ที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตที่สำคัญมาก ซึ่งในปัจจุบันก็มีที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภทเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและงบประมาณของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, บ้านทาวน์โฮม, อาคารพาณิชย์ หรือคอนโดมิเนียม เป็นต้น ทว่าก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าที่อยู่อาศัยเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมากทีเดียว ในบางกรณีจึงจำเป็นต้องทำการขอสินเชื่อบ้านหลังแรกเพื่อที่จะซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง
โดยก่อนที่จะทำการเลือกซื้อบ้านหลังแรก สิ่งที่ไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่งก็คือการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ทั้งลักษณะของบ้านที่ต้องการ, ทำเลที่ตั้ง, งบประมาณที่มี, ความน่าเชื่อถือของโครงการ, วัตถุประสงค์ในการอยู่อาศัย, ภาระหนี้สินที่มีอยู่ รวมไปถึงวิธีการยื่นกู้ซื้อบ้านหลังแรก ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำข้อควรรู้ก่อนการซื้อบ้านหลังแรกทั้ง 7 ข้อนี้กัน เพื่อให้คุณได้มีบ้านหลังแรกที่ตรงใจมากที่สุด
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- 1. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากงบประมาณที่ตัวเองมี
- 2. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากลักษณะบ้านที่ตัวเองต้องการ
- 3. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากทำเลที่ตั้ง
- 4. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากวัตถุประสงค์ในการอยู่อาศัย
- 5. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากโครงการที่เชื่อถือได้
- 6. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากวิธีการยื่นกู้ซื้อบ้าน
- 7. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากภาระหนี้สินที่มี
- สรุป เลือกซื้อบ้านหลังแรกอย่างรอบคอบเพื่อการใช้ชีวิตที่ลงตัว
1. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากงบประมาณที่ตัวเองมี
สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งสำหรับการเลือกบ้านหลังแรกก็คือการพิจารณาจากงบประมาณที่ตัวเองมีอยู่ เนื่องจากบ้านคือทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงกว่าทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ ค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าบ้านจะมีราคาตั้งแต่หลักล้านไปจนถึงหลักสิบล้านก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าราคาสูงอยู่ดี
ดังนั้นจึงต้องมีการคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อกำหนดงบประมาณสำหรับการกู้ซื้อบ้านหลังแรกให้มีความเหมาะสมหรือไม่เกินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง ทั้งนี้งบประมาณในการซื้อบ้านหลังแรกของคุณก็จะสัมพันธ์ถึงทำเลที่ตั้งและลักษณะของบ้านหลังแรกด้วยเช่นกัน
2. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากลักษณะบ้านที่ตัวเองต้องการ
การเลือกซื้อบ้านหลังแรกให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากที่สุดจำเป็นต้องพิจารณาผู้อยู่อาศัยร่วมและไลฟ์สไตล์ของบุคคลภายในบ้าน เพื่อกำหนดขอบเขตของลักษณะบ้านก่อนตัดสินใจที่จะซื้อบ้านหลังแรก ซึ่งลักษณะของบ้านในปัจจุบันมีทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, อาคารพาณิชย์ และทาวน์โฮม โดยความเหมาะสมของบ้านแต่ละลักษณะก็จะแตกต่างกันออกไป
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากมีบุคคลภายในบ้านเพียง 1-2 คน และไม่ต้องการมีพื้นที่ใช้สอยรอบตัวบ้านมากนัก ก็อาจเลือกซื้อบ้านหลังแรกเป็นทาวน์โฮม หรือถ้าหากมีบุคคลภายในบ้าน 3-4 คนขึ้นไป และต้องการมีพื้นที่ใช้สอยรอบตัวบ้าน ก็อาจเลือกซื้อบ้านหลังแรกเป็นบ้านเดี่ยว ส่วนในกรณีที่อยากซื้อบ้านหลังแรกที่สามารถประกอบกิจการร้านค้าได้ก็อาจเลือกซื้อบ้านหลังแรกที่เป็นอาคารพาณิชย์ติดถนน เป็นต้น
3. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากทำเลที่ตั้ง
ความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตนั้นหลัก ๆ จะขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งที่คุณเลือกซื้อบ้านหลังแรก เนื่องจากทำเลที่ตั้งของการซื้อบ้านหลังแรกจะสัมพันธ์ไปถึงสถานอำนวยความสะดวกที่มีรอบโครงการ, ความหลากหลายของขนส่งสาธารณะที่เข้าถึง, จำนวนเส้นทางที่สามารถเดินทางมายังโครงการได้ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ โครงการ
โดยการเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมกับการซื้อบ้านหลังแรกนั้นจะต้องพิจารณาไลฟ์สไตล์บุคคลภายในบ้านร่วมด้วย เช่น หากที่บ้านมีเด็กวัยเรียนก็ควรเลือกซื้อบ้านหลังแรกที่อยู่ใกล้กับสถานศึกษา หรือถ้าหากชื่นชอบการสังสรรค์ยามค่ำคืนก็อาจเลือกซื้อบ้านหลังแรกที่มีสถานบันเทิงอยู่ใกล้กับโครงการ ส่วนในกรณีที่บุคคลภายในบ้านอยู่ในช่วงวัยทำงานก็อาจเลือกซื้อบ้านหลังแรกที่อยู่ไม่ใกล้จากย่านออฟฟิศมากนัก เป็นต้น ทั้งนี้การเลือกซื้อบ้านหลังแรกในทำเลดี ๆ ย่อมส่งผลให้ราคาบ้านสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
4. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากวัตถุประสงค์ในการอยู่อาศัย
ก่อนที่จะพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เพื่อเลือกซื้อบ้านหลังแรกนั้นควรมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนเสียก่อนว่าต้องการซื้อบ้านหลังแรกนี้ไปเพื่ออะไร เช่น ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง, ซื้อเพื่อยกให้พ่อแม่, ซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือซื้อเพื่อเกร็งกำไรในอนาคต เป็นต้น เพราะเมื่อรู้จุดประสงค์ในการซื้อบ้านหลังแรกอย่างชัดเจนแล้ว ก็จะทำให้สามารถพิจารณาสิ่งต่าง ๆ สำหรับการเลือกซื้อบ้านหลังแรกได้ง่ายดายยิ่งขึ้นนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการเลือกซื้อบ้านหลังแรกเพื่อยกให้พ่อแม่ อาจเลือกบ้านเดี่ยวชั้นเดียวที่อยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก และสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ไม่ค่อยวุ่นวาย ส่วนในกรณีที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกเพื่อปล่อยเช่าหรือซื้อเพื่อเกร็งกำไรในอนาคต ก็ควรเลือกซื้อบ้านในย่านที่คนให้ความสนใจหรือตั้งอยู่บนทำเลทอง เป็นต้น
5. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากโครงการที่เชื่อถือได้
เมื่อต้องการซื้อบ้านหลังแรก สิ่งที่ควรต้องศึกษาหาข้อมูลอีกอย่างหนึ่งก็คือความน่าเชื่อถือของโครงการ โดยหลักการพิจารณาความน่าเชื่อถือของโครงการก่อนที่จะเลือกซื้อบ้านหลังแรกนั้น จะต้องพิจารณาทั้งชื่อเสียงของผู้พัฒนาโครงการ ประสบการณ์ และผลงานที่ผ่าน ๆ มาของโครงการ
หลังจากที่พิจารณาครบทั้ง 3 สิ่งแล้วก็จะสามารถเห็นได้ว่าโครงการมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการเลือกซื้อบ้านหลังแรกจากโครงการที่มีความน่าเชื่อถือมาก จะเป็นสิ่งที่รับประกันได้ว่าบ้านหลังแรกของคุณจะมีความแข็งแรง ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน และก่อสร้างเสร็จสิ้นตรงตามเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ยังอาจรวมไปถึงการให้บริการหลังการขายอีกด้วยกกกกกก
6. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากวิธีการยื่นกู้ซื้อบ้าน
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านหลังแรก แน่นอนว่าจะต้องเป็นมือใหม่ในการยื่นกู้ซื้อบ้าน ซึ่งการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ซื้อบ้านจึงสำคัญต่อผู้ที่กำลังจะซื้อบ้านหลังแรกมากทีเดียว เพราะว่าการยื่นกู้ซื้อบ้านนั้นมีทั้งขอกู้ผ่านและขอกู้ไม่ผ่าน
ดังนั้นหากต้องการให้ยื่นกู้ซื้อบ้านหลังแรกผ่านไปได้อย่างง่าย ๆ ก็จำเป็นต้องรู้รายละเอียดสำคัญในการกู้ซื้อบ้านไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเลือกธนาคารเพื่อยื่นขอกู้ซื้อบ้าน การเตรียมเอกสารเพื่อขอสินเชื่อบ้าน รวมไปถึงวิธีการยื่นกู้ซื้อบ้าน โดยวิธีการยื่นกู้ซื้อบ้านจะมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน ได้แก่ การยื่นกู้คนเดียวและการยื่นกู้ร่วม ซึ่งการยื่นกู้ร่วมจะเป็นวิธีการยื่นกู้ซื้อบ้านหลังแรกที่ทางธนาคารจะอนุมัติให้กู้ผ่านได้ง่ายกว่า
นอกจากนี้สิ่งสุดท้ายที่จะช่วยให้การยื่นกู้ซื้อบ้านหลังแรกจากธนาคารผ่านไปได้ง่าย ๆ ก็คือ การมีเครดิตการชำระหนี้ที่ดี โดยเครดิตการชำระหนี้ที่ดีสามารถสร้างได้จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด ซึ่งประวัติการใช้จ่ายและการชำระหนี้บัตรจะกลายมาเป็นหลักฐานเพื่อสร้างเครดิตให้แก่คุณนั่นเอง เพราะจะทำให้เห็นได้ว่าคุณมีวินัยทางการเงินมากแค่ไหน
และถ้าหากใครที่กำลังเตรียมตัวซื้อบ้านหลังแรกด้วยการยื่นกู้ซื้อบ้านจากธนาคาร แต่ยังไม่มีเครดิตการชำระหนี้เพื่อให้ทางธนาคารนำไปประกอบการพิจารณา เราขอแนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD เพราะไม่เพียงแค่สามารถสมัครได้ง่าย ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันการใช้งานครบจบในบัตรเดียวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการรูดบัตรชำระค่าใช้จ่าย, การกดเงินสดจากตู้ ATM, การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารผ่านแอปพลิเคชัน รวมไปถึงการใช้บัตรกดเงินสด KTC PROUD ในการผ่อนชำระค่าสินค้าและบริการ
7. เลือกซื้อบ้านหลังแรกจากภาระหนี้สินที่มี
ก่อนที่จะทำการเลือกซื้อบ้านหลังแรกไม่เพียงแค่ต้องรู้วิธีการยื่นกู้ซื้อบ้านเท่านั้น แต่ยังจำเป็นต้องพิจารณาจากหนี้สินที่มีอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากวงเงินกู้ที่ทางธนาคารจะอนุมัติผ่านให้ นอกจากจะคำนวณจากรายได้ของผู้ขอสินเชื่อแล้ว ยังคำนวณรวมไปถึงหนี้สินที่คงค้างอีกด้วย ซึ่งหนี้สินคงค้างที่มีอยู่นี้จะส่งผลให้วงเงินกู้ซื้อบ้านหลังแรกลดน้อยลง
โดยทางธนาคารจะคำนวณหาวงเงินกู้ด้วยการนำหนี้สินมาหักลบกับหน่วยเงินเดือนของผู้กู้ ก่อนจะนำผลลัพธ์ที่ได้ไปพิจารณาวงเงินกู้นั่นเอง แต่ในบางกรณีภาระหนี้สินเหล่านี้อาจทำให้การยื่นขอกู้ซื้อบ้านหลังแรกไม่ผ่านเลยทีเดียว
สรุป เลือกซื้อบ้านหลังแรกอย่างรอบคอบเพื่อการใช้ชีวิตที่ลงตัว
วิธีเลือกบ้านหลังแรกให้ตรงใจนั้นหลักที่สำคัญที่สุดก็คือ การเลือกซื้อบ้านหลังแรกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ควบคู่ไปกับการพิจารณางบประมาณที่ตัวเองมี ในกรณีที่เป็นการซื้อบ้านหลังแรกโดยการยื่นกู้ซื้อบ้านนั้น ทางธนาคารจะเป็นผู้กำหนดวงเงินกู้ หรือก็คืองบประมาณที่คุณสามารถซื้อบ้านหลังแรกได้นั่นเอง
ทว่าการซื้อบ้านหลังแรกด้วยการยื่นกู้ซื้อบ้านก็จำเป็นต้องรอผ่านการอนุมัติจากธนาคารเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในวิธีที่จำช่วยให้ยื่นกู้บ้านหลังแรกผ่านได้ง่ายยิ่งขึ้นก็คือมีเครดิตการชำระหนี้ที่ดี โดยเครดิตการชำระหนี้ที่ดีสามารถสร้างได้จากการชำระหนี้สินที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด
ดังนั้นหากใครกำลังวางแผนซื้อบ้านหลังแรกและต้องการเครดิตการชำระหนี้เพื่อให้ธนาคารนำไปประกอบการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ ขอแนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรที่มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการกดเงินสด, โอนเงินเข้าบัญชี, รูดบัตรชำระ หรือใช้ผ่อนชำระก็จบได้ในบัตรเดียว นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน, ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า, ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี, ฟรีค่าธรรมเนียมการกดเงินสด ที่สำคัญมีเงินเดือนเริ่มต้น 12,000 บาทก็สามารถสมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ได้
ใช้งานได้ครบครันทุกฟังก์ชันในบัตรเดียวด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD
*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 20% - 25% ต่อปี