ใบขับขี่ใกล้หมด ควรรู้วิธีจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ง่าย ๆ ทำได้ที่บ้าน
ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่มีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้งานมากขึ้น และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ “ใบขับขี่” หรือใบอนุญาตขับขี่ เป็นเอกสารที่กรมการขนส่งทางบกออกให้กับบุคคลเพื่อแสดงว่ามีคุณสมบัติสามารถขับขี่รถสัญจรบนท้องถนนได้ โดยขั้นตอนการสอบใบขับขี่ คือ การอบรม การสอบข้อเขียน การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย และสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ เมื่อสอบผ่านจะได้รับใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว โดยใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว มีอายุ 2 ปี และผู้ขอรับใบขับขี่ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ เมื่อครบระยะเวลา 2 ปี ผู้ที่มีใบขับขี่ชั่วครวต้องทำการต่อใบขับขี่ เพื่อเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีอายุ 5 ปีแทน
ใบอนุญาตขับขี่ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ใบขับขี่ประเภทประเภท ส่วนบุคคล (บ.) คือ ใบอนุญาตขับรถประเภทส่วนบุคคล ใช้สำหรับรถส่วนบุคคลที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีขาว ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ
- ใบขับขี่ประเภท ทุกประเภท (ท.) คือ ใบอนุญาตขับรถทุกประเภทใช้สำหรับรถสาธารณะ เป็นรถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีเหลือง สามารถใช้ทดแทนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถประเภทส่วนบุคคลได้
สำหรับการต่อใบขับขี่ในปัจจุบันจำเป็นต้องจองคิวการต่อใบขับขี่ล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ เป็นมาตรฐานการดำเนินงานแบบ New Normal หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อจำกัดจำนวนผู้เข้ารับบริการต่อวันและลดความแออัดในสถานที่ โดยสามารถจองคิวต่อใบขับขี่ด้วยตัวเองได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของกรมการขนส่งทางบก วันนี้พี่เบิ้มจะพาไปเตรียมความพร้อมก่อนต่อใบขับขี่ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ต่อใบขับขี่ออนไลน์ ใช้อะไรบ้าง พร้อมวิธีการจองคิวต่อใบขับขี่ 5 ปี มาฝากกัน
เอกสารที่ต้องใช้ต่อใบขับขี่
ตัวอย่างใบอนุญาตขับขี่
ในการต่อใบขับขี่มีเอกสารที่ต้องใช้ ดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบอนุญาตขับรถ (ถ้ามี)
- ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการจองคิวต่อใบขับขี่ผ่านเว็บไซต์
- เข้าไปยังเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th เพื่อทำการจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ จากนั้นเลือกลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ สำหรับผู้ที่เคยลงทะเบียนไว้แล้ว
- เลือกจังหวัดและสำนักงานขนส่งที่ต้องการ จากนั้นเลือกประเภทการต่อใบขับขี่
- เลือกวันและเวลาที่ต้องการ
- เมื่อทำการจองเสร็จจะขึ้นหน้า "ประวัติการจอง" ที่สรุปรายละเอียดในการจองทั้งหมด คือ รหัสการจอง วันเวลาที่จอง ประเภทงานที่เข้ารับการติดต่อ และสถานที่เข้ารับบริการ
***สามารถยกเลิกได้ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนวันจอง
วิธีต่อใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
จองคิวต่ออายุใบขับขี่รถยนต์
นี่เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยคุณให้สามารถจองคิวต่อใบขับขี่ได้ง่าย ๆ บนมือถือผ่านแอปพลิเคชันของกรมการขนส่งทางบก โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
- เมื่อเปิดหน้าแอปพลิเคชันขึ้นมา ให้คลิกเข้าสู่ระบบเพื่อลงทะเบียนเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน จากนั้นให้เลือกว่าต้องการลงทะเบียนด้วย “บัตรประชาชน” หรือ “พาสปอร์ต” และกรอกข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เบอร์มือถือ อีเมล์ ไอดีไลน์ จากนั้นกดปุ่มลงทะเบียน
- จะเข้าสู่หน้าสร้างรหัสผ่านใหม่ เมื่อใส่รหัสที่ต้องการแล้ว ระบบจะให้คุณใส่รหัสอีกครั้งเพื่อยืนยัน จากนั้นถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียน ก่อนเข้าสู่ระบบสำหรับผู้ใช้งานครั้งแรก หากผู้ที่เคยลงทะเบียนไว้แล้วสามารถกรอกรหัสผ่านเข้าสู่ระบบได้เลย
- เมื่อเข้าสู่ระบบให้เลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่ โดยเข้าเมนูค้นหาสำนักงานขนส่งที่ต้องการเข้ารับบริการ ทั้งนี้จะเลือกสาขาที่ใกล้บ้าน หรือสะดวกต่อการเดินทางไปต่ออายุใบขับขี่มากที่สุดก็ได้
- สำหรับขั้นตอนต่อมาคือ การเลือกประเภทงานบริการ โดยให้เลือกเป็น “งานใบอนุญาต”
- เลือกประเภทงานที่ต้องการเข้ารับบริการ คือ ประเภทงานใบอนุญาตที่ต้องการต่ออายุ เช่น ต่ออายุรถส่วนบุคคล 2 ปีเป็น 5 ปี หรือ 5 ปีเป็น 5 ปี เป็นต้น
- เลือกวันที่ต้องการต่อใบขับขี่ โดยเลือกวันที่มีคิวว่างเพื่อเข้าใช้บริการ จากนั้นเลือกรอบเวลาที่ต้องการจอง
- กดยืนยันการจองเป็นอันเสร็จสิ้น โดยระบบจะขึ้นเป็นคิวอาร์โค้ดและสรุปรายละเอียดการจอง คุณสามารถถ่ายภาพหน้าจอไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งในวันเข้ารับบริการได้
ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปต่อใบขับขี่
- เดินทางไปติดต่อก่อนเวลาล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาที – 1 ชั่วโมง
- ควรเตรียมเอกสารไปให้ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อความรวดเร็ว
- ควรแต่งกายให้สุภาพ
การต่ออายุใบขับขี่ในปัจจุบันถือเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถเลือกจองคิวต่อใบขับขี่ได้ทั้งผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันนั่นเอง และเพื่อให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยมากขึ้น ควรหมั่นบำรุงรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ นอกจากช่วยเสริมความมั่นใจเวลาเดินทาง ในช่วงเวลาที่คุณต้องเผชิญภาวะขาดสภาพคล่อง รถยนต์อาจเป็นหลักประกันที่สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นเงินด่วนหรือเงินก้อนฉุกเฉินได้
สำหรับคนมีรถยนต์ปลอดภาระ พี่เบิ้มขอแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่น่าสนใจอย่าง KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่สามารถสมัครสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ ให้วงเงินใหญ่เบิ้มสูงสุด 1 ล้านบาท แถมรถยังมีขับ เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนพี่เบิ้ม Delivery ก็พร้อมเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่หน้าบ้าน อนุมัติไวใน 2 ชั่วโมง เมื่อผ่านการอนุมัติรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที หากกำลังมองหาเงินสำรองฉุกเฉินพี่เบิ้มพร้อมอยู่เคียงข้างคุณอย่างแน่นอนครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก (1), (2)
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน หมดกังวลทุกการใช้จ่ายที่จำเป็น…ที่นี่