รู้จักกับ Incentive หรือแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งมาในรูปแบบของเงินหรือสวัสดิการต่างๆ Incentive เป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยให้พนักงานตัดสินใจไม่ลาออกจากบริษัท โดยบริษัทที่มี Incentive มักดึงดูดใจพนักงานได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม การให้ Incentive แก่พนักงานนั้นต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Incentive บทความนี้จะช่วยตอบทุกข้อสงสัย KTC จะพาไปดูว่า Incentive มีอะไรบ้าง พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสียของการให้ Incentive
Incentive คือสิ่งกระตุ้นที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้นและตั้งใจมากขึ้น
Incentive คืออะไร
สิ่งจูงใจ หรือ Incentive คือสิ่งกระตุ้นที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้ดีขึ้นและตั้งใจทำงานมากขึ้น โดย Incentive ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินสดเสมอไป แต่สามารถมาในรูปแบบอื่นๆ ได้ เช่น สิทธิ์การลาพักร้อนพิเศษ ตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก บัตรกำนัลแทนเงินสด และอีกมากมาย ซึ่ง Incentive ของแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกันไป
Incentive มีกี่แบบ
ค่า Incentive มีทั้งหมด 2 รูปแบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Incentive แบบรายบุคคล และ Incentive แบบรายกลุ่ม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ค่า Incentive รายบุคคล จะจ่ายให้กับพนักงานแต่ละคนตามผลงานที่ทำได้ เช่น พนักงานขายจะได้รับ Incentive เมื่อขายสินค้าได้ตามจำนวนหรือเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นการจ่ายแบบทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย โดยขึ้นอยู่กับผลงานของแต่ละคน นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ข้อมูลผลงานที่บันทึกไว้ ประเมินผลการทำงานของพนักงานในระยะยาว
- ค่า Incentive รายกลุ่ม บางองค์กรจ่าย Incentive แบบรายกลุ่ม โดยพนักงานในแผนกเดียวกันจะได้รับ Incentive เท่าๆ กัน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้พนักงานร่วมแรงร่วมใจกันทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ถือเป็น Incentive ที่บริษัทส่วนใหญ่นิยมใช้
Incentive ของพนักงานมีอะไรบ้าง
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทแต่ละแห่งมีนโยบายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ Incentive บางบริษัทมี Incentive เพื่อกระตุ้นการทำงานของพนักงาน ในขณะที่บางบริษัทไม่มี Incentive เลย แต่สำหรับข้อมูล Incentive ของพนักงานแบบพื้นฐาน ประกอบไปด้วย
- สิ่งจูงใจทางการเงิน (Financial Incentives): เป็นสิ่งจูงใจที่เกี่ยวข้องกับเงินหรือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยตรง มักจะมาในรูปแบบของค่าตอบแทนพิเศษ เงินค่าสวัสดิการ หรือแม้แต่ส่วนแบ่งทางการตลาด
- สิ่งจูงใจที่ไม่ใช่ทางการเงิน (Non-Financial Incentives): สิ่งจูงใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินโดยตรง แต่ช่วยสร้างความพึงพอใจ หรือเป็นสวัสดิการพิเศษ อาทิ เสนอการเลื่อนตำแหน่งถ้าหากทำได้ตามเป้าหมาย วันหยุดพิเศษนอกเหนือจากวันหยุดนักขัตฤกษ์
- สิ่งจูงใจทางสังคม (Social Incentives): เป็นการเปลี่ยนแรงจูงใจจากเงินสด เป็นความเกี่ยวข้องกับการสร้างความสัมพันธ์และสภาพแวดล้อมทางสังคมในที่ทำงาน เช่น ทริปตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักไปต่างประเทศ หรือการจัดกิจกรรมกีฬาสีแล้วให้เงินรางวัล
- สิ่งจูงใจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ (Health and Well-being Incentives): กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้ เพราะพนักงานออฟฟิศมักจะมองหาสวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการจ้าง Therapist มานวดคลายเส้น หรือให้คอร์สทำกายภาพบำบัด
- สิ่งจูงใจด้านอื่นๆ มักเป็นสิ่งจูงใจที่ช่วยส่งเสริมด้านจิตใจของพนักงาน ได้แก่ ห้องพักผ่อนสำหรับงีบหลับ อาหารและเครื่องดื่มฟรี อีเว้นท์พิเศษแจกของรางวัล หรือปาร์ตี้ภายในบริษัท
Incentive กับ Bonus ต่างกันอย่างไร
Incentive และ Bonus เป็นเครื่องมือที่องค์กรใช้เพื่อกระตุ้นให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมาย โดยทั้งสองอย่างมีจุดประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน แต่มีรายละเอียดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องวัตถุประสงค์ รูปแบบ และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ดังนี้
ความหมาย
Incentive เป็นแรงจูงใจที่บริษัทใช้เพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีพฤติกรรมหรือการกระทำที่สอดคล้องกับเป้าหมาย หรือยอดขายขององค์กร Incentive อาจเป็นได้ทั้งสิ่งจูงใจทางการเงิน หรือไม่ใช่ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ค่าจ้างที่ต้องจ่ายทุกเดือน
Bonus คือ เงินหรือผลประโยชน์ทางการเงินที่เพิ่มเติมจากเงินเดือนปกติ ซึ่งมักจะมอบให้เมื่อพนักงานหรือองค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วเงินโบนัสจะถูกคำนวณจากยอดขาย หรือตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา
ระบบ Incentive ที่ดีเป็นอย่างไร
ระบบ Incentive ที่ดีนั้นต้องกระตุ้นให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการออกแบบระบบ Incentive ที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน สร้างความผูกพันกับองค์กร เป็นแรงจูงใจและลดอัตราการลาออกของพนักงาน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
- โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กร ควรมีระบบ Incentive ที่โปร่งใส ระบุรายละเอียด และรางวัลอย่างชัดเจน
- สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ สำหรับการออกแบบโปรแกรม Incentive ซึ่งควรสอดคล้องกับเป้าหมาย และส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร
- มีความเท่าเทียม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำภายในองค์กร ควรสร้าง Incentive ที่ใช้ได้ทุกคน ไม่ระบุตำแหน่ง หรือมีเงื่อนไขพิเศษ เพราะทุกคนมีความสำคัญกับองค์กร
ข้อดี-ข้อเสียของระบบ Incentive
แม้ว่าระบบ Incentive จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงาน แต่ก็เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน มีข้อดี-ข้อเสีย ที่องค์กรควรพิจารณาเพื่อออกแบบระบบให้เหมาะสมกับบริบทและความต้องการขององค์กร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ข้อดี
- เป็นแรงจูงใจในการทำงาน: ข้อดีหลักของระบบ Incentive คือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แรงจูงใจมักจะใช้ได้ผลเสมอ
- สร้างเป้าหมาย และเพิ่มความมุ่งมั่น: ช่วยให้พนักงานมีเป้าหมายและต้องการทำงานให้ดีขึ้น อีกทั้งยังทำให้โฟกัสการทำงานได้ถูกจุด
- ลดอัตราการลาออกในองค์กร: เพราะอัตราการลาออกจากองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ การตั้งระบบ Incentive สามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถและรักษาพนักงานไว้ในองค์กรได้ดี
ข้อเสีย
- อาจสร้างความไม่เป็นธรรม: หากระบบ Incentive ไม่มีความชัดเจนหรือโปร่งใส อาจทำให้พนักงานรู้สึกไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นระบบที่ผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าจะได้รับ Incentive ที่มากกว่า
- ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น: แม้รางวัลจาก Incentive จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้กับพนักงาน แต่ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายขององค์กรเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
- เสี่ยงต่อการสร้างความแตกแยก: เนื่องจากระบบ Incentive บางบริษัทจะเน้นการมอบผลตอบแทน Incentive ด้วยระบบขั้นบันได หรือต้องมีการประเมินเพื่อวัดผลการทำงาน ซึ่งอาจจะช่วยเพิ่มอัตราการแข่งขัน และลดความร่วมมือของคนในทีม
ระบบ Incentive สามารถสร้างแรงจูงใจและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ แต่อาจทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้เช่นกัน องค์กรจึงควรออกแบบระบบแรงจูงใจที่มีความชัดเจน ยุติธรรม และยั่งยืน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งพนักงานและองค์กรในระยะยาว แต่สำหรับการใช้จ่ายที่โปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบรายการใช้จ่ายได้ ต้องบัตรเครดิต KTC ที่สามารถควบคุมได้ทุกการใช้จ่าย กำหนดวงเงินได้ ตรวจสอบรายการใช้จ่ายได้ พร้อมให้คุณเปลี่ยนยอดชำระเต็มเป็นยอดผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.74% นานสูงสุด 10 เดือน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถเปลี่ยนวงเงินคงเหลือในบัตรฯ เป็นเงินสดโอนเข้าบัญชี เมื่อมีเหตุใช้จ่ายยามจำเป็น สามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านแอป KTC Mobile สมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สมัครง่าย ไม่ต้องไปสาขา ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และยังสามารถเช็กผลการอนุมัติได้ด้วยตัวเอง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC