ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี และความต้องการของตลาดแรงงาน ทักษะการทำงานจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตนเอง หรือการสร้างคุณค่าให้กับองค์กร โดยเฉพาะสำหรับพนักงานออฟฟิศ การมีทักษะพื้นฐานที่เหมาะสมช่วยเสริมทั้งประสิทธิภาพในการทำงาน และความก้าวหน้าในสายอาชีพ KTC จะพาไปรู้จักกับ 15 ทักษะสำคัญที่พนักงานออฟฟิศควรมี พร้อมแนะนำวิธีพัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานในยุคปัจจุบัน
ทักษะการทำงาน คือ
ทักษะการทำงานก็คือความสามารถ หรือความชำนาญที่ช่วยให้บุคคลนั้นสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมทั้งทักษะเฉพาะทางในสายงาน เช่น ทักษะการใช้โปรแกรมเฉพาะ และทักษะทั่วไป เช่น ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือทักษะการสื่อสารระหว่างทีม
โดยทักษะการทำงานสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- Hard Skills คือ ทักษะเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับเนื้องาน เช่น การใช้โปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนรายงาน เป็นต้น
- Soft Skills คือ ทักษะด้านอารมณ์และการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร การจัดการเวลา เป็นต้น
ในปัจจุบัน บทบาทของพนักงานออฟฟิศเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะต้องคอยปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยี เช่น การใช้งานระบบดิจิทัล การทำงานผ่านระบบออนไลน์ และการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ การเพิ่มทักษะที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากต้องการประสบความสำเร็จ
การทำงานบริษัท ต้องมีทักษะในการทำงานขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะเรื่องของการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญของการทำงานเป็นทีม
พนักงานออฟฟิศ ควรมีทักษะอะไรบ้าง?
แนะนำ 15 ทักษะพื้นฐานสำคัญ ที่พนักงานออฟฟิศทุกคนควรมี เพื่อสร้างความโดดเด่น เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กร
1. ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Effective Communication)
การสื่อสารเป็นทักษะสำคัญที่สุดในทุกสายงาน พนักงานออฟฟิศควรมีความสามารถในการพูด เขียน และฟังอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถประสานงานระหว่างทีมได้อย่างราบรื่นและลดโอกาสการเกิดความเข้าใจผิดที่อาจส่งผลต่อการทำงานได้
2. ทักษะการจัดการเวลา (Time Management)
ความสามารถในการจัดลำดับความสำคัญของงานและบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้ทันตามกำหนดและลดความเครียดในการทำงานอีกด้วย
3. ทักษะการทำงานเป็นทีม (Teamwork)
องค์กรส่วนใหญ่มักเน้นการทำงานร่วมกัน การมีทักษะการทำงานเป็นทีมจะช่วยให้พนักงานสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
4. ทักษะการแก้ปัญหา (Problem-Solving)
พนักงานออฟฟิศมักเจอกับปัญหาต่างๆ ในหลากหลายรูปแบบระหว่างการทำงาน การมีทักษะในการวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์จะช่วยให้สามารถผ่านปัญหาต่างๆ ที่ถือเป็นความท้าทายในการทำงานได้อย่างราบรื่น
5. ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งสายงานออกแบบ เช่น กราฟิกดีไซน์ แต่พนักงานออฟฟิศที่มีความคิดสร้างสรรค์จะสามารถนำเสนอแนวทางใหม่ๆ ในการปรับปรุงงานหรือพัฒนากระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้นได้
6. ทักษะการใช้เทคโนโลยีและโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน (Digital Literacy)
ในยุคดิจิทัล ทักษะการใช้งานโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือช่วยเสริมให้การทำงานรวดเร็วขึ้น อาทิ Microsoft Office, Google Workspace และแพลตฟอร์มอื่นๆ ถือเป็นพื้นฐานที่พนักงานทุกคนต้องมี
7. ทักษะการจัดการอารมณ์ (Emotional Intelligence)
ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และเข้าใจผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานในองค์กร โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่กดดัน หากมีการจัดการอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
8. ทักษะการปรับตัว (Adaptability)
เพราะพนักงานออฟฟิศต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อยู่เสมอ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีหรือกระบวนการทำงาน การปรับตัวได้อย่างรวดเร็วจึงช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
9. ทักษะการเจรจาต่อรอง (Negotiation)
ในบางสถานการณ์ เช่น การประสานงานกับลูกค้าหรือทีมอื่นๆ การมีทักษะในการเจรจาต่อรองจะช่วยให้สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการได้ และยังช่วยให้การทำงานร่วมกับทีมอื่นๆ เป็นไปอย่างราบรื่น
10. ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)
การคิดอย่างเป็นระบบและวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้พนักงานสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนพื้นฐานของการอ้างอิงข้อมูลอย่างถูกต้อง
11. ทักษะการบริหารโครงการ (Project Management)
ทักษะนี้จะช่วยให้พนักงานสามารถควบคุมและดำเนินงานในโครงการต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นไปตามเป้าหมายและทันกำหนดเวลา
12. ทักษะการสร้างเครือข่าย (Networking)
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและบุคคลในอุตสาหกรรมเดียวกันจะช่วยเพิ่มโอกาสในการพัฒนาตัวเองและองค์กร รวมถึงการทำงาน เช่น โครงการสำคัญๆ ซึ่งจะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้
13. ทักษะความรับผิดชอบ (Accountability)
แน่นอนว่าพนักงานที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารและเพื่อนร่วมงาน
14. ทักษะความละเอียดรอบคอบ (Attention to Detail)
ความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ สามารถช่วยลดโอกาสความผิดพลาดในงานได้ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขและข้อมูลสำคัญๆ
15. ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning)
พนักงานที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอจะสามารถพัฒนาทักษะของตนเองและเติบโตไปพร้อมกับองค์กรได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการประสบความสำเร็จในสายอาชีพของตน
โปรโมชั่นรับส่วนลดที่ futureskill.co กับบัตรเครดิต KTC
รับส่วนลดสูงสุด 300 บาท กับคอร์สเรียนออนไลน์ ทุกคอร์สที่ futureskill.co
- โค้ดส่วนลด : KTC300 สามารถใช้เป็นส่วนลดสำหรับการซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ มูลค่า 300 บาท
- ใช้เป็นส่วนลดการสั่งซื้อคอร์สเรียนผ่านทางหน้าเว็บไซต์ futureskill.co เท่านั้น
- สามารถดูวิธีกดใช้สิทธิ์ได้ที่: วิธีใช้คูปองส่วนลด
- โค้ดส่วนลดนี้ใช้ได้เพียง 1 ครั้ง/การสั่งซื้อ/บัญชีผู้ใช้
- โค้ดส่วนลดนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดหรือสิ่งทดแทนอื่นๆได้
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 15%
เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรฯทุก 500 บาทขึ้นไป + ใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 500 คะแนน
By PHONE ผ่อน 0.69% ต่อเดือน นานสูงสุด 10 เดือน
เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป
- ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 ม.ค. 68 – 30 มิ.ย. 68
การมีทักษะที่หลากหลายเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับพนักงานออฟฟิศในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อองค์กรต้องการบุคลากรที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปรับตัวได้ไว การพัฒนาทักษะการทำงานเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความสำเร็จในสายอาชีพและเพิ่มคุณค่าให้ทั้งกับตัวพนักงานเองและองค์กรในระยะยาว ลงทุนกับทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานด้วยบัตรเครดิต KTC ไม่ว่าจะกี่คลาสเรียนก็ไม่สะดุด เพราะการลงทุนกับความรู้จะสามารถนำไปต่อยอดได้ไม่รู้จบ สมัครบัตรเครดิต KTC วันนี้ แล้วไปเรียนรู้เพิ่มเติมทั้งภาษา และทักษะเฉพาะทาง สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ง่ายๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อาชีพไหนก็สมัครได้ เช็กผลได้ด้วยตัวเอง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC