หางานว่าเหนื่อยแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคิดก็คือเรื่องของเงินเดือน เรียกได้ว่าเป็นคำถามที่เด็กจบใหม่หลายคนสงสัย ว่าควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดี? ด้วยเพราะประสบการณ์ยังน้อย ควรเรียกเงินเดือนเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมในสายงาน และธุรกิจนั้นๆ หากเด็กจบใหม่ท่านใด ที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ และอยากได้เทคนิคในการเรียกเงิน KTC รวบรวมมาให้แล้ว
การเรียกเงินเดือนที่เหมาะสมกับสายอาชีพและองค์กร ทำให้เกิดโอกาสการได้งานที่ง่ายกว่า
1. เทคนิคเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดี สำหรับเด็กจบใหม่
การเรียกเงินเดือนที่เหมาะสมกับสายอาชีพ และองค์กร ย่อมทำให้เกิดโอกาสได้รับการเข้าทำงานที่ง่ายกว่า ดังนั้นหากต้องการหาเงินเดือนที่เหมาะสม ควรเริ่มต้นจาก
- ศึกษาฐานเงินเดือนของสายงาน
เริ่มจากการหาฐานเงินของสายงานที่เราต้องการจะทำ ว่ามีอัตราเริ่มต้นที่เท่าไหร่เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการเรียกเงินเดือนที่เหมาะสมของตนเอง
- ศึกษาลักษณะของบริษัท หรือองค์กร
ขนาดขององค์กร ก็มีส่วนสำคัญในการเรียกเงินเดือนเช่นกัน องค์กรที่มีขนาดใหญ่ หรือบริษัทใหญ่ ก็อาจจะมีโอกาสให้เงินเดือนที่สูงกว่าบริษัทขนาดเล็ก ดังนั้นควรประเมินขนาดขององค์กร ว่ามีความมั่นคง หรือโครงสร้างที่สามารถรองรับเงินเดือนที่เราต้องการได้หรือไม่
และที่สำคัญอย่าลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องเกิดขึ้นในการไปทำงาน เช่น ค่าเดินทาง, ค่าที่พัก, ค่าอาหาร ซึ่งเงินที่เราเรียกไปนั้น ต้องสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้ได้อีกด้วย
2. วิธีต่อรองเงินเดือนอย่างไรดี สำหรับเด็กจบใหม่
หลายคนมักกลัวการต่อรองเงินเดือน เพราะว่าอาจจะสร้างทัศนคติที่ไม่ดีให้กับบริษัทสัมภาษณ์งาน แต่ความจริงแล้ว การต่อรองเงินเดือนถือเป็นเรื่องปกติในการทำงาน ดังนั้นหากยังไม่พอใจกับเงินเดือนที่ได้รับการนำเสนอ ก็สามารถต่อรองได้เลย แต่แนะนำให้ควรอ้างอิงจากอัตราเงินเดือนในสายอาชีพนั้นๆ รวมไปถึงคุณสมบัติพิเศษที่ตัวเรามี ว่ามีความสามารถอื่นๆ เพิ่มเติมที่จะมาช่วยส่งเสริมตำแหน่งของเราได้อย่างไรบ้าง มีคุณค่าต่อบริษัท หรือองค์กรอย่างไร ก็จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับตัวเอง และทำให้องค์กร หรือบริษัทยอมรับเงินเดือนที่เราต้องการได้
เมื่อได้ทำงานที่เราชอบ ในเงินเดือนที่ถูกใจ แม้จะเป็นเด็กจบใหม่อย่าง First Jobber ก็อย่าลืมมองหาการสร้างเครดิตทางการเงินให้ตัวเอง พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย เพื่อให้ทุกการใช้จ่ายของเราคุ้มค่าที่สุด ง่ายๆ แค่สมัครบัตรเครดิต KTC ที่มาพร้อมโปรโมชั่นส่วนลดร่วมกับแบรนด์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์ และสิทธิพิเศษมากมาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ครบเครื่องทั้งเรื่องกิน เที่ยว กิจกรรม แถมฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพ และสะสมคะแนน KTC FOREVER ได้แบบไม่มีวันหมดอายุ พร้อมแลกรับเงินคืน และส่วนลดมากมาย สมัครออนไลน์ง่ายๆ สมัครเลย
การเรียกเงินเดือนใหม่ มักจะอยู่ที่ประมาณ 10-30% จากเงินเดือนเก่า
3. วิธีคิดค่าประสบการณ์ อัพเงินเดือน กี่เปอร์เซ็นต์
เมื่อทำงานมาได้สักพัก ก็อาจถึงเวลาที่ต้อง Upskill ใหม่ๆ หรือ Reskill บางทักษะให้ตัวเอง ทั้งเพื่อการพัฒนาตัวเอง หรือการเปลี่ยนงานย้ายงาน อาทิ เพื่อความเติบโตในหน้าที่การงาน หรือความก้าวหน้าในอนาคต รวมไปถึงเรื่องเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นตามทักษะและประสบการณ์ โดยการย้ายงานแต่ละครั้ง จะมีวิธีคำนวณคร่าวๆ ในการเรียกเงินเดือนอยู่ที่ 10-30% จากรายได้เดิม ซึ่งเงินเดือนหรือรายได้เดิมนี้รวมถึงโบนัส ค่าคอมมิชชันต่างๆ ที่ได้รับทั้งหมด สามารถคิดง่ายๆ โดยการนำ
(เงินเดือน x 12 ) + (โบนัสและคอมมิชชั่นที่ได้รับทั้งปี) / 12 = เงินที่ได้รับแท้จริงเฉลี่ยแต่ละเดือน
จากนั้นเอายอดนี้ไปบวกเพิ่ม 10%-30% ซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการทำงาน รวมไปถึงอัตราการเติบโตของสายงานที่เราทำอยู่ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินการอัพเงินเดือน ก็จะทำให้ได้เงินเดือนใหม่ที่เหมาะสมนั่นเอง
4. สิ่งที่ไม่ควรพูดในการต่อเงินเดือน
แม้การเจรจาต่อรองเงินเดือน จะเป็นมารยาทที่สามารถทำได้ในแวดวงการทำงาน แต่ก็มีข้อห้ามบางอย่าง และรูปแบบการพูดที่ควรหลีกเลี่ยง หรือไม่ควรพูดเมื่อต้องต่อรองเงินเดือน เช่น ไม่ควรหลอกเงินเดือนปัจจุบัน หรือคำเชิงลบ ดังนั้นหากใครไม่อยากพลาดเมื่อต้องเจรจาต่อรองเงินเดือน สามารถเอาเคล็ดลับเล็กๆ จาก KTC ไปใช้กันได้
5. ให้องค์กร หรือบริษัท เสนอเงินเดือนก่อน
หากใครอยากจะเริ่มเจรจาเงินเดือน เมื่อการสัมภาษณ์พูดคุยในรายละเอียดงาน ควรรอให้ทางนายจ้าง หรือบริษัทเป็นผู้เสนอเงินเดือนขึ้นมาก่อน ไม่ควรรีบร้อนพูดถึงเงินเดือน เพราะจะทำให้นายจ้างรู้สึกว่าเรามีจุดประสงค์ทำงานโดยเน้นเพียงแค่เรื่องเงินเดือน ไม่ได้สนใจรายละเอียดของงานมากพอ และอาจตัดสินไม่ไปต่อกับเราได้
6. หลีกเลี่ยงการพูดว่า “ต้องการเงินเดือนมากกว่านี้ หรือ ต้องการเงินเยอะๆ”
หากต้องการเจรจาเพิ่มเงินเดือน ควรหลีกเลี่ยงการใช้ประโยคที่แสดงถึงการอยากได้เงินเยอะๆ แต่ควรใช้เป็นการอ้างอิงอัตราเงินเดือนของอาชีพและสายงาน รวมไปถึงทักษะและความสามารถของเราในตลาดแทน
7. ไม่ควรอ้างเหตุผลการขอเงินเดือนเยอะ ที่เกี่ยวข้องกับภาระส่วนตัว
แม้ความจริงแล้ว เหตุผลที่อยากได้เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ก็เพราะมีรายจ่ายและภาระส่วนตัวที่ต้องรับผิดชอบ แต่ไม่ควรบอกเหตุผลเหล่านี้กับนายจ้าง หรือบริษัทในการต่อรองขอขึ้นเงินเดือน เนื่องจากเหตุผลเหล่านี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่บริษัท หรือองค์กรไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียด้วย และยังทำให้นายจ้าง หรือบริษัทมองว่าเราไม่สามารถบริหารจัดการชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. อย่าดูถูกเงินเดือนที่นายจ้างเสนอ แม้จะไม่ถูกใจก็ตาม
แม้เงินเดือนที่นายจ้าง หรือบริษัทเสนอมา อาจต่ำกว่าที่คิด หรือไม่เป็นที่พึงพอใจสำหรับเรา ก็ไม่ควรรีบเอ่ยปฎิเสธ หรือดูถูกจำนวนเงินเหล่านั้น ควรใช้เป็นวิธีการอ้างอิงถึงประสบการณ์และทักษะของเรา หรืออ้างอิงจากอัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนที่เหมาะสมแทน เพื่อให้นายจ้างหรือบริษัทเห็นว่าเรามีการศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี
9. เตรียมตัวให้พร้อม ในการตอบคำถามเรื่องเงินเดือน
ทุกครั้งที่มีการสัมภาษณ์ นอกจากการเตรียมตัวตอบคำถามเรื่องการทำงานแล้ว อีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดก็คือเรื่องของเงินเดือน เพราะจะต้องมีการพูดคุยในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ซึ่งบางคนก็ลืมที่จะเตรียมตัวในส่วนนี้ และทำให้เกิดอาการอึกอักขณะตอบ หรืออาจพลาดบอกเงินเดือนต่ำกว่าที่ต้องการไป ดังนั้นควรเตรียมตัว ศึกษาอัตราเงินเดือนของอาชีพเราในตลาดให้พร้อม กำหนดตัวเลขที่ต้องการไว้ในใจ และอาจจะสูงกว่าจำนวนที่อยากได้สักน้อย เพราะบริษัทส่วนใหญ่มักเจรจาต่อรองในการลดเงินเดือน ก็จะได้เงินเดือนตามที่ต้องการนั่นเอง
10. กล้าที่จะยืนหยัด และต่อรองให้ได้เงินเดือนตามที่ต้องการ
อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมักจะเป็นก็คืออาการเกรงใจ และไม่กล้าที่จะต่อรองกลับเมื่อถูกต่อลดเงินเดือน โดยเฉพาะนักศึกษาจบใหม่ ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการทำงาน รวมไปถึงการสัมภาษณ์ เมื่อถูกต่อรอง ก็มักจะเกรงใจ และยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ดังนั้น หากใครมั่นใจในศักยภาพ และคุณค่าของตัวเอง ก็ต้องยืนหยัดในการรักษาสิทธิ์ของเรา โดยอาจจะมีเทคนิคในการเจรจา เพื่อไม่ให้ดูปฎิเสธอย่างชัดเจน เพราะหากยอมลดเงินเดือน แล้วสุดท้ายไม่เป็นดังใจ เราอาจจะดูแย่ในสายตาของบริษัท และเพื่อนร่วมงานก็เป็นได้
นอกจากนี้ ภาษากายก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ ทั้งสีหน้า และท่าทาง แน่นอว่าไม่ควรทำท่าทางเชิงลบระหว่างสนทนา ควรพูดด้วยความมั่นใจ ยิ้มแย้ม ก็จะทำให้การต่อรองเงินเดือนดำเนินไปได้ด้วยดีนั่นเอง
หวังว่าเทคนิค และเคล็ดลับการต่อรองเงินเดือนที่ KTC เอามาฝากกัน จะช่วยให้เด็กจบใหม่ หรือใครที่กำลังวางแผนเปลี่ยนงานเพื่ออัพเงินเดือน สามารถนำไปใช้กันได้ และอย่าลืมมองหาความมั่นคงในการใช้จ่าย เพราะการใช้จ่ายที่คุ้มค่า คือสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนขาดไม่ได้ ง่ายๆ เพียงสมัครเครดิต KTC รับสิทธิประโยชน์มากมาย ทั้งกิน ช้อป เที่ยว ครอบคลุมทุกสไตล์การใช้ชีวิต ให้ทุกการใช้จ่ายเป็นเรื่องง่าย สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ง่ายๆ ได้ทุกที่ทุกเวลา
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC