หากใครเคยได้มีโอกาสทำเอกสาร หรือยื่นกู้ หรือขออนุมัติต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธนาคาร หรือสถาบันทางการเงิน น่าจะคุ้นเคยหรือเคยได้ยินคำว่า “สเตทเม้น” (Bank Statement) หรือใครที่กำลังหาข้อมูลในการสมัครบัตรเครดิตใบแรก รวมไปถึงยื่นกู้เงินต่างๆ ก็น่าจะต้องเคยเห็นคำนี้ผ่านตากันมาบ้าง เพราะสเตทเม้นถือเป็นเอกสารสำคัญในการทำธุรกรรม เป็นเอกสารแสดงรายได้แบบหนึ่งที่ส่งผลต่อการพิจารณา อาทิ เมื่อเราทำเรื่องยื่นกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือทำบัตรเครดิต วันนี้ KTC จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับสเตทเม้นว่าคืออะไร? และมีความสำคัญอย่างไร?
สเตทเม้น (Bank Statement) คืออะไร
คำว่า “สเตทเม้น” ที่คนไทยชอบเรียกสั้นๆ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Bank Statement” นั้น มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ใบแจ้งยอดธนาคาร” ซึ่งเป็นเอกสารที่บันทึกรายการข้อมูลเงินเข้า-ออกบัญชี โดยสามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งาน
สเตทเม้นเป็นเอกสารสำคัญในการยืนยันกระแสเงินของเรา ว่าสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือมีความมั่นคงทางการเงินมากน้อยเพียงใด
สเตทเม้น (Bank Statement) มีความสำคัญอย่างไรบ้าง
หากใครเคยได้มีโอกาสทำธุรกรรมการเงิน สมัครบัตรเครดิต หรือทำเรื่องกู้เงินเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ การขอเอกสารสเตทเม้น (Bank Statement) ประกอบการพิจารณาถือเป็นเรื่องปกติ โดยส่วนมากจะยื่นควบคู่ไปกับเอกสารแสดงรายได้อื่นๆ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น ซึ่งสเตทเม้นนั้นถือเป็นเอกสารที่มีความสำคัญ เพราะเป็นหลักฐานในการยืนยันกระแสเงินของเรา ว่าสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือมีความมั่นคงทางการเงินมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะส่งผลต่อการอนุมัติต่างๆ
สเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือนหมายถึงเอกสารข้อมูลทางธุรกรรมในบัญชีนั้นๆ ย้อนหลังไป 6 เดือน โดยเริ่มนับจากวันที่ขอ
สเตทเม้น ย้อนหลัง 6 เดือนหมายความว่าอะไร
การขอสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือนหมายถึงการขอเอกสารข้อมูลทางธุรกรรมของเราที่มีในบัญชีนั้นๆ ย้อนหลังไปเป็นเวลา 6 เดือน โดยเริ่มนับจากวันที่ขอ ซึ่งการขอสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน ถือเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมในการพิจารณาความมั่นคงทางการเงิน ดังนั้นบริษัทต่างๆ รวมไปถึงสถาบันทางการเงินและธนาคารส่วนใหญ่ จึงนิยมขอเอกสารสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน แต่หากมีรายได้ที่มั่นคง เช่น อาชีพพนักงานบริษัทที่ได้รับเงินเดือนจำนวนเท่าๆ กันทุกเดือน ธนาคาร/สถาบันการเงินอาจขอเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น
เราสามารถขอสเตทเม้นกับทางธนาคารเจ้าของบัญชีได้ที่สาขาที่สะดวก หรือผ่านแอปพลิเคชันของทางธนาคาร
ขอ Bank Statement แต่ละธนาคารอย่างไร
สำหรับการขอเอกสารสเตทเม้น หรือใบแจ้งยอดธนาคาร (Bank Statement) นั้น สามารถขอได้กับธนาคารเจ้าของบัญชีที่มีอยู่ได้เลย สำหรับลูกค้าธนาคารกรุงไทย สามารถขอออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ได้ โดยระบบจะส่งสเตทเม้นย้อนหลังให้ทางอีเมล ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ทั้งนี้ แต่ละธนาคารจะมีค่าใช้จ่ายและขั้นตอนที่ไม่เหมือนกัน โดยส่วนใหญ่จะต้องใช้บัตรประชาชนและสมุดบัญชีในการยื่นขอ และมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 100-500 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารผู้ให้บริการ สามารถยื่นขอออนไลน์ได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน สูงสุด 12 เดือน ต่อการขอหนึ่งครั้ง หากต้องการข้อมูลย้อนหลังมากกว่านั้นต้องไปดำเนินการที่สาขาธนาคาร
ตัวอย่าง การขอสเตทเม้นผ่านธนาคารกรุงไทยที่สาขา จะมีค่าใช้จ่ายดังนี้
- สเตทเม้นย้อนหลัง 3-6 เดือน เสียค่าธรรมเนียม 100 บาท
- สเตทเม้นย้อนหลัง 6-12 เดือน เสียค่าธรรมเนียม 200 บาท
- สเตทเม้นย้อนหลัง 24 เดือนขึ้นไป เสียค่าธรรมเนียม 500 บาท
เมื่อได้รับสเตทเม้นแล้วควรตรวจสอบรายละเอียดเพื่อความถูกต้อง ทั้งเลขที่บัญชี ชื่อบัญชี การดูสเตทเม้นยังช่วยให้เราเห็นยอดเงินต่างๆ ที่เข้า-ออกบัญชี และหาดมียอดที่น่าสงสัยก็สามารถขอตรวจสอบกับทางธนาคารได้ สำหรับใครที่มีเอกสารสเตทเม้นพร้อมแล้ว และอยากมีบัตรเครติดดีๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานสักใบ สามารถยื่นสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ง่ายๆ พร้อมรับสิทธิประโยชน์มากมายได้เลย
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC