบสิทธิ์ สถานะ และผลอนุมัติ โดยเลือกหัวข้อ "การเบิกสิทธิประโยชน์"
วิธีเช็กผ่านแอปเช็กเงินค่าคลอดบุตร
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "SSO Connect" (มีทั้งระบบ iOS และ Android)
- เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน หรือสมัครสมาชิกผ่านระบบ
- ตรวจสอบสิทธิ์ สถานะ และผลอนุมัติ โดยเลือกหัวข้อ "การเบิกสิทธิประโยชน์"
รับเงินค่าคลอดบุตรประกันสังคม ผ่านทางไหนและมีระยะเวลาดำเนินการกี่วัน?
ผู้ประกันตนสามารถรับเงินค่าคลอดบุตรจากประกันสังคมได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
- บัญชีธนาคาร
เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด โดยเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ผู้ประกันตนระบุไว้ในแบบคำขอ - เงินสด
ผู้ประกันตนสามารถรับเงินสดได้ที่สำนักงานประกันสังคม โดยต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงด้วย - เช็คธนาคาร
อาจมีการจ่ายเงินเป็นเช็คในบางกรณี ซึ่งผู้ประกันตนสามารถนำไปขึ้นเงินที่ธนาคารได้
วิธีการรับเงินจะขึ้นอยู่กับที่ผู้ประกันตนระบุไว้ในแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส. 2-01) ซึ่งการโอนเข้าบัญชีธนาคารเป็นวิธีที่สะดวกและได้รับความนิยมมากที่สุด โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาดำเนินการในการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกันตนประมาณ 5-7 วันทำการ นับจากวันที่เอกสารได้รับการอนุมัติ
แม้สิทธิประโยชน์จากประกันสังคมจะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเตรียมพร้อมด้านการเงินสำหรับการมีบุตรยังคงสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เบิกค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิตจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความกังวลเรื่องการใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ได้ นอกจากนี้ บัตรเครดิต KTC ยังมีโปรโมชั่นที่หลากหลาย ทั้งร่วมกับโรงพยาบาล ร้านค้า ร้านอาหาร สายการบิน และอื่นๆ อีกมากมาย เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมรับคะแนนสะสม KTC FOREVER เพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีกเพียบ หากท่านใดสนใจสามารถสมัครบัตรเครดิต KTC และ สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายๆ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC