ถ้างานมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น เราจะขอขึ้นเงินเดือนได้ไหม? ขออย่างไร? ขอตอนไหน? ขอขึ้นเงินเดือนเท่าไหร่? นี่คือคำถามคาใจที่คนทำงานอยากรู้ แต่ไม่อยากถาม เพราะไม่กล้า กลัวถูกมองว่าโลภ กลัวโดนปฏิเสธ ทั้งหมดนี้คือความกลัวที่เราสร้างขึ้นเอง เพราะความเป็นจริงแล้วหากเรามีความสามารถมากขึ้น การถูกพิจารณาให้ขึ้นเงินเดือนคือเรื่องปกติที่นายจ้างควรทำ มาทำลายกำแพงแห่งความกลัวนี้ ด้วย 10 วิธีขอขึ้นเงินเดือน ควรขอตอนไหนให้สำเร็จ และเหตุผลในการขอ สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ พร้อมจิตวิทยาขอขึ้นเงินเดือน และเทคนิค G-I-M-M-E ที่ KTC คัดมาให้แล้ว
1.ซ้อมให้มั่นใจ
เพราะจะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง ขอขึ้นเงินเดือน สิ่งที่ควรทำ คือการลองซักซ้อมกับตัวเองให้ดีก่อนว่าจะพูดอย่างไร มีเหตุผลอะไร ผลงานที่โดดเด่นคือเรื่องไหน สำรวจฐานเงินเดือนในตลาดและกำหนดตัวเลขที่เหมาะสม เพื่อรู้ว่าเราจะขอขึ้นเงินเดือนเท่าไหร่ พร้อมหาจุดแข็งของตัวเองที่ไม่สามารถมีใครในทีมทำแทนได้ เพื่อสร้างความมั่นใจและสื่อสารได้อย่างตรงประเด็น
2.ขอหลังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม
ถ้าถามว่า ขอขึ้นเงินเดือน ตอนไหนดี? ตอบเลยว่าขอตอนทำโปรเจกต์ใหญ่หรือทำงานสำคัญแล้วประสบความสำเร็จ เช่น สร้างกำไรให้บริษัท ลูกค้าชื่นชมคุณโดยตรงผ่านหัวหน้า หรือเรื่องที่ทำให้หัวหน้ายิ้มไม่หุบ แบบนี้แหละคือสัญญาณที่ดี จิตวิทยาขอขึ้นเงินเดือน เพราะเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากพอที่เราควรจะได้รับรางวัลตอบแทน
3.ช่วงเวลาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
บริษัทส่วนใหญ่มีเวลาปรับโครงสร้างเงินเดือนให้กับพนักงาน เช่น หลังผ่านโปร หลังการประเมินทุก 3, 6 เดือน หรือใกล้สิ้นปี เมื่อขอในตอนที่โอกาสมาถึงก็มีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติมากขึ้นตามไปด้วย
4.ความน่าเชื่อถือต้องมี
แนะนำเลยว่าแต่งตัวดีไว้ก่อน แม้ว่าออฟฟิศจะไม่มีกฎเรื่องการแต่งตัว แต่เมื่อประชุมงาน พบลูกค้า หรือเข้าไปขอขึ้นเงินเดือน การแต่งตัวให้ดูสุภาพแบบเป็นทางการนิดๆ ดูสมาร์ทแคชชวล จะเรียกความมั่นใจในตัวเรา และช่วยให้เราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น หนึ่งในจิตวิทยาขอขึ้นเงินเดือน
5.เตรียมแผนสำรอง
การจะขึ้นเงินเดือนมีปัจจัยหลายอย่างซึ่งเราอาจถูกปฏิเสธได้เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำเมื่อขอขึ้นเงินเดือน คือการมีแผนสำรอง ว่าหากเงินเดือนไม่ขึ้น ก็ยังสามารถส่งคำขออื่นๆ เช่น work from home , Hybrid Working หรือขอคอมพิวเตอร์ใหม่ โทรศัพท์ใหม่ เป็นต้น ก็จะช่วยให้ชีวิตการทำงานสะดวกสบายขึ้น แถมมีโอกาสที่จะเป็นไปได้มากกว่า
การขอขึ้นเงินเดือน ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในการพูดคุย แต่หากผลงานการทำงานของเราดีก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้ขึ้นเงินเดือน
6.ขอแบบตัวตัวต่อตัว
การขอขึ้นเงินเดือน มีโอกาสได้มากกว่าเมื่อขอเป็นรายบุคคล เพราะไม่สร้างความลำบากใจให้หัวหน้าที่ต้องแบกรับคนจำนวนมาก แนะนำว่าให้ขอแบบต่อหน้า ด้วยคำพูดที่ซ้อมมา พร้อมผลงานที่เตรียมไว้ ในการขอขึ้นเงินเดือน สิ่งที่ไม่ควรทำ คือการขอผ่านอีเมล เพราะเรื่องสำคัญแบบนี้อาจถูกปัดทิ้ง หรือถูกปฏิเสธได้ง่ายมาก
7.เลือกช่วงคุยให้ดี
อย่าขอขึ้นเงินเดือนตอนที่หัวหน้ากำลังยุ่งอยู่ กำลังซีเรียส หรือมีงานด่วนกองเต็มโต๊ะ แนะนำให้ดูสถานการณ์รอบข้าง ดูอารมณ์หัวหน้าที่พร้อมจะคุยก่อน เพราะถ้าพลาดอาจจะโดนดุแทนที่จะได้ขอก็ใจฝ่อแล้ว
8.รอบคอบเรื่องอารมณ์
สำหรับเรื่องเงิน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แนะนำให้คุยด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ในการเจรจา แม้จะถูกต่อรองหรือถูกปฏิเสธ เพราะจะแสดงถึงวุฒิภาวะ และคิดเสมอว่า ครั้งนี้ไม่ได้ ก็มีครั้งหน้า อย่าหาเรื่องวู่วามจนถูกไล่ออกก่อนได้ขึ้นเงินเดือน
9.ไม่เปรียบเทียบเงินเดือนคนอื่น
สิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อขอขึ้นเงินเดือน คือการอ้างเงินเดือนของเพื่อนร่วมงาน การให้เครดิตตัวเองเกินความจริง หรือถึงขั้นฟ้องว่าคนอื่นทำงานน้อยกว่าแต่ได้เงินเท่ากันหรือมากกว่า เราควรจะโฟกัสที่ผลการทำงานของตัวเอง สื่อให้เห็นข้อดีของตัวเองเพื่อแสดงความเป็น Professional จะดีกว่าเยอะ
10.ตัดเรื่องส่วนตัวออกจากการขอขึ้นเงินเดือน
ขอขึ้นเงินเดือน สิ่งที่ไม่ควรทำ คือการพยายามเอาเรื่องส่วนตัวมาใช้ในการขอเงินเดือนเพิ่ม หรืออ้างภาระต่างๆ ที่มี แต่ควรจะเอาคุณสมบัติเรื่องงานมาคุยกัน เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมเราจึงสมควรได้รับเงินเดือนที่สูงขึ้น
การขอขึ้นเงินเดือน มีเทคนิค G-I-M-M-E สื่อสาร เพิ่มโอกาสขึ้นเงินเดือนได้
เทคนิค G-I-M-M-E สื่อสารอย่างไรให้ได้เงินเดือนขึ้น
เมื่อเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีตาม 10 วิธีข้างต้น ก็ถึงเวลาที่จะลงมือทำ โดยแนะนำให้จำหลักการ ดังนี้
- G : Give Background คือการแนะนำตัวเองและตำแหน่งงานที่ทำ
- I : Introduce Why You're Awesome คือการแสดงผลลัพธ์ของงาน หรือการมีส่วนร่วมในผลงานที่โดดเด่นของบริษัท เพื่อเป็นเหตุผลหลักๆ ในการขอขึ้นเงินเดือน
- M : Make Your Case Research-based คือการสำรวจฐานเงินเดือนในตลาดและกำหนดตัวเลขที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนเหตุผลในการขอขึ้นเงินเดือน
- M : Make the ask คือการระบุเงินเดือนที่ตั้งใจไว้แบบสมเหตุสมผล เพื่อตอบแทนการทำงาน และเป็นกำลังใจในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้น
- E : End With Bang คือการพูดด้วยเหตุผล โน้มน้าวด้วยจิตวิทยามากกว่าอารมณ์ และจบการเจรจาด้วยความมั่นใจ
เพียงเท่านี้ การขอขึ้นเงินเดือนก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป สำหรับใครที่อยากขอขึ้นเงินเดือน ช่วงใกล้สิ้นปี กลางปี อยู่ในเวลาประเมินประสิทธิภาพของพนักงานประจำปี โชว์ฟอร์มให้ดี แล้วหาจังหวะเหมาะพูดคุย อย่าลืมว่า “ความมั่นใจ การเตรียมตัว และการสื่อสารที่ตรงประเด็น” จะช่วยให้เราได้เงินเดือนขึ้น! สุดท้ายเมื่อเรามีรายได้มากขึ้น ก็มีโอกาสทำบัตรเครดิตได้วงเงินบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นด้วย เงินเดือนขึ้นเรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่เป็นสมาชิกบัตรเครดิต KTC สามารถขอเพิ่มวงเงินถาวรได้ แต่ถ้ายังไม่มีบัตรเครดิต KTC สามารถสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง สิทธิพิเศษรออยู่มากมาย สมัครได้เลย อาชีพไหนก็สมัครได้
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC